วิธีการติดต่อสื่อสารในอดีต ข้อเสีย

สื่อ พวกเขานำเสนอมาก ความได้เปรียบ ในขณะที่ ข้อเสีย. หนึ่งในข้อดีหลักคือพวกเขาอนุญาตให้สื่อสารแม้จะมีระยะทาง.

Show

ในอีกด้านหนึ่งข้อเสียคือพวกเขาขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีขนาดใหญ่: หากล้มเหลวสื่อจะยุบ.

วิธีการติดต่อสื่อสารในอดีต ข้อเสีย

วิธีการสื่อสารสองวิธีสามารถแยกแยะได้: สื่อมวลชนและสื่อส่วนตัว สื่อมวลชนเป็นสื่อที่รับผิดชอบในการส่งข้อมูลไปยังประชากรส่วนใหญ่.

มีประโยชน์เพราะทำให้ผู้คนทันเหตุการณ์ปัจจุบัน เหล่านี้คือหนังสือพิมพ์วิทยุโทรทัศน์เครือข่ายทางสังคมและแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ.

ในทางกลับกันวิธีการสื่อสารส่วนบุคคลคือสิ่งที่อนุญาตให้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มบุคคลที่มีขนาดเล็ก: ครอบครัวเพื่อนเพื่อนร่วมงานเพื่อนร่วมงานและอื่น ๆ.

ตัวอย่างของวิธีการเหล่านี้ ได้แก่ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน / โทรศัพท์มือถือและแอปพลิเคชันการส่งข้อความทันที.

ข้อดีของสื่อ

เทคโนโลยีได้ปฏิวัติวิธีการทำงานของสื่อ ในความเป็นจริงสาขาเทคโนโลยีมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาอุปกรณ์และการเขียนโปรแกรมเพื่อปรับปรุงการสื่อสารและระบบข้อมูล.

นี่แปลเป็นชุดของข้อได้เปรียบที่จะแสดงด้านล่าง.

1- การสื่อสารระยะไกล

ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุดของสื่อคือช่วยให้การสื่อสารทางไกล.

ขอบคุณอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (โทรศัพท์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตและอื่น ๆ ) เป็นไปได้ที่จะพูดแบบเรียลไทม์กับคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน.

2- พวกเขาทันที

ก่อนที่จะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์การสื่อสารระยะไกลได้ทำผ่านไปรษณีย์.

เวลาผ่านไปนานมากระหว่างการออกจดหมายและการตอบรับซึ่งทำให้การสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะ.

อย่างไรก็ตามด้วยความก้าวหน้าด้านการสื่อสารในปัจจุบันการโต้ตอบจากระยะไกลสามารถทำได้ทันที.

มีแพลตฟอร์มหลายประเภทที่ทำให้การสื่อสารประเภทนี้เป็นไปได้ เครือข่ายสังคมเช่น Facebook และ Twitter และแอปพลิเคชันเช่น WhatsApp เป็นตัวอย่างของสิ่งเหล่านี้.

3- การศึกษาทางไกล

ก่อนหน้านี้หลักสูตรระยะทางอาจดำเนินการโดยการโต้ตอบ อย่างไรก็ตามกระบวนการอาจน่าเบื่อเนื่องจากความช้าของไปรษณีย์.

ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นที่นิยมศึกษาทางไกล ด้วยวิธีนี้นักเรียนสามารถอยู่บ้านได้ขณะเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่นเครือข่ายสังคม.

4- โลกาภิวัตน์

สื่อเพิ่มกระบวนการของโลกาภิวัตน์ การสื่อสารทางไกลไม่เพียง แต่ทำให้ประเทศใกล้ชิดกันทางวัฒนธรรมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะรวมเศรษฐกิจของโลกเข้าด้วยกัน.

5- พวกเขาราคาถูก

เมื่อพวกเขาได้รับการพัฒนาวิธีการสื่อสารที่ประหยัดสำหรับผู้ใช้.

ตัวอย่างเช่นอีเมลและเครือข่ายสังคมออนไลน์ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากการชำระค่าบริการอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าในกรณีใดการส่งอีเมลจากเม็กซิโกไปยังประเทศจีนนั้นราคาถูกกว่าการโทรออก.

6- พวกเขาลดช่องว่างทางวัฒนธรรม

นอกเหนือจากการอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้วสื่อยังช่วยกำจัดอุปสรรคด้านภาษาวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศต่าง ๆ.

ตัวอย่างเช่นวิธีการเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนจากประเทศและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมของกันและกันดีขึ้น โดยการทำเช่นนี้คุณลดอคติที่คุณอาจมีเกี่ยวกับสังคม.

7- โฆษณา

สื่อเป็นวิธีการส่งเสริมการบริการและผลิตภัณฑ์ ในแง่นี้พวกเขาเป็นข้อได้เปรียบในด้านการโฆษณาและการตลาด.

8- การเผยแพร่ข้อมูลจำนวนมาก

สื่อมวลชนจำนวนมากมีขนาดใหญ่เช่นวิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ในแง่นี้พวกเขาอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเข้าถึงประชากรส่วนใหญ่.

แม้ว่าพวกเขาจะให้ประโยชน์หลายประการ แต่สื่อก็มีข้อเสียมากมาย ด้านล่างคือบางส่วนของเหล่านี้.

1- ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี

สื่อขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีโดยตรง ซึ่งหมายความว่าหากเทคโนโลยียุบสื่อจะทำเช่นเดียวกัน.

เนื่องจากเทคโนโลยีไม่สมบูรณ์แบบในหลายกรณีมีข้อบกพร่อง ตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอาจล้มเหลวเมื่อการถ่ายโอนข้อมูลมากเกินไป.

2- พวกเขาสร้างการพึ่งพา

มนุษย์สามารถพัฒนาพึ่งพาสื่อได้ โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เทคโนโลยีการสื่อสารที่เสพติดมากที่สุด.

3- พวกเขามักจะไม่น่าเชื่อถือ

ท่ามกลางความได้เปรียบของสื่อความสำคัญของธรรมชาติขนาดใหญ่ของสื่อถูกกล่าวถึง คุณสมบัตินี้อาจเป็นลบหากข้อมูลที่ส่งไม่เป็นจริง.

ในเครือข่ายสังคมมักเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้หรือแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหา.

4- ต้นทุนการพัฒนา

การใช้สื่อมีราคาไม่แพงนัก อย่างไรก็ตามการพัฒนาของมันไม่ได้เป็น ในความเป็นจริงค่าใช้จ่ายของโครงการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมักสูงมาก.

5- ปัญหาการประพันธ์

สื่อสามารถนำปัญหาทางกฎหมายมาใช้โดยเฉพาะในเรื่องลิขสิทธิ์ เมื่อผู้เขียนอัปโหลดข้อมูลดั้งเดิมไปยังอินเทอร์เน็ตข้อมูลนี้น่าจะถูกลอกเลียนแบบโดยผู้ใช้รายอื่น.

6- ข้อมูลไม่ถูกส่ง

หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระบบสื่อข้อมูลอาจไม่ถูกส่งจากผู้ใช้รายหนึ่งไปยังอีกรายหนึ่งซึ่งขัดขวางการโต้ตอบระหว่างคู่ค้า.

7- การยักย้ายถ่ายเทมวล

สื่อสามารถนำมาใช้เพื่อจัดการกับฝูง ผู้ที่รับผิดชอบในการส่งข้อมูลผ่านสื่อมวลชนสามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนสนับสนุนหรือปฏิเสธความคิดที่แน่นอน.

8- ปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวน้อย

การมีอยู่ของโทรศัพท์เครือข่ายทางสังคมและอื่น ๆ หมายความว่าผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยลงเรื่อย ๆ กับผู้คนรอบข้างทุกวัน นี่คือข้อสังเกตส่วนใหญ่ในสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของสังคม.

นอกจากการสื่อสารกับลูกค้าซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากแล้ว การสื่อสารภายในองค์กรเองก็เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน เพราะจะช่วยทำให้พนักงานเกิดความเข้าใจในเป้าหมาย กลยุทธ์ ค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติและพฤติกรรมเป็นไปในแนวทางที่องค์กรคาดหวัง

อย่างไรก็ตาม พวกเราทราบไหมว่าการสื่อสารภายในองค์กรมักจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพและบ่อยครั้งที่ล้มเหลวกันเลยทีเดียว ดร.ชัยพัชร์ เลิศรักษ์ทวีกุล Chief Executive Officer & Founder – DeOne Academy ได้เล่าให้ฟังถึงสาเหตุหลักที่ทำให้การสื่อสารในองค์กรล้มเหลวเสมอและแนวทางในการแก้ไขป้องกันไว้ ณ ที่นี้

7 เหตุผลที่การสื่อสารล้มเหลว

1. สื่อสารแต่สารไม่ถึง

ในหลาย ๆ ครั้ง การสื่อสารในรูปแบบ Top-Down เช่น นโยบายต่าง ๆ จากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรผ่านผู้บริหารตามสายการบังคับบัญชาหลายระดับนั้น ไม่สามารถสื่อสาร Key Message ไปยังพนักงานระดับปฏิบัติการได้ครบถ้วน หรือการสื่อสารแบบ Bottom-Up ที่เป็นการสื่อสารจากพนักงานระดับปฏิบัติการ ไม่สามารถส่งต่อไปถึงผู้บริหารระดับสูงได้

เนื่องจากการที่ข้อความต้องส่งผ่านสายการบังคับบัญชาหลายระดับชั้นทำให้สารที่สื่อไปนั้นมีความคลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง อีกทั้งการสื่อสารแบบ Cross Functional Communication ระหว่างส่วนงานต่าง ๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสูญหาย เช่น ปัญหาที่ทางส่วนงานขายได้รับจากลูกค้า
ที่ไม่สามารถสื่อสารไปได้ถึงส่วนงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอาจทำให้ปัญหานั้นไม่ได้รับการแก้ไข หรือแก้ไขช้าเกิดกว่าที่ลูกค้าต้องการได้

เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าผู้นำองค์กรหรือผู้ส่งสารมีการวางแผนการสื่อสารที่ชัดเจน มีการเน้นย้ำใน Key Message ที่ต้องการสื่อเพื่อให้ผู้บริหารที่รับนโยบายรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่ต้องสื่อสารต่อไปยังพนักงานระดับปฏิบัติการ

2. สื่อสารแต่ไม่เข้าใจ

การสื่อสารที่ใช้ศัพท์เทคนิคมากเกินไป  หรือการพูดไทยคำอังกฤษคำ อาจจะทำให้ทีมงานหรือผู้รับสารไม่เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อ หรือเข้าใจเพียงบางส่วน ซึ่งทำให้การสื่อสารล้มเหลวโดยสื่อสิ่งที่เราต้องการออกไปไม่ประสบความสำเร็จ 

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความไม่เข้าใจนี้  เราควรวิเคราะห์ผู้ฟังว่ามีความเข้าใจในเรื่องที่ต้องการสื่อนั้นมากน้อยเพียงใด  เพื่อที่จะสามารถเลือกรูปแบบการใช้ภาษาที่เหมาะสมที่สุดในการสื่อสารกับทีมงาน และควรมีการทบทวนความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อสารเพื่อให้แน่ใจว่า เขาเข้าใจสิ่งที่เราสื่อไปอย่างครบถ้วน

วิธีการติดต่อสื่อสารในอดีต ข้อเสีย

3. ไม่มีสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา

วัฒนธรรมองค์กรส่วนใหญ่ในประเทศไทย มักจะหลักเลี่ยงการนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาพูดคุยปรึกษากันอย่างตรงไปตรงมา เพราะเกรงอกเกรงใจกัน กลัวว่าจะกระทบความสัมพันธ์อันดีภายในทีม จนทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างผลกระทบและยากที่จะจัดการแก้ไข

เราควรต้องสร้างบรรยากาศการแสดงความคิดเห็นในองค์กร เพื่อให้เกิดการสื่อสารปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และร่วมมือกันในการหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

4. สื่อสารไม่ครบถ้วน ขาดความชัดเจน

การสื่อสารที่ไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน การสื่อสารที่ใช้ภาษาที่เป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะก็เป็นอีกสาเหตุที่การสื่อสารในองค์กรล้มเหลว เพราะทำให้พนักงานสับสน เข้าใจคลาดเคลื่อน และนำไปสู่การปฏิบัติงานที่ผิดพลาดได้

ในการสื่อสารใด ๆ ให้กับพนักงานหรือทีมงานนั้น เราควรต้องตรวจสอบความเข้าใจเพื่อสร้างความมั่นใจว่า เขารับข้อมูลไปนั้น มีความเข้าใจในทางเดียวกัน และเป็นการให้เราได้มีโอกาสชี้แจงและอธิบายเพิ่มเติมได้

วิธีการติดต่อสื่อสารในอดีต ข้อเสีย

5. สื่อสารทางเดียว ไม่เปิดให้มีส่วนร่วม

ปัญหานี้ส่วนมากจะเกิดขึ้นในการสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน ซึ่งมักจะป็นการสื่อสารล้มเหลวแบบแจ้งให้ทราบและปฏิบัติตาม โดยไม่ได้ทบทวนว่าพนักงานเข้าใจคำสั่งแหรือแนวทางที่ผู้บริหารต้องการสื่อสารมากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็เป็นสาเหตุหลักประการนึงที่ทำให้องค์กรไม่สามารถขับเคลื่อนไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้

เราควรต้องมีการเปิดโอกาสให้พนักงานมีได้แสดงความคิดเห็นต่อนโยบาย แนวทางปฏิบัติหรือเป้าหมายขององค์กร เพื่อเป็นการสร้างความมีส่วนร่วมจากพนักงาน เพื่อให้เป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้องค์กรสามารถไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้

6. เลือกช่องทางการสื่อสารที่ไม่เหมาะสม

จริง ๆ แล้ว การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในองค์กรก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเลือกช่องทางการสื่อสารก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการสื่อสารกับพนักงานในเรื่องนโยบายสำคัญ แต่เรากลับเลือกการส่งอีเมลแทนการเรียกประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วม การสื่อสารผ่านการส่งอีเมลนั้นอาจทำให้นโยบายนั้นลดความสำคัญลงไปเลย

เราควรจะต้องมีการวางแผนช่องทางการสื่อสารให้เหมาะกับสิ่งที่เราต้องการสื่อให้ทีมงาน อีกทั้งต้องวิเคราะห์ทีมงานของเราด้วยว่ามีความสนใจในการรับสื่อจากช่องทางใดบ้างเพื่อให้การสื่อสารในเรื่องต่าง ๆ สามารถเข้าถึงทีมงาน และสร้างให้ทีมงานเห็นความสำคัญของสิ่งที่องค์กรต้องการให้เขาปฏิบัติเพื่อเป้าหมายขององค์กรได้

7. ไม่สื่อสาร (เพราะเข้าใจไปเองว่าเรารู้ คนอื่นก็ต้องรู้)

บ่อยครั้งที่ผู้สื่อสารมักจะคิดว่าสิ่งที่ตนรู้คนอื่นก็ต้องรู้เช่นกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารกันอีก ตรงนี้ก็เป็นอีกหลุมพรางของหลายองค์กร คนที่เป็นผู้บริหารมักจะคิดเองเออเองว่าเรื่องนี้ทีมงานรู้แล้ว ไม่ต้องพูดไม่ต้องย้ำหรอก ปรากฏว่าเกิดความเสียหายขึ้นเพราะทีมงานไม่รู้เรื่องนี้เลยก็ได้  สุดท้ายแล้ว องค์กรต้องรับผลจากการล้มเหลวในการสื่อสารของทีมงานที่ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบาย ไม่ได้งานตามแผนงาน เป้าหมายไม่สำเร็จ

ฉะนั้น ผู้นำทีมควรหมั่นสื่อสารกับทีมงานและตรวจสอบกับทีมงานเสมอว่าพวกเขาเข้าใจไปในทางเดียวกันกับองค์กร ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบสองทางที่มีประสิทธิภาพ หากพบว่าทีมงานไม่เข้าใจตรงไหนก็ถือโอกาสอธิบายเพิ่มเติมได้

วิธีการติดต่อสื่อสารในอดีต ข้อเสีย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะเห็นภาพสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้การสื่อสารในองค์กรของเราล้มเหลวกันบ้างไหม อ่านแล้วเชื่อว่าพวกเราคงมองเห็นประโยชน์และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดในองค์กรของเรากันนะครับ ส่วนหนึ่งของการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพมาจากการสื่อสารในการทำงานที่ไม่ดีพอ เราได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารล้มเหลวสามารถสร้างความเสียหายให้กับส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงองค์กรด้วย

อย่าลืมนะครับ เราจะต้องพยายามสร้างให้เกิดการสื่อสารที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมของพนักงานทั้งหมดในองค์กร พัฒนาให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้าต่อไป หากท่านต้องการเพิ่มทักษะการสื่อสารให้ตอบโจทย์มากขึ้น DeOne Academy มีหลักสูตรมากมายที่พร้อมตอบโจทย์

ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่: Master of Communication , Effective Cross-Functional Communication