Huawei Watch GT 2 เป็นสมาร์ทวอซ์ทรุ่นที่ 2 ของ หัวเว่ย กับการบุกตลาด Wearable โดยในรุ่นที่สองมีการเก็บรายละเอียดงานดีไซน์ให้มีความเนียบมากขึ้น ลดน้ำหนักตัวเรือนลงอีกหน่อยทำให้มีน้ำหนักใส่ออกกำลังกายได้คล่องตัวขึ้นจากรุ่นก่อนในขณะที่ด้านของสเปกตัวนาฬิกา ครั้งนี้มีการนำชิปประมวลผลบนอุปกรณ์สวมใส่รุ่นแรกของหัวเว่ยอย่าง CPU Kirin A1 มาใช้งานทำให้ตัวนาฬิกาประมวลผลได้เร็ว ฉลาด และตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีขึ้นแบบสัมผัสได้ ด้านของฟังก์ชั่นก็มีการเพิ่มลูกเล่นเข้ามาใหม่ และใส่ Barometer เข้ามาให้ด้วย ทำให้ภาพรวมกลายเป็นสมาร์ทวอซ์ทแบรนด์มือถืออีกรุ่นในตลาดที่ทำได้ดี น่าใช้งาน และคุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ ส่วนรายละเอียดในจุดอื่นๆ รวมถึงเมื่อใช้งานจริงมีจุดไหนบ้างที่ทำได้ดี และจุดไหนบ้างที่น่าปรับปรุง ตามผมไปลองใช้งานจริงพร้อมกันด้านล่างได้เลยครับ Huawei Watch GT 2 มาพร้อมคอนเซ็ปท์การออกแบบ "Simple" เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเนียบและหรูหรา ซึ่งเลือกใช้วัสดุกระจก 3D อย่างดีผสานเข้ากับหน้าจอ AMOLED ทำให้เป็นหน้าจอที่มีความทนทาน และแสดงผลได้คมและสีสดมากๆ ครับ ใช้งานกลางแจ้งแดดแรงได้สบายมาก ส่วนตัวเรือนจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก+โลหะ โดยหน้าปัดหรือหน้าจอแสดงผลของ Watch GT 2 จะมีให้เลือกสองขนาดคือ 42 และ 46 มม. (ตัวในรีวิวเป็นขนาด 46 มม.) มิติตัวเรือน Huawei Watch GT 2 (46 มม.) : กว้าง 45.9 x สูง 45.9 x หนา 10.7 มม. น้ำหนักรวม 41 กรัม สายรัดข้อมือปรับความยาวได้ตั้งแต่ : 14 - 21 ซม. ที่ขอบหน้าจอสัมผัส (หน้าปัด) จะมีแถบตัวเลข 2-24 วนเป็นวงกลมไว้ให้อ่านค่าบนหน้าจอ (หมุนไม่ได้) ด้านขวาของตัวเรือนมีปุ่มกด (เม็ดมะยม) 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนเมื่อกดแล้วจะเข้าสู่หน้าลิสต์เมนูการใช้งาน ส่วนปุ่มล่างจะเข้าสู่โหมดเมนูการออกกำลังกาย ด้านหลังของตัวเรือน จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจแบบ 2+2 Axis และแถบชาร์จแบบ Pin 2 จุดใช้เชื่อมต่อกับตัว dock ที่แถมมาให้ในกล่องสำหรับชาร์จไฟ สายนาฬิกาเริ่มต้นจะติดตั้งสายโลหะมาให้ และในกล่องจะมีสายยางสำหรับเปลี่ยนใส่ออกกำลังกายมาให้ด้วยครับ ซึ่งส่วนตัวชอบสายยางที่แถมมาให้เบาสบาย โดนเหงื่อแล้วไม่คัน
รายละเอียดสเปกของ HUAWEI Watch GT 2 (46 มม.)
การเริ่มต้นใช้งานตัวนาฬิกานั้น Huawei Watch GT 2 จะบังคับให้เราเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น "Huawei Health" จาก Google Play Store มาใช้งานร่วมกัน ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วก็เลือกอุปกรณ์เป็น Watch GT 2 และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้เลย ส่วนการใช้งานก็ไม่ยากและก็ไม่ง่ายเท่าไรครับ อาจต้องเรียนรู้กับเจ้า Huawei Watch GT 2 กันสักหน่อย โดยเริ่มจากการเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาก็สามารถทำได้ด้วยกันสองวิธีคือ การแตะค้างลงบนหน้าจอ และการเปลี่ยนจากแอปพลิเคชั่น ซึ่งตัวหน้าปัดเราสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากแอปฯ Gallery Store ของ Huawei ซึ่งมีทั้งเสียเงินและฟรี ก็เลือกดาวน์โหลดได้ตามใจชอบ เมนูการใช้งานบนแอปพลิเคชั่น Huawei Health การสั่งการบน Huawei Watch GT 2 การเลือกดูฟังก์ชั่นต่างๆ หรือการเปลี่ยนหน้าแสดงผล รวมถึงดูแถบ Notification bar, ข้อความที่เข้ามา ก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ปัดหน้าจอไปซ้าย-ขวา หรือ บน-ล่าง เท่านั้น เหมือนกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนเลย ส่วนปุ่มกดหรือเม็ดมะยมด้านข้างตัวนาฬิกาสองปุ่มจะแบ่งเป็น
โหมดการใช้งานของ Huawei Watch GT2
Huawei Watch GT 2 นอกจากจะตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบกึ่งอัตโนมัติได้แล้ว ในรุ่นนี้ได้เพิ่มความสามารถให้ตรวจวัดแบบเรียลไทม์ได้ด้วย และยังตรวจวัดขณะว่ายน้ำ หรือออกกำลังกายบนเครื่อง Elliptical ได้อีกต่างหาก ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลย เพราะจะทำให้เราทราบค่าอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลาทั้งวัน ว่าช่วงไหนคือช่วงเผาผลาญ ช่วงไหนคือช่วงพัก รวมทั้งยังทราบถึงการเต้นผิดจังหวะของหัวใจในผู้ป่วยโรคหัวใจได้ด้วยครับ ตรวจวัดความเครียดได้ด้วยนะ ตรวจวินิจฉัยการนอนหลับของเรา พร้อมแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นให้ได้ด้วย
ด้วยคอนเซ็ปท์ของหัวเว่ย ที่ต้องการให้ Watch GT 2 เป็นเสมือน Second Display หรือเป็นอุปกรณ์พกพาสำหรับออกกำลังกายแบบ All in one ตัวหนึ่ง ดังนั้นจึงได้ใส่ลำโพง ไมค์ และความสามารถในการบันทึกเพลงลงบนตัวนาฬิกา รวมถึงการเชื่อมต่อกับหูฟังไร้สายได้มาให้ ทำให้เราสามารถรับสายโทรเข้าและทำการสนทนาผ่านตัวนาฬิกาได้ทันที แต่มีข้อแม้ว่าถ้าไม่ใช่รุ่น eSIM จำเป็นต้องให้ตัวนาฬิกาอยู่ระยะสัญญาณบลูทูธของสมาร์ทโฟนด้วยนะครับ นอกจากนี้ Huawei Watch GT 2 ยังสามารถฟังเพลงผ่านตัวนาฬิกาได้ทันที โดยถ้าหากเราจะให้ตัวนาฬิกาทำตัวเสมือนเป็น MP3 พกพา เพลงที่ฟังจะต้องเป็นเพลงที่เราบันทึกไว้บนสมาร์ทโฟน (เปิดฟังผ่านแอปพลิเคชั่น Music บนตัวเครื่อง) เท่านั้นนะครับ ส่วนใครที่ฟังแบบออนไลน์หรือสตรีมมิ่งผ่านแอปพลิเคชั่น Joox, Sportify และอื่นๆ ขณะฟังต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และทำได้แค่สั่งการผ่านนาฬิกาได้เท่านั้น จะไม่สามารถฟัง Offline ได้เหมือนการบันทึกเพลงลงสมาร์ทโฟนแล้วให้ตัวเครื่อง Sync ข้อมูลไว้ด้วยกัน เป็นไฮไลท์ที่ผมมองว่าเป็นจุดขายของ Huawei Watch GT2 เลยครับ เพราะทางหัวเว่ยใส่ใจรายละเอียดพอสมควร มีการใส่โปรแกรมการออกกำลังกายมาให้ครบทุกช่วง เริ่มตั้งแต่กลุ่มคนที่เริ่มต้นออกกำลังกายหรือมือใหม่ ก็มีฟีเจอร์ Pre-Training หรือหลักสูตรสำหรับคนเริ่มต้นออกกำลังกายมาให้ด้วย ซึ่งในโหมดก็จะแนะนำการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ การเดิน การวิ่ง คาดิโอไล่ตั้งแต่เบาๆ ไปจนหนักเลยก็มี นอกจากนี้ตัวนาฬิกายังมีโหมดรองรับการออกกำลังกายด้วยกัน 15 รูปแบบ ในแต่ละโหมดก็จะมีการวัดค่าที่เกี่ยวข้องให้อัตโนมัติ เช่น ค่า Vo2 Max หรือระดับออกซิเจนในเลือด, การฟื้นฟูร่างกาย, โปรแกรมออกกำลังกายแบบเข้มงวด เป็นต้น และยังมีโหมดไตรกีฬาสำหรับคนที่ชอบลงแข่งขันมาให้ด้วยนะครับ ส่วนใครที่ชอบจัดโปรแกรมออกกำลังกายเองบนตัวนาฬิกาก็มีโหมดให้เราแพลนการออกกำลังกายเองได้มาให้ด้วย เรียกว่าครบทุกโจทย์สำหรับสายออกกำลังกายจริงๆ ข้อดีของสมาร์ทวอซ์ทที่ดีกว่านาฬิกาทั่วไปก็คือ การที่เปลี่ยนหน้าปัดแสดงผลได้เรื่อยๆ อารมณ์เบื่อก็เปลี่ยนก็ว่าได้ครับ และแน่นอนว่า Huawei Watch GT 2 ก็สามารถเปลี่ยนหน้าปัดแสดงผลได้เหมือนรุ่นก่อน และยังคงเลือกซื้อเพิ่มเติมได้จากบนแอปพลิเคชั่นของ Huawei เองเท่านั้น Huawei Watch GT 2 เป็นสมาร์ทวอซ์ทในกลุ่มแบรนด์มือถือที่ภาพรวมทำได้ดีมากๆ คุ้มค่า และน่าซื้อมาใช้งาน ยิ่งถ้าใครใช้ดีไวซ์ของหัวเว่ยอยู่แล้วต้องมีเลยล่ะครับ ส่วนถ้าถามว่าเหมาะกับใคร? ภาพในหัวผมที่หลังจากรีวิวเสร็จแล้วก็นึกถึงคนที่กำลังมอง Second Display รองจากสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องมีการเคลื่อนที่ไม่ติดโต๊ะทำงานตลอดทั้งวันช่วยได้มากเลยครับ นอกจากนี้ก็คนรักสุขภาพที่เริ่มต้นออกกำลังกาย หรือเป็นคนที่ชอบดูแลสุขภาพให้เป็นไปตามเป้าหมายในแต่ละวัน Huawei Watch GT 2 ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวเช่นกันครับ จุดเด่นของ HUAWEI Watch GT 2
จุดสังเกตของ HUAWEI Watch GT 2
Huawei เปิดวางจำหน่าย Huawei Watch GT 2 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีดำ Matte Black และสีน้ำตาล Pebble Brown 2 โดยมีขนาดหน้าปัดคือ ขนาด 46 มม. และ ขนาด 42 มิลลิเมตร แบ่งราคาวางจำหน่ายในแต่ละรุ่น ดังนี้ |