http://inex.co.th/shop/media/catalog/product/cache/1/image/1200x/040ec09b1e35df139433887a97daa66f/s/i/simplify3d_8_1.jpg Show
2. แชร์แวร์ (Shareware)เป็นโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์เช่นกัน โดยอาจจถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรหรือโปรแกรมเมอร์เพียงคนเดียวก็ได้ มีการแจกจ่ายให้ทดลองฟรีภายในระยะเวลาที่กำหนด ที่สำคัญ โปรแกรมที่ให้ทดลองใช้ฟรีนั้น อาจมีเครื่องมือบางตัวถูกจำกัดขอบเขตการใช้https://downloaddd.in.th/knowledge/wp-content/uploads/2013/11/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C-200x200.png 3. ฟรีแวร์ (Freeware)คือซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ผู้ใช้สามารถนำโปรแกรมนี้มาใช้งานได้ฟรี แล้วยังสามารถแบ่งปันหรือคัดลอกไปให้ผู้อื่นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนโปรแกรมยังคงเป็นเจ้าของสิทธิ์อยู่http://www.geocities.ws/55003498089/Image089/115.png 4. ซอฟต์แวร์สาธารณะคือโปรแกรมที่ปราศจากลิขสิทธิ์ใดๆ โดยเจ้าของสิทธิ์ในตัวโปรแกรม ที่เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ขึ้นมา มีจุดประสงค์บริจาคแก่สาธารณะ ดังนั้น ซอฟต์แวร์ชนิดนี้ นอกจากยังใช้งานฟรีแล้ว ยังสามารถคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข และแจกจ่ายให้กับบุคคลอื่นๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัดและข้อผูกมัดใดๆhttp://4.bp.blogspot.com/-Yqc8NYscYjE/VnFCBECztSI/AAAAAAAAADc/9_QTFmNo1Ms/s1600/1-8-638.jpg ระบบปฏิบัติการตามมาตรฐานปิดและมาตรฐานเปิดซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานปิด คือซอฟต์แวร์ที่มีกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ (Proprietary) ไม่มีการเปิดเผยชุดคำสั่ง กล่าวคือ เป็นซอฟต์แวร์ที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เเดียว โดยได้รับใบอนุญาตภายใต้สิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ที่นำซอฟต์แวร์นี้ไปใช้จะต้องซื้อลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง เพื่อขอใบอนุญาตการใช้งานที่อยู่ภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด ซอฟต์แวร์ตามมาตรฐานเปิด คือซอฟต์แวร์แบบ Open Source ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดการอาศัยความร่วมมือจากโปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลก โดยมีความตั้งใจที่จะเปิดเผยชุดคำสั่งสู่สาธารณะ เพื่อให้เหล่าพัฒนาช่วยกันสร้างซอฟต์แวร์เหล่านี้ขึ้นมา และให้ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถนำไปใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ระบบปฏิบัติการ Windows 7ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2552 อย่างเป็นทางการ และยังสร้างยอดจำหน่ายสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ โดยระยะเวลาเพียง 3 ปีถัดมา มียอดจำหน่ายมากกว่า 600 ล้านชุด และกลุ่มผู้ใช้งานเดิมอย่าง Windows XP และ Windows Vista ได้เปลี่ยนใจหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 มากขึ้นเรื่อยๆ ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ยังมีให้เลือกใช้ทั้งแบบ 32 บิตและ 64 บิต โดยมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามรายละเอียดต่อไปนี้
ขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7เมื่อคอมพิวเตอร์ที่ประกอบไว้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความสมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งาน ขั้นต่อไปคือการจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถบูตเครื่องได้ จึงต้องติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการลงไปก่อน ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อตอบสนองการใช้งานแก่ผู้ใช้ตามความประสงค์ ต่อไปนี้จะเป็นการสาธิตวิธีการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 ซึ่งต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ ชุดคอมพิวเตอร์ที่พร้อมใช้งาน แผ่นติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 แผ่นไดรเวอร์เมนบอร์ด วิธีการติดตั้ง ดังนี้ 1. ทำการตั้งค่า BIOS ของ คอมพิวเตอร์ของเรา โดยทำการเปิดคอมพิวเตอร์ > จากนั้นกด ปุ่ม “Delete” บน keyboard เพื่อเข้าในหน้า Bios > จากนั้นตั้งให้ Boot จาก DVD เป็นอันดับแรก > จากนั้นทำการบันทึกค่าที่เราเปลี่ยน จากนั้นคอมพิวเตอร์จะ Restart หมายเหตุ : สำหรับ Notebook บางรุ่นอาจจะให้กด F2 , F10 แล้วแต่ยี่ห้อนะครับ วิธีการเข้า BIOS : การเข้าไบออสคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่น Note : แต่ถ้าเราต้องการกดใช้ Boot menu เลย ทั้ง Notebook / PC ส่วนมากจะกด F12 , F10 (กดย้ำๆเลยนะครับ) เผื่อทำการเลือกเลยว่าเราจะ Boot จากอะไรในตอนเปิดคอมพิวเตอร์ โดยให้เลือกจาก DVD / USB ตามที่เราต้องการที่จะติดตั้ง Windows 7 Tab : Boot “ภาพด้านล่างเป็นการปรับ BIOS โดยถ้าต้องการให้ ให้ Boot USB ก็ให้ทำการเลื่อน USB ขึ้นมาบนสุด แต่ถ้าจะให้ CD/DVD Boot ก็ให้เลื่อนให้ขึ้นมาบนสุด โดยการกด +/- ในการ เลื่อนขึ้นลง ” http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/SET-BIOS-COMPUTER-600x450.jpg สำหรับ Windows 7 แนะนำให้ปรับ Mode SATA Operation : ให้เป็น AHCI AHCI (Advanced Host Controller Interface ) this is a hardware mechanism that allows the software to communicate with Serial ATA (SATA) devices. โดย AHCI เป็น ฮาร์ดแวร์ที่ควบคุมกลไกการทำงาน ระหว่างซอฟต์แวร์กับ SATA http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/AHCI-Mode-HDD-600x450.jpg 2. จากนั้นจะขึ้นข้อความ Press any key to boot cd or dvd …. ให้ทำการกด Enter 1ครั้ง หรือรัวๆเลยก็ได้แล้วแต่ครับ 3. เริ่มเข้า Starting Windows http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7.jpg 3. เข้าสู่หน้า Windows 7 Setup Language to install : เลือก English Time and Currency format : เบิอก English (United States) Keyboard or input method : เลือก US http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-Setup.jpg http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install.jpg 5. เลือก I accept the license terms > กด Next http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-Setup-license.jpg 6. ทำการเลือก Custom (advance) ในการติดตั้ง http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-custom.jpg 7. ในขั้นตอนตรงนี้มี 2 กรณี ให้้เลือกตามที่ผมกำลังจะอธิบายนะ 7.1 กรณีแรก : กรณีเพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่ และยังไม่เคยลง Windows แปลว่า Harddisk ยังไม่ได้ใช้แลยังไม่ได้แบ่ง Partition 7.1.1 .ทำการเลือก DISK ที่เรามีโดยเอาเมาส์คลิกซ้ายเลือก และจะเห็นเมนูให้ทำการกด Drive option (advanced) http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-drive-option-advance.jpg 7.1.2 ทำการกด New > Size ให้ทำการใส่จำนวน Harddisk Drive C ที่เราอยากได้ เช่น 100 GB ก็ให้เอา 1024 คูณไป ก็จะได้ 102400 MB (ผมแนะนำให้ Drive C = 100 GB) ส่วนที่เหลือก็ให้ทำการคลิก New อีกครั้งแล้วก็แบ่งให้หมดจะได้เป็น Drive D http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-new-disk.jpg 7.1.3 ให้ทำการเลือก Drive ที่เราแบ่งไว้ที่จะเป็น Drive : C โดยทำการคลิกบน Drive นั้นๆ และทำการกด Next หมายเหตุ : ไม่ต้องสนใจ Disk ที่เป็น Type : System / System Reserved http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install-windows.jpg 7.2 กรณีสอง : กรณีลง Windows มาแล้ว แต่อยากทำการลง Windows 7 ใหม่ 7.2.1 ให้ทำการเลือกไปที่ Drive ที่เป็น Drive C เดิมของเราปัจจุบัน (คลิกเมาส์ซ้ายเลือก) จากนั้นกด Format (โดยให้สังเกตุก่อนการ Format ว่า Drive C ของเราคือ Drive ไหน โดยให้สังเกตุจากความจุของ Harddisk หรือเราจะเข้าไปเปลี่ยน Label ของ Drive ก่อนการ Format ก็ได้ เราก็จะได้ไม่ Format ผิด Drive) ก่อนการ format เราต้อง Backup ข้อมูลของ Drive C ที่เราที่สำคัญของเราด้วยนะ http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-format-disk.jpg 7.2.2 จากนั้นก็เลือก Drive C ที่เรา format ไป > กด Next หมายเหตุ : ไม่ต้องสนใจ Disk ที่เป็น Type : System http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-install-windows.jpg 8. รอทำการติดตั้ง Windows 7 http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-watting-install.jpg 9. ตั้งชื่อ Type a user name : ให้เราตั้งชื่อ User ในการ Login Windows อาทิเช่น Patompon Type a computer name : ให้ตั้งชื่อคอมพิวเตอร์ http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-username.jpg 10. ทำการตั้ง Password ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ โดยถ้าไม่ใส่ ก็ให้ทำการกด Next ได้เลย http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-password.jpg http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-produckey.jpg 12. สำหรับใครที่ใช้ Windows 7 แท้ ให้เลือก User Recommended Settings ในการ Update Windows 7 http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-securiry.jpg 13. ตั้งเวลาของ Windows โดยให้เลือก Time zone : UTC+7 Bangkok http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-settime.jpg 14. เลือก Publish Network (สำหรับใครไม่เป็นหน้านี้ก็ให้ข้ามไปได้เลยครับ) http://www.windowssiam.com/wp-content/uploads/2014/10/install-Windows-7-publish.jpg 15. เสร็จสิ้นการติดตั้ง Windows 7 การปิดระบบใน Windows 7ระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะมีรูปแบบการปิดระบบหรือปิดเครื่อง คล้ายกับเวอร์ชั่นก่อนๆ คือคลิกที่ปุ่ม Start Shut down เพื่อปิดโปรแกรมและออกจากระบบ แต่ก็ยังมีทางเลือกในการเลือกโหมดเพื่อออกจากระบบในรูปแบบอื่นๆอีกเช่นกัน ด้วยการคลิกที่ปุ่มลูกศร ซึ่งอยู่ข้างปุ่ม Shut down ที่ด้านขวาโดยที่
ระบบปฏิบัติการ Windows 8ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้มีการปรับปรุงรูปลักษณ์พร้อมกับสนับสนุนการใช้งานผ่านจอสัมผัส ซึ่งคล้ายกันกับ Windows Phone โดยไมโครซอฟต์เรียกอินเตอร์เฟซนี้ว่า "Metro Interface" นอกจากนี้ กรณีผู้ใช้ยังอยากลับไปใช้งานอินเตอร์เฟซแบบเดสก์ท๊อปที่คุ้นเคยมานานก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ระบบปกฏิบัติการ Windows 8 อาจทำให้ผู้ที่เริ่มต้นใช้งานต้องปรับตัวไม่น้อยในเรื่องรูปแบบอินเตอร์เฟซ โดยเฉพาะปุ่ม Start ตรงตำแหน่งทาสก์บาร์ที่เรามักคุ้นเคยกันดี ได้ถูกตัดออกไป
|