Show NESCAFE Dolce Gusto เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้ว กับกาแฟสดแบบแคปซูลสุดสะดวก หอมอร่อยราวกับยกร้านกาแฟสดมาไว้ที่ออฟฟิศ เริ่มต้นแก้วละ 20 บาท (ซื้อเยอะลดได้อีก) แต่ปัญหาคือเราต้องลงทุน เครื่องชงกาแฟ ราคานับหลักพันบาท เลยทำให้หลายคนไม่สะดวกใจที่จะซื้อนัก เมื่อไม่นานมานี้ NESCAFE Dolce Gusto (เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้) แพ็กเกจรายเดือน (Subscription) กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าเครื่องอีกต่อไป ได้เครื่องชงกาแฟและที่ใส่แคปซูลมาใช้ฟรี เพียงแค่สมัครแพ็กเกจเริ่มต้น 897 บาท/เดือน แบบเดียวกับที่เราสมัครแพ็กเกจ 4G/3G แล้วได้สมาร์ทโฟนฟรีนั่นเอง
สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ยังไงก็ต้องดื่มกาแฟเพื่อการดำรงชีพอยู่แล้ว วันละ 1-2 แก้วก็ว่ากันไป ตรงส่วนนี้แทบจะเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันอยู่แล้ว การสมัครแพ็กเกจกาแฟรายเดือนจึงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ดีเสียอีกตรงที่ได้เครื่องชงกาแฟฟรีมาใช้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสำนักงาน ยิ่งหารกันก็ตกเดือนละไม่กี่บาท กาแฟนำเข้าจากต่างประเทศ วิธีสมัครก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่ไปที่เว็บไซต์ NESCAFE Dolce Gusto เลือกโปรโมชั่นแพ็กเกจรายเดือน (จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต) ซึ่งในตอนนี้ก็มีให้เลือก 3 แพ็กเกจด้วยกันคือ
สำหรับความแตกต่างก็จะเป็นแค่จำนวนแคปซูลต่อเดือน ลองไปนับหัวกันก่อนว่าจะดื่มทั้งหมดกี่คนและกี่วัน (แต่ถ้าเหลือก็เก็บไว้ได้อยู่ดี) ซึ่งแน่นอนว่า เครื่องชงกาแฟ + ของแถม ที่ได้แต่ละแพ็กเกจจะไม่เหมือนกัน จากที่ได้ลองเทียบสเปค ดูเหมือนเครื่องชงกาแฟแต่ละรุ่นจะต่างกันแค่ดีไซน์ และปริมาณน้ำที่ใส่ได้ (ห่างกันนิดหน่อย) ส่วนตัวผมเลือกเป็นชุด Starter Set เหมาะกับปริมาณ 2-5 คนโดยประมาณ และแคปซูลก็เลือกได้หมดทุกแบบ จะราคาถูกหรือแพงยังไงก็ได้ขอเพียงแค่ขั้นต่ำ 3 กล่อง/เดือนเป็นอันใช้ได้ คำถามยอดฮิตสำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูล
ทดลองใช้งานจริงเครื่องชงกาแฟจริงหลังจากเลือกแคปซูล เลือกแพ็กเกจ เลือกที่อยู่จัดส่งเรียบร้อยแล้ว รอประมาณ 3-4 วันสินค้าก็มาถึงที่ทำงานผ่านขนส่งเอกชน กล่องใหญ่หนาแข็งแรงดี โดยรวมแล้วประทับใจกับการจัดส่งทั้งในเรื่องเวลา และความแข็งแรงของหีบห่อ สินค้ามาถึงครบถ้วนตามที่สั่งประกอบไปด้วย NESCAFE Dolce Gusto Mini Me, Bubble Capsule Holder, Cappuccino Ice, Green Tea Latte, Espresso จะเห็นได้ว่ามีเครื่องดื่มเย็นด้วย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การสักแต่ใส่น้ำแข็ง แต่เป็นสูตรกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ทำมาโดยเฉพาะ ภายในกล่องเครื่องชงกาแฟ ก็มาพร้อมกับชุดกาแฟเริ่มต้นอีกชุด แบบเดียวกับรีวิวเก่า และคู่มือการใช้งาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับสายไฟสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ และเนื่องจากรุ่นนี้เป็นรุ่นกลาง ๆ ความพรีเมี่ยมเลยไม่ค่อยสวยหรูเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงไปด้วยคุณภาพแรงดันน้ำ 15 บาร์ แบบเดียวกับเครื่องรุ่นใหญ่ จะมีแตกต่างกันก็เพียงแค่แท๊งค์น้ำที่เล็กกว่าและระบบสัมผัสที่ไม่มี แท๊งค์น้ำด้านหลังขนาด 0.8 ลิตร หากเป็นเครื่องดื่มทั่วไปที่ไม่ใช่ กาแฟ Espresso ก็ชงได้ประมาณ 3 แก้ว ด้านบนเป็นคันโยกตัวล็อค (ต้องโยกขึ้นก่อนเสมอ) ถัดลงมาจะเป็นช่องใส่แคปซูล วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่ายคือเติมน้ำลงแท๊งค์ให้เต็ม จากนั้นเสียบปลั๊กไฟ หมุนคันโยกขึ้นแล้วดึงช่องใส่แคปซูลออกมา แล้วก็ใส่แคปซูลกลับเข้าไป และหมุนคันโยกลงคืนเท่านั้นเอง ง่ายมาก! … ผมชักตื่นเต้นจนรอไม่ไหวแล้ว กลิ่นกาแฟสดต้องหอมจนโต๊ะข้างเคียงอิจฉาเป็นแน่ “น้ำรั่ว” … เดี๋ยว! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา ในคู่มือไม่มีฟีเจอร์นี้หรอกเราจำได้ สงสัยจะมีอะไรผิดพลาดเราคงล็อคไม่ดี เอาใหม่อีกรอบแล้วกันคราวนี้ค่อย ๆ เล็งแท็งค์น้ำให้ลงล็อคกับตัวเครื่อง แต่ แต่ แต่ … น้ำยังรั่วเหมือนเดิม
โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างมีดวงเกี่ยวกับสินค้า IT แทบทุกครั้งต้องเจออะไรที่มีปัญหา ตั้งแต่ iPhone, หน้าจอ AOC, โน๊ตบุ๊ค Dell, ฯลฯ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่เวลาเจอสินค้ามีข้อบกพร่อง ก็คิดว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ ต่อให้คุณซื้อรถคันเป็นล้านก็ตาม ทดลองใช้บริการซ่อม NESCAFE Dolce Gustoเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ไม่อยากรีวิวเลย (แต่ก็ต้องทำเพราะเรา “โชคดี” เกินไป) โดยปกติแล้วเนี่ย ถ้าเราซื้อสินค้าแล้วมีปัญหาก็ต้องเอาไปเปลี่ยนที่ห้างหรือที่ร้านใช่ไหมครับ แต่กับบริการซ่อมถึงที่ทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 2 ปี ตอนแรกเข้าใจว่าจะเหมือนช่าง On-Site-Service ของทาง Dell ที่จะมาแกะงัดกันถึงที่ หรือไม่อย่างมากก็มารับเครื่องคืนแล้ววันหลังค่อยมาคืน แต่อันนี้ประทับใจมากบริษัทฯ ส่งเครื่องใหม่มาให้เลยไม่ต้องเสียเวลา เพียงแต่ว่าส่งสีขาวมาให้เพราะสีดำหมด (โทรมาแจ้งแล้ว) และเหมือนเดิมคือใช้เวลาเพียง 3-4 วันสินค้าก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกรอกเอกสารหรืออธิบายอะไรให้เสียเวลา จึงพอสรุปได้ว่าตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่เรามีเจ้าเครื่องนี้อยู่จะได้รับการบริการอย่างดี ส่งเครื่องมาเคลมให้ถึงที่โดยคุณไม่ต้องยกไปศูนย์บริการให้เสียเวลา (พนักงานออฟฟิศก็คงไม่อยากหาภาระมาให้ตัวเองอยู่แล้ว) ได้ทั้งกาแฟที่ดี อุปกรณ์ที่พร้อม แถมยังมีบริการหลังการขายที่ดีเลิศ กับราคาที่จ่ายเดือนไม่กี่ร้อยผมว่าคุ้มมาก! เอาใหม่มาเริ่มจัดวางรีวิวกันใหม่ (กล่องด้านซ้ายเปิดคราวที่แล้วก็ไม่ได้ดื่ม) อีกจุดเด่นที่ผมชอบ NESCAFE Dolce Gusto คือความสะดวกสบายของมัน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านชงกาแฟก็ได้ หากเทียบกับกรรมวิธีชงกาแฟสดทั่วไปจะสะดวกกว่ามาก แถมไม่จำเป็นเตรียมอุปกรณ์อย่างนมสด ไซรัป ฟองนม ฯลฯ ที่คุณต้องมีก็เพียงแค่แก้วใบเดียว หรือน้ำแข็งสำหรับเมนูเย็น แน่นอนว่าชุดกาแฟเริ่มต้นก็ต้องได้ (อีกชุด) ดังนั้นเอาเป็นว่าเรื่องเครื่องเสียตอนนั้นเราหายกัน ความเดิมตอนที่แล้วเรามาถึงจุดนี้ใช่ไหมครับ งั้นลองมาลุ้นกันต่อว่าน้ำจะรั่วอีกไหม ? เครื่องเคลมที่ผมได้มาอันนี้เป็นเครื่องใหม่แกะกล่องนะครับ … รั่ว ไม่รั่ว รั่ว ไม่รั่ว มาลุ้นกัน ลองใส่น้ำดูแล้วปรากฎว่าไม่รั่ว ไชโย! งั้นมารีวิวต่อไปได้ ตรงช่องวางแก้วนี้เป็นช่องรองกาแฟหยดไปในตัว สามารถปรับได้ 3 ระดับ รองรับความสูงของแก้วที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป ตรงนี้จะเป็นคันโยก (เหมือนเดิม) และปรับระดับน้ำ 7 ระดับ ปรับระดับน้ำแค่ไหนสามารถดูได้จากฝาแคปซูลครับ สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟในตอนนี้มี Green Tea Latte และ Chocochino ให้ได้เลือกดื่มกัน ส่วนเมนูกาแฟก็มีเป็นสิบรายการให้เลือกด้วยกัน เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยสำหรับชาเขียวนมร้อนหรือ “Green Tea Latte” สำหรับเมนูเย็นก็ชงได้เช่นกัน (อย่าลืมปรับคันโยกด้านหลังให้เป็นสีฟ้าแทนสีแดง) แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มีเพียงเมนูเดียวคือ “Cappuccino Ice” ส่วนอนาคตน่าจะมีเพิ่มเข้ามา อันที่จริงตอนแรกผมเองก็กังวล เกี่ยวกับการเอากาแฟร้อน ๆ ใส่ในแก้วน้ำแข็งแล้วแก้วจะแตกไหม แต่ผิดคาดคือผู้ผลิตคำนวณอุณหภูมิมาแล้วไม่ให้มันร้อน เลยสามารถเทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งได้ทันที รสชาติของกาแฟแคปซูลเป็นไงบ้างเริ่มต้นที่แก้วแรก Green Tea Latte อันนี้ทดลองดื่มหลายแบบ ตั้งแต่ดื่มร้อนไปจนถึงใส่น้ำแข็ง แต่แนะนำให้ดื่มร้อนจะอร่อยที่สุด (ต้องดื่มตอนร้อนด้วยอย่ารอจนเย็น) เป็นชาเขียวนมสูตรที่คนไทยน่าจะถูกปากกัน เพราะมีกลิ่นหอมและหวานปลายลิ้น สาวที่ออฟฟิศชอบมากครับ เมนูเย็นเพียงหนึ่งเดียว Cappuccino Ice มีการแยกเป็นเลเยอร์ชัดเจนของนมและกาแฟ (แนะนำให้คุณเติมน้ำแข็งไปก่อนจะสวยกว่า) เป็นกาแฟที่ไม่เข้มมาก เหมาะกับคนที่ไม่อยากได้กลิ่นของกาแฟแรงเกินไป แต่อยากได้รสนมมากลบเยอะหน่อย และยังต้องการคาเฟอีกอยู่ ปล.ดื่มเย็นมันก็สดชื่นดีนะ! ปิดท้ายด้วยเมนูกาแฟช็อตอย่าง Espresso แต่อย่าพึ่งตกใจไปทำไมมีแค่นี้ ไม่ได้ทำหกแต่อย่างใดครับ บางท่านอาจยังไม่คุ้นเคยกันเพราะว่า “เอสเพรสโซ่เย็น มีแค่ประเทศไทยที่เดียวในโลก” ความหมายของเอสเพรสโซ่คือกาแฟช็อตที่ไม่ใส่อะไรเลย ดื่มกันแก้วเล็กเข้ม ๆ เพียว ๆ เพื่อลิ้มรสชาติของเมล็ดกาแฟที่แท้จริง … รีวิวรสชาติออกมาดี “เกินคาด” พร้อมกลิ่นที่หอมรุนแรง แบบกาแฟสดนำเข้าจากต่างประเทศ ข้อดี
ข้อเสีย
สรุปสำหรับคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน NESCAFE Dolce Gusto เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากเพราะได้เครื่องใช้ฟรี แถมยังมีบริการหลังการขายที่ดี เทียบเรื่องราคายังไงก็ชนะขาด ส่วนเรื่องรสชาติอยากให้ลองด้วยตัวเอง แต่สำหรับผมแล้วเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ในด้านรสชาติรวมถึงราคา แถมยังเลือกเปลี่ยนได้ไม่ซ้ำซากจำเจ เหมาะกับพนักงานออฟฟิศ และผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไปอย่างมากครับ
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial |