แม้หลายภาคส่วนเดินเครื่องเต็มสูบ เพื่อร่วมกันลดการสร้างขยะพลาสติก ไม่ว่าจะเป็น การลด – เลิกใช้วัสดุที่ผลิตมาจากพลาสติก โดยเฉพาะสินค้าประเภทถุงบรรจุ ซึ่งมีการใช้ในปริมาณมากเนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับวิถีการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของคุณาวุฒิ บุญญานพคุณ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมเพื่อสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มองว่า ยังมีขยะพลาสติกประเภทอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี รวมทั้งมีนวัตกรรมที่สามารถทดแทนการใช้งานได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำ แก้วน้ำ หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ ทั้งยังจำเป็นต้องกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ ประชาชน นักพัฒนาเกิดความตื่นตัวและสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาการจัดการขยะพลาสติก ตลอดจนโซลูชั่นที่สามารถทำให้เรื่องดังกล่าวมีทางออกที่เป็นรูปธรรม
นวัตกรรมอัพไซคลิ่ง : Upcycling ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรีไซเคิล และเป็นวิธีการแก้ปัญหาพลาสติกเหลือทิ้งที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย โดยเป็นการนำขยะมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้เป็นสิ่งใหม่ สามารถนำมาใช้ได้ในรูปแบบใหม่ๆ โดยไม่สร้างขยะกลับคืนสู่วงจรขยะพลาสติกอีกครั้ง เช่น การนำมาทำเป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์สำนักงาน สินค้าไลฟ์สไตล์ เป็นต้น - Advertisement - พลาสติกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หรือไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียตามธรรมชาติโดยสามารถผลิตจากวัตถุดิบที่สามารถผลิตทดแทนขึ้นใหม่ได้ในธรรมชาติ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ มีคุณสมบัติในการใช้งานใกล้เคียงพลาสติกจากปิโตรเคมีแบบดั้งเดิม และพลาสติกชีวภาพแบบย่อยสลายได้จะกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ 100% ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับการใช้งานเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง สไปรท์ขวดเขียวไม่ดียังไง? ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเป็นขวดใส นวัตกรรมเพื่อการจัดการไมโครพลาสติก โดยไมโครพลาสติกถือเป็นพลาสติกขนาดเล็กและมองไม่เห็น ซึ่งมักจะปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ทะเล และกลายเป็นอาหารสัตว์ตามที่ปรากฏในข่าวสาร ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยที่ผู้ประกอบการ และต้นทางในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องควรให้ความใส่ใจอย่างจริงจัง ด้วยการหาวัสดุทดแทนหรือมีกระบวนการจัดการที่รัดกุม เพื่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศที่ดีขึ้นทั้งระบบ “From Bottle to Energy” แคมเปญน่ารักชวนลูกค้ามาทิ้ง(ขวดรีฟิล)เพื่อโลก รักษ์โลกไปด้วยกัน ไปรษณีย์ไทย x บ้านปูฯ เปิดตัวรถขนส่งไปรษณีย์พลังงานไฟฟ้า การเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นพลังงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจ โดยสามารถนำขยะพลาสติกที่มีอยู่จำนวนมหาศาลมาแปรรูปให้เป็นพลังงานความร้อน พลังงานไฟฟ้า ฯลฯ และการพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบนี้ยังจะช่วยลดต้นทุนในกิจกรรมดังกล่าว พร้อมสร้างมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย แน่นอนว่า หัวใจสำคัญกว่า นวัตกรรมที่มาแรง คือ การลงมือทำ ไม่ว่าจะอยุู่ในธุรกิจไหน ก็สามารถร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือได้ วว.จับมือ Dow แก้ปัญหาขยะพลาสติกด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หวังสร้างชุมชนต้นแบบ Google+ LINE เผยแพร่วันพฤหัสที่ 9 กันยายน พ.ศ.2564วว.จับมือ Dow แก้ปัญหาขยะพลาสติกด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หวังสร้างชุมชนต้นแบบ “Waste Sorting Hub” ลดปัญหาขยะชุมชนและพลาสติกใช้แล้วอย่างยั่งยืน ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า ความร่วมมือระหว่าง วว. และกับ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ภายใต้โครงการ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำสู่การพัฒนาคุณภาพขยะพลาสติกในชุมชนอย่างยั่งยืน” มีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี ผ่านการดำเนินงาน 5 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย 1) ยกระดับศูนย์คัดแยกพลาสติกใช้แล้วเพื่อพัฒนาร้านรับซื้อของเก่าด้วยชุมชน โดยเน้นการจัดการพลาสติกใช้แล้ว รวมถึง เทคโนโลยีการแปรรูปขยะเศษอาหารและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร โดยจะนำร่องที่จังหวัดระยอง 2) สร้างมาตรฐานพลาสติกรีไซเคิลโดยวิธีการและเครื่องมือ เพื่อตรวจสอบและตรวจวัดคุณภาพพลาสติก เช่น การตรวจสอบความหนาแน่น / วิธีตรวจวัดโดยชุมชน 3) พัฒนาหลักสูตรด้าน “การจัดการขยะให้เป็นศูนย์” เน้นการจัดการองค์ความรู้ ด้านการจัดการขยะด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน 4) การใช้เครื่องมือ online เน้นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อส่งเสริมการจัดการขยะที่เชื่อมต่อระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการที่มีความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม และ 5) ถอดบทเรียนความสำเร็จการจัดการขยะชุมชนที่สำเร็จ เพื่อทำเป็นคู่มือสำหรับนำไปขยายผลในชุมชนอื่นๆต่อไป “จากความสำเร็จของ วว. โดยศูนย์เชี่ยวชาญพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน จนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชนอาคารคัดแยกขยะตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี หรือ “ตาลเดี่ยวโมเดล” เป็นรูปแบบของการบริหารจัดการขยะที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนการผลิตและแปรรูปซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ชุมชนเข้าถึงและสามารถดำเนินการได้เอง โดยมีเทคโนโลยีหลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1.ชุดคัดแยกขยะระบบกึ่งอัตโนมัติแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วย 1.เครื่องคัดแยกขยะรองรับปริมาณขยะเก่าและขยะใหม่กำลังการผลิต 20-40 ตันต่อวัน พร้อมด้วยระบบกำจัดกลิ่นขยะ ระบบคัดแยกชนิดและสีพลาสติกบรรจุภัณฑ์ เพื่อแปรรูปเป็นวัตถุดิบรอบสองที่มีคุณภาพ ระบบผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อบำบัดมลพิษทางน้ำ และระบบการบำบัดน้ำชะขยะโดยใช้สารเร่งตกตะกอนจากผลงานวิจัยของ วว. ระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และสารปรับปรุงดิน 2. ชุดคัดแยกชนิดและสีพลาสติกด้วยระบบ NIR และ Vision พร้อมระบบผลิตเกล็ดพลาสติกกำลังการผลิต 100 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถแยกชนิดและสีพลาสติกด้วยระบบ NIR และ Vision สามารถแยกพลาสติก PVC ออกจากพลาสติกชนิดอื่นได้ และผลิตเกล็ดพลาสติกที่สะอาดมีคุณภาพ และ 3. นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพร่วมกับสารปรับปรุงดิน ประกอบด้วยระบบผลิตก๊าซไบโอมีเทนอัดถัง ระบบผลิตสารปรับปรุงดินชนิดน้ำ และระบบผลิตเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง (RDF5) จากขยะชุมชนและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร นอกจากนี้ วว. ยังได้ยังพัฒนาแอพพลิเคชั่น (Application) ที่สามารถเชื่อมโยงและส่งเสริมการจัดการขยะระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กลับคืนสู่ชุมชน “วว.จะนำองค์ความรู้งานวิจัยและการจัดการขยะแบบครบวงจรไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการใช้เครื่องมือ เช่น แอพพลิเคชันและเทคโนโลยีคัดแยกและแปรรูปขยะชุมชน ขยะอินทรีย์ และของเหลือทิ้งภาคการเกษตร ให้แก่ชุมชน และ อปท.ในจังหวัดระยอง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยหวังเป็นอย่างยิ่ง ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานจะก่อให้เกิดชุมชนต้นแบบที่เป็น Waste sorting hub และในอนาคตและยกระดับเป็นสถานีการจัดการขยะชุมชนที่เป็น Junk Shop นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย BCG และ Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศ ด้วยการบริหารจัดการพลาสติกด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน ช่วยลดปัญหาขยะชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ผู้ว่าการ วว. กล่าวเพิ่มเติม นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่าปริมาณขยะในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งปริมาณขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นถึง 15% โดยปริมาณขยะพลาสติกเฉลี่ยจากวันละ 5,500 ตัน เพิ่มเป็น 6,300 ตันต่อวัน แต่สามารถนำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้เพียง 23% เท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันขยะพลาสติกหลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อม และลดปัญหาการสะสมขยะในชุมชน รัฐบาลจึงได้มีเป้าหมายในการนำขยะพลาสติกกลับมารีไซเคิล 100% ภายในปี 2570 เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนระบบรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน Dow และ วว. จึงได้นำความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรมาบูรณาการร่วมกัน โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และประสบการณ์ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนของ Dow มาผสานกับองค์ความรู้ด้านทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของ วว. โดยเริ่มจากการต่อยอดในชุมชนต้นแบบที่ทั้งสององค์กรได้เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆ ในอนาคต “ในสถานการณ์ที่โลกมีทรัพยากรอยู่อย่างจำกัด แต่มีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนจะต้องนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ รวมทั้งต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน และการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้เราสามารถใช้ทรัพยากรที่มีค่าได้เกิดประโยชน์สูงสุด และใช้ซ้ำได้เป็นวงจรไม่รู้จบ โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้ว โครงการนี้สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับหนึ่งในเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ Dow ได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้วคือ “การหยุดขยะพลาสติก” โดยเราตั้งเป้าจะผลักดันให้พลาสติกที่ใช้แล้วจำนวน 1 ล้านตันจากทั่วโลกถูกเก็บกลับมาใช้ประโยชน์หรือรีไซเคิล ทั้งผ่านกิจกรรมที่ Dow ดำเนินการเอง และโครงการความร่วมมือ”นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย กล่าวเพิ่มเติม |