เคลมประกัน เมืองไทย ไม่มี คู่กรณี

เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หลายคนต้องเสียค่า EXCESS หรือ ค่าเสียหายส่วนแรก ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ต้องเสียเลยก็ได้ เทคนิคเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี ไม่เสียค่าEXCESS


เทคนิคเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี ไม่เสียค่าEXCESS

ก่อนจะไปถึงเทคนิคเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี ไม่เสียค่าEXCESS มารู้จักค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) กับค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) ต่างกันยังไง

เคลมประกัน เมืองไทย ไม่มี คู่กรณี

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) คืออะไร

ค่าเสียหายส่วนแรก คือ จำนวนเงินที่ระบุไว้ชัดเจนว่าผู้ขับขี่ต้องชำระหากมีการเคลม คุณได้ให้ความยินยอมกับบริษัทประกันภัยว่าคุณจะชำระค่าเสียหายส่วนแรกเท่าไหร่ โดยทั่วไปคือ 1,000 ถึง 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย ความต้องการของคุณ และงบประมาณ ยิ่งคุณเลือกที่จะชำระค่าเสียหายส่วนแรกสูง ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งลดลง ตัวอย่างเช่น ค่าเบี้ยประกันต่อปีคือ 15,000 บาท หากคุณเลือกที่จะชำระค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัยของคุณก็จะลดลงไปเหลือ 10,000 บาททันที แต่เมื่อคุณต้องการเคลมประกัน คุณจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาทก่อนจึงจะเริ่มดำเนินการซ่อมได้

ถาม : เมื่อทำประกันรถยนต์ ควรเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกมากหรือน้อยดี
ตอบ   : หากคาดว่าคุณมีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุหรือชนค่อนข้างบ่อย ให้เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกน้อย จะได้เคลมความเสียหายเล็กๆ ได้ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 
        : หากคุณเป็นผู้ขับขี่รถอย่างระมัดระวัง ไม่ค่อยเคลมหรือชน ขอแนะนำให้เลือกชำระค่าเสียหายส่วนแรกมากเพื่อที่จะลดค่าเบี้ยประกันได้

เคลมประกัน เมืองไทย ไม่มี คู่กรณี

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) คืออะไร

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ คือ จำนวนเงินที่คุณต้องชำระเพิ่มเมื่อคุณเคลมประกันภัยชั้น 1 (ความคุ้มครองเต็มจำนวน) แต่ไม่มีคู่กรณี เช่น รถเกิดรอยขีดข่วนขึ้นและไม่สามารถระบุผู้กระทำได้ หรือเกิดเสียหายหรือชนเสาข้างทาง ค่า Excess ส่วนใหญ่เริ่มที่ประมาณ 1,000 บาท ตัวอย่างที่คุณอาจจะต้องจ่ายค่า Excess เอง เช่น ยางระเบิดเพราะตะปูหรือสิ่งมีคมอื่นๆ,ต้นไม้หรือสิ่งอื่นๆ ทับรถยนต์เนื่องจากพายุ,รอยขีดข่วนต่างๆ ที่ไม่สามารถระบุผู้กระทำได้,อุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี (ไม่ได้เกิดการชน)

เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นสิ่งที่ตามมา คือเรื่องของการ เคลมประกันภัยรถยนต์ ที่ผู้ขับขี่จะต้องโทรติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยให้มาในที่เกิดเหตุ เพื่อทำเรื่องการเคลมประกันภัยกับคู่กรณี หรือบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณี

เคลมประกันภัยรถยนต์ ไม่มีคู่กรณี

ในการเคลมประกันรถ อาจมีทั้งสองกรณีคือ แบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี แต่ปัญหาสำหรับการ เคลมประกันไม่มีคู่กรณี สามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ต้องทำอย่างไร เรามาดูกัน

  1. แจ้งนำรถเข้าซ่อม – โดยให้ผู้เอาประกันทำการแจ้งศูนย์บริการที่จะนำรถเข้าซ่อม พร้อมแจ้งรายละเอียดของอุบัติเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเราต้องการนำรถเข้าซ่อม ทั้งนี้ทางศูนย์บริการจะให้เราแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งเคลมและขอเลขเคลม
  2. ติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ – ทำการแจ้งว่าเราต้องการขอเลขเคลมเพื่อนำรถยนต์เข้าซ่อม โดยบริษัทประกันภัยจะรับเรื่องและขอรายละเอียดของอุบัติเหตุเพื่อดำเนินการต่อให้แบบการแจ้งเหตุไม่มีคู่กรณี
  3. แจ้งวันเวลาที่เกิดเหตุ – โดยให้แจ้งวันเวลาที่ใกล้เคียงกับวันที่เราแจ้งเคลมมากที่สุด
  4. แจ้งว่าชนเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต – เช่นถอยรถชนรั้วบ้าน กำแพง เสาไฟ ต้องสมจริงสมเหตุผลด้วยนะ และที่สำคัญอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนี ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนทางบริษัทประกันขอให้ตามหาคู่กรณี
  5. ขอเลขเคลม – การขอเลขเคลมได้ทั้งคันไม่ว่าจะชนนานแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าอย่าลืมทำตามข้อ 1 คือแจ้งวันเกิดเหตุให้ใกล้กับวันแจ้งเหตุที่สุด
  6. ได้เลขเคลม – เราสามารถนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ โดยใบเคลมมีอายุประมาณ 1 ปี
  7. นำรถเข้าซ่อม – นำรถเข้าซ่อมตามวันที่เราต้องการที่ศูนย์บริการพร้อมใบเคลม ทางศูนย์จะทำการประเมินแล้วนัดวันรับรถ
  8. หากชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกบชื่อคนแจ้งเคลม – ให้เราตอบตามความเป็นจริงว่าอาจจะเป็นชื่อสามี หรือชื่อคุณพ่อคุณแม่ เราเพียงเป็นคนใช้รถอย่างเดียว

เคลมประกัน มีคู่กรณี

เมื่อรับทราบกันแล้วว่า เคลมประกันรถยนต์ ไม่มีคู่กรณี นั้นมีขั้นตอนอย่างไร เรามาดูกันต่อว่าหากเคลมประกันแบบมีคู่กรณีนั้นจะมีขั้นตอนง่ายหรือยากกว่าไหม โดยการ แจ้งเคลมประกันมีคู่กรณี นั้นทำได้ดังนี้

  1. เตรียมกรมธรรม์ พร้อมโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกันของคุณ แจ้งเวลา หมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียน ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ ให้ละเอียด แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ประกันออกมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ประกันมาที่เกิดเหตุ ให้ผู้ขับขี่ถ่ายรูปเก็บเป็นหลักฐานเพิ่มไว้ให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องเคลื่อนรถเพราะการจราจรที่ติดขัด แต่ถ้าเป็นไปได้อย่าเคลื่อนรถจะดีกว่า
  2. เมื่อประกันมาถึงจะทำการประเมินเหตุการณ์ หากมีคู่กรณีจะตรวจสอบว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ฝ่ายที่ผิดอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ซึ่งต้องพิจารณากันอีกที
  3. หลังจากตรวจสอบเหตุการณ์แล้วประเมินค่าเสียหาย ทางบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้ถือประกัน นำรถไปเคลมกับอู่ในเครือโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด

บทความที่ใกล้เคียง : นามสกุลเดียวกันถอยรถชนกันเองเคลมได้ไหม เสียค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่

เคลมประกัน เมืองไทย ไม่มี คู่กรณี
เคลมประกัน เมืองไทย ไม่มี คู่กรณี

ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นให้ตั้งสติให้ดีก่อน จากนั้นรวบรวมข้อมูลรายละเอียดของอุบัติเหตุ ความเสียหายโดยรวม สถานที่เกิดเหตุ แล้วทำตามขั้นตอนการเคลมประกันได้เลย โดยปกติการเคลมประกันมี 2 รูปแบบที่เข้าใจกันในวงการประกันภัย คือ การเคลมสด และการเคลมแห้ง

การเคลมสด คือ  การเคลม ณ ที่เกิดเหตุซึ่งมีทั้ง การเคลมสดแบบมีคู่กรณี ซึ่งหมายถึง การที่รถชนรถด้วยกันเอง โดยเจ้าหน้าที่เคลมประกันจะทำการพิจารณาว่าใครเป็นฝ่ายผิด โดยอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้กับคู่กรณีก่อนตามแต่ที่ตกลงไว้กับทางบริษัทประกัน และการเคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี คือ รถของผู้เอาประกันชนกับสิ่งของ ชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า โดยกรณีนี้ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อนเสมอ

ขั้นตอนการ เคลมประกัน

  1. เตรียมเอกสารที่จะใช้เคลมรถ – นำไปยื่นพร้อมกับการติดต่อศูนย์ซ่อมเพื่อนำรถเข้าซ่อม
  2. นำรถเข้าศูนย์ซ่อม – เก็บของใช้ส่วนตัวให้เรียบร้อย แล้วนำรถพร้อมใบเคลมเข้าศูนย์ซ่อมได้เลย
  3. รับใบรับรถ รายละเอียดในการซ่อม – คุณจะได้รับใบรับรถที่แสดงหลักฐานในการเคลมประกัน ต้องเก็บให้ดีแล้วนำมายื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อรับรถในวันที่รถซ่อมเสร็จ
  4. เช็คสภาพยางรถยนต์ก่อนออกจากศูนย์ซ่อม อู่ซ่อม – ตรวจเช็ครถให้เรียบร้อย ควรเช็คทั้งคันทุกจุดที่ซ่อม ทดสอบให้ละเอียดก่อนเซ็นรับรถ

เคลมประกันรถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

  1. บัตรประจำตัวประชาชน
  2. ใบขับขี่รถยนต์
  3. เล่มทะเบียนรถยนต์
  4. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
  5. ใบเคลม หรือใบรับรองความเสียหายที่บริษัทประกันภัยออกไว้ให้

 

ขั้นตอนในการ เคลมประกันภัยรถยนต์ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย ฉะนั้นหากรถยนต์ของคุณเกิดอุบัติเหตุก็นำรถเข้าเคลมประกันได้เลย และที่สำคัญไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดหากคุณทำประกันภัยรถยนต์ติดไว้เป็นประจำทุกปี ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์มีความสำคัญอย่างมากเพื่อเป็นการคุ้มครองรถยนต์ของคุณ คู่กรณีได้ตลอดปี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถได้มากเลยทีเดียว และในการหาประกันภัยรถยนต์ดี ๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย เพียงติดต่อมาที่ อีซี่อินชัวร์โบรกเกอร์ ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยผู้ดูแลงานประกันภัยให้กับท่าน ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน นำเสนอความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุดให้กับท่าน เรามีทีมงานแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่คุ้มค่าที่สุดเตรียมพร้อมให้กับท่านแล้ว หรือจะเข้าชมที่เว็บไซต์เราได้ที www.easyinsure.co.th เรายินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความรับผิดชอบ และบริการที่รับรองได้ว่าท่านจะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน