เป็นบ้าจี้นิยมว่าชมเอก สุภาษิต

บทที่ ๘ 

                                               ค่อยดำเนินตามไต่ผู้ไปหน้า                        ใจความว่าผู้มีคุณอย่าหุนหวน 

                                                          เอาหลังตากแดดเป็นนิจคิดคำนวณ            รู้ถี่ถ้วนจึงสบายเมื่อปลายมือ 

คำศัพท์                                ผู้ไปหน้า          หมายถึง   คนที่เกิดก่อนย่อมมีความรู้และประสบการณ์มากกว่า 

                         หุนหวน            หมายถึง   หวน เวียนกลับ 

                         คิดคำนวณ       หมายถึง   คิดไตร่ตรอง 

                         หลังตากแดด    หมายถึง   ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักอย่างชาวนา ทำให้หลังถูกแดด 

                         เมื่อปลายมือ     หมายถึง   ในภายหลัง 

ถอดความได้ว่า  ให้ประพฤติปฏิบัติตนตามผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่เกิดก่อน ย่อมมีความรู้และประสบการณ์มากกว่า และอย่าเป็นคนอกตัญญู จงมีความขยันหมั่นเพียรทำงานอยู่เสมอแล้วจะมีความสุขสบายในภายหลัง 

สุภาษิตที่เกี่ยวข้อง 

เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด   หมายถึง ประพฤติตามอย่างผู้ใหญ่ย่อมปลอดภัย 

หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน            หมายถึง ที่ต้องตรากตรำทำงานหนัก มักหมายถึงชาวไร่ชาวนาซึ่งใน 

               เวลาทำไร่ทำนาหลังต้องสู้กับแดด และหน้าต้องก้มลงดิน 

บทที่ ๙ 

                                      เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง                            ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ 

                                                      ต่อผู้ดีมีปัญญาจึงหารือ                               ให้เขาลือเสียว่าชายนี้ขายเพชร 

คำศัพท์                           หารือ                                  หมายถึง  ขอความเห็น ปรึกษา 

                         ให้เขาลือว่าชายนี้ขายเพชร  หมายถึง  ให้เขาลือว่าตนเองมีปัญญามากพอที่จะอวดได้ 

ถอดความได้ว่า  เพชรเป็นของที่มีค่ามีราคา อย่านำสิ่งที่มีค่าไปให้แก่ผู้ไม่รู้ค่าย่อมไร้ประโยชน์ ฉะนั้นควรไป 

ปรึกษาหารือ กับนักปราชญ์ หรือผู้รู้ เท่านั้น เพื่อให้คนเขาร่ำลือว่า ตนเองมีปัญญาราวกับมีเพชร 

มากพอที่จะอวดได้ 

สุภาษิตที่เกี่ยวข้อง ยื่นแก้วให้วานร  หมายถึง เอาของมีค่าให้กับผูที่ไมรูคุณค่าของ ของสิ่งนั้น 

ลิงได้แก้ว          หมายถึง   ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าของสิ่งมีค่าที่ได้มาหรือที่มีอยู่ มีความหมายเดียวกับ คำ         

                                            ว่า ไก่ได้พลอย และ หัวล้านได้หวี 

บทที่ ๑๐ 

                                               ของสิ่งใดเจ้าว่างามต้องตามเจ้า     ใครใดเล่าจะไม่งามตามเสด็จ 

                                        จำไว้ทุกสิ่งจริงหรือเท็จ               พริกไทยเม็ดนิดเดียวเดี๋ยวก็ร้อน 

คำศัพท์                เจ้า หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน หรือผู้เป็นใหญ่       

ถอดความได้ว่า  ของสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าแผ่นดินเห็นว่าเป็นสิ่งดีหรือสิ่งที่สวยงาม เราก็ต้องว่างามตามไปด้วย ไม่ว่าจะ จริงหรือไม่จริง เราไม่ควรไปคัดค้านเพราะท่าน เป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดอาจกริ้วได้ 

สุภาษิตที่เกี่ยวข้อง เห็นดีเห็นงาม       หมายถึง คิดหรือรู้สึกคล้อยตาม 

                       ลูกขุนพลอยพยัก หมายถึง ผู้ที่คอยว่าตามหรือเห็นด้วยกับผู้ใหญ่เป็นเชิงประจบสอพลอเป็นต้น 

                       น้ำท่วมปาก          หมายถึง พูดไม่ออกเพราะอาจจะมีภัยแก่ตนเองและผู้อื่น 

บทที่ ๑๑ 

                                               เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า               ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน 

                                     อยากใช้เขาเราต้องก้มประนมกร  ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ 

คำศัพท์                                ห่อน         หมายถึง        ไม่ ไม่เคย 

                                      มอ            หมายถึง        สีมัว ๆ อย่างสีดำเจือเทา 

                                      วัวมอ         หมายถึง        วัวตัวผู้ 

                        ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ หมายถึง ไม่มีใครว่าตนเป็นวัวให้คนอื่นเขาใช้งาน 

ถอดความได้ว่า  เกิดเป็นคนต้องรู้เท่าทันใจของตนเอง คือต้องสอนใจตนเองหรือเตือนตนเองได้ และถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใด เราต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะไม่มีใครที่จะคิดว่าตนเป็นวัวให้คนอื่นใช้งาน 

สุภาษิต สำนวน ที่เกี่ยวข้อง          จงเตือนตนด้วยตนเอง 

บทที่ ๑๒ 

                                               เป็นบ้าจี้นิยมชมว่าเอก                 คนโหยกเหยกรักษายากลำบากหมอ 

                                                      อันยศศักดิ์มิใช่เหล้าเมาแต่พอ      ถ้าเขายอเหมือนอย่างเกาให้เราคัน 

คำศัพท์                 บ้าจี้            หมายถึง       บ้ายอ 

                                      โหยกเหยก  หมายถึง       ไม่อยู่กับร่องรอย ไม่แน่นอน 

ถอดความได้ว่า  คนบ้ายอชอบให้คนเขานิยมยกย่องเปรียบเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย ซึ่งแก้ไขได้ยาก อันว่า 

ยศ หรือตำแหน่ง นั้น มันไม่ใช่เหล้าจงเมาแต่พอควร อย่าไป ยึดติด หลงยศหลงตำแหน่ง คำป้อยอ 

ต่าง ๆ นั้น ถ้าเรา หลงเชื่อ อาจทำให้เราเดือดร้อนได้ 

บทที่ ๑๓ 

บ้างโลดเล่นเต้นรำทำเป็นเจ้า        เป็นไรเขาไม่จับผิดคิดดูขัน 

                                       ผีมันหลอกช่างผีตามทีมัน            คนเหมือนกันหลอกกันเองกลัวเกรงนัก 

คำศัพท์                                 ทำเป็นเจ้า       หมายถึง        ทำทีว่าถูกเจ้าเข้าสิง 

ถอดความได้ว่า   บางคนทำทีว่าถูกผีเข้าสิง คือพวกทรงเจ้าเข้าผี ทำไมไม่มีใครจับ ดูไปก็น่าหัวเราะถ้าเป็นผีจริงมัน 

หลอกก็ช่างมันเถิด แต่นี่คนมาหลอกกันเองมันน่ากลัวที่สุด ฉะนั้นจึงควรแยกแยะให้ดี อย่าเชื่อใน 

สิ่งที่ตาไม่เห็น เพราะทีเห็นนั้นอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด 

สุภาษิต สำนวน ที่เกี่ยวข้อง  ผีหลอกก็ยังพอทน แต่คนหลอกคนมันช้ำใจจนหลายเท่า ดู"กาลามสูตร"