สวัสดีครับ วันนี้มีเครื่องพ่นกลิ่น Aroma มารีวิวกันครับ ตัวนี้ผลิตโดยบริษัท HL แล้ววางขายผ่านเว็บ Xiaomi หน้าตาเลยดูสวยงามเรียบๆ น่าใช้ตาม Style Xiaomi ครับ มาเริ่มแกะกล่องกันเลย หน้าตากล่องเป็นสีขาวพร้อมรูปตัวเครื่อง ตรงมุมบนซ้ายมีเขียนบอกว่าเป็นสินค้าจาก Xiaomi platform เปิดกล่องมาก็จะเจอคู่มือเลยครับ ข้างในมีโฟมกันกระแทกมาอย่างดี อุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาได้แก่ ตัวเครื่อง คู่มือ สายไฟ และบัตรรับประกันครับ หน้าตาตัวเครื่องสีขาวเรียบๆ ขนาดกระทัดรัด หยิบเอาไปวางพ่นกลิ่นหอมตรงไหนก็สะดวกครับ และด้วยขนาดเครื่องที่เล็กมากไอน้ำที่พ่นออกมาเลยไม่ได้เยอะจนมีผลกับความชื้นมากเหมือนพวกเครื่องเพิ่มความชื้นโดยตรงครับ เปิดใช้งานในห้องแอร์ได้ความชื้นไม่เพิ่ม ข้างบนจะมีป้ายเตือนว่าตอนใช้งานอย่าเอียงเครื่องเพราะน้ำจะหกออกมาครับ (เดาจากรูปนะครับ อ่านไม่ออกเหมือนกัน 555) ตอนใช้ต้องแกะออกก่อนจะได้เป็นรูให้พ่นไอน้ำออกมาแบบนี้ครับ ด้านล่างมียางกันลื่นป้องกันล้มแล้วน้ำหกครับ ช่องชาร์จเป็นแบบ Type-C ด้วยล้ำมาก ใครไม่มีก็ใช้สายที่ให้มาพร้อมเครื่องได้เลยครับ ขั้นตอนการใช้งานไม่ยากแต่เปิดหลายชั้นหน่อยครับ จากนั้นก็เติมน้ำลงไปไม่ให้เกินขีดด้านใน ในวิธีใช้บอกสามารถใช้น้ำก๊อกได้เลยครับ ความจุน้ำ 120ml เปิดใช้งานได้ต่อเนื่อง 6-10 ชั่วโมง รุ่นนี้เป็นแบบไม่ได้ใช้ไส้กรองแบบรุ่นราคาถูกยี่ห้ออื่นๆ นะครับ ไม่ต้องคอยซื้อเปลี่ยนและไม่มีปัญหาเรื่องไหม้เพราะเครื่องมีระบบตัดไฟให้เองเวลาน้ำหมด (ตอนน้ำหมดจะมีไฟสีแดงกระพริบบอก 10 วินาที) หลังจากเติมน้ำแล้วก็มาใส่กลิ่นกันครับ ใส่แค่ 2-3 หยดก็พอเพราะมันมีน้ำนิดเดียว แนะนำให้ใช้พวกน้ำมันหอมระเหยที่ใช้กับเครื่องพ่นไอน้ำโดยเฉพาะนะครับ เลือกกลิ่นกันได้ตามชอบเลย หาซื้อได้ตาม Miniso ร้านรถเข็นในห้าง โซนเครื่องพ่นกลิ่นในเซ็นทรัล หรือสั่งออนไลน์ก็ได้ครับแต่ลองดูที่มันเป็นพวกกลิ่นจากธรรมชาติไม่ใช่สารเคมีจะดีมากครับเพราะเราต้องดมเข้าไปเรื่อยๆ ปิดกลับให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน วิธีใช้ง่ายมากครับ กด 1 ทีครั้งแรกเพื่อเปิด กด 1 ที ครั้งต่อไปเพื่อเปลี่ยนสี เปลี่ยนได้ 7 สี ตามความชอบเราครับ กด 2 ทีติดกันเพื่อปิดไฟ กดค้างปิดเครื่อง ลองดูการทำงานในคลิปได้เลยครับ เปิดเป็นไฟตอนกลางคืนก็สวยดีนะ มาถึงการทำความสะอาดหลังใช้กันบ้าง ในคู่มือเค้าบอกว่าถ้าน้ำเหลือตอนเททิ้งให้เทท่านี้นะครับ สังเกตุด้านในให้แท่งสี่เหลี่ยมอยู่ข้างบนเพราะมันมีรูอยู่ ถ้าเทผิดด้านน้ำอาจจะเข้าไปสะสมข้างในได้ จากนั้นให้ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งครับ อย่าเอาไปจุ่มหรือโดนก๊อกโดยตรงนะครับเดี๋ยวน้ำเข้าเครื่อง มาลองเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรงที่ผมคิดว่าคล้ายกันมากๆ คือเครื่องของ Miniso ครับ ข้อแตกต่างชัดๆ เลยคือราคา ของ Xiaomi 500 กว่าบาท ส่วน Miniso 699 บาท แพงกว่าแต่ก็มีฟีเจอร์ดีกว่าอยู่เหมือนกันคือสามารถปรับโหมดความแรงของไอน้ำได้ 2 แบบครับ คือ 1. แบบไฟสีน้ำเงิน เป็นโหมดพ่นกลิ่นหอม ปริมาณไอน้ำจะเท่าๆ กับของ Xiaomi เลย ใช้งานได้ 6 ชม. เท่ากันเพราะใส่น้ำได้ประมาณ 120 ml เหมือนกันเป๊ะ 2. แบบไฟสีแดง ตัวนี้จะพ่นไอน้ำแบบจัดหนักเพื่อเพิ่มความชื้น ระยะเวลาใช้งานจะเหลือแค่ 3 ชม น้ำก็หมดแล้วครับ (ลองเช็คความชื้นห้องก่อนนะครับถ้าชื้นอยู่แล้วเพิ่มความชื้นไปอีกราอาจจะขึ้นได้ครับ) สรุป สำหรับคนที่กำลังหาเครื่องพ่นไอน้ำเพื่อพ่นกลิ่นหอมอย่างเดียวใช้อันของ Xiaomi ก็พอครับเพราะมันไม่ทำให้ห้องชื้น ประหยัดไปได้เกือบ 200 บาท ในสเป๊กที่เหมือนกันเป๊ะ พวกรุ่นที่ราคาถูกกว่านี้ส่วนใหญ่จะต้องคอยเปลี่ยนกรองและไม่มีระบบตัดไฟไม่แนะนำครับ แต่ถ้าใครมีปัญหาห้องแห้งเกินด้วย (ชื้นต่ำกว่า 40%) ซื้อของ Miniso ก็อาจจะคุ้มกว่าเพราะได้ใช้งาน 2 อย่างเลยแต่ต้องเติมน้ำเหนื่อยหน่อยนะครับเพราะเครื่องมันเล็กหมดทุก 3 ชม. |