โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (ประธานเอกพจน์กริยาเติม s, es)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense

ประธาน +กริยาช่วย+กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense

I eat a banana. ฉัน กิน กล้วย

She eats a banana. หล่อน กิน กล้วย

We should eat bananas. พวกเรา ควรจะ กิน กล้วย

He can eat banana. เขา สามารถ กิน กล้วย

A cat must eat bananas. ลิง ต้อง กิน กล้วย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประธาน + do/ does + not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense


ประธาน + กริยาช่วย + not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense


I don’t eat a banana. ฉัน ไม่ กิน กล้วย

She doesn’t eat a banana. หล่อน ไม่ กิน กล้วย

I can’t eat a banana. ผมไม่สามารถกินกล้วย (กินกล้วยไม่เป็น)

She shouldn’t eat a banana. หล่อนไม่ควรกินกล้วย

You must not eat bananas. คุณต้องไม่กินกล้วย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้ามี     กริยาช่วย ให้เอากริยาช่วยนำหน้า  

ถ้าไม่มี กริยาช่วยให้เอา Verb to do (Do, Does)

Do/Does + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense


กริยาช่วย + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ present simple tense

Do you eat a banana? คุณ กิน กล้วย ใช่ไหม // Yes, I do. /No, I don’t. ใช่  / ไม่

Does she eat a banana? หล่อน กิน กล้วย ใช่ไหม // Yes, she does. /No, she doesn’t. ใช่  / ไม่

Can you swim? คุณ สามารถ ว่ายน้ำ ใช่ไหม (คุณว่ายน้ำเป็นไหม) // Yes, I can. ใช่ (ว่ายน้ำเป็น) No, I can’t. ไม่ (ว่ายไม่เป็น)

Can’t you swim? คุณ ไม่สามารถ ว่ายน้ำ ใช่ไหม (คุณว่ายน้ำไม่เป็นใช่ไหม) // Yes, I can. ใช่ (ว่ายน้ำเป็น) No, I can’t. ไม่ (ว่ายไม่เป็น)

Should I go now? ผม ควรจะ ไป เดี๋ยวนี้ ใช่ไหม // Yes, you should. ใช่ (ควรไป) No, you shouldn’t. ไม่ (ไม่ควรไป)

Must she go now? หล่อน ต้องไป เดี๋ยวนี้ ใช่ไหม // Yes, she must. ใช่ (ต้องไป) No, she mustn’t. ไม่ (ไม่ต้องไป)


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวอย่าง ประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม Present Simple Tense

กริยาแท้ Verb to be ( is,  am,  are)

บอกเล่า She is a doctor. หล่อนเป็นหมอ

ปฏิเสธ  She is not a doctor. หรือ She isn’t a doctor. หล่อนไม่เป็นหมอ

คำถาม  Is she a doctor?  หล่อนเป็นหมอใช่ไหม

คำตอบ Yes, she is. / No, she isn’t. หรือ No, she is not. ใช่ / ไม่ใช่

บอกเล่า I am a student. ฉันเป็นนักเรียน

ปฏิเสธ  I am not a student.. หรือ I’m not a student. ฉันไม่เป็นนักเรียน

คำถาม  Are you a student? ฉันเป็นนักเรียนใช่ไหม

คำตอบ Yes, I am. / No, I’m not. หรือ No, I am not. ใช่ ไม่ใช่

บอกเล่า You are  a tiger. คุณเป็นเสือ

ปฏิเสธ  You are not a tiger. หรือ You aren’t  a tiger. คุณไม่เป็นเสือ

คำถาม  Am I a tiger? ฉันเป็นเสือใช่ไหม // คำตอบ Yes, you are. / No, you are not. หรือ No, you aren’t. ใช่/ ไม่ใช่

กริยาแท้ Verb to have (Have, Has)

กริยาตัวนี้ ถ้าเป็นกริยาแท้ในประโยค ไม่ควรเอานำหน้าเพื่อทำเป็นประโยคคำถาม ถึงแม้จะถูกต้องตามไวยากรณ์ แต่ก็ไม่นิยมใช้กันแล้ว

การสร้างประโยคคำถามและปฏิเสธให้เอา Do กับ Does มาใช้ครับ (เดี๋ยวค่อยเรียนรู้ให้ละเอียดในหัวข้อ การใช้ have has)

บอกเล่า  He has a car. เขามีรถ

ปฏิเสธ  He does not have a car. หรือ He doesn’t have a car. เขาไม่มีรถ

คำถาม  Does he have a car? เขามีรถใ่ช่ไหม

คำตอบ Yes, he does. / No, he does not. หรือ No, he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  They have a cat. พวกเขามีแมว

ปฏิเสธ  They do not have a cat. หรือ They don’t have a cat. พวกเขาไม่มีแมว

คำถาม  Do they have a car? พวกเขามีแมวใ่ช่ไหม

คำตอบ Yes, they do. / No, they do not. หรือ No, they don’t. ใช่/ ไม่ใช่

กริยาช่วย can, should, must

บอกเล่า  A dog can swim. หมาสามารถว่ายน้ำได้

ปฏิเสธ  A dog cannot swim. หรือ A dog can’t swim. หมาไม่สามารถว่ายน้ำได้

คำถาม Can a dog swim? หมาว่ายน้ำได้ใช่ไหม

คำตอบ Yes, a dog can. / No, a dog cannot. หรือ No, a dog can’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  Somchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้

ปฏิเสธ  Somchai should not go to school now. หรือ Somchai shouldn’t go to school now. สมชายไม่ควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้

คำถาม  Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม

คำตอบ Yes, Somchai should. / No, Somchai should not. หรือ No,Somchai shouldn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  She must go. หล่อนต้องไป

ปฏิเสธ She must not go. หรือ She mustn’t go. หล่อนต้องไม่ไป

คำถาม Must she  go? หลอ่นต้องไปใช่ไหม

คำตอบ Yes, She must. / No, she mustn’t. ใช่/ ไม่ใช่

ถ้าไม่มีกริยาช่วยในประโยคให้เอา Do กับ Does มาใช้ในประโยคคำถาม

บอกเล่า  I eat a banana. ฉันกินกล้วย

ปฏิเสธ  I don’t eat a banana. ฉันกินกล้วย

คำถาม  Do I eat a banana? ฉันกินกล้วยใช่ไหม

คำตอบ Yes, I do. /  No,I  don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  She eats a banana. หล่อนกินกล้วย

ปฏิเสธ  She doesn’t eat a banana. หล่อนไม่กินกล้วย

คำถาม  Dose she eat a banana? หล่อนไม่กินกล้วยใช่ไหม

คำตอบ Yes, she does. / No, she doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  They go to school by bus. พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัส

ปฏิเสธ  They don’t go to school by bus. พวกเขาไม่ไปโรงเรียนโดยรถบัส

คำถาม  Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนรถบัสใช่ไหม

คำตอบ Yes, they do. / No,they don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  He goes to school. เขาไปโรงเรียน

ปฏิเสธ  He doesn’t go to school. เขาไม่ไปโรงเรียน

คำถาม  Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม

คำตอบ Yes, he do. / No,he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

การสร้างคำถามโดยใช้ Wh-Question

(Who, What, Where, When, Why, How) ทำได้โดยเอาคำเหล่านี้นำหน้าประโยคคำถามด้านบน แต่ต้องตัดคำที่จะเป็นคำตอบออกด้วย 

Who is she?  หล่อนเป็นใคร (ตัดหมอออก เพราะต้องการคำตอบเป็นบุคคล)

She is a doctor.  หล่อนเป็นหมอ

Do they have a car? พวกเขามีรถใช่ไหม

What do they have?  พวกเขามีอะไร (ตัดรถออกเพราะต้องการคำตอบสิ่งของ)

They have a car. พวกเขามีรถ

Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม

Where does he go? พวกเขาไปที่ไหน (ตัดโรงเรียนออก เพราะต้องการคำตอบสถานที่)

He goes to school. เขาไปโรงเรียน

Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม

When should Somchai go to school? สมชายควรจะไปโรงเรียนเมื่อไหร่ (ตัดเดี๋ยวนี้ เพราะต้องการคำตอบที่เป็นเวลา)

Shomchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้

Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม

Why should Somchai go to school now? ทำไม สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ (ไม่ตัดอะไรเลย เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ในประโยค)

Because he will be late. เพราะว่า เขาจะไปสาย

Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัสใช่ไหม

How do they go to school? พวกเขาไปโรงเรียนอย่างไร (ตัดโดยรถบัสออก เพราะคำตอบต้องการวิธีการ)

They go to school by bus. พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัส

สรุปประเด็นที่ต้องจดจำให้ได้

1. การสร้างประโยคคำถาม (yes – no question) จากประโยคบอกเล่าถ้ามีให้นำหน้าประโยค (แต่ไม่ใช่ทุกตัว) ถ้าไม่มี ให้เอา Do กับ Does มาใช้แทน

2. การสร้างประโยคคำถาม (wh- question) ให้เอา wh-question นำหน้า yes-no question ได้เลย แต่ต้องตัดคำตอบออกด้วย

ข้อใดคือโครงสร้างประโยคปฏิเสธของ Present Simple Tense

รูปแบบประโยคปฏิเสธใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคล้ายกับรูปแบบประโยคคำถามคือ แบบที่ 1 : Subject + Verb to be + not + Object/ส่วนขยาย + (คำบอกเวลา) ใช้เมื่อในประโยคนั้นมี V. to be (Is, Am, Are) ปรากฎอยู่ เช่น I am your servant. ---> I am not your servant.

โครงสร้างประโยค Present Simple Tense คืออะไร

โครงสร้างประโยคของ Present simple tense คือ S + V.1. หมายเหตุ** : ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ อันได้แก่ He, She, It กริยาจะต้องเติม s หรือ es แต่ถ้าในประโยคมีกริยาช่วยอยู่แล้ว กริยาแท้ไม่ต้องเติม s,es แล้วนะจ๊ะ (do และ does ในที่นี้เป็นกริยาช่วย ฉะนั้นกริยาแท้ในประโยค จึงไม่ต้องเติม s,es แล้วนะคะ)

โครงสร้างประโยคปฏิเสธคืออะไร

โครงสร้างประโยคปฏิเสธ ประธาน + do/ does + not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)

ประโยคปฏิเสธต้องเติม s ไหม

2. ประโยคปฏิเสธ และคำถาม แม้จะเป็นประธานเอกพจน์ กริยาแท้ไม่เติม s.