ธนาคารแห่งประเทศไทยกับบทบาทด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนนอกเหนือจากการทำหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่หลักในการรักษาเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจการเงินของประเทศแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) การธนาคารเพืื่อความยั่งยืน
ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 5/2565 แถลงข่าวร่วมกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย อินโฟกราฟฟิก & มัลติมีเดีย ลูกหนี้เตรียมตัวให้พร้อม ลงทะเบียนมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์ ได้ตั้งแต่ 26 ก.ย. ถึง 30 พ.ย. 65 นี้ พาเดินสำรวจ
Smart City เมืองขอนแก่น ดำเนินรายการโดย คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร แบงก์ชาติ อัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ต.ค. 2565
เกี่ยวกับ ธปท.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นองค์กรของรัฐที่มี บทบาทหน้าที่ หลักในการบริหารจัดการให้ระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย โดยผ่านการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพในอัตราที่เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศ
ซึ่งถือเป็นการร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อให้ประชาชนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรที่มองไกล มีหลักการและร่วมมือ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของไทย” และค่านิยมร่วม “ยืนตรง มองไกล ยื่นมือ ติดดิน” โดยมีพันธกิจ “มุ่งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจการเงินที่มีเสถียรภาพ
และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทั่วถึง” สำหรับทิศทางการดำเนินงานของ ธปท. ในภาพรวมนั้น ธปท. จะดำเนินงานตาม แผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2563 – 2565) ภายใต้หัวข้อ “ธนาคารกลางท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง” (Central Bank in a Transformative World) เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่มีความผันผวน
(Volatility) ไม่แน่นอน (Uncertainty) ซับซ้อน (Complexity) และคลุมเครือ (Ambiguity) ที่ทวีความเร็วและแรงกว่าช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจเรียกสภาพแวดล้อมดังกล่าวว่า VUCA+ โดยมีพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รูปแบบธุรกิจ บริการทางการเงิน และระบบเศรษฐกิจ (disruptive technology) เป็นตัวเร่งสำคัญ นอกจากนี้ ระบบเศรษฐกิจสังคมไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการสะสมปัญหาเชิงโครงสร้างและความเปราะบางของสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่มากขึ้น ธปท. ตระหนักว่าภายใต้สภาพแวดล้อม VUCA+ โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและแรงกว่าที่เคยเป็นมา แผนยุทธศาสตร์ 3 ปีของ ธปท. จึงได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ ธปท. ทำหน้าที่ธนาคารกลางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 ปีข้างหน้า สามารถขับเคลื่อนให้ระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศมีพัฒนาการและปรับตัวได้อย่างเท่าทัน รวมทั้งส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจการเงินไทยเติบโตได้เต็มศักยภาพและมีความทนทานสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ธปท. ยังให้ความสำคัญกับการวางรากฐานสำคัญขององค์กร (internal transformation) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและศักยภาพขององค์กรในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และภารกิจของ ธปท. ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างชัดเจน ดังนั้น ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) จึงได้กำหนดประเด็นความท้าทายสำคัญ 7 ด้าน และการปรับเปลี่ยนรากฐานสำคัญขององค์กร 3 ด้าน ดังนี้ ประเด็นความท้าทายสำคัญ 7 ด้าน 1. ระบบการเงินเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลอย่างรวดเร็ว 2. กรอบและกลไกการกำกับดูแลเสถียรภาพระบบการเงินต้องเท่าทันกับความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมใหม่ 3. นโยบายการเงินและนโยบายการคลังต้องคำนึงถึงขีดจำกัด
โดยเฉพาะจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง 4. อัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวนสูงและการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของภาคเอกชนจะมีความสำคัญมากขึ้น 5. ภัยคุกคามทางไซเบอร์และความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีจะเป็นความเสี่ยงหลักของระบบการเงิน 6.
การดำเนินงานโดยคำนึงถึงความยั่งยืน (sustainability) ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 7. การรักษาความเป็นอิสระและความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายขึ้น การปรับเปลี่ยนรากฐานสำคัญขององค์กร 3
ด้าน รากฐานที่ 1 ปลดล็อกและเสริมสร้างศักยภาพของพนักงานให้เป็นพลังขององค์กร รากฐานที่ 2 ปรับวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการทำงานไปสู่การเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวสูง รากฐานที่ 3 ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลเป็นเครื่องมือหลักในทุกกระบวนการทำงาน |