แม้น มิ ยก พล ไกร ไปช่วย ถอดความ

อิเหนา from Warodom Techasrisutee

          ���˹�����ǡ�����֡����㨷������ѹ���������ѡ����ѡ˹�� �֧������ͧ�ʴ�������������ҧ���������ǻ�������������������͹ �е���ѹ��Ҩ֧���Ѵ����ʺѹ�ҡ�������˹Ҿѡ ���˹����͡������ҨԹ������ҵ� ��觹ҧ��Ѵ���������˹���ع�˧ѹ�Ѻ��ɺ����� ���˹����ҷ��Ż�Ѩ��Թ������͹��͹���㹷���ش ���ǡ��ûѹ����Ͷ١���ͧ��������Ѵ��������ж֧�ҹ����ɡ���Ƿ��ǡ��ûѹ�֧����������˹���������ԧ���駤��������Ǥ��ҷ�Һ�ͧ��ҹ����ɡ����͹ ���Ǵ����ø�֧��С��������˹Ҥ����ҡ���ͧ��ѹ��ҩй������Ѻ���蹺�ɺ�

ท้าวกุเรปันเป็นตัวละครในบทละครเรื่องอิเหนา  ครองกรุงกุเรปัน*  เป็นเชษฐาองค์โตของกษัตริย์วงศ์เทวา   มีโอรสองค์แรกชื่อกะหรัดตะปาตี*  ที่เกิดกับลิกูมเหสีลำดับที่ 4  ต่อมาต้องการโอรสที่เกิดกับประไหมสุหรีมเหสีเอกจึงทำพิธีบวงสรวง  และได้โอรสคืออิเหนา*   ท้าวกุเรปันมีธิดาคือวิยะดา*  และเมื่อรู้ว่าท้าวดาหา*กับประไหมสุหรีมีธิดาคือบุษบา*  ท้าวกุเรปันก็ขอตุนาหงันให้อิเหนาตามโบราณราชประเพณีของวงศ์เทวา  

เมื่อมารดาของประไหมสุหรีกุเรปันและประไหมสุหรีดาหาเสียชีวิตที่เมืองหมันหยา* ท้าวกุเรปันให้อิเหนาคุมเครื่องสักการะศพไปแทน ครั้นท้าวกุเรปันรู้ว่าอิเหนาติดพันนางจินตะหรา*  ธิดาระตูหมันหยา*ก็ให้ประไหมสุหรีกุเรปันส่งสารเรียกอิเหนากลับ  แต่ส่งสารไปถึง 2 ครั้ง  อิเหนาก็ไม่กลับ  ซ้ำยังบอกเลิกการหมั้นกับนางบุษบา  ในที่สุดเมื่อเกิดศึกกะหมังกุหนิง*  ท้าวกุเรปันจึงให้กะหรัดตะปาตีคุมทัพไปรอสมทบทัพอิเหนาเพื่อยกไปช่วยเมืองดาหา*  แล้วส่งสารไปถึงอิเหนาที่เมืองหมันหยาเพื่อให้ไปช่วยท้าวดาหารบกับท้าวกะหมังกุหนิง* ใจความในสารแสดงถึงเหตุที่เกิดสงคราม เน้นย้ำให้อิเหนาเห็นความสำคัญของวงศ์เทวาและความผิดที่อิเหนาเป็นต้นเหตุ  ดังคำประพันธ์ที่ว่า

ในลักษณ์นั้นว่าปัจจามิตร มาตั้งติดดาหากรุงใหญ่

จงเร่งรีบรี้พลสกลไกร ไปช่วยชิงชัยให้ทันที

ถึงไม่เลี้ยงบุษบาเห็นว่าชั่ว แต่เขารู้อยู่ว่าตัวนั้นเป็นพี่

อันองค์ท้าวดาหาธิบดี นั้นมิใช่อาหรือว่าไร

มาตรแม้นเสียเมืองดาหา จะพลอยอายขายหน้าหรือหาไม่

ซึ่งเกิดศึกสาเหตุเภทภัย ก็เพราะใครทำความไว้งามพักตร์

ครั้งหนึ่งก็ให้เสียวาจา อายชาวดาหาอาณาจักร

ครั้งนี้เร่งคิดดูจงนัก จะซ้ำให้เสียศักดิ์ก็ตามที

แม้นมิยกพลไกรไปช่วย ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี

อย่าดูทั้งเปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย  

นอกจากนี้ท้าวกุเรปันยังส่งสารไปตำหนิระตูหมันหยาด้วย  ครั้นรู้ว่าท้าวดาหาจะยกนางบุษบาให้จรกา*ก็คิดไปขัดขวางเพราะไม่ต้องการให้ “วงศ์เราจะระคนปนศักดิ์”  ท้าวกุเรปันได้พยายามทัดทานท้าวดาหาและกล่าวแก้ตัวแทนอิเหนาแต่ไม่สำเร็จ เมื่ออิเหนาทำอุบายเผาเมืองดาหาเพื่อชิงนางบุษบาไป  ท้าวกุเรปันรู้ดีว่าอิเหนาเป็นคนทำก็ยังสนับสนุนว่าทำถูกแล้ว

เมื่ออิเหนาออกติดตามนางบุษบา ท้าวกุเรปันจึงขอจินดาส่าหรี 3*ธิดาท้าวสิงหัดส่าหรี* ซึ่งยังไม่มีคู่ตุนาหงันให้จรกาแทนนางบุษบา เมื่อจัดการอภิเษกอิเหนาที่เมืองกาหลัง* ท้าวกุเรปันเชิญท้าวหมันหยาให้พาจินตะหรามาอภิเษกและแต่งตั้งให้จินตะหราเป็นประไหมสุหรีฝ่ายขวาของอิเหนา

อิเหนานั้นถอนหมั้นบุษบาไปอย่างไม่ไยดี ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นหน้า คู่หมั้นคนนี้เลย ทั้งนี้เพราะอิเหนาไปเจอนางจินหราวาตีก่อน จึงหลงรักยิ่งนัก

ผลของการถอนหมั้นครั้งนี้ ทำให้ท้าวดาหาพ่อของบุษบาโกรธมาก ถึงกับออกปากว่า หากเจ้าเมืองไหนมาขอก็จะยกให้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกษัตริย์วงศ์เทวัญก็ได้ ( วงศ์เทวัญมี 4 เมือง กุเรปัน ดาหา สิงหัดส่าหรี และ กาหลัง )

ทำให้กษัตริย์ต่าง ๆ มาแย่งชิงตัวนางบุษบา จนเกิดสงครามขึ้นที่เมืองดาหา (เมืองของบุษบา)

อิเหนาซึ่งไปอยู่ที่เมืองหมันหยา (เมืองของ จินตราวาตี) ก็ได้รับจดหมายจากพ่อว่า ให้ยกทัพไปช่วยรบที่เมืองดาหา เพราะเป็นเมืองพี่เเมืองน้องกัน แม้จะไม่ใช่คู่หมั้น แต่ก็มีศักดิ์เป็นพี่อยู่

"แม้นไม่เลี้ยงบุษบาเห็นว่าชั่ว

แต่เขารู้ว่าตัวนั้นเป็นพี่

อันองค์ท้าวดาหาธิบดี

นั้นมิใช่อาหรือว่าไร "

*(หมายเหตุ กลอนจำมาอาจคลาดเคลื่อนหน่อย )

อิเหนานั้นไม่อยากจะจาก นางจินตราวาตีไปเลย แต่ก็ขัดคำสั่งพ่อไม่ได้เพราะพ่อกำชับมาว่า หากไม่ยกทัพไปช่วย ก็ตัดพ่อตัดลูกไม่ต้องเผาผีกันอีก

"หากแม้นมิยกพลไกรไปช่วย

ตัวเราม้วย ก็อย่า มาดูผี

อย่าดูแม้เปลวอัคคี

ต่อแต่นี้ขาดกันจนบรรลัย "

อิเหนาจึงจำใจต้องยกทัพ อิเหนารำพึงถึงนางบุษบาว่า ทำไมถึงทำให้คนอื่นวุ่นวายขนาดนี้

" บุษบาจะงามสักเพียงไร

จึงต้องใจ ระตู ทุกบุรี

มาหลงรัก รูปนาง อยู่อย่างนั้น

จะพากัน มอดม้วย ไม่พอที่ .."

*(หมายเหตุ กลอนจำมาอาจคลาดเคลื่อนหน่อย )

ตรงนี้แหละ อิเหนาดันไปว่า กษัตริย์ที่มารบแย่งนางบุษบาว่า ผู้หญิงในโลกนี้ไม่มีแล้วรึไง มาแย่งอะไรอยู่กับนางบุษบาคนเดียว จนยอมเอาชีวิตเข้าแลก  แต่สุดท้าย คำพูดของอิเหนาก็เข้าตัว เพราะเมื่อเจอหน้านางบุษบา ก็ลืมจินตราวาตีไปเลย สมคำว่า