Part of speech ตัวอย่างคําศัพท์

Part of speech คืออะไรนะ… มันมีอยู่กี่ชนิด และแต่ละชนิดมีอะไรบ้าง จำเป็นต้องเรียนไหม เอิ่ม…เอาเป็นว่าลองศึกษาดูก่อนนะ ไม่เสียหลาย

บทเรียนวันนี้จะมาอธิบายให้เข้าใจกันว่า part of speech คืออะไร ใช้ยังไง จะยกตัวอย่างประโยคพร้อมคำแปลประกอบเสริมความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รับรองไม่ยากเย็นจนเกินไปแน่นอน

Part of speech ตัวอย่างคําศัพท์

part of speech คืออะไร

part of speech แปลว่า ส่วนของคำพูด นี่คือแปลโดยยึดตามคำศัพท์ แต่ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือ “ชนิดของคำ” หรือ “คำชนิดต่างๆ” นั่นเอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ชนิดด้วยกัน

part of speech 8 ชนิด

ทีนี้เราจะมาเรียนรู้ part of speech ทั้ง 8 ชนิด พร้อมตัวอย่างประโยคเสริมความเข้าใจกันนะครับผม

1. คำนาม [Noun]

Noun คือคำที่ใช้แทน คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

ตัวอย่างคำนาม

  • Noun ใช้แทนคน เช่น boy, girl, dad, mom, teacher, student, etc.
  • Noun ใช้แทนสัตว์ เช่น dog, cat, pig, cow, monkey, mouse, etc.
  • Noun ใช้แทนสิ่งของ เช่น pen, pencil, car, chair, table, TV, etc.
  • Noun ใช้แทนสถานที่ เช่น school, bank, market, mall, airport, etc.

ตัวอย่างประโยค

  • A boy is running.
    เด็กชายกำลังวิ่ง
  • A dog is big.
    สุนัขตัวใหญ่
  • A pen is blue.
    ปากกาน้ำเงิน
  • A bank is large.
    ธนาคารกว้างขวาง

2. คำสรรพนาม [Pronoun]

Pronoun คือคำที่ใช้แทนคำนาม

Pronoun ที่เราคุ้นเคยได้แก่ I, You, He, She, It, We, They/ me, you, him, her, it, us, them

แยกออกสรรพนามที่เป็นประธานและกรรม ดังนี้

ประธาน กรรมคำแปลImeฉัน Youyouคุณ Hehimเขา Sheherหล่อน Ititมัน WeusพวกเราTheythemพวกเขา

ตัวอย่างประโยค

  • I love you.
    ฉันรักคุณ
  • He loves her.
    เขารักหล่อน
  • She loves him.
    หล่อนรักเขา
  • We love them.
    พวกเรารักพวกเขา
  • They love us.
    พวกเขารักพวกเรา
  • It is a dog.
    มันคือสุนัข

3. คำคุณศัพท์ [Adjective]

Adjective คือคำที่ใช้ขยายคำนาม หรือสรรพนาม

คำ Adjective ขยายคำนามหรือสรรพนาม บอกให้รู้ว่านามมีลักษณะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

  • good ดี
  • bad เลว, แย่
  • tall สูง
  • short ต่ำ
  • black ดำ
  • white ขาว

ตัวอย่างประโยค

  • He is a good boy.
    เขาเป็นเด็กดี
  • It is a bad dog.
    มันคือสุนัขที่แย่
  • Sam is tall.
    แซมตัวสูง
  • Tom is short.
    ทอมตัวเตี้ย
  • The dog is white.
    สุนัขสีขาว

4. คำกริยา [Verb]

Verb คือคำที่แสดงการกระทำ แสดงสภาวะ

Verb คำกริยาบอกให้รู้ว่าใคร “ทำอะไร” เช่น

  • stand
  • walk
  • sit
  • sleep
  • swim
  • go
  • come

ตัวอย่างประโยค

  • I stand here.
    ผมยืนตรงนี้
  • She walks to school.
    หล่อนเดินไปโรงเรียน
  • They sleep on the bed.
    พวกเขานอนบนเตียง
  • We go to school by car.
    พวกเราไปโรงเรียนโดยรถยนต์
  • They come from China.
    พวกเขามาจากประเทศจีน

5. คำกริยาวิเศษณ์ [Adverb]

Adverb คือคำที่ขยายกริยา หรือคุณศัพท์

Adverb ขยายคำกริยาบอกให้รู้ว่าทำ “ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร” เช่น

  • here ที่นี่
  • there ที่นั่น
  • today วันนี้
  • tomorrow พรุ่งนี้
  • slowly อย่างช้าๆ
  • quickly อย่างเร็ว

ตัวอย่างประโยค

  • I stand here.
    ผมยืนตรงนี้
  • She sits there.
    หล่อนนั่งที่นั่น
  • I will go to the market today.
    ฉันจะไปตลาดวันนี้
  • We walk slowly.
    พวกเราเดินอย่างช้าๆ
  • They run quickly.
    พวกเขาวิ่งอย่างเร็ว

6. คำบุรพบท [Preposition]

Preposition คือคำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ของคำ

Preposition คำบุรพบท หรือ บุพบท บอกให้รู้ว่าอยู่ “ที่ไหน เวลาใด อย่างไร”

  • in ใน
  • on บน
  • at ที่, เวลา
  • by โดย
  • with กับ
  • to ไปสู่

ตัวอย่างประโยค

  • I sleep in the room.
    ผมนอนในห้อง
  • She sits on the chair.
    หล่อนนั่งบนเก้าอี้
  • I am at home.
    ฉันอยู่ที่บ้าน
  • We go to school by car..
    พวกเราไปโรงเรียนโดยรถยนต์
  • She goes to the bank every day.
    หล่อนไปตลาดทุกวัน

7. คำสันธาน [Conjunction]

Conjunction คือคำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยค

Conjunction ทำหน้าที่เชื่อมคำ วลี ประโยค เข้าด้วยกัน เช่น

  • and และ
  • but แต่
  • or หรือ
  • for เพราะ
  • nor ไม่ทั้งคู่
  • yet แต่
  • so ดังนั้น

ตัวอย่างประโยค

  • I like cats and dogs.
    ผมชอบแมวและหมา
  • I like cats but I don’t like dog.
    ฉันชอบแมวแต่ฉันไม่ชอบหมา
  • Boys or girls can swim here.
    เด็กหญิงหรือเด็กชายก็สามารถว่ายน้ำที่นี่ได้
  • I walk slowly for I’m tired.
    ฉันเดินอย่างช้าๆ เพราะว่าฉันเหนื่อย

8. คำอุทาน [Interjection]

Interjection คือคำที่ใช้แสดงอารมณ์

Interjection คือคำสั้นๆที่ใช้แสดงอารมณ์ ความรู้สึก เช่น

  • Hurray – ไชโย
  • Oh โอ – โอ้
  • Ouch – โอ๊ย
  • Ah – โอ้
  • Ahem – อะแฮ่ม
  • Alas – โถ, โอ้
  • Aha – อะฮ้า

ตัวอย่างประโยค

  • Hurray! We won!
    ไชโย พวกเราชนะ
  • Oh, too bad!
    โอ้ แย่จัง
  • Ouch, my leg hurts.
    โอ๊ย ขาฉันเจ็บ

part of speech สรุปแล้วก็คือคำชนิดต่างๆนั่นเอง ซึ่งจะนำคำเหล่านี้นั่นแหละมาเรียงร้อยเป็นวลี และประโยคในการสื่อสารทั้งการเขียนและการพูด

ก่อนที่จะเรียนรู้หลักภาษาในเรื่องอื่นๆ ก็ศึกษาเรื่องนี้ให้เข้าใจก่อนนะครับ เพราะคำเหล่านี้จะไปปรากฎอยู่ในบทเรียนอื่นๆอีกมากมาย

Part of speech มีความสําคัญอย่างไร

การเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจประเภทของคำหรือ Parts of Speech นั้นมีประโยชน์ เพราะจะช่วยให้เราเข้าใจส่วนย่อยของภาษา ตั้งแต่คำ วลี ไปจนถึงประโยคที่ใช้ในภาษาอังกฤษ

Part of speech 8 ชนิดมีอะไรบ้าง

Parts of Speech หรือ ชนิดของคำในภาษาอังกฤษ ประกอบไปด้วย 8 ชนิด คือ Noun, Pronoun, Verb, Adjective, Adverb, Preposition, Conjuction และ Interjection.

FOR เป็นคําชนิดใด

Preposition of Direction (คำบุพบทบ่งบอกทิศทาง) เป็นคำบุพบทที่บ่งบอกทิศทาง บอกการเคลื่อนไหว ว่ามาจากทางไหน หรือจะไปทางไหน คำบุพบทที่พบบ่อย คือ to, from, into, through, out of, down, up เป็นต้น

Suffix part of speech มีอะไรบ้าง

เอาเป็นว่า Suffixes ที่สำคัญที่ควรทำความเข้าใจและจำให้ได้มีอยู่ 5 ตัวคือ 1) -ness (บอกว่าคำศัพท์เป็น noun) เช่น darkness, awareness, illness etc. 2) -er, -or (บอกว่าเป็น noun และเป็นคน (person noun)) เช่น teacher, reader, inventor etc. 3) -al (บอกว่าเป็น adjective) เช่น classical, mental, legal etc.