ในช่วงที่ผ่านมาอาจมีผู้ใช้งานหลายราย เคยพบกับปัญหาเครื่อง iPhone เกิดอาการไม่ตอบสนอง หรือเครื่องเปิดไม่ติดนั้นเอง ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาที่เราไม่คาดคิด แต่ก่อนที่จะนำเครื่องไปส่งศูนย์บริการซ่อมแซม ก็ยังมีวิธีตรวจสอบอาการเบื้องต้นก่อนว่าสาเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปร้านซ่อมแซม และเสียค่าใช้จ่าย มาดูกันดีกว่าสามารรถตรวจสอบปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง Show 1. เครื่องร้อนเกินไปหรือเปล่า ? สาเหตุนี้มักพบไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่หากเครื่อง iPhone เกิดอาการร้อน หรือมีอุณภูมิสูงเกินกว่าจะใช้งานได้ จะมีข้อความความเตือนว่า "iPhone needs to cool down before you can use it." (ต้องให้อุณภูมิเครื่อง iPhone ลดลงก่อน ถึงจะสามารถใช้งานมัน) ซึ่งต้องนำเครื่องไปตากกับเครื่องทำความเย็นต่างๆ หรือปล่อยไว้ซักระยะเพื่อให้อุณภูมิลดลง แต่หากต้องการใช้จริงๆ ก็มีปุ่มใช้งาน Emergency (ฉุกเฉิน) เพื่อเข้าไปใช้งาน 2. ชาร์จไฟไม่เข้า ในเมื่อเปิดเครื่องไม่ติด ปัญหาแรกที่เข้ามาก็คงจะเป็นแบตเตอรี่หมด แต่เมื่อเสียบสายชาร์จกลับพบว่าไม่มีการแจ้งเตือนว่าเครื่องกำลังชาร์จไฟอยู่ ก็ควรเช็คจาก อะแดปเตอร์ และสาย USB Lightning ด้วยการนำ อะแดปเตอร์ และสาย USB Lightning สำรองมาใช้ดูว่าชาร์จไฟเข้าหรือไม่ ถ้าเกิดมีการแจ้งเตือนว่ากำลังชาร์จไฟ ก็แสดงว่าสายชาร์จหลักไม่สามารถใช้งานได้ 3. แบตเตอรี่หมดอายุไข ในอีกกรณีหากมีการชาร์จไฟ แต่ไฟไม่เข้าหรือชาร์จแบตเตอรี่ไม่เต็มเสียที น่าจะเกิดจากปัญหาแบตเตอรี่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพ ซึ่งกรณีนี้ต้องเอาไปให้ร้านบริการซ่อมแซมดีที่สุด 4. ค้างในขณะบู๊ตเครื่อง ปัญหาในการบู๊ตเข้าใช้งานเครื่องไม่ได้ ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการอัปเดต iOS ผิดพลาด ส่วนวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ
5. ทำเครื่องเสียหาย กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่าจะเป็น ตกลงพื้น, ตกน้ำ หรือ อยู่ในสภาพอากาศเย็นหรือร้อนจัดนานเกินไป จนทำให้เปิดเครื่องไม่ได้ ก็คงต้องแก้ไขไปตามปัญหาถ้าไม่เกิดปัญหามากจนเกินไป อย่างเช่น "เมื่อมือถือตกน้ำต้องทำอย่างไร ?" สามารถไปดูขั้นตอนการแก้ไขได้ตามลิ้งค์ตรงนี้เลย แต่หากดูแล้วไม่น่าจะแก้ไขด้วยตัวเองได้ ก็ให้ส่งไปยังศูนย์บริการซ่อมแซมจะดีกว่า สุดท้ายหากวิธีทางด้านบนไปหมดแล้วก็ยังไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดี หรือเกินความสามารถของผู้ใช้ไปหน่อย ก็ควรนำเครื่อง iPhone ไปให้ร้านซ่อมแซมจะดีกว่า แต่ควรจะมองหาร้านที่เป็นศูนย์บริการอย่างเป็นทางการไปเลย แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงหน่อย แต่ก็มั่นใจและได้รับการเปลี่ยนอะไหล่ของแท้แน่นอน บทความที่เกี่ยวข้องติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่ คุณอยู่ที่: หน้าหลัก › บทความไอที 24 ชั่วโมง › ไอโฟนดับเอง แบตยังไม่หมดเปิดเท่าไหร่ก็ไม่ติด ชาร์จไฟไม่เข้า ควรทำอย่างไร? ไอโฟนดับเอง แบตยังไม่หมดแต่เปิดไม่ติด ควรทำอย่างไร -ทุกอย่างล้วนมีอายุขัยของมัน ดังนั้นเชื่อว่าหลายคนที่ใช้อุปกรณ์ iOS Device โดยเฉพาะ iPhone น่าจะเคยประสบปัญหาไอโฟนเครื่องดับเองโดยที่เราไม่ได้ทำอะไร จนทำให้ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ แต่ปัญหาไอโฟนเครื่องดับเองมันเกิดมาจากอะไร? และเราสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้างนั้นไปดูกันเลย ทำไม iPhone เกิดอาการเครื่องดับเอง?การที่ iPhone ดับตัวเองนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ ซึ่งบางกรณีอาจเกิดมาจากระบบ iOS ที่ไม่สมบูรณ์ หรือมีปัญหาจากการอัปเดต iOS เวอร์ชันใหม่เพราะอาจจะไม่เสถียร หรือบางกรณีเกิดมาจากแอปพลิเคชันบางตัวที่มี Bug ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องทำงานผิดพลาดหรือทำงานหนัก จนเกิดปัญหาดับเองได้ หรือในบางกรณีก็อาจเกิดมาจากปัญหาของตัวฮาร์ดแวร์ อย่างเช่น แบตเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งก่อนที่จะนำเครื่องเข้าศูนย์เพื่อรับการแก้ไขนั้น เราสามารถลองแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อนดังต่อไปนี้ ไอโฟนดับเอง แบตยังไม่หมดเปิดเท่าไหร่ก็ไม่ติด ควรทำอย่างไร?ชาร์จแบตเตอรี่ iPhone เสียก่อนImage : Appleแม้ว่า iPhone บางเครื่องจะใช้งานได้ตามปกติ ไม่ดับไปเฉย ๆ ขณะใช้งาน แต่รู้เหมือนไม่ว่าทุกอย่างมีอายุการใช้งานของตัวเองทำให้อุปกรณ์มือถือของเราอาจจะมีอาการแบตเตอรี่เสื่อมซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้ ให้เราลองสังเกตตอนใช้งานว่าตัวเลขตรงแถบแบตเตอรี่ลดลง หรือเพิ่มขึ้น ผิดปกติหรือไม่? อาการผิดปกติคือตัวเลขขึ้นลงอย่างรวดเร็ว อายุการใช้งานใน 1 วันสั้นลงกว่าเดิมหรือเปล่า ? โดยทาง Apple แนะนำว่า ให้ชาร์จไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากเสียบสายชาร์จ ซึ่งต้องมีสัญลักษณ์ชาร์จแบตเตอรี่ปรากฏขึ้น แต่ถ้าเกิดไฟไม่เข้าเครื่อง หรือไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ ขึ้นมาเลย ทั้งที่เสียบปลั๊ก สายชาร์จแน่นดีแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป ลองกดปุ่ม Reset ที่ตัว iPhoneหากหน้าจอเป็นสีดำหรือไม่ตอบสนอง เราอาจจะต้องบังคับรีสตาร์ทอุปกรณ์ การบังคับรีสตาร์ทนั้นจะไม่ลบข้อมูลอุปกรณ์ของเรา เราสามารถรีสตาร์ทอุปกรณ์ได้แม้หน้าจอเป็นสีดำหรือปุ่มต่าง ๆ ไม่ตอบสนอง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
เสียบ iPhone เข้าคอมพิวเตอร์ และเปิดด้วย โปรแกรม iTunesแต่ถ้าชาร์จแบตเตอรี่หรือกดปุ่ม Reset เครื่องแล้ว หน้าจอยังดำอยู่ หรือเห็นโลโก้ Apple และหน้าจอสีแดงหรือสีน้ำเงินในระหว่างที่เริ่มต้นระบบ ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
4. เมื่อเห็นตัวเลือกให้กู้คืนหรืออัพเดท ให้เลือกอัพเดท คอมพิวเตอร์จะพยายามติดตั้ง iOS หรือ iPadOS อีกครั้งโดยไม่ลบข้อมูลออก Image : Appleคอมพิวเตอร์จะดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ หากใช้เวลามากกว่า 15 นาที อุปกรณ์ของเราจะออกจากโหมดการกู้คืน และจะต้องกลับมาทำตามขั้นตอนที่ 2 และ 3 ซ้ำอีกครั้ง หากยังสามารถเข้าถึง iPhone ข้อมูลในเครื่องได้ ให้ทำการสำรองข้อมูล (Backup) เอาไว้ทันทีก่อนทำการอัพเดตตัวเครื่อง แต่ถ้าทำทั้งหมดนี้แล้ว iPhone ของเรายังไม่สามารถเปิดได้ไม่หรือไม่มีการตอบสนอง ขอแนะนำให้ เข้าศูนย์เพื่อเช็คอาการ ตีราคาและส่งซ่อม ดังนั้นทางที่ดีเมื่อเราตัดสินใจซื้อ iPhone หรืออุปกรณ์จาก Apple เราควรที่จะซื้อ AppleCare เตรียมพร้อมไว้ก่อนถึงเวลาฉุกเฉินถือว่าเป็นการวางแผนที่ดี เพราะบางครั้ง ราคา AppleCare อาจจะถูกกว่าค่าซ่อมเมื่อประกันหมดหรือต้องซื้อเครื่องใหม่ก็ได้นะ อ้างอิง : Apple / Cover : Apple |