ฉัน เรียนไป เพื่อ อะไร 9 ขอ

          ปล. พี่เกียรติไม่ได้มุ่งหวังให้น้องๆ มองว่าระบบการศึกษาไทยไม่ดีนะคะ เพราะจริงๆ หลักการหลักสูตรของการศึกษาของเราดีค่ะ แต่เพียงการนำไปใช้และค่านิยมของคนในชาติทำให้จุดมุ่งหมายของการเรียนเปลี่ยนไปบ้างค่ะ เราสามารถวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาชาติได้ แต่วิจารณ์อย่างเดียวไม่เกิดผลใดๆ ตัวเราเองนี่แหละที่ต้องทำให้ "การเรียนหนังสือ" ของเราเอง ช่วยสร้างความสำเร็จให้ตัวเรา!

      เราเรียนไปเพื่ออะไร? คำถามนี้ได้ผุดเกิดขึ้นในโสตประสาทของความคิด ในช่วงเช้าวันหนึ่งที่แสนจะวุ่นวายของเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉิน ที่เป็นเหมือนเดิมในทุกๆวัน แต่วันนี้แตกต่างจากวันอื่นๆ เพราะวันนี้ฉันได้มีโอกาสเป็นหัวหน้าทีมที่ปฏิบัติการเองในห้องฉุกเฉิน หรือที่ใครๆในบุคคลากรทางการแพทย์รู้จักกันในนาม Incharge แต่คำถามนั้นยังไม่มีคำตอบ พลันเหตุการณ์เหล่านี้ก็ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด

       “เฮ้ฮ! วันนี้ทุกคนขยันผิดหูผิดตา วันอื่นไม่เคยเห็นเป็นอย่างนี้เลย”  เสียงหมอในห้องฉุกเฉินดังขึ้น

       “เช็คของกันยังไง ของขาดเยอะขนาดนี้ ทั้งๆที่เช็ค OK ของกันทุกวัน” เสียงฉันดังขึ้นขณะที่ทำหน้าที่เช็คอุปกรณ์ในรถฉุกเฉินด้วยตัวเอง

       “พี่....อันนั้นขาด!...อันนี้ขาด!......”เสียงประสานดังขึ้น เพื่อบอกให้ฉันทราบ ถึงเหตุการณ์นี้ คิดในใจเป็นยังงี้ได้ไงวะเนี่ย เจอกันอยู่ทุกวัน มาโวยวายเรื่องของขาดในวันนี้

       “ก็บอกแล้ว บอกทุกวัน ไม่เห็นมีใครทำอะไร” เสียงพี่ดาหวัน ดังขึ้นแบบรำคาญ เพื่อบอกให้รู้ถึงสถานการณ์ได้แจ้งของขาดทุกวันแต่ไม่เห็นมีใครทำอะไร

       “วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ของขาด พี่หวันจดมาให้หมด วันนี้จะหามาให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” ฉันบอกพี่หวัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่แกโวยวายจะมีคนจัดการให้ ฉันดำเนินการโทรประสานงานหน่วยงานงานต่างๆขอสนับสนุนอุปกรณ์ที่ขาด พร้อมทั้งออกเงินที่มีของหน่วยงานให้ ไปจัดซื้อมาให้ครบ ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ในช่วงบ่ายของวันนั้น และไม่มีคำบ่นใดๆออกจากปากพี่หวันอีกเลย

       ช่วงบ่ายวันเสาร์เป็นช่วงเวลาที่เริ่มได้ผ่อนคลายลงบ้าง จากจำนวนผู้รับบริการที่มีไม่มากนัก วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ทีมเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินต้องออกสอนการช่วยฟื้นคืนชีพให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล

       “น้องช่วยสอนพี่หน่อยนะ พี่ไม่ค่อยได้ลงทีม ส่งไปเรียนมาเยอะแล้ว ช่วยสอนหน่อย”

       “พี่อยากรู้อะไร ดูใน youtube ได้เลยค่ะ” เสียงน้องพยาบาลที่ฉันกำลังพูดด้วย ตอบกลับด้วยความเพิกเฉยต่อคำร้องขอ ของฉัน

       “รู้จักทุนมหิดลมั้ย” ฉันถามน้องพยาบาลคนเดิม

       “ทุนในหลวงนะเหรอ ทำไมจะไม่รู้” เขาตอบกลับเหมือนไม่คิดอะไรมาก

       “ถ้ารู้ช่วยบอกหน่อย ก่อนที่เด็กนักเรียนที่ได้รับทุนเหล่านั้นจะไปเรียน ในหลวงตรัสว่าอะไร” ฉันถามเผื่อว่าเขาจะคิดได้บ้างว่าที่เขารับทุน หรือที่โรงพยาบาลให้งบประมาณเพื่อให้เขาไปเรียน ไปฝึกอบรมพัฒนาความรู้ เพื่อให้เขาเก่งขึ้น มีความรู้มากขึ้น เพื่ออะไร

       “โอ๊ย! ไม่รู้หรอกพี่” เขาตอบกลับเหมือนเริ่มจะรู้สึกรำคาญ

       “ฟังนะ! ในหลวงบอกว่า ‘ทุนของฉันไม่ต้องชดใช้ แต่เมื่อเรียนจบแล้วขอให้นำความรู้ได้มาช่วยเหลือผู้อื่น และพัฒนาบ้านเมือง’..... ไม่ใช่นำความรู้ที่ได้มายกตนเหนือคนอื่น ถือว่าไปเรียนมาแล้วเก่งกว่าคนอื่น ไม่ยอมสอนหรือช่วยเหลือคนอื่น… เวลาเพื่อนขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่พูดว่า ‘ทำไมไม่รู้อีกเหรอ’ ที่พี่ส่งคนหลายๆคนในห้องฉุกเฉินเพื่อไปเรียน จะได้นำความรู้กลับมาเพื่อพัฒนาเพื่อน พัฒนาแผนก และช่วยเหลือคนไข้ ไม่ใช่นำความรู้มายกตนข่มท่าน เก่งอยู่คนเดียว จำไว้ด้วย!”

       ความเงียบบังเกิดขึ้นในห้องฉุกเฉิน หลังจากสิ้นเสียงของฉันที่ดังขึ้น และวินาทีนี้เองที่ฉันสามารถค้นหาคำตอบได้ว่า เราเรียนไปเพื่ออะไร?


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที

      1. �դ������ҧ�Ԫҡ�ô�ҹ��ҧ � �����ʹ������ҡ���
      2. ����ö�Ӥ�����������Ѻ�ҡ������¹���㹡�û�Сͺ�Ҫվ��С�þѲ���ԪҪվ�ͧ��
      3. �Ӥ���������㹡�ô��Թ���Ե��Ш��ѹ�ͧ�����ҧ�դس�Ҿ
      4. �鷴�ͺ��������ö�ͧ�� 㹡�����¹����к�����͹�ҧ�������Է������Դ
      5. ����ö���͹�ش�Ԫҷ�����Ѻ����ķ�Ժѵ�������ѡ�ٵá���֡���дѺ��ԭ�ҵ�����
��С�ȹ�ºѵâͧ �ʸ. ����ç���ҧ��ѡ�ٵûѨ�غѹ �������Ѥ��繹ѡ�֡������ͧ �ʸ.

ตอบแล้ว 6 ปีที่ผ่านมา

เหมือนศาสนาที่ปรากฎใน บัตรประชาชน

มันถูกปลูกฝังว่า โตไปต้องเรียน

ถ้าจะให้เป็นที่ยอมรับก็ต้องจบตรี อย่างน้อย

สถาบันดังๆยิ่งดี

แม้แต่ที่บ้านก็กรอกหู มาแบบนี้

แต่ที่เราเรียน เพราะ มันคือพื้นฐานชีวิต

ที่ให้เราต่อยอดความคิดไปอีก

พอโตมา ถ้าจะนะ ถ้าจะเรียนต่อโท ก็เหตุผลเดียว

อยากไปอยู่ร่วมกับคนที่เขามาเรียน วิชา ความรู้นั้นๆ เหมือนเรา

เอาที่เรียนมาใช้ประโยชน์ มันมีไฟดี

แต่ผลพลอยได้ก็งานที่จะทำต่อๆไป พอมีงาน เงินก็ตามมา ลูกโซ่

โตมาก็รู้แล้วว่า....ที่เรียนมันสอนได้น้อยกว่า....สิ่งที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน

ทำไมน๊าไม่ไปเกิด ตปท.

ตปท. ไม่จบก็ไม่เท่าไหร่ ไม่แข่งกันสูงแบบพี่ไทย CEO ดังๆระดับโลก

ไม่จบ ป ตรี สังคมก็ยอมรับ ด้วยสามารถ ด้วยผลงาน มากกว่า กระดาษรับรองว่าได้จบ

แล้ว จขกท เรียนไปทำไมคะ

เราจะเรียนไปเพื่ออะไร

เมื่อมีการศึกษาที่ดี มีงานที่ดีได้เงินเยอะ แน่นอนว่าจะทำให้ชีวิตเรามั่นคงและมีความสุขมากขึ้น การศึกษายังเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ถึงการยอมรับในสังคมได้ดีอีกด้วย หากเราไม่มีการศึกษาที่สูง เราก็ต้องขวนขวายมากขึ้นในการเป็นที่ยอมรับในสังคม แต่ถ้าหากเรามีการศึกษาและการงานอาชีพที่มั่นคง เราสามารถแปรสภาพสิ่งเหล่านั้นเป็นบ้าน รถ ...

เรียนแล้วได้อะไรบ้าง

1. มีความรู้ทางวิชาการด้านต่าง ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น 2. สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปใช้ในการประกอบอาชีพและการพัฒนาวิชาชีพของตน 3. นำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของตนอย่างมีคุณภาพ

การเรียนดียังไง

การศึกษาทำให้มนุษย์มีองค์ความรู้ในเรื่องต่างๆ อยู่ในตัว และทำให้กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถตลอดจนมีศักยภาพในการปฎิบัติงานใดๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานราบรื่นไม่มีปัญหา และในขณะเดียวกันหากพัฒนาการศึกษาให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะช่วยพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นได้ หรือเกิดการปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้ ...

เรียนหนังสือดียังไง

ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญ และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น ได้รับความรู้จากเนื้อหา การมีความรู้ติดตัว แม้ว่ายังไม่ได้ใช้ในตอนนี้แต่ยังไงก็ต้องเป็นประโยชน์ในอนาคต มีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป