ทวีปแอฟริกา มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ภูมิอากาศแห้งแล้ง และเป็นทะเลทรายส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรคาอนข้างยากลำบาก แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเพราะดินแดนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรและสินแร่มีค่าอย่างเช่นเพชร และทองคำ จำนวนมาก Show
ทวีปแอฟริกา มีแร่ทองคำมากเป็นอันดับสองรองลงมาจากทวีปอเมริกาเหนือ โดยมีปริมาณแร่ทองคำประมาณ 841.7 ล้านออนซ์ จากแหล่งแร่ทองคำ 109 แห่ง แต่ถ้าพิจารณาในเชิงคุณภาพจะพบว่า แหล่งแร่ทองคำของแอฟริกา มีคุณภาพหรือเกรดสูงกว่าในภูมิภาคอื่นของโลก โดยมีคุณภาพเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.87 กรัมต่อตัน (แหล่งแร่ทองคำ 580 แหล่งทั่วโลก มีคุณภาพทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.01 กรัมต่อตัน) นอกจากมีแหล่งแร่ทองคำคุณภาพดีแล้ว ทวีปแอฟริกายังมีแหล่งแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติการทำเหมืองแร่ที่ยาวนานที่สุดในโลกอีกด้วย ที่แหล่งแร่ทองคำที่อยู่ในแอ่งที่ราบวิตวอเตอร์สแรนด์(Witwatersrand Basin) ในประเทศแอฟริกาใต้โดยมีการทำเหมืองแร่ทองคำมาแล้วกว่า 100 ปี และถึงแม้ว่าจะมีการทำเหมืองแร่ทองคำมาอย่างยาวนานแต่ทุกวันนี้ก็ยังมีการค้นพบแหล่งแร่ทองคำใหม่ๆในอีกหลายประเทศ เช่นการค้นพบแหล่งแร่ทองคำบริเวณทะเลทรายซาฮารา ในประเทศมอริเตเนียและรัฐบาลของมอริเตเนียได้อนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าไปขุดหาทองคำในบริเวณดังกล่าวได้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ตื่นทองยุคใหม่ขึ้น เพราะทองคำที่ขุดได้สามารถขายได้ถึงราคากรัมละราว 1,300 บาท ที่ประเทศเคนยา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ได้มีการเปิดเผยการสำรวจพบแหล่งสำรองทองคำมูลค่ากว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมือง Kakamega ทางทิศตะวันตกของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าเคนยามีแหล่งสำรองแร่ทองคำและแร่มีค่าอื่น ๆในปริมาณมหาศาลเช่นเดียวกับในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น แทนซาเนีย และยูกันดา การค้นพบแหล่งสำรองทองคำนี้ทำให้เชื่อได้ว่า Kakamega น่าจะมีแหล่งสำรองสินแร่ทองคำอย่างน้อย 1.31 ล้านออนซ์ หรือมีสินแร่ทองคำ 12.1 กรัมต่อหินน้ำหนัก 1 ตัน ซึ่งเป็นการค้นพบสินแร่ทองคำที่มีสัดส่วนทองคำในหินสูงที่สุดในทวีป และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่าง ในทันที แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกราว 3
ปีในการสำรวจเพื่อทำแผนที่แหล่งสำรองสินแร่ทองคำอย่างสมบูรณ์ต่อไป เช็คราคาทองคำวันนี้และย้อนหลังได้ที่ https://www.aagold-th.com/gold-rate/ ทรัพยากรธรรมชาติทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในทวีปแอฟริกาได้แก่
ข้อความนี้ถูกเขียนใน ทรัพยากร คั่นหน้า ลิงก์ถาวร จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี แอฟริกา
แผนที่ดาวเทียมแสดงส่วนประกอบทางภูมิศาสตร์ของทวีปแอฟริกา ภาพถ่ายทวีปแอฟริกาจากนอกโลก แอฟริกา (อังกฤษ: Africa) เป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากทวีปเอเชีย ทั้งในแง่ของขนาดพื้นที่และจำนวนประชากร ด้วยพื้นที่ประมาณ 30.3 ล้านตารางกิโลเมตร รวมทั้งเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ข้างเคียง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 6% ของพื้นผิวโลกทั้งหมด และนับเป็นพื้นที่ประมาณ 20.4% ของพื้นดินทั้งหมด[6] ใน ค.ศ. 2018 แอฟริกามีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน[1] นับเป็น 16% ของประชากรโลก ประชากรในแอฟริกาเป็นกลุ่มประชากรที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก[7][8] ใน ค.ศ. 2012 ค่ามัธยฐานของอายุประชากรอยู่ที่ 19.7 ปี ขณะที่ทั่วโลกอยู่ที่ 30.4 ปี[9] แม้ว่าแอฟริกาจะมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่ว่ารายได้ประชากรต่อหัวของทวีปกลับต่ำที่สุดในโลกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ อุปสรรคเชิงภูมิศาสตร์,[10] ผลกระทบจากลัทธิล่าอาณานิคม, สงครามเย็น,[11][12][13][14][15] ความไม่เป็นประชาธิปไตย และ นโยบายที่ผิดพลาด[10] แม้ว่าความมั่งคั่งของทวีปจะต่ำ แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจพร้อมกับจำนวนประชากรอายุน้อยจำนวนมากในปัจจุบัน ทำให้แอฟริกาเป็นตลาดเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก ทวีปแอฟริกาถูกล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือ คลองสุเอซและทะเลแดงบริเวณคาบสมุทรไซนายทางตะวันออกเฉียงเหนือ มหาสมุทรอินเดียทางตะวันออก และมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันตก เกาะมาดากัสการ์และเกาะเล็กรอบ ๆ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของทวีป แอฟริกาประกอบด้วย 54 รัฐเอกราช 8 ดินแดน และ 2 รัฐที่ยังไม่ถูกยอมรับโดยสหประชาชาติโดยพฤตินัย แอลจีเรียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีป ส่วนไนจีเรียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุด ประเทศในทวีปแอฟริกาได้ร่วมมือกันจัดตั้งสหภาพแอฟริกาขึ้น มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาดดิสอาบาบา แอฟริกามีเส้นศูนย์สูตรผ่านกลางทวีปและมีเขตภูมิอากาศมากมาย แอฟริกาเป็นทวีปเดียวเท่านั้นที่มีพื้นที่ภูมิอากาศแบบอบอุ่นอยู่ในทั้งซีกโลกเหนือ และซีกโลกใต้[16] พื้นที่และประเทศส่วนใหญ่ในทวีปจะตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือ แต่ก็มีหลายประเทศอยู่ในซีกโลกใต้เช่นกัน แอฟริกามีความหลากหลายทางชีวภาพมาก สามารถพบจำนวนของสัตว์ขนาดใหญ่ได้มากที่สุด เพราะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สูญพันธุ์ยุคควอเทอร์นารีน้อยที่สุด ถึงอย่างนั้นแอฟริกาประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบอย่างหนักหลายอย่าง เช่น การขยายตัวของเขตทะเลทราย การทำลายป่า การขาดแคลนน้ำและปัญหาอื่น ๆ มีความกังวลว่าปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทวีปแอฟริกา จากการประเมินของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพบว่าแอฟริกาเป็นทวีปที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมากที่สุด[17][18] มีการยอมรับเป็นวงกว้างว่าแอฟริกาโดยเฉพาะในแอฟริกาตะวันออกเป็นถิ่นกำเนิดของมนุษย์และเคลดวงศ์ลิงใหญ่ นั้นหมายความว่าแอฟริกามีประวัติที่ซับซ้อนยาวนาน บรรพบุรุษและต้นกำเนิดของวงศ์ลิงใหญ่ถือกำเนิดขึ้นราว 7 ล้านปีก่อน เช่น ซาเฮลแอนโทรปุสชาเดนซิส, ออสตราโลพิเทคัสแอฟริกานัส, ออสตราโลพิเทคัสอะฟาเรนซิส, โฮโมอิเร็กตัส, โฮโมแฮบิลิส และ โฮโมเออร์แกสเตอร์— โครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดของโฮโมซาเปียน (มนุษย์ยุคปัจจุบัน) พบในเอธิโอเปีย แอฟริกาใต้ และ โมร็อกโก โดยมีอายุประมาณ 200,000 ปี, 259,000 ปีและ 300,000 ปีตามลำดับ จึงเชื่อได้ว่าโฮโมซาเปียนถือกำเนินในแอฟริการาว 350,000–260,000 ปีก่อน[19][20][21][22][23] อารยธรรมของมนุษย์ในยุคแรก อย่าง อียิปต์โบราณ และฟินิเชียถือกำเนิดในแอฟริกาเหนือ ประวัติศาสตร์อันยาวนานและซับซ้อนของอารยธรรม การค้า และการอพยพ ทำให้แอฟริกามีกลุ่มชาติพันธุ์ วัฒนธรรมและภาษาที่หลากหลาย ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมาอิทธิพลจากยุโรปแพร่เข้ามาในแอฟริกาเป็นอย่างมาก โดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่การค้าและค้าทาสทำให้ชาวแอฟริกันพลัดถิ่นไปอยู่ทวีปอเมริกาเป็นจำนวนมาก ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประเทศในยุโรปเข้ามาล่าอาณานิคมเกือบครบทุกพื้นที่ในทวีปนี้ ชาวยุโรปเข้ามาตักตวงทรัพยากรและหาประโยชน์จากชุมชนในท้องที่ ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกาเกิดจากกระบวนการให้เอกราชในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่สุดในทวีปแอฟริกา[แก้]
ลักษณะภูมิประเทศ[แก้]ทวีปแอฟริกาเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปทางตอนเหนือ และมีคลองสุเอซเป็นพรมแดนระหว่างทวีปเอเชียทางตะวันออกเฉียงเหนือ จุดเด่นของทวีปแอฟริกาคือ มีที่ราบสูงถึง 2 ใน 3 ของทวีป โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกของทวีป เป็นที่ราบสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 1,500 – 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีแนวภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีแนวทะเลสาบขนาดใหญ่ แล้วจะลาดต่ำไปทางตะวันตก มีเกาะมาดากัสการ์
กระแสน้ำในมหาสมุทร[แก้]
ภูมิอากาศ[แก้]ส่วนใหญ่จะมีทะเลทราย อากาศแห้งแล้ง ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชากรในทวีป ส่วนมากจะอยู่ทางตอนเหนือสุดและใต้สุดของทวีป ซึ่งมีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาอยู่บริเวณตอนเหนือ และใต้แนวศูนย์สูตร
การสำรวจ[แก้]ประเทศในยุโรปชาติแรกที่สำรวจแอฟริกา คือโปรตุเกส และหลังจากนั้นก็ถูกสำรวจโดย อังกฤษ ฝรั่งเศส และ ดัตช์ เป็นต้น นักสำรวจที่ยิ่งใหญ่ของแอฟริกามีหลายท่านด้วยกัน นักสำรวจที่รู้จักกันดีคือ ดร. เดวิด ลิฟวิงสโตน์ เศรษฐกิจ[แก้]แม้ว่าจะมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่แอฟริกากลับเป็นทวีปที่ยากจนและด้อยพัฒนา ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ เช่นการระบาดของโรคร้ายแรง (ได้แก่ โรคเอดส์ และมาลาเรีย) รัฐบาลคอร์รัปชันและละเมิดสิทธิมนุษยชน การที่รัฐบาลขาดการวางแผน ระดับการรู้หนังสือที่ต่ำ การขาดแคลนเงินทุนต่างชาติ และความขัดแย้งระหว่างชนชาติที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในรูปของกองโจร ไปจนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์[24] จากรายงานการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติในปี ค.ศ. 2004 ประเทศที่อยู่อันดับต่ำสุด 26 ประเทศ (อันดับ 151 ถึง 175) ล้วนเป็นประเทศในทวีปแอฟริกา[25] ข้อมูลเศรษฐกิจ[แก้]
1 ข้อมูลโดย IMF
2 ข้อมูลโดย IMF การคมนาคมขนส่ง[แก้]ทวีปแอฟริกายังมีปัญหาทางด้านการคมนาคมขนส่งมากกว่าทวีปอื่น ๆ เนื่องจากหลายประเทศขาดเงินทุนที่จะนำมาพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่งให้ทันสมัย ประกอบกับทวีปแอฟริกามีลักษะภูมิประเทศและมีลักษณะภูมิสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการคมนาคมขนส่ง เช่น มีเขตทะเลทรายที่มีอาณาเขตกว้างขวาง มีพื้นที่ลุ่มและป่าดิบที่กว้างใหญ่ และพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูงและภูเขา การคมนาคมขนส่งของทวีปแอฟริกาจึงใช้วิธีการดั้งเดิมกันทั่วไป ทางน้ำ[แก้]แม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำที่มีบทบาทสำคัญในการคมนาคมขนส่งของทวีปแอฟริกาต่อเนื่องกันหลายศตวรรษ แต่ละปีมีเรือชนิดต่างๆล่องขึ้นลงตามแม่น้ำไนล์มากกว่า 13000 ลำ ในอดีตมีการใช้เรือใบแล่นขึ้นตามแม่น้ำไนล์ เนื่องจากมีลมพัดขึ้นเหนือและลงใต้สลับกันตามฤดูกาล ส่วนคลองสุเอซ เป็นเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมระหว่างทะเล เมดิเตอร์เรเนียนทางเหนือ และทะเลแดงทางใต้ คลองมีความยาว 163 กิโลเมตรและกว้าง 60 เมตร คลองสุเอซทำให้การเดินเรือระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียสะดวกรวดเร็วขึ้น ทางอากาศ[แก้]ทวีปแอฟริกามีสายการบินที่ใช้ติดต่อกันทั้งระหว่างประเทศภายในทวีป และระหว่างทวีป ประเทศที่มีระบบการคมนาคมขนส่งทางอากาศที่ดีในทวีปแอฟริกา ได้แก่ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ อียิปต์ เอธิโอเปีย เคนยา ไนจีเรีย และกานา ศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศในทวีปแอฟริกา ได้แก่ ไคโร ประเทศอียิปต์, เลกอส ประเทศไนจีเรีย, โจฮันเนสเบิร์ก และเคปทาวน์ประเทศแอฟริกาใต้ ประชากร[แก้]จำนวนประชากร[แก้]ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละประเทศของทวีปแอฟริกา ทวีปแอฟริกามีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากทวีปเอเชีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดคือประเทศไนจีเรีย รองลงมาคือ ประเทศอียิปต์ ซึ่งมีอัตราการเพิ่มของประชากรสูง ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ย 30.5 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร (2552) เชื้อสายของประชากร[แก้]
ภาษา[แก้]ทวีปแอฟริกามีภาษาพูดมากกว่า 1,000 ภาษา เนื่องจากทวีปแอฟริกามีประชากรอยู่หลายเผ่าพันธุ์ และแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ 4 กลุ่ม
ขนาดพื้นที่[แก้]ทวีปแอฟริกามีพื้นที่ประมาณ 30,400,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็น 3 เท่าของทวีปยุโรป และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากทวีปเอเชีย ประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุด คือ แอลจีเรีย (2,344,872 ตารางกิโลเมตร), สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (2,322,163 ตารางกิโลเมตร) และซูดาน (1,760,000 ตารางกิโลเมตร) ตามลำดับ ในแง่ภูมิภาค ภูมิภาคที่มีขนาดพื้นที่มากที่สุดคือ แอฟริกาเหนือ (8,533,021 ตารางกิโลเมตร) ส่วนภูมิภาคที่มีขนาดพื้นที่น้อยที่สุดคือ แอฟริกาใต้ (3,083,998 ตารางกิโลเมตร) ประวัติศาสตร์[แก้]การแบ่งภูมิภาค[แก้]ทวีปแอฟริกาสามารถแบ่งได้ 5 ภูมิภาคใหญ่ ๆ ดังนี้ การแบ่งภูมิภาคของทวีปแอฟริกา ลักษณะภูมิประเทศของทวีปแอฟริกา
อ้างอิง[แก้]
ข้อมูล[แก้]
อ่านเพิ่ม[แก้]ดูเพิ่มที่ Africa Bibliography [en]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]ข้อมูลทั่วไป
|