แผนการสอนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ

แผนการสอนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ
ดาวน์โหลดไฟล์แผนการสอนภาษาอังกฤษ จัดตามมาตรฐานตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คำอธิบายรายวิชา ทุกระดับชั้นแบบจุก ๆ ไปเลย

ดาวน์โหลดไฟล์แผนการสอนภาษาอังกฤษ จัดตามมาตรฐานตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คำอธิบายรายวิชา ทุกระดับชั้นแบบจุก ๆ ไปเลย

ครูอังกฤษไม่ต้องสู้ชีวิต เพราะว่าเว็บอักษรเราไม่สู้กลับ

แถมให้ดาวน์โหลดฟรีแผนฯ อังกฤษ ทุกระดับชั้นแบบจุก ๆ ไปเลย!!

แผนการสอนจัดตามมาตรฐานตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลาง

คำอธิบายรายวิชา และ โครงสร้างแผนการเรียนรู้รายวิชาแบบรายชั่วโมง

บัตรคำ – บัตรภาพ พร้อมใบงาน

แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน

แบบประเมินท้ายหน่วย

มาพร้อมวิธีการสอนแบบละเอียดและเทคนิคการสอนสุดต๊าชชช.

ดาวน์โหลดเลยประถม : https://bit.ly /3lqnqyy

มัธยม : https://bit.ly/3NrrxX8.

แผนการสอนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ
สมัครสมาชิก Aksorn One Account: https://oneaccount.aksorn.com/login

แผนการสอนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ
ดูขั้นตอนการสมัครสมาชิก Aksorn One Account ได้ที่: https://youtu.be/PICigDrWvHg

แผนการสอนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ
ดาวน์โหลดไฟล์แผนการสอนภาษาอังกฤษ จัดตามมาตรฐานตัวชี้วัด และ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คำอธิบายรายวิชา ทุกระดับชั้นแบบจุก ๆ ไปเลย

แผนการจัดการเรียนรู้ออนไลน์

ปีการศึ กษา 2564 เทอม 1

ภาษาอั งกฤษพื้ นฐาน อ 23101

1

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1

เร่ือง Personal Identification

รหัสวชิ า อ23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ Starter Unit

ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 4 ชั่วโมง

กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ ชอื่ ครผู ูส้ อน นางสิริกร ตันทัศน์

สอนครง้ั ท่ี ....................... วันท่ี ................. เดือน .............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้
1.1 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
1.2 มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
1.3 มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยการพดู
และการเขยี น

2. ตวั ชวี้ ัด
2.1 ต 1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เรอ่ื งใจความสาคัญ รายละเอียดสนบั สนุนและแสดงความคิดเห็น
เก่ยี วกับเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
2.2 ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เร่ืองตา่ งๆ ใกล้ตัว สถานการณ์ข่าว เรอ่ื ง
ท่อี ยู่ในความสนใจของสังคม และสอ่ื สารอยา่ งตอ่ เนือ่ งและเหมาะสม
2.3 ต 1.2 ม.3/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู อธบิ ายเปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั
เรือ่ งที่ฟังหรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
2.4 ต 1.3 ม.3/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเองประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ เร่อื งประเดน็ ตา่ งๆ
ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม

3. สาระสาคัญ
ทบทวนโครงสร้างประโยคและไวยากรณท์ ี่เป็นพืน้ ฐานของกิจกรรมการฟงั พูด อ่าน และเขียนทเี่ คย

เรียนมาแล้ว ทบทวนคาศัพท์เกย่ี วข้องกับชีวิตประจาวนั และชอ่ื วชิ าในโรงเรยี น ตลอดจนการใชส้ านวนภาษา
ในการสนทนาถาม - ตอบเกย่ี วกับขอ้ มลู ส่วนตัว และสามารถเขยี นข้อความส้ันๆ เกี่ยวกับข้อมลู สว่ นตวั ของ
นักเรยี นเอง
4. สาระการเรยี นรู้

4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 - Verb to be

- Verb to have
- Possessive ’s
- Possessive adjectives
- Subject - Object pronouns

2

4.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 การฟัง : ระบขุ อ้ มลู เฉพาะรายละเอียด

การพูด : พดู ถามตอบข้อมลู

การอ่าน : ระบใุ จความสาคัญ
การเขยี น : เขยี นบรรยาย

4.3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
4.3.1 - ใฝเ่ รยี นรู้
- มุ่งม่ันในการทางาน

5. การบรู ณาการ
(บรู ณาการกบั กลุม่ สาระการเรยี นร้อู ่นื และการบรู ณาการกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง)

ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิคมุ้ กันในตวั ท่ดี ี
1. รจู้ ักบทบาทหน้าทแี่ ละ
1. ทากิจกรรมได้ตามเวลา 1. การแบ่งเวลาภาระหน้าทีข่ อง
ทีก่ าหนด ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสมกับ ปฏบิ ัติตามหนา้ ท่ีได้อยา่ ง
ความสามารถ ทาใหท้ ากจิ กรรม ถกู ตอ้ งเหมาะสม
และเรยี นรู้เนอ้ื หาบทเรยี น
ได้อยา่ งมคี ุณภาพ และครบถว้ น
ความรู้
1. รอบรใู้ นเนือ้ หาบทเรยี น วฒั นธรรมในและต่างประเทศ
2. เรยี นรู้คาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั เร่ืองที่เรยี นไดอ้ ย่างถกู ต้อง

คณุ ธรรม
1. นักเรียนมคี วามเพยี รในการทาชิ้นงานและแบบฝึกหดั ตา่ งๆ
2. มวี ินยั สง่ งานในเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. จดุ เน้นส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น (โปรดเลอื กจุดเน้นมคี วามสัมพนั ธก์ ับแผนการจดั การเรยี นรู้)
7.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C
7.1.1 การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ (Critical Thinking)
7.1.2 ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม (Cross-cultural Understanding)

3

7.2 ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21
7.2.1 ทกั ษะทางสงั คมและความตา่ งในวัฒนธรรม (Social and Cross-Cultural Skills)

7.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี 21
7.3.1 มีความคดิ สร้างสรรค์
7.3.2 มที กั ษะในการสือ่ สารทด่ี ี
7.3.3 มีความเต็มใจรว่ มมอื ในการทากิจกรรมตา่ งๆ

8. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
(ชั่วโมงท่ี 1-4)
8.1 ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น (Warm up)
1. ครูทกั ทายนกั เรียน สรา้ งความค้นุ เคยจากนัน้ แจง้ ขอ้ ตกลงในช้ันเรยี นเพ่อื การรบั ทราบและปฏิบัติ
ร่วมกนั
8.2 ขัน้ สอน (Presentation)
1. ขน้ึ PowerPoint ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์เก่ยี วกับ
- Verb to be
- Verb to have
- Possessive ’s
- Possessive adjectives
- Subject - Object pronouns
8.3 ข้นั ฝกึ (Practice)
1. ระหว่างสอนแต่ละเร่อื งมกี ารเช็ค Comprehension Question โดยให้นักเรียนชว่ ยกันตอบ
Ex: I …….. (not) British. I ……. American.
You can visit they / them tomorrow.
2. มอบหมายงานใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัดที่ 1-5 จานวน 25 ข้อ และส่งภาระงานทาง Google
Classroom แบง่ เปน็
แบบฝึกหัดที่ 1 เรอื่ ง Verb to be ข้อ 1-5
แบบฝึกหดั ที่ 2 เร่อื ง Verb to have ขอ้ 6-10
แบบฝกึ หดั ท่ี 3 และ 4 เรอื่ ง Possessive ขอ้ 11-20
แบบฝึกหดั ที่ 5 เรอื่ ง Subject and object pronouns ข้อ 21-25

8.4 ข้นั สรปุ (Wrap up)
1. ครูข้นึ สไลด์ทบทวนไวยากรณ์ทัง้ หมดอกี ครง้ั รวมถงึ ให้นักเรยี นซักถามในส่วนทีไ่ มเ่ ข้าใจ

9. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 4
9.1 หนงั สือเรียน MOVE IT! 3 หนา้ 4
9.2 สื่อ PowerPoint เรื่อง เกณฑ์การประเมนิ
- Verb to be 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
- Verb to have เกณฑก์ ารประเมิน
- possessive’s and s’ 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น
- Subject and object pronoun เกณฑก์ ารประเมิน
70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่าน
10. หลกั ฐานการเรียนรู้ (ภาระงาน/ชิ้นงาน) เกณฑ์การประเมนิ

10.1 แบบฝึกหัด

11. การวัดและประเมินผล

รายการทีป่ ระเมนิ ตวั ชีวัด (วิธีการวดั ) เคร่ืองมือ
ด้านความรู้ 1. สังเกตจากการถาม 1. แบบฝึกหดั
ตอบ
2. นกั เรยี นสามารถทา
แบบฝกึ หดั ไดถ้ ูกตอ้ ง (K)

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 1. นักเรียนสามารถใช้ 1. แบบฝึกหัด
ดา้ นคุณลกั ษณะ Verb to be, Verb to
ใฝ่เรียนรู้ have, possessive ’s
มุ่งม่นั ในการทางาน and s’ และ Subject
and object
pronoun ได้อยา่ ง
ถูกตอ้ ง
1. สังเกตจากการเรียนมี 1. แบบสังเกต
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานท่ี พฤตกิ รรม
สง่ั และส่งงานไดท้ นั
ตามท่กี าหนด
2. สังเกตจากการเรียน
ใฝเ่ รียนรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่น
ในการทางาน

1

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2

เรื่อง House and Home

รหัสวชิ า อ23101 รายวิชาภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ Home Sweet Home

ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 2 ชั่วโมง

กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ชอ่ื ครูผู้สอน นางสิรกิ ร ตนั ทัศน์

สอนคร้ังที่ ....................... วันที่ ................. เดอื น .............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้
1.1 มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคดิ เหน็ อย่างประสิทธิภาพ

2. ตวั ชี้วัด

2.1 ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เรือ่ งต่างๆ ใกล้ตวั สถานการณ์
ขา่ ว เรื่อง ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคมและส่ือสารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม

3. สาระสาคญั
3.1 เรียนร้คู าศัพท์เก่ยี วกบั ห้องตา่ งๆ ส่วนประกอบภายในบ้าน
3.2 อ่านเกย่ี วกบั ลักษณะของบ้านในแบบตา่ งๆ
3.3 สนทนาโต้ตอบข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 อธิบายคาศัพทเ์ ก่ยี วกบั ห้องตา่ งๆ และสว่ นประกอบภายในบ้าน

4.1.2 Reading : บทอา่ นเรื่อง “ Live Small”

Vocabulary: Word Meanings
Words Class
attic
n. a space or room just below the roof of a
basement
building (ห้องใต้หลงั คา)
driveway
floor n. a room or rooms in a building, partly or
hallway
completely below the level of the ground

(ชนั้ ใตด้ นิ )

n. a wide hard path or a private road that leads

from the street to a house (ถนนส่วนบคุ คล)

n. all the rooms that are on the same level of a

building (ชั้น)

n. a space or passage inside the entrance or front

door of a building (โถงทางเดนิ )

2

Words Word Meanings
roof Class
balcony
n. the structure that covers or forms the top of a
ceiling
fireplace building or vehicle (หลงั คา)
garage
landing n. a platform enclosed by a wall or balustrade on

patio the outside of a building, with access from an

stairs upper-floor window or door (ระเบียง)
handrail
n. the top inside surface of a room (เพดาน)
yard
n. an open space for a fire in the wall of a room

(เตาผงิ )

n. a building for keeping one or more cars or other

vehicles in (โรงรถ)

n. the floor at the top of a set of stairs or between

two sets of stairs (ชานบันได)

n. an area outside a house with a solid floor but

no roof, used in good weather for relaxing,

eating, etc. (ชานบ้าน)

n. a set of steps built between two floors inside a

building (บนั ได)

n. a long narrow bar that you can hold onto for

support (ทจี่ ับราวบนั ได)

n. a piece of land next to or around your house

where you can grow flowers, fruit, vegetables,

etc., usually with a lawn (สนาม)

4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 - การฟัง : ระบุขอ้ มลู เฉพาะรายละเอียด
- การพูด : พดู ถามตอบขอ้ มลู
- การอา่ น : ระบใุ จความสาคัญ
- การเขยี น : เขียนบรรยาย

4.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
- ใฝเ่ รียนรู้
- มุง่ ม่นั ในการทางาน

3

5. การบรู ณาการ
(บูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื และการบูรณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง)
อนุรักษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม, ทักษะการแสวงหาความรู้, กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู คิ ุ้มกันในตัวทดี่ ี
1. ทากจิ กรรมได้ตามเวลาทกี่ าหนด
1. การแบง่ เวลาภาระหน้าท่ีของ 1. รู้จักบทบาทหนา้ ท่แี ละ
ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับ ปฏบิ ัตติ ามหนา้ ท่ไี ดอ้ ย่าง
ความสามารถ ทาให้ทากิจกรรม ถูกต้องเหมาะสม
และเรียนรเู้ น้อื หาบทเรียนได้
อยา่ งมีคุณภาพ และครบถ้วน

ความรู้
1. รอบรใู้ นเน้ือหาบทเรยี น วัฒนธรรมในประเทศและตา่ งประเทศ
2. เรยี นรคู้ าศัพท์เกีย่ วกับเรอ่ื งทเี่ รยี นไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

คณุ ธรรม
1. นักเรยี นมคี วามเพยี รในการทาภาระงานและแบบฝกึ หดั ต่างๆ
2. มีวนิ ยั ส่งงานตามเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการส่อื สาร
6.2 ความสามารถในการคดิ
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. จดุ เน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน
7.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือ การเรียนรู้ 3R X 8C
- อ่านออก (Reading)
- เขียนได้ (Ritting)
- ทักษะด้านความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)
- มีคณุ ธรรม มีเมตตา กรณุ า มีระเบียบวนิ ยั (Compassion)

7.2 ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชีพของคนในศตวรรษท่ี 21
- ทักษะสงั คมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม
- การปรบั ตัว (Adapt to Change) ปรับไปตามบทบาท งาน ความรบั ผิดชอบ ตาราง
และสภาพแวดลอ้ ม

4

- เปน็ ผู้เรียนทน่ี าพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ข้ามพ้นการเรียนรแู้ บบพ้นื ฐาน
ของทกั ษะหรือหลักสูตร เพ่ือที่จะสารวจและขยายการเรียนร้ขู องตนเอง

7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ 21
- คุณลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง
- มีความคดิ สร้างสรรค์
- มีทกั ษะในการสือ่ สารทด่ี ี
- มีความเต็มใจรว่ มมือในการทากิจกรรมต่างๆ
- ทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1 (Rooms and part of the house)
8.1 นาเข้าสู่บทเรยี น (Warm up)
- ครูทักทายนกั เรียน รวมถงึ กระตุ้นความพรอ้ มในการเรยี นรแู้ ละเชค็ ชอ่ื ดว้ ยการเล่นเกมหาสี
โดยให้นักเรยี นหาสง่ิ ของภายในบา้ นหรอื ส่งิ ของใกลต้ วั ท่สี เี หมอื น หรอื ใกลเ้ คียงกบั สีของครู
มากท่ีสุด ตัวอยา่ งเชน่ สิ่งของครสู แี ดง นกั เรยี นตอ้ งหาสง่ิ ของที่เปน็ สีแดงหรือใกลเ้ คียงกบั สี
แดงมากทส่ี ดุ นกั เรยี นคนไหนหาไม่ไดจ้ ะตอ้ งตอบคาถามเก่ียวกบั ส่ิงทเ่ี รยี นไปแล้วในคาบ
เรียนท่ผี ่านมา
8.2 ขั้นสอน (Presentation)
- ใหน้ ักเรียนดูรปู บ้านประเภทตา่ งๆ เพอื่ เปน็ การดงึ ดูความสนใจ เชน่ mobile house
(รถบา้ น), detached (บา้ นเดย่ี ว)
- ขึ้น Powerpoint คาศัพท์ในบทเรยี นและความหมายพร้อมตัวอยา่ งประโยคและการใช้
- ครูออกเสียงคาศัพท์และใหน้ ักเรียนออกฝกึ ออกเสยี งตาม
- นักเรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ท์ดังกลา่ ว โดยครชู ว่ ยบอกความหมายในกรณี
ที่นักเรยี นไมท่ ราบความหมาย พรอ้ มทั้งยกตวั อย่างประโยคคาศัพทด์ ังกล่าว เช่น
balcony ระเบยี ง - We have breakfast on the balcony in summer.
- นักเรยี นชว่ ยกนั ออกเสยี งคาศพั ทท์ ่ีเรียนมาและสามารถจาได้
8.3 ขัน้ การใชภ้ าษา (Production)
- ทากิจกรรมเกมแผน่ ป้ายผ่านเวบ็ ไซต์ออนไลน์ Wordwall โดยมีแผน่ ป้ายทั้งหมดจานวน
10 แผน่ ป้าย ให้นกั เรียนสมุ่ และตอบคาศพั ทจ์ ากสิ่งทีเ่ ห็น ถ้าแผน่ ปา้ ยเป็นภาษาไทย
นกั เรยี นต้องหาคู่ของคานนั้ เป็นภาษาองั กฤษ หรือถา้ แผ่นปา้ ยท่ีเปดิ มาเป็นอังกฤษนกั เรียน
จะตอ้ งหาความหมายท่เี ป็นภาษาไทย ตัวอยา่ งเช่น
หอ้ งใต้หลังคา > attic
driveway > ถนนส่วนบุคคล

8.3 ขนั้ สรุป (Wrap up)
- ครูเฉลยกิจกรรมเกมแผน่ ป้าย Wordwall และทบทวนคาศัพทอ์ ีกครั้ง

5

ชั่วโมงท่ี 2 (Reading “Live small”)
8.1 นาเขา้ สบู่ ทเรียน (Warm up)

- ครูทบทวนคาศพั ทท์ ่ีเรยี นจากคาบท่ีแล้ว โดยการเล่นเกมไพร่ ปู ภาพผา่ นเวบ็ ไซต์ออนไลน์
Wordwall ไพแ่ ตล่ ะใบจะถกู เปิดข้นึ มา เมอื่ นกั เรยี นเหน็ ภาพใหพ้ ดู คาศัพทจ์ ากภาพท่ีเหน็

- ครใู หน้ กั เรียนดูรปู ภาพเก่ียวกบั tiny house เพ่อื เปน็ การดึงดูดความสนใจก่อนเรยี นบทอา่ น
8.2 ขนั้ สอน (Presentation)

- นักเรียนฟงั บทอา่ นเรือ่ ง “Live small” จานวน 2 รอบ โดยรอบแรกให้นักเรยี นฟังอยา่ งต้งั ใจ
และรอบทีส่ องให้นกั เรยี นฟงั และอา่ นในใจ

- ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปใจความสาคัญของบทอ่าน รวมถึงแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับการ
สรา้ งบา้ นหลังใหญ่และส่ิงทีส่ ง่ ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ครูยกตวั อย่างเชน่ การชว่ ยลดการ
ใชพ้ ลงั งานภายในบา้ น

8.2 ข้นั ฝกึ (Practice)
- ครูและนักเรียนช่วยสรปุ ใจความสาคญั ของบทอ่านอกี ครงั้
- ครูต้ังคาถามเพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น เชน่
How are familiar in Europe and North America changing?
What does Austin like about his house?

8.3 ข้นั การใชภ้ าษา (Production)
- มอบหมายงานให้นกั เรยี นอดั คลิปวีดโี อการอา่ นเรื่อง “Live small” โดยไม่จากดั เวลาการอา่ น
และนกั เรียนสามารถใส่ความคิดสรา้ งสรรค์ เพ่อื บรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ (การ
แต่งตัว, การแต่งหน้า, ใชฟ้ ลี เตอร์, ตัดต่อวิดีโอ) กาหนดสง่ ภาระงานทาง Google Classroom

8.4 ขั้นสรปุ (Wrap up)
- ครูและนกั เรียนชว่ ยสรุปเน้อื เรอ่ื ง “Live small” อีกคร้งั และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถาม

9. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
9.1 หนังสือเรียน MOVE IT! 3 หนา้ 10-12
9.2 สื่อ PowerPoint เร่อื ง
- Rooms and part of the house
- Live Small

10. หลักฐานการเรยี นรู้ (ภาระงาน/ชิ้นงาน)
10.1 แบบฝกึ หดั
10.2 คลปิ การอ่านออกเสยี งเรือ่ ง “Live small”

6

11. การวดั และประเมินผล

รายการทีป่ ระเมิน ตัวชีวดั (วิธกี ารวัด) เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
1. แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ดา้ นความรู้ 1. สังเกตจากการซักถาม เกณฑ์การประเมิน
อธิบายความหมาย 2. การตอบคาถาม
คาศพั ท์ 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
1. นักเรยี นสามารถอา่ นออก 1. แบบฝึกหัด เกณฑ์การประเมิน
ด้านทักษะ/
กระบวนการ เสยี งบทอ่านเร่ือง 2. คลิปเสียงการอา่ น 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน
อ่านออกเสยี ง เกณฑ์การประเมิน
“Live small” ได้ถกู ต้อง “Live small”

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 1. สังเกตจากการเรียนมี 1. แบบสงั เกต
อันพึงประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบต่องาน พฤติกรรม
ทมี่ อบหมายและสง่ งาน
ตามเวลาที่กาหนด

2. สังเกตจากการ
ใฝเ่ รียนรู้ของนกั เรียน

3. สงั เกตจากการมุ่งมน่ั
ในการทางาน

7

เกณฑ์การประเมินตามระดับคุณภาพ

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ

4 32 1

1. ความรู้ (K) อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ าย อธบิ าย
ความหมาย
อธบิ ายความหมาย ส่อื สารได้ถูกต้อง ได้ถกู ต้อง ความหมาย ไม่ชดั เจน

คาศพั ท์ ตรงประเด็น มผี ิดพลาดเลก็ น้อย มีผดิ พลาดเปน็

ครบถ้วน สว่ นมาก

2. ทกั ษะ/ พดู ไดต้ รงประเดน็ พดู ไดต้ รงประเดน็ พูดได้คล่องแคลว่ พดู ไม่คล่องแคลว่
กระบวนการ (P) ถูกตอ้ งตามหลัก เปน็ ส่วนใหญ่ สือ่ สารไดต้ รง สือ่ สารไม่คอ่ ยตรง
พดู -ถามตอบ ไวยากรณ์ ถูกต้องตามหลัก ประเด็นเปน็ ประเด็น พูด
อ่านออกเสยี ง พดู คลอ่ งแคลว่ ไวยากรณ์ น้าเสียง บางส่วน พูด เหมือนท่องจา
นา้ เสยี งชัดเจน ชัดเจน คล่องแคลว่ แตไ่ ม่ ประสานสายตา
แสดงออกทาง แสดงออกทาง เปน็ ธรรมชาติ กบั ผฟู้ ังบา้ ง

สีหน้าและทา่ ทาง สหี น้าและทา่ ทาง เล็กน้อย
เหมาะสม บ้างเล็กน้อย

3. คณุ ลักษณะ ตั้งใจเรยี น ตงั้ ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน ตงั้ ใจเรียน

อนั พงึ ประสงค์ (A) เขา้ รว่ มกจิ กรรมการ เข้ารว่ มกจิ กรรม พยายามศึกษา มคี วามเพยี ร
การเรียนรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม พยายามเปน็
ใฝเ่ รยี นรู้ เรียนรู้ ศึกษาคน้ ควา้ ค้นควา้ หาความรู้ การเรียนรูบ้ า้ ง บางครัง้ ศึกษา
ความรู้ ค้นควา้ หาความรู้ คน้ คว้าหาความรู้
มุ่งมน่ั ในการทางาน หาความรู้ แลกเปล่ียนความรู้ มกี ารแลกเปล่ียน แลกเปลี่ยน
ด้วยวธิ ีการ ความรบู้ า้ ง ความรเู้ ล็กน้อย
แลกเปลย่ี นความรู้ ทห่ี ลากหลาย เลก็ น้อย
นาไปใชใ้ น
ดว้ ยวิธกี าร ชีวิตประจาวันได้

ทีห่ ลากหลาย

สรุปเป็นองคค์ วามรู้

และสามารถนาไปใช้

ในชวี ติ ประจาวันได้

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ระดับ 4 หมายถึง มีระดับคณุ ภาพดีเย่ียม ระดับ 3 หมายถงึ มีระดับคณุ ภาพดี
ระดบั 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพปรับปรุง
เกณฑก์ ารผา่ น ไดร้ ะดบั 3 ขน้ึ ไป ร้อยละ 60 ถือว่าประสบผลสาเร็จในการสอน

1

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3

เรอื่ ง Present Simple

รหัสวชิ า อ23101 รายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ Home Sweet Home

ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 3 ชว่ั โมง

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ช่อื ครูผ้สู อน นางสิรกิ ร ตันทัศน์

สอนคร้ังที่ ....................... วนั ที่ ................. เดือน .............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้
1.1 มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอยา่ งประสิทธภิ าพ

2. ตัวช้ีวดั

2.1 ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เร่อื งต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์
ขา่ ว เรื่อง ท่อี ยู่ในความสนใจของสงั คมและสื่อสารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม

3. สาระสาคญั
3.1 การใช้ Present Simple Tense

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 โครงสรา้ งทางไวยากรณ์
- Present Simple Tense

4.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 - การฟัง : ระบขุ ้อมลู เฉพาะรายละเอยี ด
- การพดู : พูดถาม-ตอบ
- การเขียน : เขียนประโยคตามโครงสรา้ ง

4.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- ใฝเ่ รยี นรู้
- มุง่ ม่ันในการทางาน

5. การบรู ณาการ

(บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น และการบรู ณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง)

ความพอประมาณ มเี หตุผล มภี มู คิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี

1. ทากิจกรรมได้ตามเวลาทกี่ าหนด 1. การแบ่งเวลาภาระหนา้ ท่ีของ 1. ร้จู กั บทบาทหน้าทแ่ี ละ

ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับ ปฏิบัตติ ามหน้าทีไ่ ด้อยา่ ง

ความสามารถ ทาให้ทากิจกรรม ถูกต้องเหมาะสม

และเรยี นรู้เน้อื หาบทเรียนได้

อย่างมีคุณภาพ และครบถว้ น

2

ความรู้
1. รอบรู้ในเน้อื หาบทเรยี น วัฒนธรรมในและตา่ งประเทศ
2. เรยี นรู้คาศัพทเ์ กย่ี วกบั เรอื่ งท่ีเรียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
คุณธรรม
1. นกั เรยี นมีความเพียรในการทาภาระงานและแบบฝึกหัดตา่ งๆ
2. มีวนิ ัยสง่ งานตามเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. จุดเน้นสู่การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น
7.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือ การเรยี นรู้ 3R X 8C
- อา่ นออก (Reading)
- เขยี นได้ (Ritting)
- ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)
- มีคุณธรรม มีเมตตา กรณุ า มรี ะเบียบวินยั (Compassion)

7.2 ทักษะดา้ นชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21
- ทกั ษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม
- การปรับตัว (Adapt to Change) ปรับไปตามบทบาท งาน ความรบั ผดิ ชอบ ตาราง
และสภาพแวดล้อม
- เป็นผู้เรียนท่นี าพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ขา้ มพน้ การเรยี นรู้แบบพ้นื ฐาน
ของทักษะหรือหลกั สตู ร เพอื่ ที่จะสารวจและขยายการเรียนรขู้ องตนเอง

7.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ 21
- คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
- มที กั ษะในการสอ่ื สารทดี่ ี
- มคี วามเตม็ ใจร่วมมือในการทากิจกรรมตา่ งๆ
- ทักษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1
8.1 นาเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up)
- นกั เรียนรับทราบจุดประสงคข์ องการเรยี นรู้ ในคาบน้นี กั เรียนจะไดเ้ รยี นรูโ้ ครงสรา้ งทาง

3

ไวยากรณ์ Present Simple Tense ว่าจะใช้เม่ือไหรแ่ ละอยา่ งไร รวมถึงยกตัวอยา่ งประโยค
- ทดสอบก่อนเรยี น Pre-test เรือ่ ง Present Simple Tense จานวน 15 ข้อ (5 คะแนน)

ผ่าน Google Form
8.2 ข้นั สอน (Presentation)

- ให้นักเรียนฟงั เพลง รักติดไซเรน (Version : Present Simple Tense) เพ่อื เปน็ การทบทวน
สิง่ ที่เคยเรียนมาบา้ งแล้วและกระตุน้ ความสนใจของผเู้ รยี น

- ครูยกตัวอยา่ งประโยค จากนนั้ อธบิ ายว่าใช้กบั เหตกุ ารณ์ในลักษณะใดและมีโครงสรา้ งทาง
ไวยากรณอ์ ย่างไร รวมถงึ หลักการเตมิ s, es หลงั คากริยา
ตัวอย่างเชน่
The sun rises in the east.
Joe Biden is a president of the US.

8.3 ข้ันฝึก (Practice)
- ครฝู ึกนกั เรยี นเติมคาศพั ท์และการเตมิ s, es หลงั คากริยาให้ถกู ตอ้ ง เช่น
I wash , He ________________
They try , Rose ________________

8.4 ขน้ั การใชภ้ าษา (Production)
- นักเรียนร่วมกิจกรรมในช้นั เรยี นผ่านเกมแผ่นปา้ ย Wordwall

8.5 ขั้นสรปุ (Wrap up)
- ครูและนักเรยี นช่วยสรุปหลักการใช้ Present Simple Tense อีกครัง้ และเปดิ โอกาสให้
นกั เรียนทม่ี ขี ้อสงสัยซกั ถาม

ชัว่ โมงที่ 2
8.1 นาเข้าสูบ่ ทเรยี น (Warm up)

- ครูกล่าวทกั ทายนักเรียน ตงั้ คาถามงา่ ยๆ เพ่อื ใหน้ กั เรียนตอบเกยี่ วกบั เรื่องใกล้ตัวใน
ชีวติ ประจาวัน และเช่อื มโยงเก่ียวกับประโยคปัจจุบนั กาล (Present Simple Tense)

8.2 ข้ันสอน (Presentation)
- ครนู าเสนอ Power
- ครูอธิบายเกยี่ วกบั โครงสร้างประโยคบอกเล่า ประโยคปฏเิ สธและประโยคคาถาม
ของ Present Simple Tense

8.3 ขั้นฝกึ (Practice)
- ให้นักเรยี นฝึกเปลยี่ นประโยคบอกเล่าเปน็ ประโยคปฏเิ สธและประโยคคาถาม เช่น
Statement : We eat rice for breakfast every day.
Negative : We don’t eat rice for breakfast every day.
Question : Do we eat rice for breakfast every day?

4

- นกั เรยี นรว่ มกิจกรรมในชั้นเรียน โดยใหน้ ักเรยี นเตมิ คาในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกม

แผน่ ป้าย Wordwall ตวั อยา่ งเช่น

Alice and Mark _____________ in London.

a. not live b. doesn’t live

c. don’t live d. lives

8.4 ขนั้ การใช้ภาษา (Production)

- ให้นักเรยี นเขยี นประโยค Present Simple Tense จานวน 5 ประโยคส่งทาง Google

Classroom โดยกาหนดดงั นี้

ประโยคบอกเล่า 1 ประโยค

ประโยคปฏเิ สธ 1 ประโยค

ประโยคคาถาม 1 ประโยค

ประโยคทีม่ ี Adverb of frequency 2 ประโยค

8.5 ขน้ั สรุป (Wrap up)
- ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุปการใชป้ ระโยค Present Simple Tense อีกครงั้ และใหน้ ักเรยี น

ทีม่ ีขอ้ สงสยั ซกั ถาม
- นดั หมายการสอบและชแี้ จงเน้อื หาการสอบเกบ็ คะแนน (Post-test) เรอ่ื ง Present Simple

จานวน 15 ข้อ (5 คะแนน) ผ่าน Google Form

ชวั่ โมงที่ 3 (Post-test)
1. ครทู บทวนโครงสรา้ งและการใช้ Present Simple Tense กอ่ นการทดสอบหลงั เรยี น และให้

นกั เรียนสอบถามข้อสงสยั ก่อนเริม่ สอบ
2. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) ผา่ น Google form กาหนดเวลาในการสอบ

20 นาที จานวน 15 ขอ้ (5 คะแนน)

3. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถาม ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบ
4. นักเรียนฟังเพลง “Just the way you are - Bruno Mars” ฝึกเติมคาในช่องว่างรวมถึงการ

สงั เกตประโยค Present Simple ในบทเพลง

11. การวัดและประเมินผล 5
เกณฑก์ ารประเมนิ
รายการท่ีประเมิน ตวั ชีวัด (วิธีการวดั ) เครื่องมอื - นักเรียนผา่ นเกณฑ์
ดา้ นความรู้ - ทาแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหดั การประเมิน
โครงสร้างทางไวยากรณ์ (รอ้ ยละ 70)
Present Simple - นกั เรียนผ่านเกณฑ์
Tense การประเมนิ
(รอ้ ยละ 70)
ดา้ นทักษะ/ - พูดถาม-ตอบ - แบบประเมนิ
กระบวนการ - นักเรยี นผ่านเกณฑ์
พูดถาม- ตอบ - พูดอธิบาย การประเมนิ
อธิบายโครงสรา้ งของ - นกั เรียนสามารถ (รอ้ ยละ 70)
Present Simple
Tense ประยุกตใ์ ช้
Grammar

ใน Present
Simple
Tense
ในภาระงานได้

ดา้ นคุณลักษณะ - สงั เกตพฤติกรรมกล่มุ - แบบสังเกต
ใฝ่เรยี นรู้

6

เกณฑ์การประเมนิ ตามระดับคุณภาพ

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. ความรู้ (K)
4 32 1
โครงสรา้ ง
ทางไวยากรณ์ ส่อื สารได้ตรง สื่อสารได้ สือ่ สารได้ สือ่ สารไม่คอ่ ย
Present ประเดน็ เนือ้ หา ตรงประเดน็
Simple Tense ถกู ต้องตามหัวข้อ ตรงประเด็น ตรงประเด็น
ท่ีกาหนด
เนื้อหาถูกต้อง เป็นบางสว่ น

เปน็ สว่ นใหญ่

2. ทกั ษะ/ อธิบายไดถ้ ูกต้อง อธิบายผิดพลาด อธบิ ายผดิ พลาด อธิบายผิดพลาด
กระบวนการ (P) เข้าใจชัดเจน
พดู ถาม-ตอบ ท้ังหมด เล็กน้อย ไม่เข้าใจ หลายแหง่ เกนิ ครงึ่ ไมเ่ ขา้ ใจ
อธิบาย
โครงสรา้ ง บางแหง่ ไมเ่ ข้าใจ เปน็ จานวนมาก
Present
หลายแห่ง
Simple Tense

3. คุณลักษณะ ตงั้ ใจเรียน ตงั้ ใจเรียน ตงั้ ใจเรียน ตั้งใจเรยี น

อนั พงึ ประสงค์ (A) เข้ารว่ มกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม พยายามศกึ ษา มีความเพยี ร
ใฝ่เรียนรู้ การเรียนรู้ ศกึ ษา การเรยี นรู้ เข้ารว่ มกจิ กรรม พยายามเปน็
ค้นควา้ หาความรู้ คน้ ควา้ หาความรู้ การเรียนรบู้ ้าง บางคร้งั ศกึ ษา
แลกเปลีย่ นความรู้ ความรู้ คน้ คว้าหา ค้นควา้ หาความรู้
ดว้ ยวิธกี าร แลกเปล่ยี น ความรมู้ กี าร แลกเปล่ยี น
ที่หลากหลาย ความร้ดู ว้ ยวธิ ีการ แลกเปล่ยี น ความรู้เลก็ นอ้ ย
สรปุ เปน็ องค์ความรู้ ท่หี ลากหลาย ความรบู้ า้ ง
และสามารถ นาไปใชใ้ น เล็กนอ้ ย
นาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวันได้

ชีวิตประจาวนั ได้

เกณฑ์การตัดสิน

ระดับ 4 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพดเี ยยี่ ม ระดับ 3 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพดี
ระดบั 2 หมายถงึ มีระดับคณุ ภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถงึ มรี ะดับคุณภาพปรับปรุง
เกณฑก์ ารผ่าน ได้ระดับ 3 ขึ้นไป รอ้ ยละ 60 ถอื ว่าประสบผลสาเรจ็ ในการสอน

1

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4

เรอ่ื ง Present Continuous

รหัสวิชา อ23101 รายวิชาภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ Home Sweet Home

ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 3 ช่วั โมง

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชื่อครผู ูส้ อน นางสริ ิกร ตันทัศน์

สอนครั้งท่ี ....................... วันท่ี ................. เดอื น .............................. พ.ศ. ...........................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
1.1 มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อยา่ งประสิทธภิ าพ
2. ตวั ชว้ี ดั

2.1 ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์
ขา่ ว เรื่อง ท่ีอย่ใู นความสนใจของสงั คมและสื่อสารอยา่ งต่อเนอื่ งและเหมาะสม

3. สาระสาคัญ
3.1 การใช้ Present Continuous Tense

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)

4.1.1 โครงสรา้ งทางไวยากรณ์ เรือ่ ง Present Continuous Tense

4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)

4.2.1 - การฟัง : ระบุข้อมลู เฉพาะรายละเอยี ด
- การพูด : พูดถามตอบขอ้ มูล
- การเขยี น : เขยี นบรรยาย

4.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งมน่ั ในการทางาน

5. การบูรณาการ
(บรู ณาการกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่ และการบูรณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง)

ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ้มุ กันในตวั ทด่ี ี
1. ทากจิ กรรมไดต้ ามเวลาทีก่ าหนด
1. การแบ่งเวลาภาระหน้าทขี่ อง 1. รูจ้ กั บทบาทหน้าท่แี ละ
ตนเองได้อยา่ งเหมาะสมกบั ปฏิบตั ิตามหน้าทไ่ี ดอ้ ยา่ ง
ความสามารถ ทาใหท้ ากจิ กรรม ถกู ต้องเหมาะสม
และเรยี นร้เู นอื้ หาบทเรียนได้

อย่างมีคณุ ภาพ และครบถ้วน

2

ความรู้
1. รอบรู้ในเนอ้ื หาบทเรียน
2. เรียนรคู้ าศพั ทเ์ กีย่ วกับเร่อื งทเ่ี รยี นได้อย่างถกู ตอ้ ง

คุณธรรม
1. นักเรยี นมีความเพยี รในการทาภาระงานและแบบฝึกหัดตา่ งๆ
2. มวี ินัยส่งงานตามเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการส่ือสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. จุดเนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น
7.1 ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C

- อา่ นออก (Reading)
- เขียนได้ (Ritting)
- ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)
- มีคณุ ธรรม มเี มตตา กรณุ า มีระเบยี บวินัย (Compassion)
7.2 ทกั ษะดา้ นชวี ติ และอาชีพของคนในศตวรรษที่ 21
- ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม
- การปรบั ตวั (Adapt to Change) ปรบั ไปตามบทบาท งาน ความรบั ผดิ ชอบ ตาราง
และสภาพแวดล้อม
- เป็นผเู้ รียนทีน่ าพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ข้ามพ้นการเรยี นรู้แบบพ้นื ฐาน
ของทักษะหรือหลักสูตร เพือ่ ท่ีจะสารวจและขยายการเรยี นรู้ของตนเอง
7.3 คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี 21
- คณุ ลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรูข้ องตนเอง
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์
- มที ักษะในการสือ่ สารทด่ี ี
- มีความเตม็ ใจรว่ มมอื ในการทากจิ กรรมตา่ งๆ
- ทกั ษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ

3

8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1 (Present Continuous Tense)
8.1 นาเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up)
- นกั เรยี นร่วมกจิ กรรมเกมค้นหารูปภาพที่มคี วามแตกตา่ งและหารูปภาพตามที่กาหนด เพือ่ เปน็
กระตุ้นใหเ้ กดิ การเรียนรู้ เรยี กสมาธิและเตรียมความพร้อมกอ่ นเรมิ่ บทเรยี น

8.2 ขน้ั สอน (Presentation)
- ครยู กตัวอย่างประโยคใน PowerPoint จากนั้นอธิบายว่าใช้กบั เหตกุ ารณ์ลักษณะใด
ตามโครงสร้างของ Present Continuous Tense รวมถึงหลกั การเติม -ing

8.3 ขั้นฝึก (Practice)
- กาหนดคาศพั ท์และให้นกั เรียนเติม -ing ให้ถูกต้อง ตวั อยา่ งเชน่
sit > sitting
tie > tying
make > making

8.4 ขนั้ การใชภ้ าษา (Production)
- ใหน้ ักเรยี นช่วยกันแต่งประโยค Present Continuous Tense

8.5 ขน้ั สรุป (Wrap up)
- ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ บทเรียนและให้นักเรียนสอบถามขอ้ สงสยั

ชัว่ โมงที่ 2 (Present Continuous Tense)

8.1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)

- ครกู ระตุน้ การเรียนรู้และเตรยี มความพรอ้ มในการเรียนด้วยเกม “คนละคา” โดยแบง่ นกั เรียน

ออกเป็น 2 ทีม (เลขคู่ เลขค่)ี ใหแ้ ตล่ ะทมี ผลัดกันตอบโดยแต่ละคาถามจะมีเวลา 20 วินาที

หากทมี ไหนตอบไดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็นฝ่ายชนะ หรือทมี ไหนตอบไม่ไดก้ ็จะเป็นฝ่ายแพ้

ท้งั น้นี กั เรยี นสามารถตอบได้ทัง้ ภาษาอังกฤษและภาษาไทย ตัวอย่างเชน่

- จงั หวดั ทล่ี งท้ายด้วย “บรุ ี”

- ผลไมท้ ่ีขนึ้ ตน้ ดว้ ย “มะ”

8.2 ขัน้ สอน (Presentation)

- ครทู บทวนเนื้อหาของคาบเรยี นท่ีแล้ว โดยใหน้ กั เรียนบอกโครงสรา้ งของ Present

Continuous Tense รูปประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธและประโยคคาถาม รวมถึงกิริยา

บางกล่มุ ที่ไม่สามารถเตมิ -ing ได้

8.3 ขั้นฝึก (Practice)

- ให้นกั เรยี นร่วมกิจกรรมในชน้ั เรียน “Correct or Wrong?” กาหนดให้นักเรียนบอก

ว่าประโยคนัน้ ถกู หรือผิดหลกั ไวยากรณ์อยา่ งไรและ ถ้าผดิ จะตอ้ งแกไ้ ขให้ถกู ตอ้ ง โดยเลน่ เกม

แผ่นปา้ ย “Wordwall” ตวั อย่างเชน่

She is riding a bike. Correct or Wrong?

He am listening to music. Correct or Wrong?

4

8.4 ข้ันการใชภ้ าษา (Production)
- ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคบอกเล่าในรปู Present Continuous Tense จานวน 5 ประโยค
กาหนดสง่ ใน Google Classroom

8.5 ขัน้ สรุป (Wrap up)
- นักเรยี นชว่ ยกันสรปุ และซักถามข้อสงสยั เก่ยี วกับบทเรียน
- นัดหมายการสอบ (Post-test) ครชู ี้แจงเนื้อหาและคะแนนการสอบ

ช่วั โมงที่ 3 (Present Continuous)
- ครูทบทวนโครงสรา้ งทางไวยากรณแ์ ละการใช้ “Present Continuous Tense”
- นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี นผ่าน Google form กาหนดเวลาในการสอบ 20 นาที
จานวนขอ้ สอบ 15 ขอ้ (5 คะแนน)
- ครูให้สอบถามข้อทส่ี งสัยในแบบทดสอบหลังเรยี น
- นักเรียนฟงั เพลง Take me home, country roads - John Denver
และเพลง everything sucks – Vaultboy

9. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
9.1 หนังสอื เรียน MOVE IT! 3 หนา้ 10-12
9.2 ส่อื PowerPoint เร่ือง
- Present Continuous

10. หลกั ฐานการเรียนรู้ (ภาระงาน/ชน้ิ งาน)
10.1 แบบฝกึ หัด
10.2 แบบทดสอบ

11. การวัดและประเมินผล 5

รายการท่ปี ระเมนิ ตัวชวี ดั (วิธกี ารวดั ) เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
- แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
ดา้ นความรู้ - สังเกตจากซักถาม - แบบทดสอบ เกณฑก์ ารประเมนิ
โครงสรา้ งทาง
- นกั เรยี นสามารถใช้ - แบบฝึกหดั 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน
ไวยากรณ์ Present Present เกณฑ์การประเมิน
Continuous Tense Continuous ได้
70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่าน
อย่างถกู ต้อง (K) เกณฑก์ ารประเมิน

- การเข้ารว่ มกจิ กรรม

ในช้นั เรยี น
- พดู ถาม-ตอบ
ดา้ นทกั ษะ/
- พูดอธิบาย
กระบวนการ
พูดถาม- ตอบ - นักเรยี นสามารถ

อธิบายโครงสรา้ งของ ประยุกตใ์ ช้ Grammar

Present ใน Present

Continuous Tense Continuous Tense

ในภาระงานได้

ด้านคุณลกั ษณะ - สงั เกตจากการเรยี นมี - แบบสงั เกต
อนั พึงประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบต่องาน พฤติกรรม

ใฝเ่ รียนรู้ ทม่ี อบหมายและส่งงาน
ม่งุ ม่ันในการทางาน ตามเวลาทกี่ าหนด
- สังเกตจากการ
ใฝ่เรียนรู้ของนักเรียน
- สังเกตจากการมุ่งมัน่
ในการทางาน

6

เกณฑก์ ารประเมนิ ตามระดับคุณภาพ

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

1. ความรู้ (K) 4 32 1
ความเขา้ ใจโครงสรา้ ง
ทางไวยากรณ์ สามารถนา สามารถนา สามารถนา สามารถนา
Present โครงสรา้ งทาง โครงสร้างทาง
Continuous Tense ไวยากรณ์ไปใช้ โครงสร้างทาง โครงสร้างทาง ไวยากรณ์ไปใชไ้ ด้
ไดถ้ กู ตอ้ ง แต่ผิดพลาด
ไม่มีข้อผิดพลาด ไวยากรณไ์ ปใช้ ไวยากรณไ์ ปใช้ เกนิ คร่งึ

ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ แต่ผดิ พลาด

ผิดพลาดเล็กน้อย หลายแหง่

2. ทกั ษะ/ พูดไดต้ รงประเดน็ พูดไดต้ รงประเด็น พดู ไดค้ ล่องแคลว่ พดู ไม่คล่องแคลว่
กระบวนการ (P) ถูกต้องตามหลกั เป็นสว่ นใหญ่ สอ่ื สารไดต้ รง ส่อื สารไม่คอ่ ยตรง
พูดถาม-ตอบ ไวยากรณ์ นา้ เสียงชดั เจน ประเดน็ เปน็ ประเด็น พดู
อธบิ าย พดู คล่องแคล่ว แสดงออกทาง บางส่วน พดู เหมอื นทอ่ งจา
โครงสร้าง น้าเสยี งชัดเจน สหี นา้ และทา่ ทาง คล่องแคล่วแต่ ประสานสายตา
Present กบั ผูฟ้ ังบา้ ง
Continuous Tense แสดงออกทาง บา้ งเลก็ นอ้ ย ไม่เปน็ ธรรมชาติ เล็กน้อย
สีหนา้ และทา่ ทาง
3. คุณลักษณะ เหมาะสม ตั้งใจเรียน ตงั้ ใจเรียน ต้งั ใจเรียน
อนั พงึ ประสงค์ (A) ต้ังใจเรียน มีความเพียร
ใฝ่เรยี นรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรม พยายามศึกษา พยายามเปน็
มงุ่ มน่ั ในการทางาน เขา้ ร่วมกจิ กรรม บางครง้ั ศกึ ษา
การเรยี นรู้ ศึกษา การเรียนรู้ เข้ารว่ มกจิ กรรม คน้ คว้าหาความรู้
ค้นคว้าหาความรู้ แลกเปลย่ี น
แลกเปลยี่ นความรู้ คน้ ควา้ หาความรู้ การเรยี นรบู้ า้ ง ความร้เู ลก็ นอ้ ย
ด้วยวธิ ีการที่
หลากหลาย ความรู้ ค้นควา้ หาความรู้
สรุปเปน็ องค์ความรู้
และสามารถ แลกเปลยี่ น มกี ารแลกเปลี่ยน
นาไปใช้ใน
ความรู้ดว้ ยวิธีการ ความรบู้ ้าง
ชีวิตประจาวันได้
ท่หี ลากหลาย เล็กน้อย

นาไปใชใ้ น

ชีวิตประจาวันได้

เกณฑก์ ารตดั สนิ

ระดบั 4 หมายถึง มีระดับคุณภาพดเี ยยี่ ม ระดบั 3 หมายถงึ มีระดับคณุ ภาพดี
ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดับคณุ ภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง มรี ะดบั คณุ ภาพปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารผ่าน ได้ระดบั 3 ข้นึ ไป รอ้ ยละ 60 ถือวา่ ประสบผลสาเรจ็ ในการสอน

1

รหสั วิชา อ23101 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5
เรอื่ ง What’s the story?
รายวิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ Make a Different

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 2 ช่ัวโมง

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ชอื่ ครูผู้สอน นางสริ ิกร ตันทศั น์

สอนครั้งที่ ....................... วันท่ี ................. เดอื น .............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล
ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ
และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ

2. ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้

ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงข้อความ ข่าวโฆษณา และบทรอ้ ยกรองสั้นๆ ถูกตอ้ งตาม
หลกั การอ่าน

ต 1.1 ม.3/3 ระบ/ุ เขยี นประโยคและขอ้ ความให้สมั พันธ์กับส่อื ที่ไม่ใช่ความเรยี ง รปู แบบ
ตา่ งๆ ทีอ่ า่ น

ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมลู เก่ียวกับตนเอง เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์
ข่าว เร่อื งทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คม และสือ่ สารอยา่ งตอ่ เน่อื งและเหมาะสม

ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริยาทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส
ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

3. สาระสาคัญ

หน่วยการเรียนรู้น้มี ีวตั ถุประสงคใ์ ห้นักเรียนเรยี นรูแ้ ละส่ือสารเกี่ยวกบั เร่ืองราวตา่ งๆ จาก
รูปภาพได้ สามารถใช้คาคณุ ศพั ทใ์ นการพดู บรรยายภาพ คน สัตว์ ธรรมชาติ พดู บรรยายความรูส้ กึ
ชอบ/ไมช่ อบและความคิดเห็นของตนเองเก่ยี วกบั รปู ภาพตา่ งๆ โดยใช้คาคุณศัพท์

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 Vocabulary

4.1.2 Reading
4.1.3 Grammar

- Adjectives to describe picture

2

Vocabulary :

Words Word Meanings
Class

interested giving a lot of attention to something because
dramatic adj. you want to find out more about it or because
boring
you enjoy it (รู้สกึ สนใจ)

adj. exciting or impressive (น่าตนื่ เตน้ เร้าใจ นา่ ท่งึ )

tired and impatient because you do not think
adj. something is interesting, or because you have

nothing to do (นา่ เบ่ือ)

showing a lack of thought, understanding,

silly adj. judgement, stupid or embarrassing, especially in a
way that is more typical of a child than an adult

(ง่ีเงา่ , ไร้สาระ)

blurry adj. unable to see distinctly (พรา่ มวั ไม่ชัด)

full of bright colors or having a lot of different

colorful adj. colors or interesting or exciting; full of variety,
sometimes in a way that shocks people
fake
(มสี ีสัน)
horrible
old-fashioned not real and seeming to be something it is not, in
excited about
adj. order to deceive people
tired of
(เทยี ม ของปลอม ประดษิ ฐ์ข้ึนเอง)

making you feel very shocked and frightened or

adj. very bad or unpleasant; used to describe
something that you do not like

(นา่ กลวั , สยดสยอง)

adj. not modern; no longer fashionable
(ลา้ สมัย, เชย)

adj. happy, interested, or hopeful because something
good has happened or will happen (รู้สกึ ตืน่ เตน้ )

no longer interested in; bored with

adj. (รู้สกึ เบอื่ เหนือ่ ยหนา่ ย)

good at adj. able to do something well (เกง่ )

3

4.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
การฟัง : ระบุข้อมลู เฉพาะรายละเอียด
การพูด : พดู ถามตอบขอ้ มลู
การอา่ น : ระบุใจความสาคัญ
การเขยี น : เขียนบรรยาย

4.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งมัน่ ในการทางาน

5. การบรู ณาการ
(บรู ณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น และการบรู ณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง)

ความพอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิค้มุ กนั ในตวั ท่ดี ี
1. ทากจิ กรรมไดต้ ามเวลา 1. การแบ่งเวลาภาระหน้าที่ 1. รจู้ ักบทบาทหนา้ ท่ีและปฏบิ ัติ

ทกี่ าหนด ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม ตามหนา้ ที่ไดอ้ ย่างถูกต้อง
กบั ความสามารถ ทาใหร้ ่วม เหมาะสม
กจิ กรรมและเรียนรเู้ นือ้ หา
บทเรียนไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ
และครบถว้ น

ความรู้
1. รอบรใู้ นเนอ้ื หาบทเรยี น วฒั นธรรมในประเทศและตา่ งประเทศ
2. เรียนรคู้ าศพั ทเ์ กยี่ วกับเร่อื งทีเ่ รียนได้อยา่ งถูกต้อง
คุณธรรม
1. นักเรยี นมคี วามเพยี ร ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ันในการทางานและแบบฝึกหดั ต่างๆ
2. มวี นิ ยั สง่ งานตามเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

4

7. จุดเน้นส่กู ารพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น (โปรดเลอื กจดุ เนน้ มีความสัมพันธ์กบั แผนการจดั การเรียนร)ู้
7.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือ การเรียนรู้ 3R X 8C
7.1.1 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
7.1.2 ความเขา้ ใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม (Cross-cultural Understanding)
7.1.3 มีคุณธรรม มเี มตตา กรณุ า มีระเบยี บวินยั (Compassion)
7.2 ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพของคนในศตวรรษท่ี 21
7.2.1 การปรบั ตัว (Adapt to Change) ปรบั ไปตามบทบาท งาน ความรบั ผดิ ชอบ ตาราง และ
สภาพแวดลอ้ ม
7.2.2 เปน็ ผเู้ รียนท่ีนาพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ขา้ มพ้นการเรยี นรูแ้ บบพ้นื ฐาน
ของทกั ษะหรอื หลักสูตร เพ่อื ทจ่ี ะสารวจและขยายการเรียนรู้ของตนเอง
7.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี 21
7.3.1 มีความคดิ สร้างสรรค์
7.3.2 มที ักษะในการส่อื สารทด่ี ี
7.3.3 มคี วามเต็มใจร่วมมือในการทากจิ กรรมตา่ งๆ
7.3.4 ทกั ษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ชัว่ โมงท่ี 1 (Adjectives to describe picture)

8.1 นาเข้าสบู่ ทเรียน (Warm up)

1. ครถู ามไถ่สารทกุ ขส์ ุขดิบ รวมถงึ กระตุ้นการอยากเรยี นรู้และเชค็ ชอื่ ดว้ ยการบวกเลข ครู

พดู เลขอะไรกต็ ามกอ่ นตอบนักเรียนต้องบวก 3 กอ่ นคอ่ ยตอบ โดยพูดเปน็ ภาษาอังกฤษ

เช่น 5 (five) > 8 (eight)

14 (fourteen) > 17 (seventeen)

8.2 ข้นั สอน (Presentation)

- ข้ึน PowerPoint คาศพั ท์และความหมายพร้อมตัวอย่างประโยคการใช้

- ครอู อกเสียงคาศัพท์ นกั เรยี นออกเสยี งตามครูและบอกความหมายของคาศัพทด์ งั กล่าว

- ครูชว่ ยบอกความหมายในกรณีทีน่ กั เรยี นไมท่ ราบความหมาย พรอ้ มท้งั ยกตวั อยา่ งประโยค

คาศัพทด์ ังกลา่ ว เชน่

horrible > I had a horrible dream last night.

8.3 ข้นั ฝึก (Practice)

- ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั นกึ และออกเสียงคาศัพท์และสะกดคาท่ีเรียนมาแลว้

8.4 ขน้ั การใช้ภาษา (Production)

1. ให้นักเรียนจบั คู่รูปภาพกับคาอธิบายทั้งหมด 6 ขอ้

2. นกั เรยี นฝกึ ออกเสยี งคาศัพทแ์ ละสะกดคา

2. ครเู ฉลยและเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเพ่ิมเติม

5

ขั้นสรปุ (Wrap up)
1. ครูทบทวนคาศพั ท์ ความหมายและการออกเสียงคาศพั ท์ท่ถี กู ตอ้ งให้นักเรียนฟงั อีกครั้ง
2. นดั หมายนกั เรยี นอ่านบทความเรือ่ ง “Young photographer contest”

ชัว่ โมงท่ี 2
8.1 นาเขา้ สู่บทเรยี น (Warm up)

- ครชู ่วยนักเรียนทบทวนคาศัพทท์ ่เี รยี นจากคาบทแ่ี ล้ว โดยให้นกั เรียนทายท่าทางและคาใบข้ อง
คณุ ครู และเพ่ือเป็นการกระตุ้นความจาและดึงสมาธิก่อนเร่ิมบทเรยี น
8.2 ขน้ั สอน (Presentation)
- ใหน้ ักเรียนฟงั บทอา่ นเรอื่ ง “Young photographer contest” จานวน 2 รอบ โดยรอบแรก
นักเรียนฟังอย่างต้ังใจและรอบทสี่ องนักเรียนฟงั และอ่านตามในใจ
8.3 ข้ันฝึก (Practice)
- ครูให้เวลานกั เรียนฝึกอ่านและทาความเขา้ ใจเนือ้ เรอื่ งดว้ ยตนเอง
- ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี นอา่ นออกสยี งบทอ่าน คอยแกไ้ ขถ้านกั เรยี นอา่ นอกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง
- ครอู ธิบายคร่าวๆ ให้นักเรยี นฟัง
- ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปใจความสาคญั จากเรือ่ งทอ่ี ่าน
8.4 ขั้นการใชภ้ าษา (Production)
- ตอบคาถามจากเรื่องทอ่ี ่าน โดยครสู ุม่ คาถามและให้ผเู้ รยี นตอบ
- นักเรียนทาแบบฝึกตอบคาถามจากเน้ือเร่ืองท่ีอา่ น
8.5 ขัน้ สรุป (Wrap up)
- ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ เนอ้ื เรื่อง “Young photographer contest” อกี คร้งั และให้
นักเรียนทมี่ ขี ้อสงสยั ซักถาม

9. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
9.1 หนงั สือเรียน MOVE IT! 3
9.2 สือ่ PowerPoint เร่อื ง
- Adjectives to describe picture
- บทอา่ นเร่อื ง “Young Photographer Contest”

10. หลักฐานการเรยี นรู้ (ภาระงาน/ชน้ิ งาน)
10.1 แบบฝึกหดั

11. การวดั และประเมนิ ผล 6

รายการที่ประเมนิ ตัวชวี ัด (วิธีการวัด) เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมิน
- แบบฝึกหดั 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
ด้านความรู้ - สังเกตจากการซกั ถาม เกณฑก์ ารประเมนิ
อธบิ ายความหมาย - การตอบคาถาม
คาศัพท์ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน
ระบใุ จความสาคญั เกณฑ์การประเมนิ

ดา้ นทกั ษะ/ - นกั เรยี นสามารถใช้ - แบบฝึกหัด 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
กระบวนการ adjective อธบิ าย - บทอ่านเร่ือง เกณฑก์ ารประเมิน
อา่ นออกเสียง ภาพหรอื สิง่ ที่ตนเอง “Young
ชอบหรือไมช่ อบได้ photographer
ด้านคุณลักษณะ - นกั เรยี นสามารถ contest”
อนั พึงประสงค์ ตอบคาถามจาก
ใฝเ่ รียนรู้ บทอา่ นเร่ือง 1. แบบสังเกต
มงุ่ มนั่ การทางาน “Young พฤติกรรม
photographer

contest” ได้

1. สังเกตจากการเรยี นมี
ความรับผดิ ชอบตอ่ งาน
ทม่ี อบหมายและสง่ งาน
ตามเวลาท่ีกาหนด

2. สงั เกตจากการ
ใฝเ่ รยี นรู้ของนักเรยี น

3. สังเกตจากการม่งุ มั่น
ในการทางาน

7

เกณฑก์ ารประเมนิ ตามระดับคุณภาพ

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คุณภาพ

4 32 1

1. ความรู้ (K) อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ าย อธบิ าย
ความหมาย
อธิบายความหมาย สื่อสารไดถ้ ูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง ความหมาย ไม่ชัดเจน

คาศพั ท์ ตรงประเด็น มีผดิ พลาดเล็กนอ้ ย มผี ิดพลาดเป็น

ครบถว้ น ส่วนมาก

2. ทกั ษะ/ พูดไดต้ รงประเด็น พูดไดต้ รงประเด็น พูดได้คล่องแคล่ว พดู ไมค่ ล่องแคลว่
กระบวนการ (P) ถูกตอ้ งตามหลกั เป็นสว่ นใหญ่ สื่อสารได้ตรง ส่อื สารไมค่ อ่ ยตรง
พดู -ถามตอบ ไวยากรณ์ ถกู ตอ้ งตามหลัก ประเดน็ เปน็ ประเด็น พดู
อา่ นออกเสยี ง พูดคล่องแคล่ว ไวยากรณ์ นา้ เสยี ง บางส่วน พูด เหมอื นทอ่ งจา
นา้ เสยี งชัดเจน ชดั เจน คล่องแคลว่ แต่ไม่ ประสานสายตา
แสดงออกทาง แสดงออกทาง เปน็ ธรรมชาติ กบั ผ้ฟู ังบ้าง

สหี นา้ และท่าทาง สหี นา้ และทา่ ทาง เลก็ นอ้ ย
เหมาะสม บา้ งเล็กนอ้ ย

3. คณุ ลักษณะ ต้งั ใจเรียน ตง้ั ใจเรียน ตั้งใจเรียน ต้ังใจเรียน

อันพงึ ประสงค์ (A) เข้ารว่ มกิจกรรมการ เขา้ ร่วมกจิ กรรม พยายามศึกษา มีความเพยี ร
การเรียนรู้ เขา้ ร่วมกจิ กรรม พยายามเป็น
ใฝ่เรียนรู้ เรียนรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ คน้ ควา้ หาความรู้ การเรียนรู้บ้าง บางคร้ัง ศกึ ษา
ความรู้ คน้ คว้าหาความรู้ ค้นคว้าหาความรู้
ม่งุ มัน่ ในการ หาความรู้ แลกเปล่ียนความรู้ มีการแลกเปลีย่ น แลกเปลยี่ น
ด้วยวิธกี าร ความรู้บา้ ง ความรู้เลก็ น้อย
ทางาน แลกเปลย่ี นความรู้ ทีห่ ลากหลาย เล็กน้อย
นาไปใช้ใน
ด้วยวธิ ีการ ชีวิตประจาวันได้

ท่หี ลากหลาย

สรปุ เป็นองคค์ วามรู้

และสามารถนาไปใช้

ในชวี ิตประจาวนั ได้

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ระดับ 4 หมายถงึ มรี ะดบั คณุ ภาพดีเยย่ี ม ระดับ 3 หมายถึง มีระดบั คุณภาพดี
ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดบั คณุ ภาพพอใช้ ระดบั 1 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารผ่าน ไดร้ ะดบั 3 ขึ้นไป ร้อยละ 60 ถือวา่ ประสบผลสาเรจ็ ในการสอน

1

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6

รหัสวชิ า อ23101 เร่ือง Past Simple ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ Make a Different
รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน

ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4 ชว่ั โมง

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ชอ่ื ครผู สู้ อน นางสิริกร ตันทศั น์

สอนคร้ังท่ี ....................... วันท่ี ................. เดือน .............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟี่ งั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ

2. ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้

ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขา่ วโฆษณา และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ต้องตาม
หลักการอา่ น

ต 1.1 ม.3/3 ระบ/ุ เขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ ับสือ่ ที่ไม่ใช่ความเรยี ง รูปแบบ
ต่างๆ ท่อี ่าน

ต 1.2 ม.3/1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว สถานการณ์
ข่าว เรือ่ งทอ่ี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม และส่อื สารอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและเหมาะสม

ต 2.1 ม.3/1 เลือกใช้ภาษา น้าเสียง และกริยาทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส
ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

3. สาระสาคัญ

หนว่ ยการเรยี นรูน้ ีม้ ีวัตถุประสงค์ให้นกั เรยี นเรยี นรู้การใช้ Past Simple Tense

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 ความรู้ (K)
4.1.1 โครงสรา้ งทางไวยากรณ์ เร่ือง Past Simple Tense

4.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
- การฟัง : ระบขุ ้อมลู เฉพาะรายละเอยี ด

- การพูด : พดู ถามตอบข้อมลู

- การอา่ น : ระบุใจความสาคญั

- การเขยี น : เขียนบรรยาย

2

4.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)

- ใฝเ่ รียนรู้
- ม่งุ มน่ั ในการทางาน
5. การบรู ณาการ (บรู ณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื และการบูรณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง)

ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู คิ ุ้มกนั ในตวั ที่ดี
1. ทากิจกรรมไดต้ ามเวลา 1. การแบ่งเวลาภาระหน้าท่ี 1. รูจ้ ักบทบาทหน้าที่และปฏบิ ัติ

ทก่ี าหนด ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ตามหนา้ ทีไ่ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง
กบั ความสามารถ ทาใหร้ ว่ ม เหมาะสม
กิจกรรมและเรียนรู้เนื้อหา
บทเรียนได้อย่างมคี ณุ ภาพ
และครบถ้วน

ความรู้
1. รอบรใู้ นเนือ้ หาบทเรียน วฒั นธรรมในประเทศและต่างประเทศ
2. เรียนรู้โครงสรา้ งทางไวยากรณแ์ ละนาไปใช้ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
คุณธรรม
1. นกั เรียนมคี วามเพยี ร ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทางานและแบบฝกึ หดั ต่างๆ
2. มีวนิ ยั สง่ งานตามเวลากาหนด

6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. จดุ เน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (โปรดเลอื กจดุ เน้นมคี วามสัมพันธก์ บั แผนการจัดการเรยี นรู้)
7.1 ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C
7.1.1 การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
7.1.2 ความเข้าใจความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม (Cross-cultural Understanding)
7.1.3 มคี ณุ ธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบยี บวินยั (Compassion)

3

7.2 ทักษะดา้ นชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษที่ 21
7.2.1 การปรับตวั (Adapt to Change) ปรับไปตามบทบาท งาน ความรับผดิ ชอบ ตาราง และ
สภาพแวดลอ้ ม
7.2.2 เปน็ ผู้เรียนทนี่ าพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ข้ามพ้นการเรยี นรู้แบบพน้ื ฐาน
ของ7.3.1 มีความคดิ สรา้ งสรรค์
7.3.2 มที ักษะในการสือ่ สารทดี่ ี
7.3.3 มีความเต็มใจร่วมมือในการทากจิ กรรมตา่ งๆ
7.3.4 ทกั ษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศทักษะหรอื หลกั สูตร เพ่ือทจ่ี ะสารวจและขยายการเรยี นรู้
ของตนเอง

7.3 คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี 21
7.3.1 มีความคดิ สรา้ งสรรค์
7.3.2 มที กั ษะในการสื่อสารทดี่ ี
7.3.3 มคี วามเต็มใจรว่ มมือในการทากจิ กรรมต่างๆ

8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ชั่วโมงที่ 1
8.1 นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)

- ครูใหน้ ักเรียนทายภาพปรศิ นา เพอื่ ดึงความสนใจและเตรียมความพรอ้ มให้กับนักเรียนก่อน
เรม่ิ บทเรียน
- ครูทบทวนเรือ่ ง Present Simple Tense ซ่งึ เคยเรียนมาแล้ว
8.2 ข้นั สอน (Presentation)
- ครูอธบิ ายเก่ียวกับ Past Simple Tense โดยใหน้ ักเรยี นดูใน PowerPoint ไปพร้อมๆ กัน
- ครยู กตัวอย่างประโยคประกอบการอธบิ าย เช่น

I ate breakfast 2 hours ago.
I lived in London when I was a kid.
- นกั เรยี นเรียนรู้โครงสร้างประโยคและเหตุการณ์ที่ใช้ Past Simple Tense โดยครนู าเสนอ
PowerPoint ทเี่ ตรยี มไวใ้ น Google Classroom
- ครอู ธิบายเก่ยี วกับ Regular verb และ Irregular รวมถงึ หลกั การเติม -ed และการออกเสยี ง
คากรยิ าท่ีลงทา้ ยด้วย -ed โดยใช้หลกั การจาดังน้ี k, f, c, h, x, p, h ออกเสยี งวา่ ทึ /t/
d ดิด /d/, t ถิด /t/ นอกเหนอื จากน้ันออกเสียงว่า ดึ /d/
8.3 ข้นั ฝึก (Practice)
- ครูเปิดเพลง Regular Past Tense Verbs Song ผา่ น Youtube และให้นักเรยี นออกเสียง

4

ตวั อย่างเชน่
stop > stopped (สตอ็ ปทึ) play > played (เพลดึ)

- นกั เรยี นเรยี นรู้คาศัพท์ Irregular verb ผา่ นการต์ นู We went camping on Youtube
8.4 ข้ันการใช้ภาษา (Production)

- ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ออกเสียงคาศพั ท์ Verb ช่องที่ 2 ทนี่ กั เรียนจาได้จากเรือ่ ง “We went
camping on” และลาดับเหตุการณ์จากเนื้อเรอ่ื ง
8.5 ขัน้ สรุป (Wrap up)
- ครูและนกั เรียนช่วยสรปุ การใช้ Past Simple Tense นักเรียนทมี่ ีข้อสงสยั ซักถาม
- มอบหมายนกั เรยี นไปท่องจา Irregular Verb ใน Google Classroom

ชว่ั โมงท่ี 2 (Past Simple)
8.1 นาเข้าสู่บทเรยี น (Warm up)

- นักเรียนร่วมกิจกรรม “Mystery box Regular and Irregular Verb” โดยแบ่งนกั เรียน
ออกเป็น 2 กลุ่ม คอื กลมุ่ เลขคแ่ี ละกลมุ่ เลขคู่
- กาหนดใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกแผ่นป้ายตั้งแต่ A-X และตอบคาถาม หากตอบถกู จะมีสทิ ธ์ิเลือกไดว้ า่
จะเก็บกล่องปริศนาใหก้ ับทีมของตวั เอง หรือจะโยนกล่องปรศิ นาให้กบั อกี ทีม โดยกลอ่ ง
ปริศนาท่ีแตล่ ะทมี ได้ หลังจากการตอบคาถามถกู จะมีคะแนนทเี่ ปน็ บวกและเปน็ ลบ
- จะผลัดกันเล่นทีละข้อและรวมคะแนน หากทีมไหนมคี ะแนนสะสมจากกล่องปริศนามาก
ที่สดุ ถอื เป็นฝ่ายชนะ
8.2 ข้ันสอน (Presentation)
- ครูฝึกนักเรียนออกเสียง Regular and Irregular Verb ทแี่ สดงไวใ้ น Google Classroom
8.3 ข้ันฝกึ (Practice)
- นกั เรียนฝกึ ออกเสยี ง Regular and Irregular Verb
- ครูให้คาแนะนาชว่ ยเหลือถ้านกั เรยี นออกเสียงไม่ถกู ต้องหรอื ไมช่ ดั เจน
8.4 ขัน้ การใช้ภาษา (Production)
- นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดเปลยี่ นคากริยาจากกริยาชอ่ งที่ 1 เปน็ กริยาชอ่ งที่ 2
8.5 ขน้ั สรปุ (Wrap up)
- ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรุปหลกั การสงั เกตและการใช้ Regular and Irregular Verb

ช่ัวโมงท่ี 3 (Past Simple)
8.1 นาเข้าสูบ่ ทเรยี น (Warm up)

- ครูนาเสนอนกั เรียนเล่ม “เกมทายใจ” โดยให้นักเรียนเลือกเลขทช่ี อบจากใบเซียมซี 5 ใบ

5

- คนทน่ี กั เรยี นชอบและเก็บไว้ใจ ครูจะเป็นคนทายว่าเลขทน่ี ักเรียนเลือกกับเลขทีค่ รูบอก
ตรงกันไหม เพือ่ ดึงความสนใจของผู้เรยี นท่เี กดิ จากความสงสัยและความอยากรกู้ ่อนเริ่ม
บทเรยี น
8.2 ข้ันสอน (Presentation)
- ครูทบทวนโครงสร้างทางไวยากรณ์ และหลกั การใช้ Past Simple Tense และ Regular
and Irregular Verb
- ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกีย่ วกับรูปประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธและประโยคคาถามของ
Past Simple Tense
8.3 ขนั้ ฝึก (Practice)
- นักเรียนฝกึ เปล่ียนประโยคบอกเล่าเป็นประโยคปฏิเสธและประโยคคาถาม ตัวอยา่ งเช่น
Riki called me this evening. > Riki didn’t call me this evening.
8.4 ขน้ั การใชภ้ าษา (Production)
- ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยการเลน่ เกมออนไลน์ Past Simple Tense
- ครูเฉลยคาตอบและตอบข้อสงสัยท่ีนักเรยี นยงั ไมเ่ ขา้ ใจ
8.5 ขนั้ สรปุ (Wrap up)
- ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความรู้ความเขา้ ใจ เรอ่ื ง Past Simple Tense
- นัดหมายสอบเกบ็ คะแนนหลังเรยี น (Post-test)

ช่ัวโมงท่ี 4 (Post-test)
- ครทู บทวนโครงสร้างและการใช้ Past Simple Tense และใหน้ กั เรียนสอบถามข้อสงสยั
ก่อนเร่ิมสอบ
- นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) ผ่าน Google form กาหนดเวลาในการสอบ
30 นาที จานวน 20 ขอ้ (5 คะแนน)

9. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
9.1 หนังสอื เรยี น MOVE IT! 3
9.2 ส่อื PowerPoint เรอื่ ง

- Past Simple
- Regular and Irregular verb

10. หลกั ฐานการเรยี นรู้ (ภาระงาน/ชนิ้ งาน)
10.1 แบบฝกึ หัด
10.2 แบบทดสอบ

6

11. การวดั และประเมินผล

รายการที่ประเมนิ ตวั ชวี ดั (วิธกี ารวัด) เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน
ด้านความรู้ - สงั เกตจากซักถาม - แบบฝึกหดั 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน
โครงสรา้ งทาง - นกั เรยี นสามารถใช้ - แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
ไวยากรณ์ เรอื่ ง Past Simple 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
Past Simple Tense Tenseไดอ้ ย่าง เกณฑ์การประเมิน
ถูกตอ้ ง (K) 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
- ตรวจผลงานจาก เกณฑ์การประเมนิ
การทากจิ กรรม

ดา้ นทักษะ/ - นักเรยี นสามารถ - แบบฝึกหดั
กระบวนการ ตอบคาถามโดยการ
พูดถาม- ตอบ ใช้ประโยคตาม
เขยี นตามโครงสร้าง โครงสร้าง
ทางไวยากรณ์

ดา้ นคณุ ลักษณะ - สังเกตจากการเรียน - แบบสงั เกต
ใฝ่เรยี นรู้ มีความรับผิดชอบต่อ พฤติกรรม
มงุ่ มนั่ ในการทางาน งานที่สง่ั และส่งงาน
ได้ทนั ตามท่ีกาหนด
- สงั เกตจากการเรียน
ใฝเ่ รยี นรู้
- สงั เกตจากความ
มุ่งมั่นในการทางาน

7

เกณฑก์ ารประเมนิ ตามระดับคุณภาพ

ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ
1. ความรู้ (K)
432 1
ยกตัวอยา่ ง สอื่ สารไมค่ อ่ ยตรง
ประโยค ส่ือสารได้ตรง สอ่ื สารได้ตรง สื่อสารไดต้ รง ประเด็นกับหวั ขอ้
Past Simple ทก่ี าหนด
Tense ประเด็น ถกู ต้อง ประเดน็ เป็นสว่ น ประเด็นเป็น
เขยี นโดย
2. ทกั ษะ/ ตามหวั ข้อ ใหญ่ ยกตวั อย่าง บางสว่ น ใชโ้ ครงสรา้ ง
กระบวนการ (P) ไวยากรณ์ผดิ พลาด
ความสามารถ ทก่ี าหนด ประโยคได้ถูกต้อง ยกตัวอยา่ ง เกนิ คร่งึ หน่ึงของ
ในการเขยี น งานเขียน
เป็นสว่ นใหญ่ ประโยคถูกต้อง ใชค้ าศัพทผ์ ิดพลาด
3. คุณลกั ษณะ หลายแหง่ อา่ นแลว้
อันพึงประสงค์ (A) เปน็ บางสว่ น ไมเ่ ขา้ ใจเป็น
ใฝ่เรียนรู้ สว่ นมาก
มงุ่ มนั่ ในการทางาน เขียนโดยใช้ เขยี นโดยใช้ เขียนโดย ต้งั ใจเรยี น
มคี วามเพียร
โครงสร้าง โครงสร้าง ใช้โครงสร้าง พยายามเปน็
บางครงั้ ศึกษา
ไวยากรณ์ได้ ไวยากรณ์ผดิ พลาด ไวยากรณ์ คน้ คว้าหาความรู้
แลกเปลีย่ นความรู้
ถูกต้องทุก เล็กน้อย สะกดคา ผิดพลาด เล็กน้อย

ประโยค สะกดคา และใชเ้ ครือ่ งหมาย หลายแหง่

และใช้ วรรคตอนผิดพลาด มปี ญั หาอยบู่ ้าง

เครอื่ งหมายวรรค เลก็ นอ้ ย ในการใช้คาศพั ท์

ตอนถกู ต้อง อา่ นแลว้ ไมเ่ ข้าใจ

ทง้ั หมด หลายแหง่

ตง้ั ใจเรยี น ต้ังใจเรียน ตัง้ ใจเรียน

เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม พยายามศกึ ษา

การเรียนรู้ ศกึ ษา การเรยี นรู้ เขา้ ร่วมกิจกรรม

คน้ คว้าหาความรู้ คน้ ควา้ หาความรู้ การเรยี นรูบ้ า้ ง

แลกเปล่ียน แลกเปลีย่ นความรู้ ค้นคว้าหาความรู้

ความรดู้ ว้ ยวิธกี าร ดว้ ยวธิ ีการ มกี ารแลกเปลี่ยน

ทหี่ ลากหลาย ท่หี ลากหลาย ความรู้บา้ ง

สรุปเปน็ องค์ นาไปใชใ้ น เล็กน้อย

ความรู้ และ ชวี ิตประจาวัน

สามารถนาไปใช้

ในชวี ติ ประจาวัน

เกณฑก์ ารตดั สนิ

ระดบั 4 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพดเี ย่ียม ระดับ 3 หมายถึง มีระดับคุณภาพดี
ระดับ 2 หมายถงึ มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง มรี ะดบั คณุ ภาพปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารผา่ น ได้ระดับ 3 ข้ึนไป รอ้ ยละ 60 ถอื วา่ ประสบผลสาเร็จในการสอน

1

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7

เร่อื ง It’s a Bargain!

รหสั วชิ า อ23101 รายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ Shopping

ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 4 ชวั่ โมง

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ช่ือครผู ูส้ อน นางสิรกิ ร ตันทศั น์

สอนครง้ั ที่ ....................... วนั ท่ี ................. เดือน ............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้
ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟี่ ังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมเี หตุผล
ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้
ต 1.1 ม.3/2 อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าวโฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถูกต้อง
ตามหลักการอ่าน
ต 2.1 ม.3/1 เลือกใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริยาทา่ ทางเหมาะกับบุคคลและโอกาส
ตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

3. สาระสาคัญ
2.1 ใชค้ า้ ศัพท์ในประโยคส้นั ๆ และพดู สนทนาเกยี่ วกบั การซือ้ ขายได้
2.2 อ่านบทอ่านเกี่ยวกับตลาดท่หี ลากหลาย
2.3 พูดสนทนาการต่อรองในการซอ้ื ขาย

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)
3.1.1 คา้ ศัพท์เกีย่ วกับการซื้อขาย การพูดต่อรองในการซื้อขาย
3.1.2 บทอา่ นเรอื่ ง “Boston market wins more customer”
3.1.3 การใช้ Comparatives & Superlatives
4.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
การฟงั : ระบุข้อมลู เฉพาะรายละเอยี ด
การพูด : พดู ถามตอบข้อมูล

การอ่าน : ระบุใจความสา้ คัญ

การเขียน : เขียนบรรยาย

4.3 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

- ใฝเ่ รยี นรู้

- ม่งุ ม่ันในการท้างาน

2

5. การบรู ณาการ
(บูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
และการบรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง)

ความพอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ีดี
1. ทา้ กิจกรรมได้ตามเวลา 1. การแบง่ เวลาภาระหนา้ ท่ี 1. รูจ้ กั บทบาทหน้าทแ่ี ละปฏบิ ตั ิ

ทก่ี า้ หนด ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ตามหนา้ ทไ่ี ด้อย่างถูกตอ้ ง
กับความสามารถ ท้าให้รว่ ม เหมาะสม
กิจกรรมและเรยี นร้เู นอ้ื หา
บทเรยี นไดอ้ ย่างมีคุณภาพ
และครบถ้วน

ความรู้
1. รอบรู้ในเนือ้ หาบทเรียน วฒั นธรรมในประเทศและตา่ งประเทศ
2. เรียนรคู้ ้าศัพทเ์ ก่ียวกับเร่ืองทเ่ี รยี นได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
3. ระบุใจความสา้ คญั
คณุ ธรรม
1. นักเรยี นมคี วามเพียร ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มน่ั ในการทา้ งานและแบบฝึกหัดตา่ งๆ
2. มวี นิ ัยส่งงานตามเวลาก้าหนด

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
6.1 ความสามารถในการสื่อสาร
6.2 ความสามารถในการคิด
6.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
6.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น (โปรดเลือกจดุ เนน้ มีความสัมพันธ์กบั แผนการจดั การเรียนรู้)
7.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C
7.1.1 การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)
7.1.2 ความเขา้ ใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม (Cross-cultural Understanding)
7.1.3 มคี ุณธรรม มเี มตตา กรณุ า มรี ะเบียบวินยั (Compassion)
7.2 ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21
7.2.1 การปรบั ตวั (Adapt to Change) ปรับไปตามบทบาทงาน ความรบั ผดิ ชอบ ตาราง
และสภาพแวดล้อม
7.2.2 เปน็ ผู้เรียนท่ีน้าพาตนเอง (Be Self-directed Learners) ขา้ มพ้นการเรยี นรแู้ บบพนื้ ฐาน
ของทักษะหรอื หลกั สูตร เพอ่ื ที่จะส้ารวจและขยายการเรยี นรขู้ องตนเอง

3

7.3 คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี 21

7.3.1 มคี วามคิดสร้างสรรค์

7.3.2 มีทักษะในการส่อื สารทดี่ ี

7.3.3 มคี วามเต็มใจร่วมมอื ในการทา้ กิจกรรมต่างๆ

7.3.4 ทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

8. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
8.1 ช่ัวโมงท่ี 1 (Shopping Noun)
นาเข้าสบู่ ทเรียน (Warm up)
1. ครูทกั ทาย สอบถามสารทกุ ข์สุขดิบของนกั เรียน พดู คยุ เรือ่ งทั่วไป
2. นกั เรยี นท้ากจิ กรรมอกั ษรสลบั หมวด shopping เพื่อเปน็ การ
นา้ เข้าสบู่ ทเรียน โดยครผู ูส้ อนจะสลบั อักษรและให้นักเรยี นตอบซึ่งจะเปน็ ค้าที่นักเรยี น
คุ้นเคยเวลาไป shopping
Ex. ส้าร็เจงกึ่บะรหู ม่ปี > บะหมีก่ ึง่ ส้าเร็จรปู
นึแ่ งหมนึ่ถหง > หนึง่ แถมหนง่ึ
ขั้นสอน (Presentation)
1. ขน้ึ PowerPoint คา้ ศพั ทแ์ ละความหมายพร้อมตัวอย่างประโยคการใช้
2. ครูออกเสียงและบอกความหมายของคา้ ศัพทด์ งั กล่าว โดยครูชว่ ยบอกความหมายในกรณี
ที่นักเรยี นไม่ทราบความหมาย พร้อมทั้งยกตัวอย่างประโยคค้าศพั ท์ดังกล่าว รวมถึงยกตวั อยา่ ง
ค้าศัพทท์ ่ีมีความหมายเหมือนกนั (synonym) หรอื ค้าทีน่ ักเรยี นพบในชีวติ ประจา้ วนั บอ่ ยๆ
Ex : ATM เครอ่ื งเบกิ ถอนเงินอตั โนมตั ิ – The ATM is out of service.
ค้าศัพท์เพิ่มเติม
withdraw - ถอน
transfer - โอน
debt - หน้ี
mall ห้างสรรพสินค้า – I have to get back to the mall and find my wallet!
คา้ ศพั ท์ความหมายเหมือนกนั – shopping center, mart, commercial center
ข้นั ฝกึ (Practice)
1. หลงั จากครสู อนคา้ ศพั ท์เสรจ็ ใหน้ ักเรยี นฝึกออกเสียงค้าศัพท์ทไี่ ด้เรยี น
2. ครสู มุ่ ถามค้าศพั ท์ทม่ี คี วามหมายเหมือนกนั (synonym)
Ex : price ราคา – cost, purchase, charge
customer ลกู คา้ – shopper, buyer, purchaser, client
ขน้ั การใชภ้ าษา (Production)
1. ใหน้ ักเรยี นท้ากิจกรรมอกั ษรสลับอกี ครงั้ แต่เป็นค้าศัพท์ภาษาองั กฤษ
Shopping Noun ทเี่ รยี นมาแลว้
Ex : drveno > vendor
ingaabar > bargain

4

ขน้ั สรุป (Wrap up)
1. นกั เรยี นออกเสียงคา้ ศัพท์ และน้าคา้ ศพั ทท์ เี่ รียน แต่งและพดู ประโยคงา่ ยๆ
2. มอบหมายใหน้ ักเรยี นอา่ นบทความเรือ่ ง “Boston market wins more customer”

มาล่วงหนา้

8.2 ช่วั โมงท่ี 2 (Boston market wins more customer)
นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครูโชว์รูปผกั และผลไมใ้ หน้ กั เรยี นพจิ ารณาและใหช้ ่วยกนั ตอบว่าสง่ิ ทเี่ หน็ จดั เป็นประเภทใด

ผกั หรอื ผลไม้ โดยถา้ ตอบผักใหก้ ดหมายเลข 1 มาทางชอ่ ง chat และตอบผลไม้ให้กดหมายเลข 2
Ex: Bell pepper (พริกหยวก)

Taro (เผอื ก)
2. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยค้าตอบ พรอ้ มอธบิ าย
ข้ันสอน (Presentation)
1. นกั เรียนฟังบทอ่านเรื่อง “Boston market wins more customer” จา้ นวน 2 รอบ

โดยรอบแรกใหน้ ักเรยี นฟงั อย่างตั้งใจและรอบทสี่ องให้นักเรียนฟังและอ่านตามในใจ
ขน้ั ฝึก (Practice)
1. นักเรยี นอ่านบทความและท้าความเข้าใจดว้ ยตนเอง
2. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันจบั ใจความ สาระส้าคัญจากเรอ่ื งท่อี ่าน
ขน้ั การใช้ภาษา (Production)
1. นักเรียนช่วยกันพูดประเดน็ ทีจ่ ับใจความ สาระสา้ คญั จากเรื่องท่อี ่านให้มากทสี่ ดุ

โดยไม่ตอ้ งจดั ล้าดับเน้ือเรอื่ ง
2. ตอบค้าถามจากเรื่องทอี่ า่ น โดยครสู ุ่มค้าถามจากในเร่อื งและให้ผู้เรียนตอบค้าถามเพอ่ื เปน็

การตรวจสอบความเขา้ ใจในการอา่ น
ขน้ั สรุป (Wrap up)
1. ครูช่วยนกั เรยี นสรปุ เนื้อเร่ือง “Boston market wins more customer” อีกคร้งั

และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นทมี่ ีข้อสงสยั ซักถาม พดู คยุ แลกเปลีย่ นประสบการณ์

8.3 ชัว่ โมงที่ 3 (Comparatives and Superlatives)
นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครทู กั ทาย พดู คุย สอบถามเร่ืองทัว่ ไปเก่ียวกับตัวนกั เรยี น เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นเรยี น
2. นักเรียนร่วมกิกกรรมทายชอื่ เมนูอาหาร (ภาษาไทย)
3. หลังจากผู้เรียนทายเสรจ็ ในแตล่ ะคา้ ครกู ระต้นุ และคอยช่วยเหลอื นักเรียนใหพ้ ยายามบอกช่ือ

เมนูอาหาร (ภาษาองั กฤษ) เพ่ือให้ผเู้ รียนเกดิ ความคนุ้ เคยและสามารถสอื่ สารได้
ขัน้ สอน (Presentation)
1. นักเรยี นเรียนรู้เร่อื งการเปรียบเทียบค้าคณุ ศพั ท์ (adjective)

Ex: I will call you after class.
Meteorology says it will rain tomorrow.

5

ขน้ั ฝึก (Practice)

1. นักเรยี นเลน่ เกมเอเลี่ยนผา่ น “Wordwall” โดยผเู้ รยี นจะต้องหาเส้นทางหนีเอเล่ยี นและเลอื ก

ตอบวา่ คา้ adjective ทีก่ า้ หนดให้วา่ อย่ใู นขนั้ ใดของการเปรยี บเทยี บ

Ex : better > Superlative Degree

dirtier than > Comparative Degree

ขน้ั การใช้ภาษา (Production)

The weather this winter is (bad) the weather last winter.

ขั้นสรุป (Wrap up)

1. ครูชว่ ยนกั เรียนสรปุ ความเขา้ ใจและการน้าไปใช้เรือ่ ง Comparatives and Superlatives

8.4 ชว่ั โมงที่ 4 (Comparatives and Superlatives)
1. ครูทบทวนโครงสร้างทางภาษาและการใช้ Comparatives and Superlatives
กอ่ นสอบหลงั เรียน
2. นกั เรียนท้าแบบทดสอบหลังเรียนผา่ น Google form โดยกา้ หนดเวลาสอบ 40 นาที
จา้ นวน 30 ขอ้ (10 คะแนน)

9. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
9.1 หนงั สอื เรยี น MOVE IT! 3
9.2 สอื่ PowerPoint เรือ่ ง
- Comparatives & Superlatives
- Boston market wins more customer

10. หลกั ฐานการเรยี นรู้ (ภาระงาน/ชน้ิ งาน)
9.1 แบบฝกึ หัด

9.2 แบบทดสอบ

6

11. การวดั และประเมนิ ผล

รายการท่ีประเมิน ตวั ชี้วดั (วธิ ีการวัด) เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
ด้านความรู้ (K) 1. แบบฝกึ หดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน
Comparatives & 1. สงั เกตจากซกั ถาม 2. แบบทดสอบ เกณฑก์ ารประเมิน
Superlatives 2. นกั เรียนสามารถใช้
1. แบบฝกึ หัด 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน
ดา้ นทักษะ/ Comparatives & เกณฑ์การประเมิน
กระบวนการ (P) Superlatives ได้ 1. แบบสงั เกต
อย่างถูกตอ้ ง พฤตกิ รรม 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น
ด้านคณุ ลักษณะ 3. จับใจความเรือ่ ง เกณฑก์ ารประเมิน
อนั พงึ ประสงค์ (A) ทอ่ี า่ นได้
4. การรว่ มกจิ กรรม

ในช้ันเรยี น
1. นักเรียนสามารถใช้
noun ในการซือ้ ของ
หรอื ต่อรองราคาได้

2. นักเรยี นสามารถ
ตอบคา้ ถามจากบท
อา่ นเร่ือง “Boston
market wins
more” customer”
ได้

1. สงั เกตจากการ
เรยี นมีความ
รบั ผิดชอบ
และส่งงานได้ตรงตาม
เวลาทกี่ ้าหนด
2. สงั เกตจากการ

ใฝเ่ รียนรู้
3. สังเกตจากการ
มุ่งมนั่ ในการท้างาน

7

เกณฑ์การประเมนิ ตามระดับคุณภาพ

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

1 2 34

1. ความรู้ (K) จบั ใจความ จับใจความ จบั ใจความ จบั ใจความ

อา่ นจบั ใจความสา้ คญั สา้ คัญเรื่องทอี่ ่าน สา้ คัญเรอ่ื งทอี่ ่าน ส้าคญั เร่อื งที่อ่าน ส้าคญั เรื่องที่อา่ น

ความเขา้ ใจโครงสรา้ ง และสามารถนา้ และสามารถนา้ ไดเ้ ล็กนอ้ ย ได้เล็กน้อย

ทางไวยากรณ์ โครงสร้างทาง โครงสรา้ งทาง สามารถนา้ สามารถนา้

Comparatives, ไวยากรณไ์ ปใช้ ไวยากรณ์ไปใช้ โครงสร้างทาง โครงสรา้ งทาง

Superlatives ได้ถูกต้อง ไดถ้ กู ตอ้ ง ไวยากรณไ์ ปใช้ ไวยากรณไ์ ปใช้ได้

ไมม่ ีขอ้ ผดิ พลาด ผิดพลาดเล็กนอ้ ย ได้แต่ผิดพลาด มีผิดพลาด

หลายแหง่ เกนิ คร่งึ

2. ทกั ษะ/กระบวนการ(P) พดู ได้ตรงประเด็น พดู ได้ตรงประเดน็ พูดได้คล่องแคล่ว พูดไม่คล่องแคลว่

พดู ถาม-ตอบ ถกู ต้องตามหลัก เปน็ ส่วนใหญ่ สอ่ื สารไดต้ รง ส่ือสารไมค่ อ่ ย

ไวยากรณ์ น้าเสียงชดั เจน ประเด็นเปน็ ตรงประเดน็ พูด

พูดคลอ่ งแคลว่ แสดงออกทาง บางส่วน เหมอื นทอ่ งจา้

น้าเสยี งชัดเจน สหี นา้ และทา่ ทาง พดู คล่องแคลว่ ประสานสายตา

แสดงออกทาง บา้ งเล็กนอ้ ย แต่ไม่เป็น กบั ผฟู้ งั บา้ ง

สีหน้าและทา่ ทาง ธรรมชาติ เล็กนอ้ ย

เหมาะสม

3. คุณลกั ษณะ ต้ังใจเรียน ตงั้ ใจเรียน ตง้ั ใจเรยี น ตัง้ ใจเรียน

อนั พงึ ประสงค์ (A) เข้าร่วมกิจกรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม พยายามศกึ ษา มีความเพียร

การเรยี นรู้ ศกึ ษา การเรยี นรู้ เขา้ ร่วมกจิ กรรม พยายามเปน็

คน้ ควา้ หาความรู้ ค้นควา้ หาความรู้ การเรียนร้บู า้ ง บางครงั้ ศึกษา

แลกเปลี่ยนความ ความรู้ คน้ คว้าหาความรู้ ค้นคว้าหาความรู้

ด้วยวธิ กี าร แลกเปลีย่ น มีการแลกเปลีย่ น แลกเปลีย่ น

ทหี่ ลากหลาย ความรดู้ ้วยวธิ ีการ ความรู้ ความรู้เล็กนอ้ ย

สรปุ เปน็ องค์ ทห่ี ลากหลาย บ้างเล็กน้อย

ความรู้และ นา้ ไปใชใ้ น

สามารถน้าไปใช้ ชีวติ ประจ้าวันได้

ในชวี ติ ประจ้าวัน

ได้

เกณฑก์ ารตัดสนิ

ระดับ 4 หมายถงึ มีระดบั คณุ ภาพดีเยี่ยม ระดับ 3 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพดี

ระดับ 2 หมายถึง มรี ะดบั คุณภาพพอใช้ ระดบั 1 หมายถึง มรี ะดบั คณุ ภาพปรับปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ไดร้ ะดบั 3 ขน้ึ ไป ร้อยละ 60 ถอื ว่าประสบผลส้าเรจ็ ในการสอน

1

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8

เรือ่ ง Future Simple

รหสั วิชา อ23101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ Shopping

ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ชอ่ื ครผู ้สู อน นางสิรกิ ร ตันทศั น์

สอนคร้งั ที่ ....................... วนั ท่ี ................. เดือน ............................. พ.ศ. ............................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งท่ีฟังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมเี หตุผล
ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ
และความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

2. ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
ต 1.1 ม.3/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ วโฆษณา และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ต้อง
ตามหลักการอา่ น
ต 2.1 ม.3/1 เลอื กใช้ภาษา น้าเสยี ง และกริยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส
ตามมารยาทสงั คม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา [2] [3]

3. สาระสาคญั
นักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ยี วกบั โครงสรา้ งทางไวยากรณเ์ ร่อื ง Future Simple

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K) โครงสร้างทางไวยากรณ์ เรื่อง Future Simple

4.2 ทักษะ/กระบวนการ (P)
4.2.1 การฟัง : ระบขุ ้อมูลเฉพาะรายละเอียด

การพูด : พูดถามตอบข้อมลู
การอ่าน : ระบใุ จความส้าคญั
การเขยี น : เขยี นบรรยาย
4.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
ใฝเ่ รียนรู้
ม่งุ ม่นั ในการท้างาน

2

5. การบูรณาการ
(บูรณาการกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ และการบรู ณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ดี

1. ท้ากิจกรรมไดต้ ามเวลา 1. การแบ่งเวลาภาระหนา้ ท่ี 1. รู้จกั บทบาทหนา้ ท่แี ละปฏิบตั ิ

ทก่ี า้ หนด ของตนเองไดอ้ ยา่ ง ตามหนา้ ทีไ่ ด้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

เหมาะสมกับความสามารถ

ทา้ ให้การทา้ กจิ กรรมและ

เรียนร้เู นอ้ื หาบทเรียน

ได้อย่างมีคณุ ภาพ

และครบถ้วน

ความรู้

1. รอบรู้ในเน้อื หาบทเรียน วฒั นธรรมในและต่างประเทศ

2. เรียนร้คู ้าศัพทเ์ กีย่ วกบั เรอื่ งทเี่ รยี นไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

คณุ ธรรม

1. นักเรียนมีความเพียรในการทา้ แบบฝกึ หดั ต่างๆ

2. มีวนิ ัยสง่ งานในเวลากา้ หนด

6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
6.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
6.2 ความสามารถในการคิด

6.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
6.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. จดุ เนน้ ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น
7.1 ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรยี นรู้ 3R X 8C
7.1.1 อา่ นออก (Reading)
7.1.2 เขียนได้ (Ritting)
7.1.3 ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)

7.1.4 มีคณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มีระเบยี บวินยั (Compassion)
7.2 ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21

7.2.1 ทกั ษะสงั คมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม
7.2.2 การปรับตัว (Adapt to Change) ปรบั ไปตามบทบาทงาน ความรับผดิ ชอบ ตารางและ

สภาพแวดลอ้ ม
7.2.3 เป็นผู้เรียนทนี่ า้ พาตนเอง (Be Self-directed Learners) ข้ามพ้นการเรียนรแู้ บบพ้ืนฐาน

ของทกั ษะหรือหลกั สูตร เพอ่ื ทีจ่ ะส้ารวจและขยายการเรียนรูข้ องตนเอง

3

7.3 คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ 21
7.3.1 คณุ ลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชีน้ ้าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
7.3.2 มีความคิดสร้างสรรค์
7.3.3 มที กั ษะในการสือ่ สารท่ดี ี
7.3.4 มีความเต็มใจร่วมมอื ในการท้ากจิ กรรมต่างๆ
7.3 5 ทกั ษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
8.1 ชว่ั โมงที่ 1 (Future Simple)
นาเข้าส่บู ทเรียน (Warm up)
1. ดึงความสนใจและกระตุน้ นักเรยี นผา่ นเกม “ต่อคา้ ส่งใจ” โดยใหน้ กั เรียนต่อค้าจากครูและส่งค้า
ต่อไปให้เพอ่ื น โดยจะตอ้ งต่อคา้ สดุ ท้ายและพดู ได้แค่คนละสองคา้ มเี วลาต่อคา้ แค่คนละ 5 วินาที
หากนักเรยี นคนใดใชเ้ วลาในการตอ่ คา้ เกิน 5 วนิ าที ถือว่าเปน็ ผูแ้ พ้
Ex : น้าใจ สง่ ให้ พรมิ าภา > ใจดี สง่ ให้ ชิชา
ข้นั สอน (Presentation)
1. เรียนรโู้ ครงสร้าง Keyword ประโยคและเหตุการณ์ที่ใช้ Future Simple
Ex : I will call you after class.
Meteorology says it will rain tomorrow.
ข้นั ฝึก (Practice)
1. ครูตั้งค้าถามเกี่ยวกับในบทเรยี นและใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบคา้ ถาม
Ex : What’s structure of Future Simple?
What are the Future Simple keywords?
ข้นั การใช้ภาษา (Production)
1. ให้นกั เรียนชว่ ยกนั แต่งประโยคทคี่ าดวา่ ก้าลงั จะทา้ ในอนาคตหรือเหตกุ ารณ์ที่คาดวา่ จะข้ึน
ในอนาคตโดยการพดู ปากเปล่าหรือพมิ พ์มายงั ขอ้ ความ chat
Ex : I will drive to work tomorrow.
ขนั้ สรปุ (Wrap up)
1. ครูและนกั เรียนชว่ ยสรปุ เรอื่ ง Future Simple อีกคร้ัง
2. นักเรยี นท่มี ีขอ้ สงสยั ถามค้าถาม

8.2 ช่ัวโมงที่ 2 (Future Simple)
นาเข้าสูบ่ ทเรียน (Warm up)
1. กระตุ้นความสนใจของผเู้ รียนจากเกม “Emoji Guessing Word” โดยครูจะรวม Emoji
ให้เปน็ คา้ ๆ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทายค้าจาก Emoji เปน็ คา้ ศัพท์

ขนั้ สอน (Presentation)
1. ครูทบทวนโครงสรา้ งทางไวยากรณ์และการใช้ Future Simple ซึง่ เรยี นมาแลว้
2. นกั เรียนเรยี นรกู้ ารใชร้ ะหวา่ ง “will” และ “to be going to”

4

ขัน้ ฝึก (Practice)
1. ใหน้ กั เรยี นชมการ์ตนู “What are you going to do?”
2. นักเรียนสงั เกตการใช้ “will” และ “to be going to” ผ่านส่อื YouTube
3. ครอู ธิบายตัวอย่างประโยคทม่ี คี า้ วา่ “will” และ “to be going to” จากการต์ นู ทีน่ กั เรยี นชม

ข้ันการใช้ภาษา (Production)
1. ทา้ แบบฝึกหดั Future Simple จ้านวน 12 ข้อ ผ่าน Liveworksheet ดงั นี้
1) เตมิ ประโยคใหส้ มบูรณ์โดยเลอื ก will หรอื won’t
2) เลอื กใช้ will กบั to be going to ใหถ้ ูกต้อง
3) เขียนรูปย่อ short form

ข้ันสรุป (Wrap up)
1. ครูและนกั เรยี นชว่ ยสรปุ บทเรยี น
2. นดั หมายการเรยี นการเกบ็ คะแนนในคร้งั ตอ่ ไป

8.3 ช่ัวโมงที่ 3 (Future Simple)
1. ครทู บทวนโครงสร้างและการใช้ Future Simple กอ่ นสอบหลงั เรียน และใหน้ กั เรียน
สอบถามขอ้ สงสยั ก่อนเรมิ่ สอบ
2. นักเรยี นทา้ แบบทดสอบหลังเรยี นผ่าน Google form โดยกา้ หนดในการสอบ 40 นาที
จ้านวน 30 ขอ้ (10 คะแนน)
3. ประกาศคะแนนสอบกลางภาคและมอบเกยี รติบัตรส้าหรบั นกั เรยี นที่สอบได้ต้ังแต่ 25
คะแนนขึ้นไป

9. สื่อและแหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น MOVE IT! 3
8.2 สอื่ PowerPoint เรือ่ ง
- Future Simple
- will และ to be going to

10. หลักฐานการเรียนรู้ (ภาระงาน/ชน้ิ งาน)
9.1 แบบฝกึ หดั
9.2 แบบทดสอบ

11. การวดั และประเมินผล 5

รายการท่ปี ระเมิน ตัวชี้วดั (วิธีการวัด) เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
1. แบบฝึกหดั 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
ด้านความรู้ (K) 1. สงั เกตจากซกั ถาม 2. แบบทดสอบ การประเมิน

Future Simple 2. นักเรียนสามารถใช้ 1. แบบฝึกหัด 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
Future Simple 1. แบบสังเกต
พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
ได้อย่างถูกตอ้ ง การประเมิน

3. การรว่ มกิจกรรม

ของนกั เรียน

ดา้ นทักษะ/ 1. นกั เรยี นสามารถ

กระบวนการ (P) สรปุ และตอบ

ค้าถามเกยี่ วกับ

เร่อื ง Future

Simple ได้

ด้านคุณลกั ษณะ 1. สงั เกตจากการ

อนั พงึ ประสงค์ (A) มีความรับผิดชอบ

ตอ่ งานทส่ี ั่งและสง่

งานได้ทนั ตามเวลา

ท่กี ้าหนด

2. สงั เกตจากการ

เรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สังเกตจากความ

มุ่งมัน่ ในการท้างาน