การเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพนักธุรกิจ

    การเตรียมตัวเองเข้าสู่งานอาชีพมีความสำคัญอย่างมากต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งหากมีการเตรียมการที่ดีย่อมส่งผลให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ ดังนั้น การเตรียมตัวเองเข้าสู่งานอาชีพ มีวิธีการดังนี้
1.  การเตรียมตัวขณะกำลังศึกษา
การเตรียมตัวขณะกำลังศึกษา เป็นการเตรียมตัวในด้านวิชาการ ด้านประสบการณ์ และการฝึกฝนความสามารถพิเศษ ซึ่งมีวิธีปฏิบัติได้แก่
1. การเตรียมตัวความรู้วิชาการ เป็นการศึกษาความรู้สู่อาชีพเกี่ยวกับหลักการหรือทฤษฎีในงานอาชีพที่น่าสนใจ เพื่อให้เข้าใจอย่างท่องแท้
2. การเตรียมตัวประสบการณ์ชีวิต การที่จะได้รับประสบการณ์จะต้องทำกิจกรรมนอกหลักสูตรการเรียนอย่างเป็นระบบ เช่น ศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับรางวัล ร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือชมรมต่างๆตามที่ตนเองสนใจ
3.  การฝึกฝนความสามารถพิเศษ เป็นการฝึกฝนตนเองให้มีความสามารถที่เอื้อต่อการประกอบอาชีพต่างๆ เช่น สามารถขับรถยนต์ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

2. การเตรียมตัวภายหลังจบการศึกษา
หลังจากสำเร็จการศึกษา เราจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การประกอบอาชีพ มีวิธีการปฏิบัติดังนี้
1. การศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะความรู้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพในยุคปัจจุบัน เช่น เข้ารับการอบรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมต่างๆ อบรมภาษาต่างประเทศที่จำเป็น เป็นต้น
2. การเตรียมตัวความรู้เรื่องงานที่จะทำ เป็นการเตรียมการเกี่ยวกับตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบของงาน ความรู้ความสามารถที่จะใช้ในการทำงาน รวมถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ
3. การเตรียมความรู้ด้านตลาดแรงงาน เราต้องหาช่องทาง หาตำแหน่งงานที่สนใจ จากแหล่งต่างๆ เช่น จากหนังสือพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ฯลฯ
3. การเตรียมตัวสมัครงาน
การเตรียมตัวสมัครงาน เป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านบุคลิกภาพ การเตรียมเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีวิธีการเตรียมดังนี้
1. การเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพ ได้แก่ การฝึกปรับปรุงกิริยา มารยาท การพูด การเดิน รวมถึงการแต่งกาย
2. การเตรียมเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ใบรับรอง วุฒิการศึกษา บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปถ่าย เป็นต้น

การเรียนรู้สิ่งต่างๆนั้นถ้าเราเปรียบการเรียนรู้เกี่ยวกับ เป็นนักธุรกิจ เป็นเส้นทางบนถนนนั้น ก็ย่อมอาจทำให้เราบางคนหรือใครหลายๆคนนั้นเกิดความคิดที่แปลกใหม่ เกิดความคิดที่แปลกใหม่ในการทำธุรกิจต่างๆ ซึ่งเราสามารถเปรียบเทียบการสร้างธุรกิจเป็นเส้นทางบนถนนที่แปลกใหม่เหล่านั้น เราสามารถเปรียบได้ดังนี้

1. สร้างเส้นทางที่แตกต่างจากคนอื่น

ความสำเร็จของผู้คนต่างๆนั้น มักสำเร็จในเส้นทางที่แตกต่างกันหรือสำเร็จในเส้นทางเดียวกันนั้นก็ไม่แปลกอะไร แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้น ล้วนเป็นความสำเร็จที่มีเส้นทางความสำเร็จที่น้อยคนนักที่จะอยู่บนเส้นนั้น การที่เราอยากจะประสบความสำเร็จในการทำสบู่โดยการเปิดบริษัทสบู่ขึ้นมานั้น นั้นหมายถึงเราได้อยู่บนเส้นทางเดียวกับบริษัทอื่นๆที่จะสร้างความสำเร็จจากสบู่เช่นเดียวกันกับเรา มีบริษัทสบู่ตั้งมากมายที่วางขายอยู่ในท้องตลาดบ้านเรา การแข่งขันการตลาดที่เรานั้นยากที่จะสู้ไหว ทำให้ความคิดที่เราจะประสบความสำเร็จจากสบู่นั้นก็ยากเกินกว่าที่เราจะทำไหว

เราอาจจะต้องเลือกเส้นทางอื่นแทนหรือเราอาจจะตั้งมั่นในความเชื่อของเรา แล้วพยายามที่จะประสบความสำเร็จในการอยู่บนเส้นทางของสบู่ให้ได้ แต่ในเวลาเดียวกันกับที่เราจะพยายามอยู่บนเส้นทางของคนอื่นนั้น ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามสร้างเส้นทางของตัวเองขึ้นมา เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในเส้นทางนั้นและไม่มีคู่แข่ง

1. สร้างเส้นทางที่น้อยคนนักที่จะเลียนแบบหรือมีเพียงเราคนเดียวเท่านั้นที่สร้างได้

เส้นทางที่เราได้สร้างขึ้นด้วยตัวเองหรือเราอาจจะอยู่บนเส้นทางเดียวกับคนอื่นแล้วพยายามที่จะทำให้ดีกว่า หรือว่าพยายามแตกกิ่งก้านออกไป อาทิเช่น เส้นทางของโทรศัพท์มือถือนั้น มีแบรนด์ดังต่างๆที่ต่อสู้กันบนเส้นทางความสำเร็จด้วยมือถือมากมาย

และที่สำคัญนั้นแต่ละแบรนด์ก็สร้างกิ่งก้านของตัวเองขึ้นมา กิ่งก้านที่มีจุดเด่นที่เด่นมากกว่าบริษัทอื่นและพยายามที่จะทำให้บริษัทตัวเองนั้นมีจุดด้อยให้น้อยที่สุด

ซึ่งกันความสำเร็จได้จากจำนวนผู้บริโภคหรือจำนวนผู้ใช้มือถือเหล่านั้น หรืออาจจะเป็นเส้นทางของการศึกษา สถานที่กวดวิชาและครูกวดวิชาระดับมืออาชีพต่างๆที่พยายามที่จะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้โดยการใส่ความสามารถในการให้ความรู้พร้อมกับใส่ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองให้เป็นที่นิยมของเด็กๆและทำให้ตัวเองนั้นมีชื่อเสียง การที่เรานั้นจะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องแข่งขันกับใครนั้น เราต้องสร้างเส้นทางของเราขึ้นมาหรืออยู่ในเส้นทางที่มีคู่แข่งที่เราคิดว่าตัวเองนั้นจะประสบความสำเร็จได้ มีสินค้าต่างๆไม่น้อยที่ไม่มีใครนั้นสามารถเลียนแบบ หรือไม่มีบริษัทใดที่สามารถทำมาแข่งขันได้ เพียงแต่ว่าเรานั้นจะรู้หรือเปล่า

1. สร้างเส้นทางนำตัวเองไปถึงสินค้า

ในทุกวันนี้ สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรานั้น เราไม่อาจพูดได้ว่า สิ่งต่างๆที่มีอยู่สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้ทั้งหมด ต่อให้เรานั้นมีเงินมากแค่ไหนก็ตาม ต่อให้เรามีสิ่งต่างๆที่อยู่บนโลกใบนี้ครบก็ไม่อาจตอบสนองสิ่งที่เราต้องการในบางครั้งได้ ในบางครั้งเราอาจจะอยากได้ของบางสิ่งเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้เราในบางอย่าง

สิ่งที่เราต้องทำนั้นคือเพียงการที่จะมองหาสิ่งของสิ่งนั้น สิ่งที่ยังไม่มีใครคิดได้หรือสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกให้เรา มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดถึงความสะดวกสบายที่ยังไม่มีในบ้านเราแล้วก็สร้างสิ่งนั้นคือขึ้น

แต่ความสะดวกสบายที่ทุกคนต้องการนั้นไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามการเมื่อเรามองเห็นสินค้าหรือสิ่งของชิ้นนั้นแล้ว ก็ใช่ว่าเราจะสามารถพาตัวเองไปถึงสิ่งนั้นได้เสมอไป การที่เราจะทำอะไรสักอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การที่เราสร้างเส้นทางของเราไปถึงสิ่งของสิ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

1. สร้างเส้นทางให้สินค้าของเรานั้นถึงมือผู้บริโภค

มีสิ่งของตั้งมากมายที่เรานั้นอยากได้ มีสิ่งของอีกมากมายที่เรานั้นมีกำลังซื้อ แต่เราก็ไม่สามารถซื้อสิ่งของเหล่านั้นหรือครอบครองสิ่งของเหล่านั้นด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ในบางครั้งอาจเป็นเพราะไม่มีการนำเข้าในบ้านเรา มีรองเท้าต่างๆที่เป็นของแท้มากมายที่เราอยากได้ แต่ไม่มีขายที่บ้านเราต้องสั่งซื้อและนำเข้าเท่านั้น หรือในบางครั้งที่เรานั้นไม่ได้สิ่งของที่อยากได้เพราะสถานที่ที่เราอยู่นั้นไม่สะดวกในเรื่องของการสั่งซื้อหรือการส่ง หรือเราอาจจะไม่รู้ว่ามีสินค้าที่เราต้องการนั้นอยู่ การที่เราสร้างเส้นทางให้ผู้บริโภครู้ว่ามีสินค้าของเราวางขายอยู่ตามท้องตลาดหรือมีสินค้าของเราให้คนทั่วไปได้เห็นผ่านตานั้นสำคัญมากมายเพราะเราไม่รู้ว่าลูกค้านั้นต้องการสินค้าอะไร ต้องการสินค้าแบบไหน

และที่สำคัญนั้นเราไม่รู้ว่าลูกค้านั้นต้องการสินค้าของเราหรือเปล่า การที่ลูกค้าหรือคนทั่วไปได้เห็นสินค้าของเรานั้นอาจจะทำให้เกิดความอยากได้ ทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักได้ง่ายยิ่งขึ้น