Show 📌 วันนี้ขอมาแชร์บทความดี ๆ จาก “Mugen Guitar Shop” จะมีอะไรบ้างนั้นลองไปดูกันเลย 📌 1. การขยันขันแข็งในการฝ้กซ้อม จะช่วยให้มีความคล่องตัว ช่วยเพิ่มพูนฝีมือ เพิ่มพูนความเข้าใจ เพิ่มพูนความเร็ว การขยันฝึกซ้อมนั้น จะต้องทำให้เป็นนิสัย แม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้เก่งแล้ว ก็ยังต้องหมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ 📌 2. หมั่นศึกษาหาความรู้ทางดนตรีเพิ่มเติมอยู่เสมอจากครู อาจารย์ จากเพื่อนร่วมงาน จากตำหรับตำรา จากการฟัง ฯลฯ วิวัฒนาการและเทคโนโลยี ก้าวไปบ้างหน้าตลอดเวลาถ้าหยุดศึกษา จะกลายเป็นคนล้าหลัง และตามเพื่อนพ้องไม่ทัน 📌 3. มีความละเอียดละออในการฟัง การอ่าน การเขียนและการเล่น อย่าปล่อยให้รายละเอียดที่ไพเราะน่าสนใจ หรือกลเม็ดต่างๆ ผ่านไป โดยมิได้กระทบประสาทสัมผัสของเรา 📌 4. หมั่นดูแลรักษาเครื่องมือประจำตัวที่ใช้ประกอบอาชีพ หรือเล่นเป็นประจำ ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เสียงทุกเสียงต้องไม่เพี้ยนเลย(เป็นอันขาด) สภาพของเครื่องตนตรีต้องใช้การได้ดีตลอดเวลา 📌 5. ลดอัตตาในตนเองให้มากที่สุด จงเป็นคนถ่อมตัว อย่าถือว่า ความคิดของตนเองเป็นใหญ่ อย่าคิดว่าเราเองต้องเป็นฝ่ายถูกตลอดกาล การคิดเช่นนั้นจะทำให้เราไม่ได้อะไร ที่ใหม่ๆ และกลายเป็นคนโง่ที่คิดว่าตัวเองฉลาด 📌 6. อย่าตำหนิติเตียนผู้มีฝีมือด้อยกว่า จงแนะนำสิ่งที่น่าสนใจแก่เขา ตามกำลังความสามารถของเขาที่จะรับได้ จงให้กำลังใจแก่เขา และส่งเสริมให้เขามีฝีมือขึ้นมาเสมอเรา หรือก้าวไปกว่าเรา ความเจริญและความดีงามของสังคม อยู่ที่การมีคนที่มีคุณภาพจำนวนมาก 📌 7. เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ไม่ว่าในหมู่เพื่อนร่วมงาน หรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ในธุรกิจการดนตรี รับฟังและเคารพในความคิดเห็นของคนอื่น อย่าเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับบุคคลอื่นเสมอๆ จะทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่น่าเบื่อหน่าย 📌 8. เป็นผู้ที่ตรงต่อเวลา ไม่ว่าเป็นการนัดฝึกซ้อมหรือในการแสดงจริง ต้องตรงต่อเวลาจริงๆ ทั้งต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับอุปสรรคในการเดินทางด้วย งานทุกงานควรเริมต้นและจบลงตามกำหนดการ 📌 9. เมื่อมีโอกาสถ่ายทอดความรู้สู่ผู้อื่น จงกระทำในลักษณะ แนะนำ แจกแจงให้เห็น จงอย่าสอน ถ้าจะสอนต้องคำนึงถึงความยอมรับในตัวเรา จากผู้เรียนให้มากที่สุด 📌 10. จงเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น อย่าถือวิสาสะหยิบหรือเคลื่อนย้ายเครื่องมือของผู้อื่น โดยเจ้าของไม่ได้อนุญาตเสียก่อน 📌 11. จงเป็นผู้มองโลกในแง่ดีเสมอ ให้อภัยคน อย่าเป็นคนโกรธง่าย อย่าใช้ยาเสพติด เมื่อต้องการอารมณ์สุนทรีย์ นักดนตรีควรจะมีอารมณ์สุนทรีย์โดยธรรมชาติ มองโลกให้กว้าง 📌 12. อย่าเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น ทั้งฝีมือและพฤติกรรม คนแต่ละคนมีจริตและสิ่งเอื้ออำนวยที่แตกต่างกัน โดยธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่จะเปรียบเทียบกันได้ ความกระตือรือร้น ความทะเยอทะยาน ที่จะมีฝีมือและความรู้ที่มากขึ้น ควรขึ้นอยู่กับความท้าทายจากสิ่งที่เราเรียนรู้นี้ มิใช่เกิดขึ้นเพราะอยากเอาชนะผู้อื่น เราจะไม่วันชนะใคร ตราบเท่าที่เราอยากเอาชนะ ถ้าน้อง ๆ เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงใหลในเสียงดนตรี อยากทำงานในสายนี้ แต่ก็ติดอยู่ตรงที่ว่าเล่นดนตรีไม่เป็นสักอย่าง จะทำยังไงดี? บทความนี้มีคำตอบ! อย่างแรกเลยที่ต้องทำความเข้าใจคือ ในสายดนตรีไม่ได้มีแค่ มือกลอง กีตาร์ เบส และนักร้อง ที่ออกมายืนเบื้องหน้าเท่านั้น! แต่ยังต้องอาศัยทีมงานคอยจัดแจงเรื่องต่าง ๆ และมีองค์ประกอบที่หลากหลายอยู่เบื้องหลัง แถมสำคัญมาก ๆ อีกด้วย วันนี้เราจะมายกตัวอย่างให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง! และแน่นอนว่าทุกตำแหน่งไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ด้านดนตรีเฉพาะทาง 1.อาชีพดูแลศิลปิน ( Artist Relations ) ตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝัน เพราะดูเหมือนว่าได้ใกล้ชิดกับศิลปิน ได้ดูคอนเสิร์ตฟรี ยิ่งถ้าได้ดูแลศิลปินที่เราเป็นแฟนคลับอยู่แล้ว บอกได้เลยว่าฟินสุด ๆ แต่... หน้าที่นี้ต้องอาศัยความรับผิดชอบสูง ต้องดูแลตั้งแต่สุขภาพกาย สุขภาพใจ เพื่อให้พร้อมทำงานอยู่เสมอ รู้วิธีรับมือกับศิลปินแต่ละคน มีจิตวิทยา รับผิดชอบความปลอดภัย ความสะดวกเรียบร้อยต่าง ๆ ในการทำงาน ทั้งการซักซ้อม, การเป็นกำลังใจ รวมถึงสังเกต Feedback ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ปัจจุบันหน้าที่นี้ยังต้องช่วยถ่ายรูป รวมไปถึงเทคแคร์แฟนคลับ เรียกได้ว่า ดูแลกันแบบ 360 องศาในการพาศิลปินไปออกงาน (ทั้ง Music Video, ออกงานทุกประเภท) รู้รายละเอียดของงานทุกส่วน รับผิดชอบให้ทุกคนทำงานตรงเวลาเพื่อให้ผ่านลุล่วงไปด้วยดี และด้วยความใกล้ชิดกับศิลปิน ต้องสร้างทัศนคติที่ดีด้วย ป้องกันให้เกิดข้อผิดพลาดในงานน้อยที่สุด เตรียมรับมือทุกสถานการณ์ คุณสมบัติที่สำคัญ
2.อาชีพส่งเสริมการขาย ( Promoter Artist ) เป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ เพราะต้องวางแผนกลยุทธ์ กำหนดทิศทางต่าง ๆ เพื่อให้ศิลปินไปสู่เป้าหมายสูงสุด แน่นอนว่าวงดนตรียุคนี้จะให้มาเล่นคอนเสิร์ตอย่างเดียวก็คงไม่พอ พฤติกรรมของผู้ฟังเปลี่ยนไป แถมเดี๋ยวนี้วงดนตรีก็มากหน้าหลายตา จะทำยังไงให้คนจำศิลปินได้ ก็ต้องอาศัย "Promoter" มาช่วยวางแผนทางการตลาด อาทิเช่น ต้องวิเคราะห์เพลงและตัวตนศิลปิน ว่าควรเป็นไปในทิศทางใด ควรขายให้คนกลุ่มไหน คิดวิธีที่จะทำให้ผลงานไปถึงกลุ่มผู้ฟัง รวมถึงสื่อที่ใช้ในการโปรโมททั้งหมด (รูปภาพ, MV, Video) ช่องทางการจัดจำหน่าย ต้องตามทันโลก รู้หมดว่าในขณะนี้อะไรกำลังเป็นกระแส! เห็นภาพรวมทั้งหมด เป็นงานที่ทำงานร่วมศิลปินและฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คุณสมบัติที่สำคัญ
3.อาชีพประชาสัมพันธ์ ( Public Relation ) เมื่อศิลปินทำเพลงขึ้นมาเสร็จกระบวนการเรียบร้อยแล้ว เพลงถูกปล่อยออกมาก็ต้องอาศัยตำแหน่งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก โดยจะต้องดูว่าสื่อไหนที่ตรงกับกลุ่มคนฟังของศิลปิน จากนั้นก็เขียนข่าวส่งสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลื่นวิทยุ , สำนักข่าวบันเทิง, สิ่งพิมพ์, สื่อออนไลน์, งานแถลงข่าว หรืออื่น ๆ ซึ่งความยากอยู่ตรงที่จะมีวิธีการอย่างไรให้สื่อมวลชนมีความสนใจในตัวศิลปิน อาจจะต้องคิดแคมเปญทำร่วมกับสื่อต่าง ๆ อีกด้วย และที่สำคัญต้องผลักดันให้ศิลปินอยู่ในหน้าสื่อต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสม คุณสมบัติที่สำคัญ
4.อาชีพทำเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี (Online Music Content) ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา! แต่อย่างที่รู้กันว่าสมัยนี้สื่อออนไลน์มีความสำคัญกับสังคม แหล่งข่าวที่สำคัญส่วนมากก็มาจากอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ และใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แถมยังได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี โดยสื่อออนไลน์อย่างง่ายที่สุดคือ Facebook page ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตา 3 ไอเดียในการทำเพจเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี
ทั้ง 3 ไอเดียนี้เป็นตัวอย่างของการทำสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวกับดนตรี สามารถต่อยอดไปได้หลายอย่าง เมื่อมีฐานแฟนหรือยอดกดไลค์ที่เยอะ ก็จะมีรายได้มาจากผู้ที่สนใจซื้อพื้นที่โฆษณาในเพจ นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดเป็นงานอีเวนต์ /คอนเสิร์ตได้อีกด้วย เนื่องจากมีทั้งฐานแฟนเพจที่เป็นที่รู้จัก และ มี Connection นักดนตรีต่าง ๆ 5.ผู้จัด ( EVENT, Concert ) ถ้าเราเป็นผู้เล่นไม่ได้ ก็เป็นผู้จัดหรือผู้ว่าจ้างเองเลยละกัน! ซึ่งอาชีพนี้ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งทีมงานในหลายฝ่าย, ต้นทุน, สปอนเซอร์ และอื่น ๆ แต่ถ้าเริ่มคิดที่จะจัดงานเป็นของตัวเองแล้ว อาจจะเริ่มต้นจากเล็ก ๆ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงสูงแต่ไม่ต้องกังวลไป ประสบการณ์จะสอนเราเอง! วันนี้เราจะมาบอกแนวคิด และการเตรียมตัวเบื้องต้นสำหรับคนที่กำลังสนใจอยากเป็นผู้จัด หากอยากเริ่มต้นจัดคอนเสิร์ตต้องทำอย่างไรบ้าง?
การที่เราได้มีโอกาสเป็นผู้จัดสักครั้งหนึ่ง เป็นงานที่เหนื่อยแต่เมื่อจบงานแล้วเราจะได้เรียนรู้กับสิ่งต่าง ๆ มากมาย และจะได้ทดสอบว่าเรามีความฝันทางด้านนี้จริงหรือเปล่า Early Bird - บัตรที่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับการซื้อก่อน พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ Headliner - วงหลักของแต่ละงาน เป็นวงที่สามารถดึงดูดผู้ชมให้อยากดูมากที่สุด Rider - รายละเอียดที่ศิลปินใช้แจ้งกับผู้จัดว่ามีอุปกรณ์และเครื่องดนตรีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้ รวมถึงตำแหน่งในการแสดง Sound Check - ตรวจสอบความถูกต้องและพร้อมใช้งานของระบบเสียงทั้งหมด รวมถึงปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมก่อนทำการแสดงจริง Pre - Light - ตรวจสอบความถูกต้องของแสงให้พร้อมใช้งานตามที่ได้ดีไซน์มา ให้เข้ากับเพลงนั้น ๆ รวมถึงลำดับในการใช้แสงพร้อมโชว์ทั้งหมด Run Through - เป็นขั้นตอนรีเช็คระบบของทุกฝ่ายเหมือนแสดงจริง ตั้งแต่เริ่มจนจบ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจคิวในการแสดงทั้งหมด สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนรู้ 5 อาชีพนี้ ก็มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนอยู่ด้วย โดยจะเน้นไปที่ภาพรวมของวงการดนตรีทั้งหมด
สำหรับใครที่อยากจัดคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ดนตรี สามารถเข้าเรียนได้ที่
อาชีพทางด้านดนตรีมีอาชีพอะไรบ้าง1. นักดนตรี ... . 2. นักร้อง ... . 3. นักเรียบเรียงเพลง และ นักเรียบเรียงเสียงประสาน ... . 4. นักประพันธ์เพลง ... . 5. อาชีพนักจัดรายการเพลงหรือ ดีเจ ... . 6. อาชีพนักเต้น หรือ แดนเซอร์ ... . 7. อาชีพผู้อำนวยการสร้างผลงานเพลง หรือ โปรดิวเซอร์. นักดนตรีมีคุณสมบัติอะไรบ้างคุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพนักดนตรี
มีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมเพื่อเล่นดนตรี อดทน ทันสมัย มีความคิดริเริ่ม มีความเชื่อมั่นในตนเอง สำคัญที่สุด คือ กล้าแสดงออก
อาชีพนักแต่งเพลงมีหน้าที่ทำอะไรบ้างประพันธ์บทเพลง และระบุตัวโน๊ตเสียงสูงต่ำ ของการขับร้องและการเล่นเครื่องดนตรี ในแต่ละวันทำอะไร? 1. ศึกษาทฤษฎีดนตรี และแต่งเพลงสำหรับนักร้องและนักดนตรี 2. กำหนดเสียง เครื่องดนตรี จังหวะของเพลง และเรียบเรียงตัวโน้ตเพื่อให้ได้บทเพลงตามต้องการ
นักดนตรีทํางานที่ไหนถาม : เรียนคณะดนตรีจบแล้วทำอาชีพอะไรได้บ้าง ตอบ : นักดนตรี,ดุริยางค์ทหาร/ตำรวจ,นักแต่งเพลงมเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร,ซาวน์เอนจิเนียร์ อาจารย์สอนดนตรี,Youtuber หรือ จะเป็นธุรกิจด้านห้องซ้อมดนตรีและธุรกิจด้านจำหน่ายเครื่องดนตรี
|