Nintendo switch รุ่นใหม่ 2022

Nintendo Switch จัดเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ให้ความบันเทิงสนุกไปกับการเล่นเกม ไม่แพ้กับพวกโทรศัพท์มือถือ iPad, แท็บเล็ต หรือ โน้ตบุ๊ค และเป็นเครื่องเล่นที่พกพาง่าย เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งใช้แผ่นเกมของ Nintendo ในการเล่นโดยเฉพาะเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย โดยรูปแบบการเล่นสามารถเล่นคนเดียวหรือหลายคนได้ และสามารถร่วมเล่นกับครอบครัวได้อีกด้วย

สำหรับใครที่ชอบนั่งเกมเป็นเวลานาน ควรเลือกซื้อ เก้าอี้เกมมิ่ง เมาส์ไร้สาย หรือสำหรับเล่นเกม หรือแม้แต่จอเล่นเกม เพื่อเพิ่มความสนุกอย่างเต็มรูปแบบไปเลย วันนี้ชอบรีวิวจะมารีวิวเครื่อง Nintendo Switch รุ่นไหนดี และแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อเครื่องเกมถูกรุ่นปี 2022 ดังนี้

• Nintendo Switch รุ่น V2
• Nintendo Switch OLED
• Nintendo Switch Lite

Nintendo Switch OLED

• แม้ความละเอียด HD แต่จอแสดงผลแบบ OLED ทำให้ได้ภาพคมชัด เฉดสีสด สมจริง และเล่นในที่แสงเยอะได้ดีกว่าจอ IPS-LCD
• มีความจุพื้นที่เยอะขึ้น เหมาะกับเล่นเกมที่กินสเปกสูง
• พกพาง่าย ให้ความสะดวก สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา
• สามารถเล่นเกมได้หลายรูปแบบทั้งเล่นคนเดียวกับเพื่อน และครอบครัว
• ใช้งานสาย LAN ได้โดยตรง ทำให้ใช้งานเครือข่ายได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

Nintendo Switch รุ่น V2 (กล่องแดง)

• พกพาง่าย ให้ความสะดวก สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา
• สามารถเล่นเกมได้หลายรูปแบบทั้งเล่นคนเดียวกับเพื่อน และครอบครัว
• Joy-con ถอดออกแล้ว นำกลับไปประกอบเหมือนเดิมได้ง่าย
• สามารถใช้สายชาร์จสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB-C ชาร์จตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้อีกด้วย
• สเปกเครื่องสามารถเข้าเล่นได้ทุกเกม ภาพสวย ลื่นไหล ไม่มีกระตุก

Nintendo Switch Lite

• เหมาะกับพกพานำไปเล่นได้ทุกที่ มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา กะทัดรัด
• สเปกแรง เล่นได้ทุกเกมไม่มีกระตุก
• สามารถใช้สายชาร์จสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB-C ชาร์จตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้อีกด้วย
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการเล่นเกมคนเดียว

แนะนำ Nintendo Switch รุ่นไหนดี มีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง

สำหรับ Nintendo Switch รุ่นไหนดีที่คุณกำลังมองหา เราได้รวบรวมเครื่อง Nintendo Switch แต่ละรุ่นมาแนะนำว่ามีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้คุณมีเหตุผลในการตัดสินใจเลือกซื้อ และได้เครื่องเกมตามที่ต้องการมากที่สุด ดังนั้นไปดูกันเลยว่าแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเหมาะสมกับคุณหรือไม่

1. Nintendo Switch รุ่น V2 (กล่องแดง)

มาเริ่มกันที่อันดับแรก Nintendo Switch V2 (กล่องแดง) เป็นรุ่นที่พัฒนาจากรุ่นแรก V1 ที่ทาง Nintendo ประกาศขายรุ่นแรกไปแล้ว ซึ่ง Nintendo Switch V2 มีขนาดตัวเครื่อง102mm. x 239mm. x 13.9mm. และมีน้ำหนัก 398 g. (รวม Joy-Con) ตัวเครื่องมีขาตั้งเล็กๆ กางออกได้เล็กน้อย

มาพร้อมกับจอแสดงผล IPS-LCD มีขนาด 6.2 นิ้ว สามารถใช้งาน Touch Screen ได้ ซึ่งจอแสดงผลแบบ IPS-LCD มีความคมชัดพอสมควร สีสันสดใส โดยมีความละเอียด HD หากนำไปต่อเข้ากับอุปกรณ์ Dock หรือ TV จะได้รับความละเอียดที่ FHD ผ่านช่อง AC Adapter และเสียบสาย HDMI

ส่วนตัวชิปประมวลผลของ Nintendo ใช้ชิป NVIDIA Tegra X1 มีหน่วยความจำ RAM 4 GB และมีความจุพื้นที่ 32 GB มีช่อง USB-C 3 ช่อง มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. และสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วย Wireless (Wi-Fi) และ Bluetooth รวมไปถึงแบตเตอรี่ถึกทนใช้งานได้นาน 5-9 ชั่วโมง

จุดเด่น

• พกพาง่าย ให้ความสะดวก สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา
• สามารถเล่นเกมได้หลายรูปแบบทั้งเล่นคนเดียวกับเพื่อน และครอบครัว
• Joy-con ถอดออกแล้ว นำกลับไปประกอบเหมือนเดิมได้ง่าย
• สามารถใช้สายชาร์จสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB-C ชาร์จตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้อีกด้วย
• สเปกเครื่องสามารถเข้าเล่นได้ทุกเกม ภาพสวย ลื่นไหล ไม่มีกระตุก

จุดควรพิจารณา

• หากต้องการต่อเครือข่ายสาย LAN ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมแยกในการใช้งาน
• ไม่สามารถใช้งาน Joy-Con ขณะชาร์จ หากต้องการใช้งานต้องซื้อ Joy-Con Charging Grip
• เครื่อง Nintendo Switch ให้ความละเอียด HD เท่านั้น

2. Nintendo Switch OLED

อันดับถัดไป Nintendo Switch OLED เป็นตัวอัพเกรดจาก V2 โดยมีขนาด 102mm. x 242mm. x 13.9mm. และหนัก 420 g. (รวม Joy-Con) โดยมีความแตกต่างจาก V2 เพียงเล็กน้อย มีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น แต่มาพร้อมกับขาตั้งที่สามารถกางออก-ถอดออกได้ง่าย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED มีขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งาน Touch Screen ได้ ซึ่งจอแสดงผลแบบ OLED มีความคมชัด สีสันสดใส โดยมีความละเอียด HD หากนำไปต่อเข้ากับอุปกรณ์ Dock หรือ TV จะได้รับความละเอียดที่ FHD และได้รับสีสัน สมจริงทุกรายละเอียด ผ่านช่อง AC Adapter และเสียบสาย HDMI

ส่วนตัวชิปประมวลผลของ Nintendo ใช้ชิป NVIDIA Tegra X1 มีหน่วยความจำ RAM 4 GB และมีความจุพื้นที่ 64 GB มีช่อง USB-C 2 ช่อง มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. โดยลดช่อง USB-C ไป 1 ช่อง และเพิ่มช่องเสียบสาย LAN ทำให้ต่อสาย LAN ได้โดยตรง ไม่ต้องใช้ตัวแปลง อีกทั้งเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi และ Bluetooth ได้เช่นกัน รวมไปถึงแบตเตอรี่ถึกทนใช้งานได้นาน 5-9 ชั่วโมง

จุดเด่น

• แม้ความละเอียด HD แต่จอแสดงผลแบบ OLED ทำให้ได้ภาพคมชัด เฉดสีสด สมจริง และเล่นในที่แสงเยอะได้ดีกว่าจอ IPS-LCD
• มีความจุพื้นที่เยอะขึ้น เหมาะกับเล่นเกมที่กินสเปกสูง
• พกพาง่าย ให้ความสะดวก สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา
• สามารถเล่นเกมได้หลายรูปแบบทั้งเล่นคนเดียวกับเพื่อน และครอบครัว
• ใช้งานสาย LAN ได้โดยตรง ทำให้ใช้งานเครือข่ายได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

จุดควรพิจารณา

• มีความแตกต่างจากรุ่น V2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  เครื่อง Nintendo Switch ให้ความละเอียด HD เท่านั้น
• ไม่สามารถใช้งาน Joy-Con ขณะชาร์จ หากต้องการใช้งานต้องซื้อ Joy-Con Charging Grip

3. Nintendo Switch Lite

อันดับสุดท้ายกับ Nintendo Switch Lite มีขนาดตัวเครื่องเล็กที่สุดกับขนาด 91.1mm. x 208mm. x 13.9mm. และมีน้ำหนักเบากว่าทุกรุ่นที่ 275 g. ซึ่งไม่สามารถแยก Joy-Con แยกออกจากตัวเครื่องได้ เล่นได้เพียงโหมด Handheld เท่านั้น และไม่สามารถเชื่อมต่อ Dock หรือ TV ได้อีกด้วย

มาพร้อมกับจอแสดงผล IPS-LCD มีขนาด 5.5 นิ้ว สามารถใช้งาน Touch Screen ได้ ซึ่งจอแสดงผลแบบ IPS-LCD มีความคมชัดพอสมควร สีสันสดใส โดยมีความละเอียด HD มีขนาดจอเล็กที่สุด น้ำหนักเบา เหมาะกับพกพานำไปเล่นได้ทุกที่

ส่วนตัวชิปประมวลผลของ Nintendo ใช้ชิป NVIDIA Tegra X1+ ด้วยเทคโนโลยี 16 nm. มีหน่วยความจำ RAM 4 GB และมีความจุ 32 GB มีช่อง USB-C 3 ช่อง มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. และสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วย Wireless (Wi-Fi) และ Bluetooth รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ 3-7 ชั่วโมง

จุดเด่น

• เหมาะกับพกพานำไปเล่นได้ทุกที่ มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา กะทัดรัด
• สเปกแรง เล่นได้ทุกเกมไม่มีกระตุก
• สามารถใช้สายชาร์จสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB-C ชาร์จตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้อีกด้วย
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการเล่นเกมคนเดียว

จุดควรพิจารณา

• ไม่สามารถต่อ Dock หรือ TV ได้
• ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการซื้อไปใช้งาน Play Party
• เล่นได้เพียงโหมด Handheld เท่านั้น

Nintendo Switch คืออะไร

Nintendo คือบริษัทผู้ผลิตเกมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1889 และได้ผลิตเครื่องเกมที่ชื่อว่า Nintendo Switch ในปี 2017 โดยเป็นเครื่องเกมรูปแบบ Hybrid สามารถใช้เล่นได้ทั้งแบบคนเดียว เล่นกับเพื่อน หรือเล่นกับครอบครัวภายในบ้าน

ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Dock และ TV เพื่อรับอรรถรสในการเล่นมากขึ้น เช่น ภาพคมชัดแบบ FHD สีสันสดใส สมจริงทุกรายละเอียด เป็นต้น อีกทั้งยังใช้ชิปประมวลผล NVIDIA ทำให้เครื่องเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ทว่าการเล่นโหมด Handheld อาจทำให้ภาพไม่ชัดมากนัก เพราะเป็นเครื่องเล่นเกมที่สามารถพกพาได้ น้ำหนักเบา จึงต้องลดคุณภาพของจอแสดงผล เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของ Nintendo Switch นั่นเอง

วิธีเลือกซื้อ Nintendeo Switch ให้คุ้มค่ามากที่สุด

ดีไซน์และการออกแบบ

การเลือกซื้อ Nintendo Switch รุ่นไหนดี คุณคำนึงดีไซน์และการออกแบบของเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch เพราะตัวเครื่องมีสีให้เลือกหลายแบบ พร้อมขนาดของตัวเครื่อง ยิ่งเราเลือกสีที่ถูกใจและขนาดเครื่องที่เหมาะสม ทำให้มีความรู้สึกเล่นเกมได้นานขึ้น และเล่นได้บ่อยครั้งนั่นเอง

คุณสมบัติของเครื่อง

การคำนึงถึงคุณสมบัติของ Nintendo Switch รุ่นไหนดี เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะจริงๆแล้วเครื่อง Nintendo นอกจากเล่นเกมแล้วยังสามารถใช้งานดูหนัง ฟังเพลง และเล่น Youtube ได้อีกด้วย ซึ่งต้องเลือกจากชิปประมวลผล มีหน่วยความจำไม่ต่ำกว่า RAM 4 GB และมีพื้นที่ความจุไม่ต่ำกว่า 32 GB จึงทำให้ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่มีกระตุกแน่นอน

ความสะดวกในการใช้งาน

นอกจากการพกพาสะดวก ใช้งานง่ายแล้วนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงว่าใช้งานในรูปแบบใดเช่น เล่นคนเดียวใช้โหมด Handheld หรือเล่นกับเพื่อนและครอบครัว ซึ่ง Nintendo Switch มีสเปกใกล้เคียงกัน แต่ต้องเลือกซื้อตัวเครื่องที่เราต้องการใช้งานให้เหมาะสมกับสไตล์ของเรานั่นเอง

บทสรุปรีวิว Nintendo Switch รุ่นไหนดี 2022

สำหรับการเลือกซื้อ Nintendo Switch รุ่นไหนดี 2022 เราขอแนะนำ Nintendo Switch V2 (กล่องแดง) เพราะมีราคาถูก คุ้มค่าแก่การใช้งาน สเปกแรง แม้ตัวใหม่อย่าง OLED ออกมาไม่ได้หนีห่างจากรุ่น V2 โดยมีสเปกจอแสดงผล IPS-LCD มีขนาด 6.2 นิ้ว สามารถใช้งาน Touch Screen ได้ ขนาดตัวเครื่อง102mm. x 239mm. x 13.9mm. และมีน้ำหนัก 398 g. (รวม Joy-Con) หากนำไปต่อเข้ากับอุปกรณ์ Dock หรือ TV จะได้รับความละเอียดที่ FHD ผ่านช่อง AC Adapter และเสียบสาย HDMI

ส่วนตัวชิปประมวลผลของ Nintendo ใช้ชิป NVIDIA Tegra X1 มี RAM 4 GB/ROM 32 GB มีช่อง USB-C 3 ช่อง มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. และสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายด้วย Wireless (Wi-Fi) และ Bluetooth รวมไปถึงแบตเตอรี่ถึกทนใช้งานได้นาน 5-9 ชั่วโมง ทำให้พกพาง่าย สะดวก เล่นเกมได้ทุกที่ แสดงผลคมชัดระดับ HD สเปกแรง ซื้อเกมเล่นได้ทุกเกม ไม่จำกัดโซนในการเล่นอีกด้วย