ยาเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของชีวิต และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ขาดไม่ได้ของสถานที่ทำงาน เพราะหากลูกจ้างเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงาน ก็ควรจะได้รับการปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงที เวชภัณฑ์และยาจึงเป็นสิ่งจำเป็น และกฎหมายไทยก็กำหนดให้สถานประกอบกิจการจัดสวัสดิการให้กับลูกจ้าง ซึ่งครอบคลุมถึงสวัสดิการด้านเวชภัณฑ์และยาอีกด้วย Show
ยาและเวชภัณฑ์ประจำโรงงาน สำนักงาน ออฟฟิศ หรือโรงเรียน ต้องมีอะไรบ้างตามกฎหมายสำหรับสถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างทำงานตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กฎกระทรวงว่าด้วยการจัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2548 ระบุให้นายจ้างจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาในจำนวนที่เพียงพออย่างน้อยตามรายการที่กฎกระทรวงได้กำหนด ซึ่งอาจนำมาจัดหมวดหมู่เป็นรายการได้ดังนี้
รายการเวชภัณฑ์และยาข้างต้นสามารถตรวจสอบได้ในกฎกระทรวง (ซึ่งนอกจากจะกำหนดให้มีเวชภัณฑ์และยาแล้ว ถ้าหากสถานที่ทำงานมีลูกจ้างทำงานในขณะเดียวกันตั้งแต่สองร้อยคนขึ้นไป ก็ยังกำหนดเพิ่มเติมให้มีห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์) (ขอบคุณภาพจาก Anastasiia Ostapovych) อย่าลืมจัดเก็บเวชภัณฑ์และยาให้พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะในตู้ยาหรือในห้องพยาบาลและหลังจากจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาในสถานที่ทำงานแล้ว นายจ้างก็ควรจัดเก็บเวชภัณฑ์และยาอย่างเป็นระเบียบในสถานที่ที่เหมาะสม เช่น เก็บในตู้ยาที่สะอาด ไม่ถูกแสงแดด และไม่มีความชื้นสูง และติดป้ายบอกว่าเป็นตู้ยา นอกจากนั้นยังต้องตรวจสอบสภาพและวันหมดอายุของเวชภัณฑ์และยาเป็นประจำ เพื่อไม่ให้มีผู้บังเอิญใช้งานยาเสื่อมสภาพ ทั้งนี้ แม้ว่าเวชภัณฑ์และยาตามรายการดังกล่าวครอบคลุมการปฐมพยาบาลอาการเจ็บป่วยทั่วไปในระดับหนึ่ง เช่น การบาดเจ็บ การเป็นไข้ หรืออาการวิงเวียน แต่นายจ้างก็สามารถจัดหาเวชภัณฑ์และยาเพิ่มเติมตามที่กฎหมายอนุญาตให้กับลูกจ้างเพื่อครอบคลุมอาการเจ็บป่วยทั่วไปที่หลากหลายยิ่งขึ้นได้ เช่น ยาอื่นๆ ในรายการยาสามัญประจำบ้าน และหากคุณลูกค้าต้องการจัดซื้อยาสำหรับสถานที่ทำงาน บริษัท CKKEQUIPMED พร้อมให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายยาในรายการยาสามัญประจำบ้าน สามารถติดต่อสอบถามหรือขอใบเสนอราคาได้ที่ ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน from Utai Sukviwatsirikul คำถามที่พบบ่อยว่า หากไม่มีใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันหรือใบอนุญาตขายยาแผนโบราณแล้ว เราจะสามารถขายยาอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะการขายยาในร้านชำหรือร้านสะดวกซื้อสำหรับประชาชนทั่วไป วิธีสังเกตเบื้องต้นว่ายาไหนสามารถขายในร้านชำหรือร้านสะดวกซื้อได้ ให้ดูว่า ข้างขวด ข้างแผง ข้างภาชนะบรรจุ เห็นคำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” ในกรอบสีเขียว หรือไม่ ถ้าเห็นก็ขายได้ ถ้าไม่เห็น แสดงว่ารูปแบบของยาที่ขายนั้นไม่ใช่ “ยาสามัญประจำบ้าน” ตัวอย่าง ยาธาตุน้ำขาว จะไม่เห็นคำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” ในกรอบสีเขียว จึงไม่สามารถขายในร้านชำหรือร้านสะดวกซื้อได้ นอกจากนี้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ในประเทศไทยขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ยาแต่ก็ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านเช่นกัน การขายจึงต้องขายในร้านขายยาแผนปัจจุบัน ในที่นี้เราจะไม่แสดงภาพตัวอย่างรายการยาสามัญประจำบ้าน (โดยเฉพาะการเห็นชื่อการค้าของยา) เพราะเกรงว่าจะมีข้อครหาหรือมีดราม่าในประเด็นต่าง ๆ เช่น เป็นการโฆษณาขายยาให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ ยาที่อยู่ในท้องตลาดมีแค่นี้หรือไม่ ทำไมไม่นำยี่ห้ออื่นมาแสดงด้วย แม้ว่าจะเข้าข่ายยาสามัญประจำบ้านก็ตาม เมื่อจะขายก็ต้องขายทั้งแผง ทั้งขวด ห้ามตัดแบ่งจากแผง หรือแบ่งจากขวดแล้วขาย ยาบางรายการอาจจะเห็นคำว่า “ยาใช้ภายนอก” “ยาใช้เฉพาะที่” เป็นส่วนที่บอกวิธีการใช้งานเท่านั้น หากไม่เห็นคำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” ในกรอบสีเขียว ก็ไม่สามารถขายในร้านชำหรือร้านสะดวกซื้อได้ กรณีฝ่าฝืน ถ้ายาที่ขายนั้นเป็นยาแผนปัจจุบันซึ่งไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันจะถือว่าขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือถ้ายาที่ขายนั้นเป็นยาแผนโบราณซึ่งไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณจะถือว่าขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท การซื้อยาสามัญประจำบ้าน อย่าลืมดูวันผลิตและวันสิ้นอายุของยา ในฉลากด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับยาสามัญประจำบ้าน สามารถศึกษาข้อมูลที่จะกล่าวถึง ดังต่อไปนี้ ยาสามัญประจำบ้าน หากยานั้นเป็นยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันสามารถขายได้โดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน ตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 13(3) หากยานั้นเป็นยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณสามารถขายได้โดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาตขายยาแผนโบราณ ตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 47(3) รายการยาสามัญประจำบ้านยาสามัญประจำบ้าน จะต้องมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งมีได้ทั้งยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน และยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันได้จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หรือศึกษารายละเอียดยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณได้จาก ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ พ.ศ.2556 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ตัวอย่างยาที่อาจเข้าข่ายเป็นยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน เช่น ยาเม็ดลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย, ยาน้ำลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย, ยาเม็ดแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ โซดามินท์, ยาขับลม (Capsicum Tincture+Compound Cardamom Tincture+Strong Ginger Tincture), ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาธาตุน้ำแดง, ยาน้ำแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ โซเดียมไบคาร์บอเนต, ยาทาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ทิงเจอร์มหาหิงคุ์, ยาเม็ดลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย-ไซเมธิโคน, ยาน้ำลดกรด อะลูมินา – แมกนีเซีย – ไซเมธิโคน, ยาผงฟู่ซิตริกแอซิด – โซเดียมไบคาร์บอเนต – โซเดียมคาร์บอเนต, ยาเม็ดแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไซเมธิโคน, ยาแก้ท้องเสีย ผงน้ำตาลเกลือแร่, ยาผงถ่านรักษาอาการท้องเสีย, ยาระบายกลีเซอรีนชนิดเหน็บทวารสำหรับเด็ก, ยาระบายกลีเซอรีนชนิดเหน็บทวารสำหรับผู้ใหญ่, ยาระบายแมกนีเซีย, ยาระบายมะขามแขก, ยาระบาย โซเดียม คลอไรด์ ชนิดสวนทวาร, ยาถ่ายพยาธิตัวกลม มีเบนดาโซล, ยาเม็ดบรรเทาปวด ลดไข้ พาราเซตามอล 500 มก., ยาเม็ดบรรเทาปวด ลดไข้ พาราเซตามอล 325 มก., ยาน้ำบรรเทาปวด ลดไข้ พาราเซตามอล, พลาสเตอร์บรรเทาปวด, ยาเม็ดแก้แพ้ ลดน้ำมูก คลอร์เฟนิรามีน, ยาน้ำแก้ไอขับเสมหะสำหรับเด็ก, ยาแก้ไอน้ำดำ, ยาดมแก้วิงเวียน เหล้าแอมโมเนียหอม, ยาดมแก้วิงเวียน แก้คัดจมูก, ยาทาระเหยบรรเทาอาการคัดจมูกชนิดขี้ผึ้ง, ยาเม็ดแก้เมารถ เมาเรือ ไดเมนไฮดริเนท, ยาล้างตาโซเดียมคลอไรด์, ยากวาดคอ, ยารักษาลิ้นเป็นฝ้า เยนเชี่ยนไวโอเลต, ยาแก้ปวดฟัน (Chlorobutanol+Clove oil), ยาอมบรรเทาอาการระคายคอ, ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอ, ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไอโอดีน, ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไทเมอรอซอล, ยาใส่แผล โพวิโดน – ไอโอดีน, ยาไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์, ยาเอทิล แอลกอฮอล์, น้ำเกลือล้างแผล, น้ำยาฆ่าเชื้อโรคคลอโรไซลีนอล, ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ แมลงกัดต่อย (ยาหม่อง ชนิดขี้ผึ้ง), ยารักษาหิดเหา เบนซิล เบนโซเอต, ยารักษาหิด ขี้ผึ้งกำมะถัน, ยารักษากลากเกลื้อน น้ำกัดเท้า, ยารักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง, ยาทาแก้ผดผื่นคัน คาลาไมน์, ยารักษาเกลื้อน โซเดียม ไทโอซัลเฟต, ยาเม็ดวิตามินบีรวม, ยาเม็ดวิตามินซี, ยาเม็ดบำรุงโลหิต เฟอร์รัส ซัลเฟต, ยาเม็ดวิตามินรวม, น้ำมันตับปลาชนิดแคปซูล, น้ำมันตับปลาชนิดน้ำ แต่ยาที่จะเข้าเกณฑ์ยาสามัญประจำบ้านได้ จะต้องเข้าเกณฑ์ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน หรือประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของสูตรยา ความแรง ขนาดบรรจุ ภาชนะบรรจุ การแสดงฉลากไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณ วิธีใช้ วิธีการเก็บรักษา คำเตือน หากไม่เข้าเกณฑ์แล้วก็ไม่สามารถอยู่ในรายการยาสามัญประจำบ้านได้ ตัวอย่าง ยาใส่แผลโพวิโดน-ไอโอดีน ฉลากตามภาพนี้ไม่ตรงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน ซึ่งให้ระบุข้อมูลได้เพียง เมื่อยานี้ให้ข้อมูลรายละเอียดมากกว่าที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน ส่งผลให้มีข้อความเมื่อไม่ตรงตามประกาศฉบับนี้ จึงไม่เข้าข่ายยาสามัญประจำบ้าน ก็ระบุคำว่ายาสามัญประจำบ้านไม่ได้ แต่ยานี้ก็จะเป็นยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ต้องขายในร้านขายยาแผนปัจจุบัน (เช่น ร้านขายยาประเภท ข.ย.1 หรือ ข.ย.2) จะตรวจสอบว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านจริงหรือไม่ได้จากที่ใดประชาชนทั่วไป สามารถสืบค้นทะเบียนตำรับยาแบบทราบรายละเอียดของทะเบียนตำรับยาได้ที่ https://privus.fda.moph.go.th จากนั้นเลือกหัวข้อ “ประชาชน” และไปที่ “ตรวจสอบข้อมูลด้านยา” หรือไปที่ http://164.115.28.102/FDA_SEARCH_DRUG/SEARCH_DRUG/FRM_SEARCH_DRUG.aspx ฉลากยาสามัญประจำบ้านยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน ต้องแสดง ฉลากยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ต้องแสดง ยาแผนปัจจุบันรายการใดที่สามารถพิจารณาให้เป็นยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบันในประเทศไทยได้นั้น มีมติคณะกรรมการยา ครั้งที่ 3/2554 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2554 วางหลักเกณฑ์ไว้ดังต่อไปนี้
|