หน่วยที่ 2 | สารบรสิ ุทธิ์ 115 เฉลยคำ�ถามทา้ ยกจิ กรรม 1. ธาตใุ ดบ้างท่มี ีสมบตั ิความมันวาว การน�ำไฟฟ้า และความเหนียว เหมือนกัน เหมือนกนั ส่วนธาตกุ ำ� มะถันและถ่านไม้ ไมม่ ันวาว นำ� ไฟฟา้ ได้ไม่ดี และไมเ่ หนียวเหมือนกัน จดุ หลอมเหลว และการน�ำความร้อน ไดผ้ ลการจำ� แนกเปน็ อย่างไร น�ำไฟฟ้าได้ดี เหนียว จุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง น�ำความร้อนได้ดี ได้แก่ อะลูมิเนียม เหล็ก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 116 หน่วยที่ 2 | สารบริสุทธิ์ กิจกรรมท้ายบท การน�ำธาตุไปใชม้ ีผลอย่างไรบา้ ง นกั เรียนจะได้เรียนรเู้ ก่ียวกบั ผลจากการใช้ธาตทุ ม่ี ตี ่อส่ิงมชี วี ิต สง่ิ แวดล้อม เศรษฐกจิ และสังคม จุดประสงค์ รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู และน�ำเสนอผลจากการใช้ธาตบุ างชนดิ เวลาทใี่ ช้ใน 50 นาที การเตรียมตัว • ครูอาจเตรียมแหลง่ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั การใชธ้ าตุโพแทสเซียมในรปู ของแร่โพแทช หรอื การใชธ้ าตุ โพแทช : แร่เศรษฐกิจที่สำ� คญั ของไทยในอนาคต กรมอุตสาหกรรมพนื้ ฐานและการเหมืองแร่
05-23-05-43-19 “แรโ่ พแทช” กระทรวงอุตสาหกรรม 23 พค. 59 DEQ1pRthh2qH8tGTQ6-lFfvdwzv2JQoU5YiB59lluDqmwNLOvPE1aVvP8xoaT- สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 2 | สารบริสทุ ธิ์ 117 ตัวอยา่ งผลการทำ�กิจกรรม 1. ถา้ บริษทั ได้รับอนุญาตใหท้ ำ� เหมอื ง บรษิ ทั จะต้องจา่ ยเงนิ ให้รฐั บาลเพ่อื ไปใชพ้ ฒั นาท้องถ่นิ สว่ นนอ้
ย ลำ� เลยี งแร่ออกมาจากปา่ ไม้ ละอองในอากาศ งาน ควรมีการจดั การนำ้� ใชก้ ่อนปลอ่ ยคนื สู่แหล่งนำ้� และการวางแผนการจ่ายไฟฟ้าใหเ้ พยี งพอ ปญั หาน้ำ� เสยี หรือผลติ กระแสไฟฟา้ ได้ไมเ่ พยี งพอ ส่วนอาจสง่ ออกไปขายต่างประเทศ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 118 หน่วยที่ 2 | สารบรสิ ทุ ธ์ิ เฉลยคำ�ถามทา้ ยกจิ กรรม 1. จากข้อมลู ขา้ งต้น จะเสนอแนะแนวทางการใชธ้ าตุอย่างปลอดภยั ค้มุ คา่ ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง การทำ� เหมอื งแรด่ งั กลา่ ว โดยมเี งอ่ื นไขใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ กฎหมายและมาตรการดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 2 | สารบริสุทธ์ิ 119 เฉลยแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 1. นำ� ขอ้ ความต่อไปนใ้ี สใ่ นช่องวา่ งของผงั มโนทศั นใ์ หถ้ กู ตอ้ งและครบถว้ น* จำ� แนกตามองคป์ ระกอบ สารบริสทุ ธิ์ จำ� แนกตามองคป์ ระกอบ ธาตุ สารประกอบ โลหะ กึง่ โลหะ อโลหะ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120 หนว่ ยท่ี 2 | สารบรสิ ุทธิ์ 2. ธาตใุ นแตล่ ะกล่มุ มีสมบตั ทิ างกายภาพเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร เขยี นอธิบายโดยใชแ้ ผนผังดงั ภาพ** สมบตั ิของโลหะ สมบตั ขิ องอโลหะ โลหะ สมบตั ิของก่งึ โลหะ อโลหะ ความหนาแน่นสงู - เหนียว 3. ในยคุ กลางของยโุ รป (500 – 1,000 ปกี ่อน) นกั เลน่ แรแ่ ปรธาตคุ น้ คว้าหาวธิ เี ปลี่ยนปรอทหรอื ตะกว่ั ให้เป็นทองค�ำ แนวคำ� ตอบ นา่ จะท�ำไมส่ �ำเร็จ เนื่องจากอะตอมของแตล่ ะธาตมุ ลี
ักษณะเฉพาะส�ำหรบั ธาตุนน้ั ในปัจจุบันการเปลีย่ น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 2 | สารบริสุทธ์ิ 121 4. นักเรียนเขียนเครอ่ื งหมาย หน้าข้อความท่ถี กู ต้อง และเครือ่ งหมาย หนา้ ข้อความทผี่ ิดและแก้ไขขอ้ ความ แนวคำ� ตอบ 4.1 ธาตตุ ่างกันรวมตวั กนั เป็นสารประกอบทำ� ให้ได้สารใหม่ทม่ี ีสมบัตแิ ตกต่างจากธาตเุ ดมิ ........................................................................................................................................................................................ 4.2 ธาตุท่สี ามารถแผร่ ังสไี ด้ เรียกว่า ธาตกุ ัมมันตรังสี ........................................................................................................................................................................................ 4.3 คารบ์ อน ไฮโดรเจน และไนโตรเจน เปน็ สารบรสิ ุทธ์ิทไี่ ม่สามารถแยกโดยวธิ ีทางเคมีได้อีก ........................................................................................................................................................................................ 4.4
มลพิษทางอากาศ ได้แก่ แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) แก๊ส ........................................................................................................................................................................................ 4.5 นิกเกลิ มีความมันวาว แข็ง สามารถน�ำไฟฟ้าและน�ำความร้อนไดด้ ี จดั เป็นธาตโุ ลหะ ........................................................................................................................................................................................ 4.6 ปรอทเปน็ โลหะ เพราะปรอทไมม่ คี วามมันวาว ไมน่ �ำความร้อน และไม่นำ� ไฟฟ้า ..............................................ปรอทจัดเปน็ โลหะเพราะ มคี วามมันวาว และนำ� ไฟฟ้าไดด้ ี ............................................. 4.7 โบรมีนมสี มบตั ินำ� ความรอ้ นและนำ� ไฟฟ้าไมด่ ี มีสถานะของเหลว จดั เป็นธาตุโลหะ .........................................โบรมีนเปน็ อโลหะ ................................................................................................................. 5. จากสูตรเคมตี ่อไปน้ี จดั กล่มุ ว่าสารใดเป็นธาตุ สารใดเปน็ สารประกอบ เพราะเหตใุ ด * O3 H2O H2 N2 H2O2 CO2 NO2 NaCl HCl I4 6. อ่านบทความเรื่อง กัมมนั ตภาพรังสใี นส่งิ แวดล้อม ต่อไปนี้ แลว้ ตอบคำ� ถาม (จะปรบั ค�ำถามในหนังสอื เรยี นใหเ้ ป็น เราอาศยั อยู่บนโลกท่มี ีกมั มนั ตภาพรังสอี ย่ทู ั่วไปในสิง่ แวดล้อม ส่วนใหญ่เปน็ รงั สที ีม่ ีอยูต่ ามธรรมชาติ และบางสว่ นเกิด สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 122 หน่วยท่ี 2 | สารบริสทุ ธิ์ 1. กมั มนั ตภาพรังสจี ากพ้ืนโลก ซง่ึ มาจากแรแ่ ละธาตุต่าง ๆ ท่เี ปน็ องค์ประกอบของโลก ทีม่ ีมาตง้ั แต่โลกถอื ก�ำเนิดขน้ึ 2. กัมมนั ตภาพรังสจี ากรงั สีคอสมกิ หรือรังสีที่มาจากนอกโลก ธรรมชาติ
จากการศึกษาวิจยั และปฏบิ ัติงานเกีย่ วขอ้ งกบั พลงั งานนิวเคลยี ร์ รังสี และวัสดกุ ัมมันตรังสี ตลอดช่วงเวลา 100 ปี ที่ ระดบั ความแรงรังสี อันตรายทอ่ี าจเกิดขึน้ 20 มลิ ลิซีเวริ ท์ ต่อปี และอาจเกดิ เป็นมะเร็งในภายหลัง ไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อผ้ปู ฏบิ ตั ิงานดา้ นนิวเคลียร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 2 | สารบริสุทธ์ิ 123 จากคำ� กลา่ วทวี่ า่ “หากใครไดร้ บั ธาตกุ
มั มนั ตรงั สี จะทำ� ใหเ้ ปน็ อนั ตรายถงึ แกช่ วี ติ ” นกั เรยี นเหน็ ดว้ ยหรอื ไม่ เพราะ แนวคำ� ตอบ ไมเ่ หน็ ดว้ ย ขน้ึ อยกู่ บั ระดบั ความแรงรงั สที ไี่ ดร้ บั จากตารางในหนงั สอื เรยี น ระดบั ความแรงรงั สที จ่ี ะท�ำให้ 7. การผลิตกระป๋องน้�ำอัดลมโดยการรีไซเคิลอะลูมเิ นียม
ใช้พลงั งานน้อยกว่าการผลิตกระป๋องจากอะลูมิเนยี มท่ีสกัด แนวคำ� ตอบ แนวทางการผลติ กระปอ๋ งนำ้� อดั ลมโดยการรไี ซเคลิ อะลมู เิ นยี ม เปน็ การประหยดั พลงั งาน ประหยดั ตน้ ทนุ 8. อะตอมของธาตชุ นดิ หน่งึ ประกอบดว้ ย 8 โปรตอน 8 นวิ ตรอน และ 8 อเิ ล็กตรอน วาดภาพแบบจำ� ลองอะตอมนี้ แนวคำ� ตอบ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 124 หนว่ ยที่ 2 | สารบริสทุ ธิ์ เฉลยแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วย 1. พบขวดสารเคมที ไี่ มต่ ดิ ฉลากบรรจสุ ารทมี่ สี ถานะของแขง็ สขี าว ไมม่ กี ลน่ิ เมอ่ื นำ� ไปทดสอบ โดยหาจดุ หลอมเหลว ก. สารน้ีเปน็ สารผสมเพราะมจี ุดหลอมเหลวไมค่ งที่ 2. นำ� ของเหลว 3 ชนดิ ไปใหค้ วามรอ้ นและบนั ทกึ ผลอณุ หภมู ทิ กุ ๆ 3 นาที จากนนั้ นำ� ขอ้ มลู มาเขยี นกราฟความสมั พนั ธ์ อณุ หภูมิ (๐C) 80 70 สาร A 50 สาร
B 30 สาร C 10 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 เวลา (นาท)ี ข้อสรปุ ใดถูกตอ้ ง สาร A และ B มอี ุณหภมู ขิ ณะเดอื ดเพ่ิมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่คงที่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 2 | สารบรสิ ทุ ธ์ิ 125 อณุ หภมู ิ (๐C) 100 จุดเดือด 60 จุดหลอมเหลว 20 สาร 3. สาร D มีจุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวกี่องศาเซลเซยี ส * ก. จุดเดือด 0 oC และจุดหลอมเหลว 40 oC ข. จดุ เดือด 40 oC และจดุ หลอมเหลว 0 oC ค. จุดเดอื ด 60 oC และจดุ หลอมเหลว 80 oC ง. จุดเดอื ด 80 oC และจดุ หลอมเหลว 60 oC เฉลย ข้อ ง พิจารณาจากกราฟ 4. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ถี กู ตอ้ ง ** ก. สาร A มจี ุดหลอมเหลวสงู กว่าสาร C และสาร D ข. สาร A มจี ุดเดอื ดต�่ำกว่าสาร B สาร C และสาร D ค. สาร C มจี ุดเดอื ดตำ่� กวา่ สาร B และสูงกวา่ สาร D ง. สาร C มจี ดุ หลอมเหลวสูงกวา่ สาร B และต�่ำกว่าสาร D เฉลย ขอ้ ง พิจารณาจากกราฟ 5. พิจารณาข้อมูลจากกราฟแล้วตอบค�ำถาม ปรมิ าตร (cm3) 5 5 มวล (g) ถา้ นำ� วัตถุทงั้ 3 ชนิดหย่อนลงในน้�ำมนั พชื ท่ีมคี วามหนาแนน่ 0.90 g/cm3 วัตถุชนดิ ใดลอยในนำ�้ มันพืชได้ ** ก. A และ B ข. A และ C ค. B และ C ง. A B และ C เฉลย ข้อ ค วัตถุที่ลอยในนำ�้ มนั พชื ได้จะมคี วามหนาแนน่ น้อยกว่านำ้� มันพชื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 126 หน่วยท่ี 2 | สารบริสทุ ธ์ิ 6. ตารางมวลและปริมาตรของวัตถุ 4 ชน้ิ วตั ถุ มวล (g) ปริมาตร (cm3) เมือ่ หาความหนาแน่นของวตั ถุทั้ง 4 ชิน้ แผนภมู แิ ทง่ ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั ข้อมูลในตาราง ก. ความหนา่ แน่น (g/cm3) ข. ความหน่าแน่น (g/cm3) 4 4 1 D ชนิดของวตั ถุ 0 AB CD ชนิดของวัตถุ ค. ความหนา่ แนน่ (g/cm3) ง. ความหนา่ แนน่ (g/cm3) 44 33 22 11 0 A B C D ชนิดของวตั ถุ 0 AB CD ชนิดของวัตถุ เฉลย ขอ้ ค เมอื่ คำ� นวณความหนาแน่นของวตั ถุท้งั 4 ชิ้น ไดด้ ังนี้ วัตถุ A = 1 g/cm3 B = 3 g/cm3 C = 2
g/cm3 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 2 | สารบรสิ ทุ ธิ์ 127 7. แกส๊ A มคี วามหนาแนน่ 0.80 g/cm3 แกส๊ B มคี วามหนาแนน่ 1.14 g/cm3 และ แกส๊ C มคี วามหนาแนน่ 0.07 g/cm3 เฉลย ข้อ ก
ขนาดของลูกโป่งพิจารณาได้จากปริมาตรของแก๊ส หากแก๊สมีปริมาตรมากจะท�ำให้ลูกโป่งมีขนาดใหญ่ 8. ตารางมวลและปริมาตรของวตั ถุทเ่ี ปน็ สารบรสิ ุทธ์ิ 4 ชนิ้ วัตถุ มวล (g) ปริมาตร (cm3) A 50 25 B 100 25 C 100 50 D 25 50 จากตาราง วตั ถุชิน้ ใดเปน็ วตั ถชุ นิดเดียวกนั ก. วตั ถุ A และ C
ข. วัตถุ A และ D ค. วัตถุ B และ C ง. วัตถุ B และ D ช้ิน อปุ กรณว์ ัดมวล อปุ กรณว์ ัดปรมิ าตร ก. เคร่อื งชงั่ สปรงิ กระบอกตวงขนาด 10 ml ข. ถว้ ยยรู กี า บกี เกอรข์ นาด 50 ml ค. เคร่ืองชงั่ คานสามแขน ถ้วยยูรีกา ง. ถ้วยยรู กี า เครือ่ งชัง่ คานสามแขน เฉลย ขอ้ ค การหาคา่ ความหนาแนน่ ของวตั ถทุ มี่ รี ปู ทรงไมเ่ ปน็ รปู ทรงเรขาคณติ อปุ กรณท์ เี่ หมาะสมสำ� หรบั วดั มวลคอื สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 128 หนว่ ยที่ 2 | สารบรสิ ุทธิ์ ใช้ขอ้ มูลในตาราง ตอบคำ� ถาม ข้อ 10 - 11 ชือ่ สาร ช่ือธาตุทเี่ ปน็ องค์ประกอบ สตู รเคมี 10. ขอ้ ใดเป็นสารประกอบทั้งหมด * ก. กรดนำ้� ส้ม โอโซน ข. ฮเี ลียม เงิน ค. แก๊สคลอรีน แมกนีเซียมคลอไรด์ ง. กรดนำ้� สม้ ปูนขาว เฉลย ข้อ ง. เพราะ ท้งั กรดน�้ำสม้ และปูนขาวมีธาตทุ เ่ี ป็นองคป์ ระกอบมากกวา่ 1 ธาตุ 11. ข้อใดเปน็ ธาตทุ ั้งหมด * ก. กรดน้�ำส้ม โอโซน ข. ฮีเลยี ม เงนิ ค. แก๊สคลอรนี แมกนีเซยี มคลอไรด์ ง. กรดนำ�้ ส้ม ปนู ขาว เฉลย ข้อ ข. เพราะ ทงั้ ฮีเลยี ม และเงนิ มธี าตุท่ีเปน็ องค์ประกอบเพยี งธาตุเดยี ว 12. ข้อใดไม่ใช่สมบตั ิของธาตุโลหะ * ก. เปราะ ข. ดึงเปน็ เส้นได้ ค. น�ำไฟฟา้ และน�ำความร้อนไดด้ ี ง. มีความมันวาว เฉลย ขอ้ ก. เพราะ โลหะ เหนยี วดงึ เปน็ เส้นได้ นำ� ไฟฟา้ และน�ำความร้อนไดด้ ี มีความมันวาว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 2 | สารบรสิ ทุ ธิ์ 129 NN OO O CO Ar 5 1 2 3 4 13. จากภาพดา้ นบนแสดงอะตอม ขอ้ ใดถูกตอ้ ง * ก. 1, 2, 3 เปน็ ธาตุ ข. 1, 2, 4 เปน็ ธาตุ ค. 2, 3, 5 เปน็ สารประกอบ ง. 3, 4, 5 เป็นสารประกอบ เฉลย ข้อ ข. เพราะ ทัง้ 1 2 4 มีธาตหุ รืออะตอมทเ่ี ปน็ องคป์ ระกอบเพียงธาตุเดียว 14.
อะตอมของธาตลุ ิเทียมมี 3 โปรตอน 4 นิวตรอน และ 3 อเิ ลก็ ตรอน แบบจ�ำลองอะตอมในข้อใด แสดงอะตอมของ โปรตอน มปี ระจุบวก นวิ ตรอน เป็นกลางทางไฟฟ้า อเิ ล็กตรอน มปี ระจุลบ ก. ข. ค. ง. เฉลย ข้อ ง. เพราะโปรตอนและนิวตรอนกระจุกรวมกันอยู่ในนิวเคลียสตรงกลางอะตอม ส่วนอิเล็กตรอนอยู่รอบ 15. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้องเกย่ี วกบั การน�ำธาตุไปใช้ * สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3หนว่ ยที่ หนว่ ยพืน้ ฐานของส่ิงมีชวี ิต
หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับ องค์ประกอบของหนว่ ย บทท่ี 1 เซลล์ บทที่ 2 การล�ำเลียงสารเข้าออกเซลล์ หนว่ ยที่ 3 | หน่วยพืน้ ฐานของส่งิ มชี วี ิต 131 บทท่ี 1 เซลล์ สาระสำ� คัญ ประกอบด้วยเซลล์ 1 เซลล์ บางชนิดประกอบด้วย เซลล์มีรูปร่างลักษณะที่หลากหลายเพ่ือให้เหมาะ จดุ ประสงค์ของบทเรียน เมอ่ื เรียนจบบทน้ีแลว้ นักเรียนจะสามารถทำ�สง่ิ ตอ่ ไปนไี้ ด้ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึม นวิ เคลียส แวควิ โอล ไมโทคอนเดรยี และคลอโรพลาสต์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 132 หน่วยที่ 3 | หน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี ีวติ ภาพรวมการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จุดประสงค์ แนวความคดิ ต่อเนื่อง กิจกรรม รายการประเมิน 1. ใช้กล้องจุลทรรศน์ 1. สงิ่ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ ประกอบดว้ ยเซลล์ กิจกรรมท่ี 3.1 นกั เรียนสามารถ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสง่ิ มีชวี ติ 133 จุดประสงค์ แนวความคิดต่อเนอ่ื ง กจิ กรรม
รายการประเมนิ 2. เปรียบเทียบรูปร่าง 1. เซลล์พืชและเซลล์สัตว์มีโครงสร้าง กิจกรรมท่ี 3.2 นกั เรียนสามารถ 2. บรรยายหน้าที่ของ 3. อธิบายความสัมพันธ์ 1. เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีรูปร่างลักษณะ ก า ร อ ่ า น แ ล ะ นักเรียนสามารถ 4. อธบิ ายการจดั ระบบของ 1. พชื และสตั วเ์ ปน็ สงิ่ มชี วี ติ หลายเซลล์ ก า ร อ ่ า น แ ล ะ นักเรียนสามารถ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 134 หนว่ ยที่ 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสงิ่ มชี วี ิต ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ทคี่ วรไดจ้ ากบทเรียน ทกั ษะ เรื่องที่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมีชวี ิต 135 แนวการจดั การเรียนรู้ ครูดำ� เนนิ การดังนี้ ความรูเ้ พ่มิ เติมสำ� หรบั ครู 1.3 นักเรียนคิดว่าสิ่งที่อยู่ภายในวงกลม 3 วงนี้ 2. ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ค�ำถามน�ำหน่วย และ 3. เช่ือมโยงเขา้ สู่บทท่ี 1 โดยครอู าจใช้คำ� ถามวา่ จากที่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 136 หนว่ ยที่ 3 | หน่วยพืน้ ฐานของสง่ิ มีชีวิต 4. ให้นักเรียนสังเกตภาพจากหนังสือเรียนซ่ึงเป็นภาพ ความร้เู พม่ิ เตมิ สำ� หรับครู 4.3 เซลล์แต่ละชนิดมีหน้าท่ีแตกต่างกันอย่างไร 4.4 เราสามารถสังเกตลกั ษณะของเซลลเ์ หล่านนั้ 5. ใหน้ กั เรยี นอา่ นจดุ ประสงคข์ องบทเรยี นและอภปิ ราย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 3 | หนว่ ยพ้นื ฐานของสงิ่ มีชวี ติ 137 เรือ่ งท่ี 1 การศึกษาเซลล์ดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศน์ แนวการจัดการเรียนรู้ ครูดำ� เนินการดงั น้ี หนว่ ยที่ 3 | หนว่ ยพืน้ ฐานของส่งิ มชี วี ติ 77 รู้จักคำ� ส�ำคัญ ทำ�
กิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรยี น เรือ่ งที่ 1 การศึกษาเซลลด์ ้วยกลอ้ งจลุ ทรรศน์ ทบทวนความรกู้ ่อนเรยี น 1. สิ่งมชี ีวติ ในภาพมีกีก่ ลุม่ อะไรบา้ ง รูอ้ ะไรบา้ งก่อนเรยี น เขยี นสิ่งท่ีร้เู กยี่ วกบั กลอ้ งจุลทรรศน์และเซลล์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลยทบทวนความรกู้ อ่ นเรียน และกลมุ่ ทีไ่ มใ่ ชพ่ ชื และสัตว์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 138 หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพืน้ ฐานของส่ิงมชี วี ิต 2. ตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับกล้องจุลทรรศน์และเซลล์โดยให้ท�ำกิจกรรมรู้อะไรบ้างก่อนเรียน นักเรียน ตวั อยา่ งแนวคดิ คลาดเคลอ่ื นซ่งึ อาจพบในเรื่องน้ี 3. น�ำนักเรียนเข้าสู่กิจกรรม 3.1 โดยอาจน�ำน้�ำ 1-2 หยด จากแหล่งน�้ำบริเวณรอบ ๆ โรงเรียนมาให้นักเรียนสังเกต 3.1 ก่อนสังเกตด้วยกล้องจุลทรรศน์ใช้แสง นักเรียนสังเกตเห็นอะไรในหยดน�้ำบ้าง (นักเรียนตอบได้ตามท่ีสังเกต 3.2 หลังจากสังเกตด้วยกล้องจลุ ทรรศน์ใช้แสง นกั เรยี นสงั เกตเห็นอะไรในหยดนำ�้ บา้ ง (นกั เรียนตอบไดต้ ามที่สงั เกต 3.3 นกั เรยี นสงั เกตเหน็ ส่ิงตา่ ง ๆ ในหยดนำ้�
ได้อย่างไร (ใช้กล้องจลุ ทรรศนใ์ ช้แสง) จะเปน็ อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบไดต้ ามความเขา้ ใจ โดยครอู ธบิ ายวา่ นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรสู้ งิ่ ตา่ ง ๆ นใี้ นกจิ กรรมตอ่ ไป) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3 | หนว่ ยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต 139 กจิ กรรมท่ี 3.1 โลกใต้กล้องจุลทรรศน์เป็นอย่างไร แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กอ่ นการท�ำกิจกรรม (ตอนท่ี 1) ครคู วรอภปิ รายในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ 1. ให้นักเรยี นอา่ นวิธกี ารดำ� เนนิ กิจกรรมตอนท่ี 1 ในหนังสือเรยี น และรว่ มกันอภปิ รายในประเด็นดงั ตอ่ ไปนี้
กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงเพ่ือให้สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง จากน้ันท�ำสไลด์ตัวอักษร สังเกตสไลด์ตัวอักษรด้วย ระหวา่ งการทำ� กจิ กรรม 3. ให้นกั เรียนทำ� กิจกรรมตามแผนท่ีวางไว้ โดยครูสังเกตวธิ กี ารใช้กล้องจุลทรรศนใ์ ชแ้ สง เน้นใหน้ กั เรยี นทุกคนไดม้ โี อกาส สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 140 หน่วยที่ 3 | หน่วยพ้ืนฐานของสิง่ มีชวี ติ หลงั การท�ำกิจกรรม 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม โดยน�ำผลการท�ำกิจกรรมไปติดบนกระดาน หรือน�ำข้อมูลไปเปรียบ 5. และนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรม โดยอาจเลอื กเฉพาะผลกจิ กรรมทถ่ี กู ตอ้ งชดั เจนและผล 6. ใหน้ กั เรยี นตอบคำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม และร่วมกนั อภปิ รายค�ำตอบเพอ่ื ให้นักเรยี นสรปุ ไดว้ ่า กล้องจลุ ทรรศนช์ ่วยใหม้ อง 7. เชอ่ื มโยงความรขู้ องนกั เรยี นทไี่ ดจ้ ากการอภปิ รายกจิ กรรมตอนท่ี 1 กบั กจิ กรรมทจี่ ะเรยี นตอ่ ไป โดยอาจใชค้ ำ� ถามวา่ ถา้ ก่อนการท�ำกิจกรรม (ตอนที่ 2) 8. ใหน้ กั เรยี นอ่านวธิ กี ารดำ� เนินกจิ กรรมตอนที่
2 จากหนังสือเรยี น และรว่ มกันอภิปรายในประเด็นดังตอ่ ไปน้ี พชื เนอื้ เยอ่ื สตั ว์ และสงิ่ มชี วี ติ เซลลเ์ ดยี ว วาดภาพตามทส่ี งั เกตเหน็ จากนนั้ นำ�
ภาพมาจดั แสดงและรว่ มกนั อภปิ ราย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 3 | หน่วยพนื้ ฐานของสง่ิ มชี วี ิต 141 ระหว่างการทำ� กจิ กรรม คล้ายคลึงกันหรือลักษณะร่วมของเซลล์สิ่งมีชีวิต ทั้งพืช สัตว์
และสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น การมีลักษณะเป็นห้อง ๆ เฉลยคำ�ถามระหว่างเรียน แกป้ ัญหาอย่างไร เส้นใยจากธรรมชาติและสารอ่นื ๆ ทีเ่ ติมแตง่ ให้เกดิ ลักษณะทเ่ี หมาะสมกบั การใชง้ าน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 142 หน่วยที่ 3 | หนว่ ยพนื้ ฐานของส่งิ มีชวี ติ 15. ร่วมกันอภิปรายสรุปเนื้อหาท้ังหมดท่ีได้เรียนรู้จากการท�ำกิจกรรมและการอ่านเพ่ิมเติมเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า 16. ถ้าครูพบว่านักเรียนมีแนวคิดคลาดเคล่ือนเก่ียวกับเร่ืองน้ี ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อแก้ไขแนวคิดคลาดเคล่ือนให้ แนวคิดคลาดเคลือ่ น แนวความคดิ ท่ีถกู ตอ้ ง 17. เช่ือมโยงองค์ความร้ทู ี่ไดไ้ ปยังเร่อื งโครงสรา้ งและหน้าท่ีของเซลลท์ ่จี ะเรียนในเรอื่ งถัดไป โดยครอู าจใชค้ �ำถาม เช่น จาก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3 | หนว่ ยพืน้ ฐานของสงิ่ มชี ีวิต 143 กจิ กรรมที่ 3.1 โลกใต้กลอ้ งจลุ ทรรศน์เปน็ อยา่ งไร นกั เรียนจะได้เรยี นรู้เก่ยี วกบั หนว่ ยพนื้ ฐานของสิ่งมชี วี ติ ผ่านการใช้กล้องจลุ ทรรศน์ใชแ้ สง จากนัน้ จึงนำ� ผลท่ีได้จากการ จดุ ประสงค์ 1. สังเกตและอภิปราย เพื่อระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ีแต่ละส่วนประกอบของ 2. ฝึกปฏิบัติการใชก้ ล้องจลุ ทรรศน์ใชแ้ สงเพอ่ื สงั เกตเซลล์ เวลาที่ใช้ใน 1 ช่ัวโมง 30 นาที วสั ดุและอปุ กรณ์ รายการ ปริมาณ/กลุม่ 3. สไลด์ 1 แผ่น 4. สไลดถ์ าวรของเนอ้ื เยื่อพืช เชน่ ล�ำต้น ใบ 1 แผน่ 5. สไลดถ์ าวรของเน้อื เยอ่ื สตั ว์ เช่น ล�ำไส้เลก็ กลา้ ม 1 ดา้ ม 7. ปากกา 8. เทปใส 9. กระดาษขาว ขนาด 1 cm x 1 cm สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 144 หนว่ ยที่ 3 | หน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี ีวติ การเตรยี มตัว • เตรียมกลอ้ งจุลทรรศน์ใช้แสงใหอ้ ย่ใู นสภาพพร้อมใช้งาน • ควรใช้จานหมุนในการเปล่ียนก�ำลังขยายของเลนส์ใกล้วัตถุและหมุนให้เข้าท่ีตรงกับล�ำกล้อง • เมื่อใช้เลนส์ใกล้วัตถุก�ำลังขยายขนาด 40 เท่า ไม่ควรปรับระยะภาพด้วยปุ่มปรับภาพหยาบ • ควรปรับเลนสใ์ กล้วัตถุให้เป็นเลนสท์ ่ีมีกำ� ลังขยายตำ่� สดุ ก่อนน�ำสไลด์ออก • ครูควรดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดในการศึกษาส่วนประกอบและการใช้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง • การเขียนตัวอักษรบนสไลด์เพื่อน�ำมาศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์ใช้แสง ควรเขียนให้มีขนาด • เมื่อนักเรียนท�ำกิจกรรมเรียบร้อยแล้ว ท�ำความสะอาดสไลด์โดยใช้แอลกอฮอล์เช็ดตัวอักษร ส่ือการเรยี นรู/้ • หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ปที ี่ 1 สสวท. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมีชีวิต 145 ตัวอยา่ งผลการทำ�กิจกรรม ตอนที่ 1 กอ่ นสงั เกตดว้ ยแว่นขยาย หลังสังเกตด้วยแวน่ ขยาย 2. ภาพท่ีสังเกตไดห้ ลังจากใชเ้ ลนส์ใกลว้ ัตถขุ นาด 4X 10X และ 40X กลอ้ กงอ่ จนลุ สทังรเรกศตนด์ใ้วชย้แสง ก�ำลังขยาย 40 เทา่ ก�ำลงั ขยาย 100 เท่า ก�ำลงั ขยาย 400 เทา่ หลงั สงั เกตด้วย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 146 หน่วยที่ 3 | หนว่ ยพนื้ ฐานของส่ิงมชี วี ติ ตัวอยา่ งผลการทำ�กจิ กรรม ตอนที่ 1 (ตอ่ ) 3. ภาพท่ีสงั เกตได้จากการเลือ่ นแท่นวางสไลดไ์ ปทางซา้ ย ขวา บน และลา่ ง เมอ่ื เลือ่ นสไลด์ไปทางซา้ ย เมือ่ เล่อื นสไลดไ์ ปทางขวา ก่อนเลือ่ นสไลด์ เม่อื เล่อื นสไลด์ข้ึนบน เมอื่ เล่อื นสไลด์ลงล่าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยท่ี 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมีชวี ิต 147 เฉลยคำ�ถามทา้ ยกจิ กรรม 1. แวน่ ขยายมสี ว่ นประกอบและหน้าท่เี หมือนหรือแตกตา่ งจากกล้องจลุ ทรรศนอ์ ย่างไร และยงั มสี ่วนประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย เชน่ แหล่งก�ำเนดิ แสง ปุ่มปรบั ภาพหยาบ ปมุ่ ปรบั ภาพ 2. ภาพอกั ษรที่สงั เกตจากกลอ้ งจลุ ทรรศนม์ ลี ักษณะแตกตา่ งจากแวน่ ขยายอย่างไร สว่ นภาพอักษรทีม่ องเห็นจากแว่นขยายจะมขี นาดใหญข่ ้ึนเทา่ น้ัน 3. เมื่อปรบั ก�ำลังขยายของเลนสใ์ กล้วตั ถุให้สงู ข้นึ ภาพทเ่ี หน็ เป็นอย่างไร 4. เม่อื เล่ือนวัตถุไปทางซ้าย ขวา บน และลา่ ง ภาพท่เี ห็นจากกลอ้ งจุลทรรศนจ์ ะเปลย่ี นต�ำแหน่งไปอย่างไร จะเลอื่ นไปด้านลา่ ง 5. เมอื่ พบปญั หาขณะใช้กลอ้ งจุลทรรศน์ เชน่ ไม่เหน็ ภาพ ภาพไมช่ ดั เจน ภาพทเี่ หน็ มืดหรอื สว่างเกนิ ไป จะมี แนวคำ� ตอบ 1. เม่ือไม่พบภาพ ควรปรับเลนส์ใกล้วัตถุให้เป็นก�ำลังขยายต่�ำสุดก่อน แล้วเลื่อนแท่นวางวัตถุให้ 2. เม่ือภาพไมช่ ดั เจน ควรปรับปุ่มปรบั ภาพละเอียดเพอื่ ใหเ้ หน็ วัตถุชดั เจนมากขน้ึ ลำ� กลอ้ งอย่างเหมาะสม 6. จากกิจกรรม สรุปได้ว่าอยา่ งไร เปน็ ขวา และเม่อื เลือ่ นสไลด์ ภาพท่ีเห็นจากกล้องจลุ ทรรศนจ์ ะเคลื่อนไปในทศิ ทางตรงกันข้าม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 148 หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพนื้ ฐานของสิ่งมีชีวติ ตัวอยา่ งผลการทำ�กิจกรรม ตอนที่ 2 ภาพวาดจากสไลด์ถาวรของเนอ้ื เยอ่ื พืช ภาพวาดจากสไลด์ถาวรของเนื้อเย่ือสัตว์ ภาพวาดจากสไลดถ์ าวรของพารามเี ซยี ม 2. ลักษณะร่วมกนั ของเซลล์ของสง่ิ มีชวี ติ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพืน้ ฐานของสง่ิ มีชวี ติ 149 เฉลยคำ�ถามท้ายกจิ กรรม 1. รูปร่างลักษณะของภาพท่ีสังเกตได้จากสไลด์ถาวรของเน้ือเยื่อพืช เน้ือเยื่อสัตว์ และส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว แนวค�ำตอบ รปู รา่ งลกั ษณะของภาพจากสไลดถ์ าวรของเนอ้ื เยอ่ื พชื เนอ้ื เยอ่ื สตั ว์ และสง่ิ มชี วี ติ เซลลเ์ ดยี ว มลี กั ษณะ 2. สงิ่ ทีน่ กั เรียนสังเกตได้ ส่วนใดท่เี ป็นเซลล์และมีลกั ษณะอยา่ งไร 3. จากกจิ กรรม สรุปได้ว่าอย่างไร คอื เซลล์ 4. จากกิจกรรมท้งั 2 ตอน สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร ทุกชนิดประกอบดว้ ยหนว่ ยพ้นื ฐานทเ่ี ล็กท่ีสุด เรยี กว่า เซลล์ หมายเหตุ : อยา่ งไรกต็ ามหากผลการสำ� รวจตรวจสอบของนกั เรยี นบางกลมุ่ ไมส่ อดคลอ้ งกบั ทฤษฎหี รอื แนวการสรปุ ครอู าจ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 150 หน่วยท่ี 3 | หนว่ ยพนื้ ฐานของสิ่งมชี ีวิต ความรเู้ พมิ่ เตมิ ส�ำหรับครู สงิ่ มีชวี ิตเซลล์เดยี ว สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดงั นี้ cellular-organisms.html#.WY1fTtJJbIU สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หนว่ ยพ้นื ฐานของสิง่ มีชวี ิต 151 เรอ่ื งท่ี 2 โครงสรา้ งและหนา้ ที่ของเซลล์ แนวการจัดการเรียนรู้ ครูดำ� เนินการดังน้ี 88 หน่วยท่ี 3 | หนว่ ยพน้ื ฐานของสิ่งมีชีวติ รจู้ ักค�ำสำ� คัญ โดยครูอาจใชค้ ำ� ถามดงั น้ี เร่ืองที่ 2 โครงสร้ำงและหน้ำทีข่ องเซลล์ £ ผกั กาด £ น�า้ ตาล £ ไส้เดือนดนิ £ หนอน £ ทราย £ พารามเี ซียม รอู้ ะไรบำ้ งก่อนเรยี น เขยี นสงิ่ ทรี่ เู้ กยี่ วกบั โครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องแตล่ ะโครงสรา้ งของเซลล ์ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความรู้เพิ่มเตมิ สำ�หรบั ครู ภาพน�ำเรื่อง คือ ภาพตัวอย่างเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 152 หนว่ ยที่ 3 | หน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี ีวติ เฉลยทบทวนความร้กู อ่ นเรียน เขยี นเคร่อื
งหมาย หน้าขอ้ ส่งิ ที่ประกอบดว้ ยเซลล์ น�้ำตาล 3. ตรวจสอบความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นเกยี่ วกบั โครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องเซลลโ์ ดยใหท้ ำ� กจิ
กรรม รอู้ ะไรบา้ งกอ่ นเรยี น นกั เรยี น ตัวอย่างแนวคิดคลาดเคล่ือนซ่งึ อาจพบในเร่ืองนี้ 4. นำ� เขา้ ส่กู จิ กรรมที่ 3.2 เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั วแ์ ตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยการตง้ั คำ� ถามสรา้ งความสนใจวา่ เซลลพ์ ชื และ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 3 | หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมชี ีวติ 153 กิจกรรมที่ 3.2 เซลลพ์ ืชและเซลลส์ ตั วแ์ ตกต่างกนั อย่างไร แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และเซลล์เย่ือหอม เซลล์สตั ว์คอื เซลล์เยื่อบุข้างแกม้ ) ด้วยกล้องจุลทรรศน์ใช้แสง บันทึกรูปร่างและโครงสร้างที่สังเกตได้ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ด้วยการวาดภาพ ระหว่างการทำ� กจิ กรรม 3. ใหน้ กั เรยี นทำ� กจิ กรรมตามแผนทวี่ างไว้ ครสู งั เกตวธิ กี ารเตรยี มสไลดต์ วั อยา่ ง การวางกระจกปดิ สไลด์ การเลอื กใบสาหรา่ ย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 154 หน่วยท่ี 3 | หน่วยพน้ื ฐานของส่งิ มีชีวิต หลังการท�ำกจิ กรรม 4. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำ� เสนอผลการทำ� กจิ กรรม โดยใชว้ ิธีตดิ ผลงานไว้ทผี่ นงั รอบหอ้ ง
นักเรียนและครูสามารถเดนิ ชม 5. ร่วมกันอภิปรายและเปรียบเทียบผลการท�ำกิจกรรม รวมทั้งสาเหตุท่ีท�ำให้ผลการท�ำกิจกรรมคลาดเคลื่อน เช่น เลือก 6. ให้นักเรียนตอบค�ำถามท้ายกิจกรรม
และร่วมกันอภิปรายค�ำตอบเพ่ือให้นักเรียนสรุปได้ว่าเซลล์พืชและเซลล์สัตว์มี 7.
ให้นักเรียนอ่านเน้ือหาในหนังสือ ตอบค�ำถามระหว่างเรียน แล้วร่วมกันอภิปรายเพ่ือให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรูปร่างและ 7.1 ภายในไซโทพลาซึมของเซลลจ์ ะมีโครงสร้างที่ทำ� หนา้ ทีเ่ ฉพาะ โครงสรา้ งเหล่านั้นคืออะไร (ออร์แกเนลล์) อกี หรือไม่ (มี ซง่ึ นักเรียนจะได้เรยี นในระดบั ที่สูงขน้ึ เช่น ไรโบโซม เอนโดพลาสมิกเรติคลู มั ไลโซโซม เปน็ ตน้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยที่ 3 | หน่วยพนื้ ฐานของส่งิ มชี วี ติ 155 เฉลยคำ�ถามระหวา่ งเรียน แนวค�ำตอบ ไมโทคอนเดรยี 8. ถ้าพบว่านักเรียนมีแนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องน้ี ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้ แนวคดิ คลาดเคลอื่ น แนวคดิ ทถี่
กู ต้อง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 156 หนว่ ยที่ 3 | หนว่ ยพื้นฐานของส่งิ มีชวี ติ 9. ใหน้ กั เรียนอา่ นเนอ้ื หาในหนังสอื ตอบคำ� ถามระหว่างเรยี น และร่วมกันอภิปรายเพอ่ื
ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ว่ารปู รา่ งลักษณะของ 9.1 ตัวอย่างเซลลส์ ัตว์มีอะไรบ้าง (เซลลป์ ระสาท เซลล์เมด็ เลือดแดง และเซลลส์ เปริ ์ม) ค่อนไปทางสว่ นปลาย มแี ขนงเปน็ เสน้ ยาว เซลลเ์ มด็ เลือดแดงมรี ปู รา่ งลกั ษณะกลม ส่วนกลางเซลลท์ ง้ั สองด้าน เฉลยคำ�ถามระหวา่ งเรยี น • เซลล์จากสว่ นต่าง ๆ ของสัตว์ ดังภาพ 3.10 มีรปู ร่างสัมพนั ธก์ บั หน้าทขี่ องเซลลอ์ ยา่ งไร ได้ดีมากขนึ้ ไกลมากขึน้ เวา้ กลางทั้งสองด้านเพอ่ื เพิม่ พน้ื ทใ่ี นการลำ� เลยี งออกซเิ จน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพ้นื ฐานของสิ่งมชี วี ติ 157 10.
สรุปข้อมูลเพ่ือเชื่อมโยงความรู้เก่ียวกับการจัดระบบภายในของส่ิงมีชีวิตว่า สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยเซลล์เป็นหน่วย 11. ใหน้ กั เรยี นอา่ นหนงั สอื เรยี น ตอบคำ� ถามระหวา่ งเรยี น และรว่ มกนั อภปิ รายเพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ สง่ิ มชี วี ติ หลายเซลล์ ทง้ั พชื • การจดั ระบบภายในของสิ่งมชี วี ติ เรียงลำ� ดบั จากหนว่ ยเล็กไปหาหนว่ ยใหญ่อยา่ งไร เซลล์ เน้ือเยอ่ื อวัยวะ ระบบอวัยวะ ส่ิงมชี วี ติ เฉลยคำ�ถามระหวา่ งเรียน • การจดั ระบบชองเซลลไ์ ปเปน็ รา่ งกายของสงิ่ มชี วี ติ มลี �ำดบั จากหนว่ ยทเ่ี ลก็ ทสี่ ดุ ไปเปน็ หนว่ ยทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ อยา่ งไร 12. นักเรียนร่วมกันสรุปหัวข้อเรื่องการศึกษาเซลล์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ จากนั้นนักเรียนท�ำกิจกรรมตรวจสอบตนเอง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 158 หน่วยท่ี 3 | หนว่ ยพื้นฐานของสิง่ มีชีวติ ตัวอยา่ งผงั มโนทศั น์ การสรุปองคค์ วามรูใ้ นบทเรยี นเร่อื งเซลล์ สิง่ มีชีวติ รูปร่างและ ความสมั พนั ธ์ การจัดระบบ ศึกษาโดย แบง่ เป็น จัดระบบดังน้ี สงั เคราะห์ มีหนา้ ที่ ประกอบดว้ ย ประกอบดว้ ย ส่งิ มีชีวิต เพมิ่ ผนงั เซลล์ นิวเคลยี ส มหี นา้ ท่ี ควบคุมการท�ำงานของเซลล์ แวควิ โอล มีหนา้ ท่ี เกบ็ สะสมน้�ำและสารต่างๆ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยที่ 3 | หนว่ ยพื้นฐานของส่ิงมชี วี ิต 159 13. ให้นกั เรยี นนำ�
เสนอผลการท�ำกิจกรรมโดยวิธีการใดวธิ ีการหนึ่ง เช่น ให้นักเรยี นนำ� เสนอและอภปิ รายภายในกลมุ่ หรือ 14. เช่ือมโยงความรเู้ ร่ืองเซลล์ ไปส่กู ารน�ำไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำ� วันโดยใหน้ ักเรียนทำ� กจิ กรรมทา้ ยบท แบบจ�ำลอง 15. ใช้ค�ำถามส�ำคัญของบทในหน้าน�ำบทท่ี 1
เซลล์ ถามนักเรียนและให้นักเรียนอภิปรายร่วมกัน โดยนักเรียนควร เฉลยคำ�ถามสำ�คัญของบท • กล้องจุลทรรศน์ใชศ้ ึกษาเซลลไ์ ด้อย่างไร เหน็ ภาพทีม่ ขี นาดใหญข่ ้ึน สามารถปรับสว่ นประกอบของกลอ้ งเพื่อใหเ้ หน็ ภาพชดั เจนมากข้นึ สว่ นประกอบทแี่ ตกต่างกันของเซลล์พืชและเซลลส์ ัตว์ ได้แก่ ผนงั เซลลแ์ ละคลอโรพลาสต์ ซง่ึ พบ 16. ให้นักเรียนตรวจสอบทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรท์ ไี่ ดเ้ รียนรู้จากบทเรยี นน้ี ในกรอบตรวจสอบตนเอง การท�ำแบบฝกึ หัดทา้ ยบท รูปร่างและโครงสร้างดังท่ีเรียนมาแล้ว ส่ิงมีชีวิตส่วนใหญ่ประกอบด้วยเซลล์หลายเซลล์ท�ำงานร่วมกัน จึงต้องการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 160 หนว่ ยท่ี 3 | หนว่ ยพ้นื ฐานของสง่ิ มีชวี ติ กิจกรรมที่ 3.2 เซลล์พชื และเซลล์สัตว์แตกตา่ งกันอยา่ งไร นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั รปู รา่ ง ลกั ษณะและโครงสรา้ งของเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ตั ว์ ผา่ นการสงั เกตและรวบรวมขอ้ มลู จากนนั้ จุดประสงค์ สังเกตและรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อบรรยายและเปรียบเทียบรูปร่าง ลักษณะและโครงสร้างของ วสั ดุและอปุ กรณ์ วสั ดแุ ละอปุ กรณท์ ใี่ ชต้ อ่ หอ้ ง รายการ ปรมิ าณ/หอ้ ง 1. สารละลายไอโอดนี ความเข้มข้น 1% 1 ขวด 2. นำ้� เกลอื ความเขม้ ข้น 0.85% 50 cm3 3. กระดาษเย่ือ 1 มว้ น วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ี่ใช้ตอ่ กลุ่ม ปรมิ าณ/กลุ่ม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หน่วยพ้ืนฐานของสง่ิ มีชวี ติ 161 การเตรยี มลว่ งหนา้ 1. ครูเตรียมสาหร่ายหางกระรอก และหัวหอมแดง โดยเลือกสาหร่ายหางกระรอกที่มีส่วนยอด ข้อควรระวัง 2. เตรียมน�้ำเกลือ ความเข้มข้น 0.85% โดยชั่งโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) 0.85 กรัม ใส่ใน 1. ใชใ้ บมดี โกนและเข็มเข่ยี อยา่ งระมัดระวงั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 162 หน่วยที่ 3 | หน่วยพ้นื ฐานของสงิ่ มชี ีวิต ข้อเสนอแนะ • ควรเลือกหวั หอมแดง หวั หอมใหญ่ ท่มี ีขนาดใหญ่พอสมควร จะสามารถลอก เยือ่ หอมออก • การปิดกระจกปิดสไลดท์ ำ� ไดโ้ ดยใช้นิว้ โป้งและนวิ้ ชขี้
องมอื ซา้ ยจบั กระจกปิดสไลด์ไว้ แลว้ วาง • การศึกษาเซลล์ของใบสาหร่ายหางกระรอก เลือกใบสาหร่ายหางกระรอกบริเวณยอดอ่อน • การศึกษาเซลล์เย่ือบุข้างแก้ม น�ำก้านส�ำลีชุบน�้ำเกลือให้ชุ่มแล้วน�ำไปขูดเบาๆ ท่ีกระพุ้งแก้ม • หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศกึ ษาปที .ี่ 1 สสวท. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยท่ี 3 | หนว่ ยพื้นฐานของสิง่ มชี วี ิต 163 ตวั
อย่างผลการทำ�กจิ กรรม เซลล์เย่อื หอมแดง เซลลส์ าหร่ายหางกระรอก จากสไลดน์ กั เรยี นจะสังเกตเห็นเซลลร์ ูปร่างเปน็ เหลย่ี ม เซลลเ์ ย่อื หอมเห็นนวิ เคลยี สอยู่ติดกบั ผนงั เซลล์ สว่ นเซลล์ เฉลยคำ�ถามทา้ ยกิจกรรม 1. เซลลพ์ ืชทัง้ 2 ชนิด มีรปู ร่างลักษณะเป็นอย่างไร และมีโครงสรา้ งอะไรบ้าง นวิ เคลยี ส ไซโทพลาซึม คลอโรพลาสต์และนิวเคลียส ส�ำหรับเย่ือหุ้มเซลล์อาจเห็นไม่ชัดเพราะเซลล์เต่ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 164 หน่วยที่ 3 | หนว่ ยพน้ื ฐานของสิง่ มีชีวติ ตวั อยา่ งผลการทำ�กจิ กรรม ตอนที่ 2 เซลล์สัตว์ เซลลเ์ ยอ่ื บุขา้ งแกม้ เฉลยคำ�ถามท้ายกจิ กรรม นิวเคลียส นิวเคลยี ส และเซลล์สัตว์ ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึม และนิวเคลียส ส่วนโครงสร้างท่ีพบเฉพาะ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี |