การชำระค่าสาธารณูปโภค ต่างๆ คือการใช้งานในด้านใด

ในแต่ละปีจะมีช่วงเวลาที่เรากลัวการมาถึงของมัน นั่นคือ: การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องชำระในบิลค่าไฟฟ้า, ประปา ค่อย ๆ เปิดซองจดหมายออกแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่นั้น มาดูกันว่าเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณประหยัดลงได้ถึง 25% เพื่อให้คุณได้มีเงินเก็บมากขึ้นต้องทำอย่างไร!

พลังงาน ⚡️

1. เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี

คุณเคยนั่งวิเคราะห์ก่อนเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกบ้างไหม: มันอาจจะเปลืองเงินคุณมากกว่าในระยะยาวก็ได้ เนื่องจากคุณภาพแย่ ๆ ของมันน่ะ 🙅‍♂️ แนวทางในการตรวจสอบประสิทธิภาพทำได้หลายวิธี เช่น: ขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้า, การตั้งค่า (เช่นตู้แช่แข็งบางประเภท) หรือคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ (เช่น ตู้เย็นที่ทำน้ำแข็งได้ด้วย) สิ่งเหล่านี้อาจเพิ่มค่าไฟฟ้าคุณมากถึง 20% อย่าลืมเช็คสติกเกอร์ประหยัดพลังงานดูด้วยนะ — A+++ เทียบกับ A+ อาจช่วยคุณประหยัดได้หลายบาทต่อปีเลยล่ะ

2. เปลี่ยนหลอดไฟ

เปลี่ยนหลอดไส้แบบเก่าของคุณ ให้เป็นแบบ LED โดยเฉพาะที่มีป้าย (A++) กำกับอยู่ 💡 ในครัวเรือนปกติ ค่าใช้ไฟฟ้าจากหลอดไฟคิดเป็นประมาณ 5% หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน ลองเปลี่ยนหลอดไฟ 5 จุดที่คุณใช้เป็นประจำ แล้วดูว่าคุณประหยัดลงไปได้เท่าไรดูสิ

3. ใช้หลอดไฟแบบจับความเคลื่อนไหว

บางครั้งคุณอาจจะลืมปิดไปในห้องที่ใช้เป็นเพียงทางเดินผ่าน 🙇🏽‍♂️ ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบจับความเคลื่อนไหวดูสิ — อย่างเช่นโถงทางเดินหรือห้องเก็บของไงล่ะ

4. ตั้งอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม

ระวังไม่ให้อุณหภูมิของตู้เย็นต่ำเกินไป ❄️ หากคุณตั้งค่าไว้เย็นเกินไป มันจะส่งผลต่ออาหารที่แช่ไว้ หากแต่เป็นค่าไฟของคุณ ในช่องแช่แข็งควรตั้งไว้ที่ -18°C (-0.4°F), ขณะที่ช่องธรรมดาควรตั้งไว้ระหว่าง 6 ถึง 7 °C (42.8–44.6°F)

5. ปิดโหมด standby ของเครื่องใช้ไฟฟ้า

ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน! 🔌 วิธีที่ดีที่สุดคือการถอดปลั๊กออกด้วย แต่มีวิธีที่ดีกว่านั้นคือเต้ารับชนิดพิเศษที่สามารถสั่งตัดการจ่ายไฟได้อัตโนมัติ เพียงสั่งงานผ่านมือถือของคุณได้เลย ถึงเวลาต้องเปลี่ยนปลั๊กแล้วสินะ

6. ลงทุนในพลังงานจากโซลาร์เซลล์

ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์: คุณอาจจะเริ่มจากการชาร์จจากแสงแดดในสวนหลังบ้าน! ☀️ ในบางประเทศ รัฐบาลสนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับประชาชน — เพราะฉะนั้นเช็คดูก่อนว่าคุณได้รับสิทธิ์นั้นด้วยหรือไม่!

น้ำ 💧

7. ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นคุณภาพดี

หากคุณเปลี่ยนจากเครื่องทำน้ำอุ่นใหม่จากเดิมคือชนิดแย่ที่สุด คุณอาจจะประหยัดได้สูงถึง 400 USD ต่อปีเลยก็ได้นะ! 🔥 อย่าลืมเช็คเครื่องเป็นประจำและตั้งอุณหภูมิลดต่ำลงเมื่อจำเป็น เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยส่งผลได้แตกต่างกันเลยล่ะ

8. ตั้งอุณหภูมิเครื่องต้มน้ำ 60°C (140°F)

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเครื่องต้มน้ำคือ 60 °C (140°F) 👏 ซึ่งเป็นจุดสมดุลระหว่างฆ่าเชื้อโรคและป้องกันการสะสมของหินปูน — เนื่องจากหินปูนมักเป็นสาเหตุให้การทำงานของเครื่องแย่ลง

9. ซักเสื้อผ้าด้วยน้ำเย็น

อยากประหยัดพลังงานลง 50% ต่อรอบการซักลงไหม? 👀 ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นธรรมดาซักดูสิ! ถ้าคุณต้องซักผ้าเป็นประจำลองเปลี่ยนการตั้งค่าอุณหภูมิของน้ำจาก 40°C เป็น 30°C (86°F) ดูนะ — แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในรอบปี

10. ซ่อมแซมก๊อกที่รั่วไหล

คุณรู้ไหมว่าน้ำที่หยดเรื่อย ๆ นั้นคิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่? 💦 ลองคำนวณด้วย เครื่องคิดเลข จากการประปาแห่งสหรัฐอเมริกา (American Water Works Association) ดูสิ จะเห็นว่าไม่เพียงแค่ค่าน้ำที่เสียเปล่าเท่านั้น แต่ยังมีค่าไฟฟ้าที่ใช้เพื่อทำความร้อนให้กับน้ำนั้นด้วย

11. อาบน้ำให้เร็วขึ้น

สร้างสุขนิสัยการอาบน้ำให้เร็วขึ้น! 🚿 หากลดระยะเวลาอาบน้ำลงได้แม้เพียง 1 หรือ 2 นาที จะทำให้ประหยัดน้ำลงได้หลายลิตรต่อปีเลยทีเดียว — เริ่มจากการมีหัวฝักบัวคุณภาพดี และตัวจับเวลาทำความร้อนกันก่อนเลย

12. ประสานกับผู้ให้บริการ

การสื่อสารที่หัวใจสำคัญ! 💬 ลองถามผู้ให้บริการดูว่าสามารถมาตรวจสอบการทำงานเป็นประจำได้ไหม — บางทีพวกเขาก็ทำให้ฟรีแล้วยังชี้จุดที่ต้องแก้ไขให้ด้วยนะ นอกจากนี้การถามไปที่ผู้ให้บริการโดยตรงยังช่วยประหยัดเวลา แทนที่จะต้องไปถามหาจากคนร้อบข้างลงด้วย

ความร้อน ☀️

13. ติดตั้งปั๊มทำความร้อน

การติดตั้งปั๊มทำความร้อนจะช่วยคุณประหยัดทั้งเงิน & ช่วยโลกได้ 🌱 รายจ่ายของคุณจะลดลงถึง 50% เพราะคุณสามารถทำความร้อนโดยไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม! เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ?

14. ติดตั้งวาล์วทำความร้อนอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่มี ถึงเวลาต้องซื้อแล้วล่ะ: มันคือตัวควบคุมการทำความร้อนแสนฉลาด ที่พร้อมจะช่วยควบคุมทิศทางความร้อนไม่เมื่อไม่จำเป็น 🔥 เมื่อได้อุณหภูมิตามที่ต้องการแล้ว ตัวจับสัญญาณจะเปลี่ยนทิศทางการไหลได้โดยอัตโนมัติ!

15. ตรวจสอบรอยต่อบานหน้าต่าง

รอยต่อของหน้าต่าง, ประตู หรือแม้กระทั่งตู้เย็น อาจเป็นตัวทำให้คุณจ่ายเงินทิ้งไปโดยไม่จำเป็น! 💨 เช็คให้ชัวร์ว่าไม่มีรอยรั่วจะช่วยประหยัดได้มากถึง 15% เนื่องจากทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

16. ติดฉนวนหลังคา

วิธีนี้ไม่ง่ายเหมือนการเช็ครอยรั่ว แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน! 🏡 ตัวฉนวนกันความร้อน ช่วยเก็บความร้อนไว้ในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี

17. แต่งกายให้อบอุ่น

หากคุณรู้สึกว่าใช้เงินไปกับการทำความร้อนค่อนข้างสูง ลองปรับการแต่งกายให้อุ่นขึ้น 👚 ไม่เพียงช่วยให้อุ่นขึ้นแค่ชั่วครู่เท่านั้น แต่ร่างกายคุณจะปรับอุณหภูมิได้เองหลังจากนั้น

อื่น ๆ 💡

18. ใช้แสงจากธรรมชาติ

ใช้เวลาในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ! 💡 หน้าต่างบานใหญ่ & อพาร์ตเมนท์สมัยใหม่จะได้เปรียบในด้านนี้: จึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟระหว่างวัน ถ้าคุณมีโอกาสได้อยู่ในสถานที่เช่นนั้น ใช้แสงจากธรรมชาติให้คุ้มค่า & พร้อมรับความอบอุ่นไปพร้อมกัน!

19. เฝ้าระวังปริมาณการใช้งาน

แน่นอนว่า การคอยเช็คปริมาณการใช้งาน จะคอยเตือนไม่ให้คุณใช้มากเกินไป เรียนรู้ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง & แล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามเหมาะสม คุณต้องการวิธีในการติดตามค่าต่าง ๆ อย่างง่าย ๆ ไหม? ลองตั้งงงบประมาณ สำหรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างใน Spendee ดูสิ! คุณสามารถติดป้ายกำกับเพื่อแยกระหว่าง ค่าไฟฟ้า ⚡️ ค่าน้ำ 💧 ค่าทำความร้อน ☀️ และสาธารณูปโภคอื่น ๆ ออกจากกันได้

20. เปลี่ยนผู้ให้บริการ

ขึ้นอยู่กับว่าคุณอาศัยอยู่ที่ไหน การเปลี่ยนผู้ให้บริการอาจถูกลงได้หลายร้อยเลยทีเดียว! ลองไปสอบถามรายละเอียดราคาและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทดูได้เลย