สยามรัฐออนไลน์ ภูมิภาค Show สมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด ร้องศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด คัดค้านการขยายห้องเรียนโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด ส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. นางวิไล จุฑางกูร นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ยื่นหนังสือเรื่องผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด จากโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดจะขยายห้องเรียนอนุบาลทั้งหมดไปโรงเรียนบ้านหนองผักแว่น และขอขยายห้องเรียนพิเศษไปโรงเรียนชุมชนบ้านประตูชัย ต่อ นายวีระวัฒน์ เถระวัลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และนายชาญ คำป้อง รองศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด นางวิไล จุฑางกูร นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่าด้วยโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดเป็นโรงเรียนยอดนิยม มีนักเรียนจำนวนมาก จะขยายอนุบาลทั้งหมดไปโรงเรียนบ้านหนองผักแว่น และขอขยายห้องเรียนพิเศษไปยังโรงเรียนชุมชนบ้านประตูชัย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัด สพฐ,ด้วยกันเองแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษา ของท้องถิ่น และโรงเรียนเอกชน เป็นอย่างมาก โรงเรียนเอกชนได้คัดค้านมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน การขยายออกไปที่โรงเรียนอื่น ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง เพียงแค่รับเด็กเท่าที่โรงเรียนรับได้ ก็แก้ปัญหาได้แล้ว การแก้ไขที่ไม่ถูกวิธี จะส่งผลกระทบแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง อนึ่ง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2555 และ(ฉบับที่3) พ.ศ. 2553 มาตรา 45 วรรค 2 กำหนดว่า "การกำหนดนโยบายและแผนการจัดการศึกษาของรัฐของเขตพื้นที่การศึกษาหรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของเอกชน โดยให้รัฐมนตรีหรือคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับฟังความคิดเห็นของเอกชน และประชาชนประกอบการพิจารณาด้วย" ซึ่งกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ บัญญัติไว้ว่า ส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ช่วยเหลือรัฐในการจัดการศึกษา การดำเนินการของอนุบาลร้อยเอ็ด หากทำสำเร็จ ย่อมเป็นการทำร้ายเอกชนที่เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลในการจัดการศึกษา เฉพาะเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ดได้ลงทุนไปแล้วหลายพันล้านบาท เอกชนเหล่านี้ จะต้องเลิกล้มกิจการไปและสูญเงินลงทุนอันมหาศาล ในส่วนของ สพฐ. โรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็ก จะเลิกสถานศึกษาต่อไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงใคร่ขอให้พิจารณา ทบทวน การยายโรงเรียนของโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด เพราะผลกระทบมีมากจริงๆ โดยได้แนบรายละเอียดประกอบการพิจารณา 1. หนังสือทักท้วงๆ 2. หนังสือขอคัดค้านโครงการขยายโรงเรียนประกอบอื่น 3. หนังสือขอความอนุเคราะห์ทบทวนกรณีโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดขยายห้องเรียนที่โรงเรียนอื่น 4. หนังสือประกาศต่างๆ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1ร้อยเอ็ด-สมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด ยื่นหนังสือต่อศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด ขอทบทวนกรณีโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด เตรียมย้ายห้องเรียนชั้นอนุบาล ไปเรียนโรงเรียนบ้านหนองผักแว่น ตามนโยบายการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพของชุมชน ของ สพฐ. โรงเรียนเอกชนตายเรียบหากโครงการนี้ดำเนินการต่อไป วันที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 09.30 น. นางวิไล จุฑางกูร นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด ยื่นหนังสือต่อศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขอทบทวนกรณีโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด เตรียมย้ายห้องเรียนชั้นอนุบาล 2-3 ไปเรียนโรงเรียนบ้านหนองผักแว่น ตามนโยบายการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพของชุมชน ของ สพฐ. ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีตัวแทนสมาชิกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วม นางวิไล จุฑางกูร นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตามที่โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด มีนโยบายย้ายห้องเรียนชั้นอนุบาลทั้งหมดไปเรียน ณ โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น โดยอาศัยนโยบายการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพของชุมชน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นั้น ทางสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพการศึกษาสถานศึกษาเอกชนร้อยเอ็ด จึงขอเรียนว่า โครงการดังกล่าวของโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด ไม่เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพของชุมชน “ทำโรงเรียนขนาดเล็กให้เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่” ซึ่งในนโยบายการปฏิรูปการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการ คือ “ควบรวม” โรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน โดยครูและนักเรียนจากโรงเรียนใกล้เคียง 4-5 แห่ง ระยะทางไม่ถึง 10 กิโลเมตร มาทำการควบรวมการเรียนการสอน ทั้งการควบรวมชั้นเรียน การควบรวมรายวิชา เพื่อแก้ไขปัญหาครูไม่ครบชั้น ซึ่งส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้น เพื่อลดการแข่งขั้นเข้าโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ หรือโรงเรียนยอดนิยมประจำจังหวัด ซึ่งโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ดเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ และโรงเรียนยอดนิยมประจำจังหวัด สมาคมฯจึงขอความอนุเคราะห์จากท่านศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด พิจารณาทบทวนการย้ายนักเรียนชั้นอนุบาล 2-3 จำนวน 20 ห้อง ห้องละ 30 คน ไปจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียนขนาดเล็กใกล้เคียง และโรงเรียนอื่นๆ ตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด ของ สพฐ.เอง โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงเรียนเอกชนใกล้เคียง ด้วยเหตุผล ดังนี้ 1.ผิดนโยบายของ สพฐ. จะทำโรงเรียนเล็กให้เป็นโรงเรียนใหญ่ เพื่อแข่งขันกับโรงเรียนใหญ่ได้ แต่โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ และโรงเรียนยอดนิยมประจำจังหวัดอยู่แล้ว จะทำให้ใหญ่ขึ้นอีก คงไม่ใช่ 2. การดำเนินการดังกล่าวไม่ตรงตามหลักวิชาการในการพัฒนาทางการศึกษาที่มุ่งยกผลสัมฤทธิ์และสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพทัดเทียมกับประเทศในอาเซียน และประเทศอื่นทั่วโลก ไม่สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้เลย 3. เป็นการส่งเสริมค่านิยมที่ไม่ถูกต้องของผู้ปกครองและยังสร้างค่านิยมที่ผิดเพิ่มยิ่งขึ้น 4. ขัดกับกฏหมายการศึกษาแห่งชาติที่บัญญัติไว้ส่งเสริมให้เอกชนเข้ามามีส่วนช่วยเหลือรัฐในการจัดการศึกษาอีกด้วย 5. การดำเนินการสำเร็จย่อมเป็นการทำร้ายเอกชนผู้รับใบอนุญาต ที่เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลในการจัดการศึกษา เฉพาะจังหวัดร้อยเอ็ด เอกชนได้ลงทุนไปแล้วหลายพันล้านบาท เอกชนเหล่านี้จะต้องเลิกล้มกิจการไปและสูญเงินลงทุนอันมหาศาล 6. การดำเนินการสำเร็จและเกิดผลกระทบตามข้อ 4 จะทำให้ผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่น ที่เกี่ยวข้อง ต้องตกงานจำนวนอย่างน้อย 2,000 คน อันจะสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงเกิดปัญหาทางสังคมและปัญหาอื่นอีกมากมาย และยังซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย 7. งบประมาณดังกล่าวนี้ ควรนำมาพัฒนาผู้บริหารและครู บุคลากรทางการศึกษา ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน และการบริหารเชิงคุณภาพอย่างจริงจัง ซึ่งจะได้ผลยาวนานและถูกหลักวิชาการในการบริหารการศึกษาของชาติต่อไป ทั้งปัจจุบัน และอนาคต ทั้งมีผลกระทบทางลบต่อวงการศึกษาของจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไปไม่สิ้นสุด ในการนี้ นางวิไล จุฑางกูร นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดร้อยเอ็ดและคณะ ได้เดินทางไปยืนหนังสือต่อ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 ในกรณีการเสนอขอทบทวน ดังกล่าว ทั้งนี้มีผู้สนับสนุนขอให้พิจารณาทบทวนกรณีดังกล่าว อาทิ นางจันทร์ทิพย์ ลียะวณิช ผู้อำนวยการโรงเรียน ช วิทยา นางเกตุมณี สีลาดเลา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลสมประสงค์ นางสาวอรพรรณ์ บุญเขค ผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธเมตตาร้อยเอ็ด นายอัสนี กลางคาร ผู้อำนวยการโรงเรียนเจริญศึกษา นางอุไรวรรณ กุลเวชกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเอกกุมาร นายสมบัติ เจนสระคู ผู้อำนวยการโรงเรียนการกุศลวัดสระทอง นางสาวอรนุช หอมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระกุมารร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดมีโรงเรียนอะไรบ้างรายชื่อโรงเรียนในจังหวัดร้อยเอ็ด. ขัติยะวงษา. ศรีธวัชวิทยาลัย. ธวัชบุรีวิทยาคม. ธงธานี. เชียงขวัญพิทยาคม. พลับพลาวิทยาคม. โคกล่ามพิทยาคม. ดู่น้อยประชาสรรค์. ท.ว. โรงเรียนอะไร ร้อยเอ็ดวิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด วิทยาลัยอาชีวศึกษาร้อยเอ็ด เปิดรับสมัคร นักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาต่อในระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี รอบทั่วไป ประจำปีการศึกษา 2566 ในรูปแบบปกติ และรูปแบบออนไลน์ รายละเอียด ประกาศรายชื่อนักเรียน นักศึกษา ปีการศึกษา 2566.
โรงเรียนเมืองร้อยเอ็ดมีนักเรียนกี่คนมีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๐๖ คน วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๕ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้โอนกิจการให้จังหวัดร้อยเอ็ด จึงเปลี่ยนไปสังกัดกรมสามัญศึกษา และเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนเมือง"
พระกุมารร้อยเอ็ด มีถึงม.ไหนโรงเรียนพระกุมารร้อยเอ็ด เป็นโรงเรียนเอกชน แบ่งเป็น 3 แผนก คือแผนกอนุบาล แผนกประถมศึกษา แผนกมัธยมศึกษา ตั้งอยู่เลขที่ 218 ถนนรอบเมือง ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ร้อยเอ็ดเขต ๑ เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ๑ ถึงระดับ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองร้อยเอ็ด อยู่สองฝั่ง ...
|