คนที่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือและใช้บัตรเครดิตเป็นประจำ น่าจะรู้กันอยู่นะครับว่าวิธีง่ายๆ ที่จะใช้บัตรฯ ให้คุ้มค่าที่สุดและไม่สร้างหนี้เลย ก็คือ “จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง-จ่ายตรงเวลา-และถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็อย่ากดเงินสดจากบัตรเครดิต” Show หลายคนสงสัยว่า...ทำไมถึงไม่ควรกดเงินสดออกจากบัตรเครดิต? บก.อาสาเล่าให้ฟังเองครับ ขอเกริ่นก่อนนะครับว่านี่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวบก. เมื่อปีที่แล้ว ประมาณวันที่ 10 ธันวาปี 62 ช่วงนั้นงานเยอะมาก บก.มึนๆ + รีบๆ ก็เดินไปกดเงินที่ตู้ ATM ของแบงก์หนึ่งในห้างครับ ด้วยความที่รีบและในกระเป๋าพกบัตรฯ เยอะ บก.ดันหยิบบัตรเครดิตออกมากดเงินแทนบัตร ATM ครับ ความเซอร์ไพรส์ คือ มันไม่แจ้งเตือนอะไรเลยครับ ว่าบัตรเครดิตที่ใส่เข้าตู้ไม่ใช่บัตร ATM เพราะมันกดเงินได้ปกติเหมือนกดบัตร ATM ทั่วไปเลย *บัตรเครดิตของบก.มีทั้งวงเงินเครดิตและวงเงินสินเชื่อที่กดเงินสดและผ่อนได้ครับ รู้ตัวอีกที ก็คือ ตอนที่เงินออกมาแล้ว 2,000 บาท และบัตรเครดิตเด้งคืนออกมาแทนนั่นแหละครับ ตอนนั้นเลยรีบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ เพื่อคำนวณว่าจะเสียดอกเบี้ยอะไรยังไงบ้าง อธิบายเกี่ยวกับบัตรเครดิตใบนี้ก่อนนะครับ
คราวนี้เรามาหาคำตอบกันครับว่าจะเสียดอกเบี้ยอะไรยังไงบ้าง
1.ค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ สูตร ค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ = จำนวนเงินสดที่กดออกมา x 3% เพราะฉะนั้น : ค่าธรรมเนียมกดเงินสดจากตู้ = 2,000 x 3% = 60 บาท ทั้งนี้ขึ้นกับ Rate ของแต่ละที่โดยส่วนใหญ่คิด 3% ของยอดเงินที่กดครับ ตอนนั้นขอ งบ.ก.เสียไป 40 บาท เพราะเป็นตู้ที่มีสัญลักษณ์ ATMPlus ครับ 2.ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่อวัน สูตร ดอกเบี้ยแต่ละวัน (บาท) = จำนวนเงินสดที่กดออกมา x (ดอกเบี้ยบัตรเครดิต + ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต) / 365 เพราะฉะนั้น : ดอกเบี้ยแต่ละวัน (บาท) = 2,000 x (15% + 13%) / 365 = 1.53 บาท โดยนับจำนวนวันตั้งแต่วันที่กดออก - วันที่คืนเงิน เช่น กดมา 90 วัน ก็จ่าย 1.53 x 90 = 137.7 บาท ***เขาคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยรายวันตามเงินต้นนะครับ ถ้ายอดกดเงินสดเยอะ มันก็แพงขึ้นครับ เช่น กด 100,000 บาท คำนวณแล้ว ดอกเบี้ยตกวันละ 76.71
บ.ก.ปรึกษากับ Call Center และได้คำแนะนำมาว่าให้จ่ายปิดยอดบัตรเครดิตที่รูดมาทั้งหมด - ปัจจุบัน โดยมีรายการดังนี้ครับ ยอดรูดบัตรเครดิต 15,000 บาท + จำนวนเงินสดที่กดออกไป 2,000 บาท + ค่าธรรมเนียมตู้กด 40 บาท = 17,040 บาท โชคดีครับที่เวลาใช้บัตรเครดิตทุกครั้ง บ.ก.จะหักเงินตามจำนวนที่รูดเก็บไว้ที่บัญชีออมทรัพย์ทุกครั้ง บ.ก.จึงสามารถจ่ายปิดยอดทั้งหมดได้ทันที ไม่ต้องรอวันที่เงินเดือนออกครับ *จริงๆ คนใช้บัตรเครดิตควรทำแบบนี้นะครับ ใช้เท่าไหร่-หักเก็บไว้เลย ทั้งนี้คุณอาจจะยังแยกไม่ออกว่า แล้วเจ้าบัตรเครดิต กับ บัตรกดเงินสดนั้น มันแตกต่างกันอย่างไรละ?วันนี้เรามีการแยกความหมาย และ แนวทางของทั้งสิ่งนั้นออกด้วยกัน เพื่อให้ท่านจะได้เข้าใจและแยกแยะออกจากกันได้ว่า แตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาแยกประเภทกันไว้ค่ะ(ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และ แนวทางการใช้จ่ายของให้ต่ละคนนะคะ สำหรับการทำบัตรอะไรก็ตาม อย่าลืมแค่ว่า ต้องดูดอกเบี้ยของเขาด้วยนะคะ) มีความแตกต่างกับบัตรกดเงินสดตรงที่ มันสามารถใช้จ่ายในประจำวันได้ดี เรียกได้ว่าเหมาะสมกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องถือเงินเยอะมากมายอยู่กับตัว แถมทุกการใช้จ่ายที่ทำการผ่านบัตรเครดิดนั้น ยังมีการสะสมแต้มสนับสนุนให้คุณสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นส่วนลดได้อีกในคราวหน้า ซึ่งจะมีร้านค้าร่วมรายการ หรือ กิจกรรมต่างๆที่ร่วมรายการ ตรงตามเงื่อนไขของบัตรนั้นๆจึงจะใช้ได้ เป็นต้น แต่บัตรเครดิตจะไม่นิยมกดเงินสดออกมาเพราะจะเสียค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยสูง ส่วนใหญ่แล้วจะใช้แค่รูดจ่ายสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น บัตรกดเงินสดตามขื่อและตรงตัวต่อการใช้งานของมันเลยค่ะ เจ้าบัตรใบนี้ใช้เพื่อ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ซึ่งบางกรณีจะมีการอนุมัติเงินสูงกว่าบัตรเครดิตเขานิดหน่อยนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรที่จะนำมาใช้แทนบัตรเครดิต เพราะตัวบัตรเครดิด นอกจากจะสามารถ กดเงินสดจากบัตรเครดิต มาใช้ได้แล้วนั้น ทั้งนี้ดังที่กล่าวมา เขาสามารถสะสมแต้มหลังจากการใช้งาน กดเงินสดจากบัตรเครดิต แล้วนั้นเอง สุดยอดไปเลยใช่มั้ยค่ะ กับการ กดเงินสดจากบัตรเครดิต เนี่ย! คิดคำนวนถึงค่าเงินที่จะต้องจ่ายภายหลัง โดยมีดังนี้วิธีคำนวณ ยกตัวอย่างการคำนวณเงินและดอกเบี้ยหลังจากทำการ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ไปแล้ว สมมุติว่าในช่วงวันที่ 2 เดือนมกราคม ได้ กดเงินสดจากบัตรเครดิต เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท มีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นทันที 300 บาท รวมด้วยค่า vat 21 = 321 บาท ดอกเบี้ย 20% คำนวณรายวัน เมื่อถึงวันชำระเงินที่ได้กดออกมาใช้ในเดือนหน้า เช่นจ่ายวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 10,000×20%x(13วัน/365) = 71.25 บาท เป็นต้น อีกรณีหนึ่ง คือการแบ่งจ่าย เงินที่ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ยกตัวอย่างเช่น การแบ่งจ่ายในเดือนแรก เงินต้น 3,000 + ค่าธรรมเนียมพร้อมvat 321.- + ดอกเบี้ย 71.25 รวม 3,392.25 บาท เป็นต้น เอ๊ะ?แล้วดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดมันแพงไหมละ เมื่อเทียบกับดอกเบี้ย กดเงินสดจากบัตรเครดิต คุณจะต้องทราบถึงเงื่อนไขต่างๆและศึกษาถึงแนวทางการคิดดอกเบี้ยของบัตร กดเงินสดจากบัตรเครดิต ว่าเขามีสูตรการคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยอย่างไร ภาวะดอกเบี้ยนั้นที่ไหนมีความเสียงที่ดอกเบี้ยแพงกว่า อย่าลืมศึกษาถึงรูปแบบการคิดคำนวณเงินก่อนใช้ หรือก่อนที่จะ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ด้วย ก่อนจะจบเนื้อหาในครั้งนี้ เราจะขอทิ้งท้ายเกี่ยวกับการหมุนเงิน ด้วยการ กดเงินจากบัตรเครดิต ไปหมุนเงิน หากคิดจะดำเนินการหมุนเงินด้วยบัตรเครดิต อย่าลืมที่จะจดบันทึกรายการที่เราได้ทำการหมุนเงินไว้ ว่ารายการหมุนเงินนั้น เราได้กระทำอะไรไปบ้าง(จะได้ไม่งง )เพื่อดูว่าตอนนี้และต่อไปควรจะจัดการอย่างไรกับการหมุนเงิน ด้วยการ กดเงินสดจากบัตรเครดิต อย่างไรดี อย่าลืมที่จะเก็ยสลีปที่เราได้ทำการชำระเงินในแต่ละครั้งเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเสมอ ต้องมีวินัยต่อการชำระเงินในทุกๆครั้งที่ถึงกำหนดเงิน แบ่งสันปันส่วนให้ลงตัว แล้วคุณจะไม่พบปัญหาเรื่องการเงินมารบกวนได้เลย อย่าลืมนะคะเพราะการจดบันทึกถือว่าเป้นสิ่งที่สำคัญมากและยังช่วยให้เราไม่หมุนเงินจากบัตรเครดิตมากจนเกินไปอีกด้วย ทั้งนี้อยากจะขอย้ำอีกว่า หากเมื่อใดที่คุณได้กระทำการ กดเงินสดจากบัตรเครดิต แล้วนำมาใช้จ่ายในทุกครั้งๆอย่าลืมว่าจะต้องอยู่ในวงเงินที่ไม่ทำให้ชีวิตประจำวันของตัวเองพลอยเดือดร้อนไปด้วย! สมมุติว่าในเดือนหนึ่งคุณมีเงินเดือน 15,000 บาท คุณจะต้องกดเงินสดมาใช้ในวงเงินที่ไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อเผื่อดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายด้วยนั่นเอง ลองคิดดูสิคะว่าหากคุณกดเงินสดมาใช้หรือใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าพอดี 15,000 บาท แล้วดอกเบี้ยล่ะ คุณจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย แถมเงินเดือนก็ดันหมดพอดีเป๊ะ จะมีแต่บัตรเครดิตไว้ใช้อย่างเดียวแต่ไม่มีเงินสดไว้ใช้จ่ายสำรองแลยก็ไม่ดีนะคะ
|