สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

วัสดุอุปกรณ์และวิธีการทำสเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกมะนาว

          จากการทำสเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกมะนาว มีวิธีการทำดังนี้

  วัสดุอุปกรณ์

1.เปลือกมะนาว
2. หม้อ
3. ผงเบกกิ้งโซดา
4.
ขวดสเปรย์

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

       การเตรียมวัตถุดิบ
        1.นำมะนาวจำนวน 3 ผล มาคั้นน้ำออก ใช้แค่เปลือกมะนาว

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

วิธีทำ

1.นำหม้อที่ใส่น้ำ 2 ถ้วย ไปตั้งเตาให้น้ำเดือด

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

2.เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่ผงเบกกิ้งโซดา 1/8 ช้อนโต๊ะ 

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

3.ใส่เปลือกมะนาวจำนวน 3 ผล ใส่ตามลงไปรอ 10 นาที

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม


4.แยกน้ำกับเปลือกออกจากกัน 

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

5.เทน้ำที่แยกจากเปลือกแล้ว รอให้หายร้อนแล้วใส่ลงในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม


บทที่ 1

บทนำ

1 แนวคิดที่มาและความสำคัญของโครงงาน

ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหมายถึงแนวทางการพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ความพอมี พอใช้ การรู้จักพอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุผล ส่งเสริมความประหยัดในครัวเรือน หากจะต้องซื้อสเปรย์ปรับอากาศอาจจะต้องทำให้เสียเงินซื้อในราคาที่แพงและบางยี่ห้ออาจจะมีส่วนผสมของสารเคมีที่อันตรายบางชนิด

เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมีอากาศที่ร้อนขึ้นซึ่งทำให้เวลาที่คนเราต้องเดินทางออกไปด้านนอกก็ทำให้ร่างกายของเราได้มีการเผาผลาญพลังงานออกมาในรูปของเหงื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหงื่อก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสื้อผ้าที่เราใส่อยู่นั้นเกิดกลิ่นอับและมีความชื้น ซึ่งความชื้นและกลิ่นเหม็นอับหากเราสูดดมเข้าไป ซึ่งสิ่งแรกก็จะทำให้เราเกิดความรำคาญ และหากติดต่อกันหลายชั่วโมง ก็อาจจะทำให้ปอดทำงานหนัก และ ส่งผลเสียต่อร่างกายทำให้เกิดโรคภูมิแพ้,หอบหืด,ปอดติดเชื้อและ โรคอื่น ๆ หลากหลายชนิดซึ่งในห้องเรียนของพวกเราก็ได้มีปัญหาดังกล่าวซึ่งเนื่องมาจากพวกเราต้องเรียนในห้องแอร์ ไม่ได้รับอากาศและแสงแดดจากธรรมชาติ และหลังจากที่ได้เรียนวิชาพละซึ่งทำให้มีเหงื่อเยอะ ก็ส่งผลให้เสื้อมีกลิ่นอับและห้องก็มีกลิ่นอับชื้นไปด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ศึกษาเกิดความสนใจที่จะทดลองทำสเปรย์ปรับอากาศจากส้มขึ้น

2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน

                2.1 เพื่อทราบถึงประโยชน์และสรรพคุณของส้ม

                2.2 เพื่อศึกษาการทำสเปรย์ปรับอากาศจากส้ม

                2.3 เพื่อนำเสนอและให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของสเปรย์ปรับอากาศ

3 ขอบเขตและข้อจำกัดของโครงงาน

                ใช้ระยะเวลาในการทดลองและลงมือดำเนินการภายใน 1 ภาคเรียน โดยทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และสรรพคุณของส้ม การทำสเปรย์ปรับอากาศทั้งจากสถานศึกษาและจากอินเทอร์เน็ต

4 ประโยชน์ที่ได้รับ

                4.1 ได้ทราบถึงประโยชน์ของส้มในการนำมาใช้ปรับอากาศ

                4.2 เป็นแนวทางในการนำสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาศึกษา หาปัญหา และทำให้เกิดการแก้ไข เช่น การนำส้มมาใช้ทำเป็นสเปรย์ปรับอากาศ

                4.3 สามารถนำไปต่อยอดและประกอบเป็นอาชีพได้

                4.4 เป็นการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์

บทที่ 2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

                ในการศึกษาโครงงานเรื่องสเปรย์ปรับอากาศจากส้ม ผู้จัดทำได้รวบรวมแนวคิดต่างๆ จากเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

                หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย 3 ห่วง 2 เงื่อนไข

1. ความพอประมาณ ได้แก่การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่พอดีไม่จัดหามาเกินความต้องการ

2. ความมีเหตุผล ได้แก่ การตัดสินใจเกี่ยวกับการทำงานต่างๆ

3. ภูมิคุ้มกัน ได้แก่ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยมี เงื่อนไข ของการตัดสินใจและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียง ๒ ประการ  ดังนี้

1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย การนำเอาความรู้ที่ได้เรียนมาและนำมาใช้ในการจัดทำโครงงาน

2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการทำงานโครงงาน

            2.1 ส้ม

ส้ม เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กหลายชนิด เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceaeมีด้วยกันนับร้อยชนิด เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่องกับแสงแดด จะเห็นจุดเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง ส้มหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ และ วิตามินซี มากเป็นพิเศษ ถ้าผลไม้จำพวกนี้มี มะ อยู่หน้า ต้องตัดคำ ส้ม ออก เช่น ส้มมะนาว ส้มมะกรูด เป็น มะนาว มะกรูด

ประโยชน์ของส้ม

เปลือกส้ม เป็นเปลือกผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากมายตั้งแต่สมัยโบราณ สามารถใช้ปรุงเป็นยา ไล่ยุง ใช้ทำเป็นเครื่องหอม หรือใช้ทำเป็นอาหารได้ เช่น เปลือกส้มแช่อิ่ม หรือเปลือกส้มเค็ม ที่นิยมรับประทานกันจนถึงทุกวันนี้ และเปลือกส้มยังมีประโยชน์สามารถใช้ภายในบ้านเราได้มากมายอีกด้วย

ฟองน้ำเปลือกส้ม นำเปลือกส้มมาใช้แทนฟองน้ำโดยการนำมาเช็ดถูเตาทำอาหารหรืออ่างล้างจานที่มีคราบมันและคราบสกปรกจากอาหาร แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เตาทำอาหารและอ่างล้างจานก็จะไม่มันและยังเงางามอีกด้วย

ดับกลิ่นถังขยะ วางเปลือกส้มที่ยังไม่แห้งลงในก้นถังขยะ เพราะกรดและกลิ่นของเปลือกส้มจะช่วยกำจัดเชื้อโรค ดับกลิ่นเหม็นและเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย

ดับกลิ่นรองเท้า นำเปลือกส้มที่แห้งแล้วมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใส่ในถุงผ้าขนาดเล็กที่มีลักษณะค่อนข้างโปร่ง ซึ่งจะทำให้กลิ่นของเปลือกส้มระบายออกมาได้ จากนั้นนำถุงผ้าไปใส่ไว้ในรองเท้า เพราะถุงหอมจากเปลือกส้มจะช่วยดูดซับกลิ่น ทำให้รองเท้าไม่มีกลิ่นเหม็นอับ

ถนอมน้ำตาลทรายแดง หั่นเปลือกส้มที่ยังไม่แห้งเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1-2 ชิ้น แล้วนำไปใส่ลงในขวดน้ำตาลทราย เปลือกส้มจะช่วยให้น้ำตาลทรายไม่จับตัวเป็นก้อนแข็งแล้วสามารถหยิบมาใช้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เปลือกส้มทากันยุง ไล่แมลง นำเปลือกส้มสดมาถูบริเวณแขนและขา หรือจุดที่ยุงกัดเพราะเมื่อยุงได้กลิ่นส้มก็จะบินหนีไป หรือวางเปลือกส้มโดยหงายเอาด้านที่เป็นเนื้อส้มขึ้น บริเวณที่มีแมลง มด หรือยุงมารบกวน ก็จะทำให้แมลงไม่มากวนใจอีกแล้วค่ะ

ควันไฟไล่ยุง นำเปลือกส้มไปตากแดด  2-3 ครั้งจนแห้ง แล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นจึงนำมาสุมไฟ เพื่อให้เกิดควันเข้าไปในบ้านช่วยให้ยุงไม่มารบกวน

สเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ ผสมเบคกิ้งโซดา 1 ส่วน กับน้ำสะอาด 3 ส่วน จากนั้นนำผลส้มลงไปล้าง 1 รอบ ปอกเปลือกส้มใส่ขวดโหลจนแน่นและเติมน้ำส้มสายชูลงไป หมักทิ้งไว้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิเย็น 1 เดือน เมื่อครบกำหนดให้เขย่าขวดโหลแรงๆ สักพัก ใช้กระชอนกรองเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 สุดท้ายนำส่วนผสมที่ได้เทใส่ขวดสเปรย์ ฉีดทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบสกปรก โดยอาจจะเติมน้ำมันหอมระเหยลงไปได้ตามใจชอบ

เทียนเปลือกส้ม  โดยผ่าส้มครึ่งผลแล้วคว้านเอาเนื้อส้มออกให้เหลือแต่แกนที่โผล่ขึ้นมาบริเวณจุกของเปลือกส้ม เติมน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยไม่ให้ท่วมแกนของผลส้ม แล้วจุดไฟบริเวณแกนของผลส้ม เทียนจากเปลือกส้มนี้สามารถอยู่ได้นานหลายชั่วโมงและยังเพิ่มความเก๋ให้กับบ้านอีกด้วย\

                2.2 เบกกิ้งโซดา

ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา

1. แก้เจ็บคอ

ผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาลงในน้ำเปล่า ใช้กลั้วคอทุกๆ 4 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการเจ็บคออันเกิดจากกรด รวมทั้งยังช่วยรักษาแผลในช่องปากได้อีกด้วย

2. ดับกลิ่นปาก

สูตร 1 ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว ดับกลิ่นหอมกลิ่นกระเทียมได้ ถ้าใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 แก้ว และผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

3. ขจัดกลิ่นเหม็นอับอกจากผ้านวม

ฟ้าห่มหลังจากทที่คุณเก็บไว้นานๆ โรยเบ๊กกิ้งโซดาลงบนผ้านั้น ม้วนเก็บไว้สัก 2 ชั่วโมง จากนั้นสะบัดออกและตบให้ฟูหรือใช้ไดร์เป่าลมให้ฟูโดยไม่ใช้ความร้อนเป่า

4. สครับขัดหน้า

สูตร 1 เอาเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้ได้เปียกๆแล้วขัดหน้าเบาๆหน้าจะสะอาดดีค่ะ

5. สครับขัดผิว

เบคกิ้งโซดาครึ่งถ้วย เกลือครึ่งถ้วย มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ เอาผสมกันก่อนจะใช้แล้วก็เอามาขัดผิวระหว่างอาบน้ำค่ะ

6. สปาเท้า

เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ และน้ำอุ่นใส่ในกะละมังแช่เท้า แช่แล้วสบายเท้าดี จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า รวมทั้งความร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้อีกด้วย

7. บรรเทาอาการผิวไหม้แดด

ผสมเบคกิ้งโซดาลงในน้ำอุ่นสำหรับอาบ จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้

8. แช่น้ำอุ่น

หากคุณอยากผ่อนคลาย เบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยได้เช่นกัน โดยคุณเพียงแค่ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำอุ่นที่คุณจะแช่ตัว เท่านี้ก็จะเหมือนพักผ่อนอยู่ในสปาเลยทีเดียว

9. ทำความสะอาดเส้นผม

ผสมเบกกิ้งโซดาหนึ่งช้อนชาเข้ากับแชมพูสระผมตามปกติของคุณ เพื่อช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผม (วิธีนี้จะดีเป็นพิเศษกับผมเส้นเล็ก)Advertisementช่วยทำให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้น

เติมเบกกิ้งโซดาประมาณหนึ่งหยิบมือลงในชามน้ำอุ่น แล้วแช่มือไว้ในนั้นเป็นเวลาสองสามนาที ก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด ก็จะช่วยให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้นได้

10. ฮ่องกงฟุต

อาการคันตามง่ามเท้าเพราะติดเชื้อราหรือที่เราเรียกว่า ฮ่องกงฟุต อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยารักษาเชื้อราในบ้านบางทีคุณอาจมียารักษาเชื้อราอยู ่แล้วคือ เบคกิ้งโซดา สามารถลดอาการคันและแสบร้อนตามง่ามนิ้วเท้า ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำพอให้เหนียวๆ แล้วนำมาทาที่เท้า จากนั้นล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง ปิดท้ายด้วยการทาแป้งข้าวโพดบริเวณที่คัน ยาตำรับต่อไปนี้แม้ว่าจะฟังดูแปลกสักหน่อย แต่ล้วนได้รับคำรับรองจากผู้ที่ทดลองใช้มาแล้วว่าได้ ผลชะงัด ได้แก่ แอลกอฮอล์เช็ดแผล น้ำส้มไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูหมักจาก

แอปเปิล (apple cider vinegar) ผงกระเทียม สเปรย์ใส่ผม และน้ำผึ้ง ให้คุณเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ทาวันละ 3-4 ครั้ง

11. บรรเทาอาการลมพิษ

วิธีคือ ใช้ผงเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำ 2-3 หยดพอให้เป็นแป้งเปียก ทาบริเวณผื่นเพื่อลดการระคายเคืองและแก้คัน

12. ยาลดกรด

ใครที่เกิดอาการแน่นท้องไม่ต้องไปซื้อยาแพงๆให้เปลือง เพราะคุณสามารถจัดการเองได้ง่ายๆ ด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าธรรมดา ๆ อย่างละครึ่งถ้วยนี่แหละ

13. น้ำยาล้างสารพิษจากผักและผลไม้?

นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง สามารถลดสารพิษได้ 90%

14. น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ

ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบคกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

15. ครีมลบรอยขูดขีดเครื่องครัว

ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ลิตร ทำความสะอาดเครื่องครััวที่ทำด้วยฟอร์ไมก้าสเตนเลส พลาสติก โครเมี่ยม (ยกเว้นอะลูมิเนียม) ริ้วรอยจะเลือนหายไป

16. น้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ

นำเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 ลิตร นำผ้ามาชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดภายใน คราบสกปรกจะเช็ดออกง่าย

17. หมักหมูนุ่ม

ใส่นิดเดียวค่ะ หมักหมูก็จะนุ่ม ถ้าใส่มากเกินจะมีกลิ่นสารเคมี

18. ดับไฟในกะทะ

ในกรณีที่มีน้ำมันกระเด็นติดไฟนิดๆขณะทำอาหาร หรือว่าไฟติดในกะทะ อย่าเทน้ำลงไป เพราะว่าการเทน้ำลงไปบนน้ำมันที่ร้อนๆอยู่จะทำให้ไฟล ุกมากขึ้นเนื่องจากน้ำมันกระจาย ให้ใช้เบคกิ้งโซดาค่ะ แห้งๆนั่นแหละ เทลงไปตรงๆเบกกิ้งโซดาพอโดนความร้อนมันจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาช่วยทำให้ไฟลดน้อยลงได้ค่ะ

19. ทำเค้กให้ฟูนุ่มน่ากิน

ก็ต้องมีเบคกิ้งโซดาเป็นส่วนผสม

20. ถ้าอยากได้ไข่เจียวฟูหอมอร่อยน่ากิน

ก็ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปครึ่งช้อนชาต่อไข่ 3 ฟอง ก็จะทำให้ไข่เจียวดูฟูน่ากินทันตาเห็น

21. เวลาที่ถูกแมลงต่อย

คุณก็สามารถใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำทาบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้เช่นกัน

22. ดับกลิ่นอับในตู้เย็น

เบคกิ้งโซดาจะดูดกลิ่นอับในตู้เย็น หากคุณนำไปใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็น ให้เปิดฝากล่องด้านบนออกให้หมด หรือเทใส่ถ้วย ทิ้งไว้ด้านในสุดของตู้แล้วคอยเปลี่ยนทุก 3 เดือน

23. ขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน

ถ้าปล่อยไว้นานๆ จะเป็นเหตุให้ท่ออุดตันได้ มีวิธีทำคือ นำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบคกิ้งโซดา ไปต้มกับน้ำให้ เดือดแล้วเทลงไปไขมันที่อุดตัน ก็จะหลุดออกไปหมด

24. ปัญหาเรื่องท่ออุดตันด้วยคราบไขมันในอ่างล้าง

ให้โรยเกลือรอบๆ ขอบท่อ จากนั้นนำน้ำยาเบคกิ้งโซดา 10 ช้อนโต๊ะผสมน้ำร้อนๆ 1 ขวดลิตร ค่อยๆ เทลงไป เกลือและน้ำยาจะช่วยให้คราบไขมันหลุดออกง่ายขึ้น และทำซ้ำอีก 2-3 รอบ ตามด้วยน้ำเปล่าปิดท้าย หากคราบยังไม่ยอมออกก็คงต้องพึ่งช่างแล้วค่ะ

25. ทำความสะอาดเขียง

ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำทำความสะอาดเขียง จะช่วยทำให้เขียงหมดกลิ่นคาว

หากครัวของคุณเต็มไปด้วยคราบมัน?การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูอย่างละ 1 ถ้วยเช็ดสามารถช่วยขจัดคราบเหล่านั้นให้คุณได้

26. ขจัดกลิ่นเหม็นสาปที่ติดอยู่ภายในกระติกน้ำแข็ง

นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำร้อน แล้วนำมาล้างถูภายในกระติกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอีกครั้งกลิ่นเหม็นสาปก็จะหายไป

27. น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ

ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

28.น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์

เทเบคกิ้งโซดา 1/2 กล่องลงในถังนำหลังชักโครก ทิ้งไว้ 1 คืนแล้วค่อยกดชักโครก

29. น้ำยาดับกลิ่นพรม

ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยกับแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโปรดลงไป 15 หยด ใส่ขวดสเปรย์ฉีดบนพื้นพรมก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้า กลิ่นพรมจะสะอาดสดชื่น

30. น้ำยาซักผ้าขาวสะอาด

สูตร 1. ใส่ผงเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วนในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า จะทำให้ผ้าขาวและสีจะสดขึ้น

สูตร 2. ใช้ตอนซักผ้า ใส่เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยลงในน้ำสุดท้ายที่กำลังจะล้างฟองออกจะทำให้ผ้ากลิ่นสะอาดขึ้น

31. ดับกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่เราสวมใส่

เมื่อจะใช้ให้ผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย (1 ถ้วย = 16 ช้อนโต๊ะ) กับผงซักฟอกชนิดน้ำปริมาณที่คุณใช้

32. ใช้ล้างแปรงและหวี

เอาเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นในชามอ่างเล็กๆ แช่หวีกับแปรงไว้ค่ะ มันจะทำให้พวกคราบต่างๆหลุดออกได้ง่าย

33. ทำความสะอาดที่ดัดฟัน (retainers)

เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย แช่ทิ้งไว้สักพักแล้วเอาแปรงขัดๆปัดๆคราบออก

34. ดับกลิ่นแมว

ให้เอาเบคกิ้งโซดาเทลงไปใน litter box ของแมว ก่อนที่จะใส่ litter หลังจากนั้น ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาด litter box พอตักอึแมวไปแล้วก็เอาเบกกิ้งโซดาโรยนิดๆด้านบนเพื่อ เป็นการกลบกลิ่นค่ะ

35. พื้นผิวสิ้นคราบสกปรก

สำหรับพื้นผิวแข็งๆ เช่น พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ให้ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วค่อยล้างออก ในกรณีที่มีคราบสกปรกทำความสะอาดยาก ให้ผสมเบกกิ้งโวดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันข้นจน เป็นแป้ง จากนั้นให้พอกทิ้งไว้บริเวณที่มีคราบสกปรก อย่างเช่น บนเคาน์เตอร์ หรือจานกระเบื้องสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเช็ดออก

36. เช็ดเตารีด

ใช้ผ้าชุบน้ำผสมเบคกิ้งโซดาบิดพอหมาด นำไปเช็ดใต้เตารีด หรือเครื่องครัว ที่ทำด้วยฟอร์เมก้าสแตนเลสโครเมี่ยม จะทำความสะอาดได้หมดจดไม่เกิดรอยขูดขีด

37. ดับกลิ่นพรม

โรยเบคกิ้งโซดาให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดูดออก

38. สำหรับพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน

ให้เทน้ำผสมเบคกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่เปื้อนคราบน้ำมัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง คราบก็จะจางลง จากนั้นให้ใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง

39. กลิ่นรองเท้า

ปัญหาใหญ่ของใครหลายคนเพราะรองเท้าถูกใช้งานทั้งวัน เก็บหมักหมมเหงื่อไคลความอับชื้นง่ายมาก วิธีก็คือ โรยเบคกิ้งโซดาในรองเท้า แล้วนำรองเท้าคู่นั้นใส่ถุงพลาสติกรัดให้แน่น นำไปแช่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นไว้ 1 หรือ 2 คืน นำรองเท้าออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง แล้วเอาไปสลัดผงเบคกิ้งโซดาออกให้หมดแล้วสวมได้เลย แต่หากเรายังไม่สวมทันทีให้ปล่อยผงเบคกิ้งโซดาไว้อย่างนั้นก่อนจนกว่าจะนำมาสวม หรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเป็นก้อนมาใส่ด้านในรอง เท้า หมึกของกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดกลิ่น และยังทำให้รองเท้าอยู่ทรงด้วย ทุกครั้งที่กลับบ้านให้ใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ทุกครั้ง และเปลี่ยนแผ่นใหม่ทุกอาทิตย์

41. กำจัดรอยไหม้ตามหม้อหรือกระทะ

เอาเครื่องครัวเหล่านี้ไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาพอประมาณสัก 15 นาทีก่อนจะล้างออก ก็จะช่วยให้รอยไหม้เลือนหายไปได้

42. ทำความสะอาดครื่องชงกาแฟ

ด้วยการโรยเบกกิ้งโซดาลงไปพอประมาณ แล้วกดให้เครื่องทำงานตามปกติ ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดให้น้อยลงได้

43.ล้างหน้าต่างบานเกล็ด

น้ำอุ่นที่ผสมเบ๊กกิ้งโซดา 3/4 ถ้วยตวงราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปลงขัดออก

44. รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้

หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และเบ๊กกิ้งโซดาในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น

ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้โดยการใช้เบ๊กกิ้งโซดากับกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ เช็ดออกจำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก

45. สีเทียนบนผนัง

ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดเบ๊กกิ้งโซดาเพื่อเช้ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนังล้างๆ เช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง คราบน้ำมัน ดินสอ และปากกา มาร์คเกอร์ได้ด้วย

46. ทำความสะอาดแป้นพิมพ์คีบอร์ดด้วยแปลงสีฟันขนอ่อนๆ ขัดโดยใช้เบ๊กกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก

47. ทำความสะอาดไม้ถูพื้น

แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1 ถัง ละลายเบ๊กกิ้งโซดา 4 ช้อนชา แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ว วิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นหลังแช่ตากให้แห้งบ้านสุขภาพดี

48. ทำความสะอาดกระเป๋าเดินทาง

ป้องกันไม่ให้ภาชนะกระเป๋าเดินทางขิงคุณมีกลิ่นเหม็นอับเหม็นชื้นจากเชื้อรา โดยการโรยเบกกิ้งโซดาลงบนภาชนะข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่จะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างมิดชิด

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

2.3 น้ำ

น้ำ คือสารอาหารที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะว่า 4/5 ส่วนของน้ำหนักตัวก็คือน้ำ มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายสัปดาห์หากขาดอาหาร แต่จะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากขาดน้ำ โดยน้ำทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะ แต่ยังไม่มีปริมาณที่ให้ดื่มเฉพาะเจาะจงในแต่ละวัน เพราะการสูญเสียน้ำของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วการดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวันถือว่าดีต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของน้ำดื่ม

ประโยชน์ของน้ำดื่ม ช่วยให้สุขภาพผิวดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งสดใส

น้ำช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของเราแห้งกร้าน

ช่วยให้ดวงตาของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย

ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลในร่างกาย

ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย สบายใจ

น้ำช่วยให้สมองทำงานได้ไวและดียิ่งขึ้น

ช่วยทำให้เกิดสมาธิมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในวัยเรียนควรให้ความสำคัญ

ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก

ช่วยชะลอความแก่ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ และทำงานได้อย่างเป็นปกติ

ช่วยลดอาการเครียด สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น อย่าเครียดจนลืมดื่มน้ำ !

น้ำช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของเราได้ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่

น้ำสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับผิวหนังของคุณได้ แถมยังป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย

ช่วยลดการปวดหลังหรือบั้นเอว

ช่วยลดอาการปวดข้อต่าง ๆ

ช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น เคลื่อนไหวไปมาได้สะดวก

รู้หรือไม่ว่าน้ำก็คือยาวิเศษดี ๆ นี่เอง ถึงแม้จะไม่เห็นผลทันตาแต่ก็สามารถช่วยรักษาโรคหลาย ๆ ชนิดได้

น้ำช่วยลดอาการการปวดศีรษะและไมเกรนได้ไม่มากก็น้อย เพราะผู้ป่วยไมเกรนหากร่างกายขาดน้ำหรือได้รับไม่เพียงพอแล้ว อาการปวดหัวอาจจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

ช่วยในการย่อยอาหาร เพราะทำให้ระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยป้องกันโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่ท้องผูก น้ำคือสิ่งจำเป็นอย่างมาก

น้ำมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักตัว โดยไปลดความอยากอาหารก่อนการรับประทานอาหารนั่นเอง

การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายของเราให้ลดลงได้

ช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติและมีประสิทธิภาพ

ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

ช่วยรักษาสุขภาพไตให้แข็งแรง

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ ประการสุดท้ายก็คือช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

2.4 แอลกอฮอล์

โดยทั่วไป แอลกอฮอล์ มักจะอ้างถึงเอทานอลเกือบจะเพียงอย่างเดียว หรือเรียกอีกอย่างว่า grain alcohol ซึ่งเป็นของเหลวที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และสามารถระเหยได้ ซึ่งเกิดจากการหมักน้ำตาล นอกจากนี้ยังสามารถใช้อ้างถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นที่มาของคำว่าแอลกอฮอลิซึ่ม (alcoholism—โรคพิษสุราเรื้อรัง)

เอทานอลเป็นยาเสพติดที่มีฤทธิ์กดประสาท ที่ลดการตอบสนองของระบบประสาทส่วนกลางแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ จะอธิบายด้วยคำวิเศษณ์เพิ่มเติม เช่น isopropyl alcohol (ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์) หรือด้วยคำอุปสรรคว่า -ol เช่น isopropanol (ไอโซโพรพานอล)\

การนำไปใช้ประโยชน์ 

 ในภาคอุตสาหกรรมนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย  เป็นสารตั้งต้น  ในการทางการแพทย์นำไปใช้เกี่ยวกับยาบางชนิด  ใช้ในการฆ่าเชื้อโรค  หรือเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง  อย่างเช่น  น้ำหอม  สบู่  เป็นต้น  และที่ใช้ในสุรา  หรือของมึนเมาทุกชนิด  ใช้ในการรื่นเริง  การพบปะสังสรรค์

สเปรย์ดับกลิ่นจากเปลือกส้ม

บทที่3

วิธีการดำเนินโครงงาน

3.1 วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา

1.             น้ำส้ม

2.             น้ำเปล่า

3.             เบกกิ้งโซดา

4.             แอลกอฮอล์

5.             ช้อนคน

6.              ชวดสเปรย์

3.2  ขั้นตอนการสร้างชิ้นงานตามแบบ

1.             ต้มน้ำให้เดือด

2.             คั้นน้ำส้ม

3.             นำส่วนผสมทั้งหมด ผสมรวมกันในน้ำที่เดือด

4.             คนให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน

3.3  ทดสอบและปรับปรุงชิ้นงาน

3.4 รายงานปัญหาละวิธีการปรับปรุงแก้ไขปัญหา

บทที่4

ผลการดำเนินงาน

4.1 ผลการดำเนินงาน

                จากผลการศึกษาของโครงงานสะเต็ม เรื่อง สเปรย์ดับกลิ่นอับจากน้ำส้ม  เราได้ผลิตตวามขั้นตอนการดำเนินงาน และได้ผลงานตามที่วางไว้ คือ สามารถดับกลิ่นอับชื้นภายในห้อง  ทำให้ในห้องเรียนของพวกเรามีอากาศที่บริสุทธิ์   ขั้นตอนการดำเนินการ มีดังนี้

1.             เลือกหัวข้อที่จะทำโครงงาน

2.             แบ่งหน้าที่ในการทำงานกันภายในกลุ่ม

3.             รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำ

4.             ซื้อและหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ

5.             ทำสเปรย์ดับกลิ่นอับตามสูตรที่วางไว้

6.             นำมาทดลองใช้และสังเกตผล

4.2 การนำไปใช้ให้ครอบคลุมหน่วยบูรณาการของสาระในระดับ ม.2 เรื่องอ วิถีพอเพียง

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง “พลังงานพอเพียง”

แนวทางการบูรณาการ  การใช้ส่วนประกอบให้มีความพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง “คณิตกับชีวิตประจำวัน”

แนวทางการบูรณาการ  การใช้อัตราส่วนของส่วนผสม

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง “ภาษาสร้างสรรค์”

แนวทางการบูรณาการ การเลือกคำในการทำรูปเล่มรายงาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง “ธรรมะสร้างงาน”

แนวทางการบูรณาการ  การมีความซื่อสัตย์และความอดทนในการทำชิ้นงาน

กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง “อยู่ดีมีสุข”

แนวทางการบูรณาการ การอยู่ในบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์จะทำให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เรื่อง “ศิลป์สร้างสรรค์

แนวทางการบูรณาการ การออกแบบรูปผลิตภัณฑ์

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องทักษะสร้างอาชีพ

แนวทางการบูรณาการ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง “English Around us”

แนวทางการบูรณาการ ใช้ภาษาอังกฤษในการเขียนชื่อเฉพาะของส่วนผสม

กลุ่มสาระการเรียนรู้กิจกรรมแนะแนว เรื่อง แนะแนวอาชีพ

แนวทางการบูรณาการ สามารถนำความรู้ไปบอกให้คนสามารถนำไปสร้างอาชีพได้

บทที่5

สรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ

5.1 สรุปผลการดำเนินโครงงาน

                การทำโครงงานสเปรย์ดับกลิ่นอับชื้นจากน้ำส้มในครั้งนี้สมาชิกช่วยกันทำตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ช่วยกันสืบค้นข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มรายงาน และทำผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการและนอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาวิธีการทำและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

5.2 ปัญหาและอุปสรรค

                เปลือกส้มมีความแข็งเกินไป คั้นนำได้ยาก

5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา

                สามารถนำผลไม้ชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติในการดับกลิ่นและให้ความสดชื่นเหมือนส้มได้ก็สามารถนำไปเปลี่ยนสูตรเป็นกลิ่นต่างๆได้