Iphone 6s+ ใช้ อะแดปเตอร์ ก ล ต

อะแดปเตอร์ iPhone, iPad ถึงแม้จะมีหน้าตาคล้ายกัน แต่ก็จ่ายไฟได้ไม่เท่ากันซึ่งมีตั้งแต่ 5W, 10W, 12W แต่ถึงอย่างไรก็ยังสามารถนำเอาอะแดปเตอร์ iPad สามารถนำมาใช้เพื่อชาร์จ iPhone, iPod, Apple Watch, AirPods และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ไม่ควรนำ 5W (iPhone) ไปชาร์จ 10W (iPad) เพราะเป็นการจ่ายไฟเกินกำลังอะแดปเตอร์ และทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคำแนะนำจาก Apple เช่นเดียวกัน

จากการอ้างอิงของ Apple ระบุว่าเราสามารถนำเอาอะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟสูงอย่าง 12W และ 10W ไปชาร์จกับอุปกรณ์อย่าง iPad, iPhone, iPod, Apple Watch รวมถึงอุปกรณ์เสริมได้ด้วยเช่นกัน แถมยังจ่ายไฟได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้หากคุณใช้อะแดปเตอร์ MacBook ที่เป็น USB-C ขนาด 29W, 61W, 87W ตามข้อมูลคือสามารถเอาไปชาร์จ iPad Pro รุ่นเหล่านี้ได้ด้วย แถมยังจ่ายไฟได้เร็วขึ้น

• iPad Pro 12.9″ (รุ่นที่ 2)
• iPad Pro 12.9″
• iPad Pro 10.5″

ทีนี้เราลองมาดูกันว่าอะแดปเตอร์ iPhone, iPad ที่แถมมานั้นมีทั้งหมดกี่ประเภท

โดยหลักแล้วอะแดปเตอร์จะมีทั้งหมด 3 แบบ (ดังภาพ) สำหรับ iPhone จะให้เป็น 5W และสำหรับ iPad จะให้เป็น 10W และมีเพียงบางล็อตของ iPad ที่เป็น 12W ซึ่งนอกจากนี้ยังเป็นตัวเดียวกับที่วางขายของ Apple อีกด้วย

ทั้งนี้หากดูที่หัวข้อ “การใช้งานร่วมกัน” ตามสเปคที่ Apple บอกบนเว็บไซต์จะเห็นได้ว่า USB Power Adapter ขนาด 5 วัตต์ รองรับ iPhone ทุกรุ่นแต่ไม่รองรับ iPad ที่มีขนาดจอใหญ่กว่า iPad mini ตรงกันข้ามกับ USB Power Adapter ขนาด 12 วัตต์ ที่รองรับทุกอุปกรณ์

ที่มา – iPhone User Thailand

หากตรงไหนแปลหรือเขียนผิดสามารถชี้แนะได้ครับ
ติดต่อ-สอบถาม-พูดคุย-แลกเปลี่ยนกันได้ที่
Twitter: @yugioh2500

เลือกซื้ออะแดปเตอร์ iPhone สำหรับการชาร์จ iPhone, iPad และ Apple Watch

อะแดปเตอร์ iPhone ถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หลายคนเลือกเป็นอุปกรณ์เสริมมือถือ มีหลายคนอยากรู้ว่าควรเลือกตัวไหนดี จะซื้อของ Apple หรือว่าซื้อของแบรนด์อื่นได้ไหม แล้วควรเลือกอะแดปเตอร์iPhoneแบบไหน วันนี้ทีมงานมีแนวทางมาบอกให้ได้ทราบอะแดปเตอร์ iPhoneดีจริงหรือไม่ สามารถใช้หัวอื่นมาแทนได้ไหม อย่างที่เราทราบกันดี iPhone นับตั้งแต่อดีตมาจนถึง iPhone XS, XS Max, XR แถมอะแดปเตอร์ iPhone สำหรับการชาร์จมาให้นั้นเป็นแบบ USB-A ที่มีกำลังไฟเพียง 5W (5V/1A) เท่านั้น เราชาร์จทีก็เลยรู้สึกว่ามันเต็มช้า อันดับต่อมาหลายคนเลยนำอะแดปเตอร์ iPad มาชาร์จแทนอะแดปเตอร์ iPhone ซึ่งกำลังไฟก็จะแรงขึ้นมาหน่อยเป็น 12-18W (แล้วแต่รุ่นของ iPad เนื่องจากอะแดปเตอร์ iPad นั้นมีมากกว่า 1 แบบ) จึงทำให้สามารถชาร์จ iPhone ได้เร็วขึ้น และก็มีอีกที่บางท่านใช้งาน MacBook 12, MacBook Pro 2016 หรือใหม่กว่า อะแดปเตอร์ถูกเปลี่ยนมาเป็นแบบ USB-C แล้ว ซึ่งสามารถชาร์จ iPhone และ iPad ได้เช่นกัน แถมความเร็วนั้นก็เร็วสุด ๆ ด้วย

• ควรซื้ออะแดปเตอร์ iPhone ที่มาพร้อม USB-C ที่รองรับ PD (Power Delivery) ที่ให้กำลังไฟอย่างน้อย 18W ขึ้นไป ถ้ามีรุ่นที่เป็นแบบ 2-in-1 คือ มีทั้ง USB-C และ USB-A ได้ยิ่งดี เผื่อช่องสำหรับชาร์จ Apple Watch ด้วย
• อะแดปเตอร์ iPhone ของ Apple มันก็มีแหละตามคุณภาพและราคา แต่ถ้าซื้อแบบเดิมที่ให้มากับ iPhone นั้นกำลังไฟมันน้อยนิดมาก ๆ แถมชาร์จช้าด้วย หากเทียบกับราคาที่จ่ายไปในจำนวนที่พอ ๆ กันมันมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ประโยชน์หลัก ๆ คือ เรื่องการชาร์จที่รวดเร็วกว่าในระยะเวลาการชาร์จที่เท่ากัน ชาร์จ 30 นาทีก็ได้แบตเตอรีมากว่า 50%
• แล้วอย่าลืมว่า Apple มีสาย USB-C to Lightning จำหน่ายซึ่งสายเส้นนั้นมันคุ้มค่าที่เราจะหามาใช้งาน เพราะเราชาร์จได้ทั้ง iPhone, iPad และยังชาร์จไฟได้เร็วกว่าสาย USB-A to Lightning อีกด้วย ส่วนใครที่ห่วงเรื่ออะแดปเตอร์ iPhone USB-C ที่ขายนั้นได้มาตรฐาน MFi หรือเปล่า ขอบอกว่า USB-C เท่าที่ทราบ ณ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต Apple ในการผลิตเพราะว่าพอร์ต USB-C นั้นเป็นมาตรฐานสากล ทำให้อุปกรณ์ USB-C นั้นไม่ต้องมี MFi ก็สามารถนำมาชาร์จกับ iPhone iPad ได้
• สิ่งที่สำคัญคือ ควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งไม่ใช่แบรนด์ไก่กา อันละ 10, 20 บาท!! ควรเลือกอะแดปเตอร์ iPhone แบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่เป็นที่รู้จักมาใช้งานจะได้ไม่ปัญหาในการใช้งาน เช่น Belkin, Anker เป็นต้น
• ถ้าอยากใช้อะแดปเตอร์ iPhone ของ Apple แนะนำ อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 18W ราคา 1,190.00 บาท ซึ่งเป็นอะแดปเตอร์ของ iPad Pro 2018 แล้วก็ซื้อสาย USB-C to Lightning มาอีก 1 เส้น ราคา 690 บาท ก็จะครบเซ็ต นำไปชาร์จได้ทั้ง iPhone, iPad

หากเลือกอะแดปเตอร์ iPhone หัวอื่นมาแทน ควรมีสเปคที่ตรงกัน

ในการใช้งานอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB ให้ปลอดภัยและลดความเป็นไปได้ของการบาดเจ็บหรือความเสียหายที่เกี่ยวกับความร้อน ให้เสียบอะแดปเตอร์แปลงไฟเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าโดยตรง อย่าใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟในที่เปียก เช่น ใกล้อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ หรือห้องอาบน้ำ และอย่าใช้มือที่เปียกอยู่เสียบหรือถอดอะแดปเตอร์แปลงไฟ ให้หยุดใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟและสาย หากเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

• ปลั๊กหรือขาของอะแดปเตอร์แปลงไฟเสียหาย
• สายชาร์จเกิดการเปื่อยรุ่ยหรือเกิดความเสียหายอื่นๆ
• อะแดปเตอร์แปลงไฟได้รับความชื้นมากเกินไป หรือมีของเหลวหกใส่อะแดปเตอร์แปลงไฟ
• อะแดปเตอร์แปลงไฟตกและตัวอะแดปเตอร์ได้รับความเสียหาย

ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 20 วัตต์

• ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
• แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
• แรงดันไฟฟ้าขาออก/กระแสไฟฟ้าขาออก: 9 VDC/2.2A
• กำลังไฟขาออกขั้นต่ำ: 20 วัตต์
• พอร์ตขาออก: USB-C

ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C ขนาด 18 วัตต์

• ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
• แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
• แรงดันไฟฟ้าออก: 5V/3A หรือ 9V/2A
• พอร์ตขาออก: USB-C

ข้อมูลจำเพาะของอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB ขนาด 5 วัตต์

• ความถี่: 50 ถึง 60 Hz เฟสเดียว
• แรงดันไฟฟ้าของสาย: 100 ถึง 240 V
• แรงดันไฟฟ้าออก: 5V/1A
• พอร์ตขาออก: USB

แบบนี้ถือว่าเป็นทางเลือกซื้ออะแดปเตอร์ iPhone ที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ อะแดปเตอร์ iPhone ปลอม ราคาถูก ๆ ก็ชาร์จไฟเข้าเครื่องได้นี่นา แล้วทำไมต้องซื้ออะแดปเตอร์ของแท้มาใช้งานด้วย? บางคนอาจจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ทราบหรือว่าไม่ว่า วัสดุที่นำมาผลิตนั้นหากไม่ได้มาตรฐานนั้นจะส่งผลแต่การจ่ายกระแสไฟระหว่างการชาร์จ มีโอกาสที่จะชาร์จไม่เข้าบ้าง, ชาร์จช้า, กระแสไฟไหลไม่สม่ำเสมอส่งผลให้ชิปในแผงวงจรเกิดความเสียหายหรือร้ายแรงสุดอะแดปเตอร์ iPhone ระเบิด สายไหม้หรือส่งผลต่อ iPhone ระเบิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน เลือกเอาไว้ iPhone, iPad เครื่องนึงราคาไม่ใช่ถูก ๆ จะยอมให้เครื่องเสียเพราะสายชาร์จปลอมอะแดปเตอร์ iPhone ปลอมราคาไม่กี่บาทนี่มันคุ้มกันแล้วหรือ? อะแดปเตอร์ iPhone, iPad ถึงแม้จะมีหน้าตาคล้ายกัน แต่ก็จ่ายไฟได้ไม่เท่ากันซึ่งมีตั้งแต่ 5W, 10W, 12W แต่ถึงอย่างไรก็ยังสามารถนำเอาอะแดปเตอร์ iPad สามารถนำมาใช้แทนอะแดปเตอร์ iPhone เพื่อชาร์จ iPhone, iPod, Apple Watch, AirPods และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ไม่ควรนำ 5W (iPhone) ไปชาร์จ 10W (iPad) เพราะเป็นการจ่ายไฟเกินกำลังอะแดปเตอร์ iPhone และทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคำแนะนำจาก Apple เช่นเดียวกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ Tips & Tricks ฉบับนี้ เชื่อว่าคุณสามารถหาคำตอบได้แล้วว่าอะแดปเตอร์ iPhone ดีจริงหรือไม่? หากไม่มีหัวชาร์จ iPhone สามารถใช้หัวอื่นมาแทนได้ไหม เชื่อว่าคอนเทนต์นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย หากใครสนใจซื้ออะแดปเตอร์ iPhone ที่ Mercular.com ของเรามีจำหน่ายทุกรูปแบบ อย่ารอช้า ไปชอปกันได้เลยครับ

สินค้าที่เกี่ยวกับบทความนี้