Iphone 5 bluetooth โทรเข า

แอป Google Home จะแนะนําขั้นตอนการตั้งค่า Chromecast ซึ่งรวมถึง Chromecast และ Chromecast Ultra

หากตั้งค่า Chromecast ในอุปกรณ์เคลื่อนที่เครื่องหนึ่งไว้แล้ว คุณไม่ต้องตั้งค่าในอุปกรณ์เคลื่อนที่เครื่องอื่นอีก หากอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน

แตะเพื่อดูคําแนะนําแบบอินเทอร์แอกทีฟ

Iphone 5 bluetooth โทรเข า

หมายเหตุ: เราไม่รองรับการตั้งค่า Chromecast ในคอมพิวเตอร์อีกต่อไป โปรดใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อตั้งค่า Chromecast

สิ่งที่ต้องมีเพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ตั้งค่า Chromecast หรือ Chromecast Ultra

  1. เสียบ Chromecast
  2. ดาวน์โหลดแอป Google Home ในอุปกรณ์ iOS ที่รองรับ Chromecast
  3. เปิดบลูทูธ หากเปิดบลูทูธไว้แล้ว ให้ข้ามไปยังขั้นตอนถัดไป
  4. เปิดแอป Google Home
    Iphone 5 bluetooth โทรเข า
  5. หากได้รับข้อความแจ้ง ให้อนุญาตให้แอป Google Home ค้นหาและเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่าย LAN หากไม่ได้รับข้อความแจ้ง ให้ทําดังนี้
    1. เปิดแอป "การตั้งค่า" ของ iPhone หรือ iPad
    2. แตะบลูทูธ
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
      เปิดบลูทูธ
    3. กลับไปที่หน้า "การตั้งค่า" หลัก
    4. แตะความเป็นส่วนตัว
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
      เครือข่าย LAN
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
      เปิดแอป Google Home
    5. กลับไปที่แอป Google Home
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
  6. ทำตามขั้นตอนเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์
    1. หากไม่พบขั้นตอนในการตั้งค่า Chromecast ให้ทำดังนี้
      1. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอหลักของแอป Google Home ให้แตะเพิ่ม 
        Iphone 5 bluetooth โทรเข า
        Iphone 5 bluetooth โทรเข า
         ตั้งค่าอุปกรณ์
        Iphone 5 bluetooth โทรเข า
         อุปกรณ์ใหม่
      2. ทำตามขั้นตอนที่เหลือ
  7. ตั้งค่าสำเร็จ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

แก้ปัญหาการตั้งค่า

หากการตั้งค่าไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. รีบูต Chromecast
  2. ถอดปลั๊กเราเตอร์แล้วเสียบกลับเข้าไป
  3. เชื่อมต่อกับ Service Set Identifier (SSID) ของ Chromecast ด้วยตนเอง
    1. เปิดแอปการตั้งค่าของโทรศัพท์
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
       แตะ Wi-Fi
      Iphone 5 bluetooth โทรเข า
       เชื่อมต่อ Chromecast SSID
    2. เปิดแอป Google Home แล้วลองตั้งค่าอุปกรณ์อีกครั้ง
  4. รีเซ็ต Chromecast เป็นค่าเริ่มต้น
  5. ติดต่อทีมสนับสนุน

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

ใช้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์

คุณสามารถตั้งค่าคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์เพื่อลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ที่ใช้ Chrome OS, iOS, macOS และ Windows เวอร์ชันปัจจุบันได้อย่างปลอดภัย วิธีนี้จะช่วยปกป้องบัญชีจากแฮ็กเกอร์ได้ แม้ว่าแฮ็กเกอร์จะขโมยข้อมูลอย่างรหัสผ่านไปแล้วก็ตาม

เมื่อมีการพยายามลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ของคุณ Google จะตรวจสอบว่ามีสัญญาณบลูทูธระหว่างอุปกรณ์นั้นกับคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์หรือไม่ การตรวจสอบบลูทูธนี้ช่วยให้ Google มั่นใจว่าคุณและโทรศัพท์อยู่ ณ ที่นั้นจริง และการพยายามลงชื่อเข้าใช้ไม่ได้มาจากบุคคลอื่นในสถานที่อื่น

ตั้งค่าคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์

หากต้องการตั้งค่าคีย์ความปลอดภัยในตัว คุณต้องมีโทรศัพท์ Android ที่ใช้ Android 7.0 ขึ้นไป ดูวิธีตรวจสอบและอัปเดตเวอร์ชัน Android

หากโทรศัพท์มีสิทธิ์ Google จะใช้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์โดยอัตโนมัติเพื่อปกป้องคุณเมื่อลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ใหม่

สำคัญ: คุณจะมีคีย์ความปลอดภัยในตัวได้เพียงอันเดียวในบัญชี หากมีโทรศัพท์ที่มีสิทธิ์มากกว่า 1 เครื่อง จะต้องเลือกเพียงเครื่องเดียว โดยคุณจะเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์เครื่องอื่นที่มีสิทธิ์ได้ทุกเมื่อ

ใช้คีย์ในตัวของโทรศัพท์เพื่อลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ใหม่

  1. ตรวจสอบว่าบลูทูธของอุปกรณ์ทั้งสองเปิดอยู่
  2. ลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ใหม่
    • ในคอมพิวเตอร์หรือ Chromebook ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google โดยใช้เบราว์เซอร์ที่รองรับอย่างเช่น Chrome
    • ใน iPhone หรือ iPad ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google โดยใช้แอป Smart Lock
  3. ดูการแจ้งเตือนในโทรศัพท์ Android
  4. แตะสองครั้งที่การแจ้งเตือน "คุณพยายามลงชื่อเข้าใช้อยู่ใช่ไหม"
  5. ทำตามวิธีการเพื่อยืนยันว่าคุณเป็นผู้ลงชื่อเข้าใช้

ส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์

แชร์ประสบการณ์และความคิดเห็นของคุณเพื่อช่วย Google ปรับปรุงผลิตภัณฑ์นี้ให้ดีขึ้นสำหรับคุณและคนอื่นๆ

ส่งความคิดเห็น

แก้ปัญหา

หากพบปัญหาในการใช้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ ให้ลองทำตามเคล็ดลับด้านล่าง

วางอุปกรณ์ไว้ใกล้ๆ กัน

คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ Android จะทำงานก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้อุปกรณ์ที่คุณพยายามลงชื่อเข้าใช้ ลองวางโทรศัพท์ Android และอุปกรณ์ที่คุณพยายามลงชื่อเข้าใช้ไว้ข้างๆ กัน

เปิดบลูทูธในอุปกรณ์ทั้ง 2 เครื่อง

หากต้องการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดซ้ำๆ เวลาตั้งค่าคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ Android โปรดตรวจสอบว่าเปิดบลูทูธอยู่ในการตั้งค่าสำหรับอุปกรณ์ต่อไปนี้

  • โทรศัพท์ Android ของคุณ
  • อุปกรณ์ที่คุณพยายามลงชื่อเข้าใช้

เปิดบริการตำแหน่งในโทรศัพท์ Android

เปิดการตั้งค่าตำแหน่งของโทรศัพท์ Android เพื่อให้บลูทูธทำงานได้อย่างถูกต้อง คุณปิดการตั้งค่าตำแหน่งได้หลังจากที่ลงชื่อเข้าใช้แล้ว

ตรวจสอบข้อกำหนดของอุปกรณ์

หากต้องการลงชื่อเข้าใช้ในคอมพิวเตอร์ด้วยคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ Android คุณต้องมีอุปกรณ์ต่อไปนี้

  • โทรศัพท์ Android ที่ใช้ Android 7.0 ขึ้นไป ดูวิธีตรวจสอบและอัปเดตเวอร์ชัน Android
  • คอมพิวเตอร์ที่มีสิ่งต่อไปนี้
    • บลูทูธ
    • เบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome เวอร์ชันล่าสุด
    • ระบบปฏิบัติการที่เข้ากันได้ เช่น Chrome OS, Mac OS หรือ Windows เวอร์ชันล่าสุด

หากต้องการลงชื่อเข้าใช้ iPhone หรือ iPad โดยใช้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ Android คุณต้องมีสิ่งต่อไปนี้

  • โทรศัพท์ Android ที่ใช้ Android 7.0 ขึ้นไป ดูวิธีตรวจสอบและอัปเดตเวอร์ชัน Android
  • iPhone หรือ iPad ที่มีสิ่งต่อไปนี้
    • iOS เวอร์ชัน 10.0 ขึ้นไป
    • บลูทูธ
    • แอป Smart Lock เวอร์ชันล่าสุดติดตั้งไว้

คุณได้รับข้อความแจ้งแต่ไม่ได้พยายามลงชื่อเข้าใช้

ทำไมอุปกรณ์ Windows 10 ถึงแจ้งว่าไม่ได้เปิดบลูทูธ

เมื่อพยายามลงชื่อเข้าใช้ด้วยคีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ คุณอาจได้รับข้อความแจ้งว่า "เปิดบลูทูธเพื่ออนุญาตให้จับคู่" การแจ้งเตือนนี้อาจแสดงขึ้นแม้ว่าคุณจะเปิดบลูทูธทั้งในโทรศัพท์และอุปกรณ์ Windows 10 แล้วก็ตาม

หากต้องการอนุญาตให้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Windows 10 ให้ทำดังนี้

  1. เปิด Windows 10: การตั้งค่า 
    Iphone 5 bluetooth โทรเข า
     ความเป็นส่วนตัว 
    Iphone 5 bluetooth โทรเข า
     วิทยุ 
  2. เปิดใช้ "อนุญาตให้แอปควบคุมวิทยุของอุปกรณ์"

ลงชื่อเข้าใช้โดยไม่มีคีย์ความปลอดภัย

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ
  2. เลือกยกเลิก
    Iphone 5 bluetooth โทรเข า
    ลองวิธีอื่น
  3. เลือกวิธียืนยันที่คุณจะใช้ในการลงชื่อเข้าใช้
  4. ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อลงชื่อเข้าใช้ให้เสร็จ

รับการปกป้องที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมาย เช่น ผู้ดูแลระบบไอที ผู้บริหารธุรกิจ นักข่าว หรือทีมแคมเปญทางการเมือง เราขอแนะนำให้ลงทะเบียนใช้งานการปกป้องขั้นสูง โปรแกรมนี้ให้การปกป้องในระดับสูงสุดสำหรับบัญชี Google ของคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร