กาแฟ we coffee ดี ไหม

รายละเอียดสินค้า WE COFFEE กาแฟอาราบิก้าชั้นดีผสมสารสกัดธรรมชาติ 23ชนิด (20กรัมx15ซอง)
กาแฟอาราบิก้าชั้นดี สำหรับคนรักสุขภาพ สารสกัดธรรมชาติ 23 ชนิด
✅ใช้ถั่วเหลืองแทนครีมเทียม ❌ไม่ใช้น้ำตาล
#WECOFFEE

#กาแฟที่ดีที่สุด รสชาติกลมกล่อม จาการคัดสรรสมุนไพรและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผสมผสานใ...

อ่านเพิ่มเติม

หน้าหลัก

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ we coffee ดี ไหม

กาแฟ We Coffee ( Bio Herbs Coffee) กาแฟสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 23in1

 

จากกาแฟสายพันธ์อาราบิก้าชั้นดีปลูกบนพื้นที่ยอดเขาสูง เพื่อรสชาติอันกลมกล่อม

คัดสรรเมล็ดพันธ์คุณภาพชั้นดีที่สุด ผ่านกระบวนการคั่วและบดละเอียดอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานสมุนไพร และสารอาหารที่มีประโยชน์ รวม 23 ชนิด ได้อย่างลงตัวด้วยสูตรลับเฉพาะที่ผ่านการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อม หอมกรุ่น อร่อย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

ประโยชน์ของกาแฟ We coffee 


- ถั่งเช่า 5% :บำรุงไต ขับปัสสาวะ เสริมฮอร์โมน เสริมสมรรถภาพ
- ถั่วเหลือง: ใช้ถั่วเหลืองที่ใช้ในการทำน้ำเต้าหู้แทนครีมเทียม ให้ความมัน เสริมฮอร์โมน ไม่มีไขมันทรานส์ ข้างผลิตภัณฑ์จะเขียนว่า เจ
- กาแฟอราบิก้าคุณภาพดี: ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ
- ชูคราโลส: ให้ความหวานแทนน้ำตาลไม่ให้พลังงาน ผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดัน ไขมัน สามารถทานได้
- โสม ตังกุย กระชายดำ และ แอลอาร์จินีน :ช่วยบำรุงเลือด บำรุงเซลล์ บำรุงประสาท เพิ่มกำลังวังชา
- เห็ดหลินจือ :ช่วยล้างสารพิษ บำรุงหัวใจ ต้านมะเร็ง
- โกลจิเบอร์รี่ แครอท วิตามินเอ ลูทีน: ช่วยบำรุงสายตา ลดจอประสาทตาเสื่อม ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อกระจก
- แป๊ะก๊วย: บำรุงสมอง เพิ่มความจำ
- ใบมะรุม: ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย 
- งาดำ แอลทริโอนีน วิตมินบี6 วิตามินบี 12: ป้องกันโรคกระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อม ปวดข้อปวดเข่า ชาตามปลายมือปลายเท้า
- เบต้ากลูแคนจากยีสต์: ช่วยเรื่องภูมิแพ้ หอบหืด
- โครเมียม พิโคลิเนต: ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ทำให้รูปร่างกระชับ
- โครเอนไซม์ Q10 ต้านอนุมูลอิสระ ยืดอายุเซลล์ พาร์กินสัน
- โกโก้: ช่วยลดความเครียด ความดัน ไขมัน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

 

มาตราฐานการผลิต GMP Certified สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย
เลขที่ อย.10-1-00152-1-0426

 

วิธีรับประทาน

1. ฉีกซองกาแฟ วี-คอฟฟี่ 1 ซอง (20 กรัม)

2. ชงกับน้ำร้อน ปริมาณ 120 มล.

3. คนให้กาแฟละลายให้เข้ากันพร้อมดื่มได้ทันที

 

หมายเหตุ: สามารถชงดื่มได้ทั้ง ร้อนและเย็น

 

วิธีเก็บรักษา: เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส

กาแฟ We Coffee (วี คอฟฟี่) กาแฟสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 23in1

SKU: 1

฿480.00 Regular Price

฿260.00Sale Price

Quantity

Add to Cart

  • ข้อมูลเพิ่มเติม

    1 ถุง มี 15 ซอง (น้ำหนักสุทธิ 300 กรัม)

    1 ซอง (น้ำหนักสุทธิ 20 กรัม)

    1 กล่อง บรรจุ 20 ถุง 

     

     

“คาเฟอีน” ในกาแฟมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แน่นอนว่าการดื่มกาแฟมากเกินไป อาจรบกวนการนอนหลับในตอนกลางคืน รวมไปถึงอาการ “ติดคาเฟอีน” ที่อาจทำให้คุณปวดหัว มือสั่น และอาการข้างเคียงอื่นๆ เมื่อคุณขาดกาแฟได้ แต่การดื่มกาแฟด้วยวิธีและในปริมาณที่เหมาะสม อาจทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากมันได้อย่างเต็มที่

คอกาแฟที่ต้องดื่มกาแฟเป็นประจำ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่เราจะดื่มกาแฟได้โดยไม่รู้สึกผิดบ้าง

ดื่ม “กาแฟ” อย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย

  1. สังเกตอาการของตัวเองหลังดื่มกาแฟให้ดี

เหมือนกับการดื่มแอลกอฮอล์ หากเรารู้อาการ และลิมิตของตัวเองดีว่า เราสามารถดื่มกาแฟได้กี่แก้วโดยที่เราไม่รู้สึกถึงฤทธิ์ของคาเฟอีนมากเกินไปจนทำให้ใจสั่น มือสั่น หรือนอนไม่หลับ เราก็จะทราบปริมาณที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟต่อวันของเรา ซึ่งในแต่ละคนมีปริมาณที่ร่างกายทนต่อคาเฟอีนได้ในปริมาณที่แตกต่างกัน รวมถึงชนิดของกาแฟ ความเข้ม ความจางของกาแฟด้วย

  1. เลือกดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล

ส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟกันแล้วอ้วนขึ้น อาจเป็นเพราะน้ำตาลที่มากับกาแฟที่ใส่เพิ่มมาด้วย หากติดกาแฟ และต้องการใช้ประโยชน์จากคาเฟอีนจริงๆ ควรเลือกกาแฟดำ หรืออเมริกาโน เพื่อให้ได้รสชาติและประโยชน์จากกาแฟล้วนๆ ไม่รวมน้ำตาลและอื่นๆ ที่ใส่เพิ่มเข้ามา

  1. ไม่ดื่มกาแฟจนรบกวนการนอนหลับพักผ่อน

อีกหนึ่งปัญหาใหญ่สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ คือการดื่มกาแฟในปริมาณหรือช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ในช่วงเย็นๆ ที่ทำให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนเข้าไปรบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนไม่หลับได้ ดังนั้นควรงดดื่มกาแฟในช่วงหลัง 4-6 โมงเย็นเป็นต้นไป

  1. ไม่ดื่มกาแฟขณะท้องว่าง

หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นว่ากาแฟมักขายคู่กับอาหารอื่นๆ เช่น คุกกี้ โดนัท ขนมปัง แซนวิช และอื่นๆ ในมื้อเช้า เพราะจริงๆ แล้วการดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง อาจเข้าไปเร่งการหลั่งกรดย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นหากดื่มกาแฟไปพร้อมๆ กับอาหารเช้า ก็จะช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้

  1. ไม่ดื่มกาแฟทุกค่ำคืน

หลายคนเลือกดื่มกาแฟทุกครั้งที่ต้องอยู่อ่านหนังสือหรือทำงานตอนกลางคืนจะได้ไม่ง่วง แม้ว่าฤทธิ์ของคาเฟอีนจะช่วยให้สมองของคุณตื่นตัวได้ชั่วคราว แต่ไม่ควรใช้มุกนี้ในการอยู่โยงตอนกลางคืนตลอดเวลา เพราะอย่างไรสมองก็ยังคงต้องการการพักผ่อนที่แท้จริงมากกว่า

  1. กินแคลเซียมทดแทน

หากคุณดื่มกาแฟเป็นประจำ ควรกินอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมให้มากขึ้น เช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย คะน้า บรอกโคลี เป็นต้น เพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ และลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรืออาจปรับเปลี่ยนโดยการชงกาแฟใส่นมแทนครีมเทียม เป็นต้น

  1. กินผักผลไม้ให้มากขึ้น

กินผักผลไม้อย่างเพียงพอทุกวัน เนื่องจากในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟจะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซี อี และบีตาแคโรทีนในผักผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แคร์ร็อต ผักใบเขียว ฝรั่ง ส้มเขียวหวาน เป็นต้น จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้