วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

จากข่าวเรื่อง “ปีหน้า เตรียมรับมือกับ DDoS Attack จากเวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย” ซึ่งมีเนื้อหาน่าสนใจตรงที่ วัยรุ่นจากประเทศเหล่านี้เริ่มเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยของการใช้เทคโนโลยีบนระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจส่งผลให้แฮ็คเกอร์ใช้ความไม่รู้ ความประมาทเลินเล่อของวัยรุ่นเหล่านั้น ในการแฮ็คอุปกรณ์ให้กลายเป็นเครื่องมือ (Botnet) เพื่อใช้โจมตีคนอื่นต่อได้

ซึ่งเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกับนิสัยการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนของคนไทยหลายคนเช่นเดียวกัน ที่ไม่ตระหนักถึงความเสี่ยง และอันตรายของการเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานซอฟต์แวร์เถื่อนที่ดาวน์โหลดมาจากต้นทางที่ไหนก็ไม่รู้ (แต่ฟรี), การ Jailbreak เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชันฟรี รวมทั้งการกดลิงค์โฆษณาหรือรับรางวัลต่างๆ เป็นต้น บทความนี้ ทีมงาน  TechTalkThai จึงขอแนะนำวิธีการทำให้อุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และโน๊ตบุ๊คของทุกคนปลอดภัยจากภัยคุกคามบนอินเตอร์เน็ตกันนะครับ

1. ดูแล Wi-Fi ของตน เริ่มต้นด้วยการทำให้อุปกรณ์ที่กระจายสัญญาณเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตปลอดภัย เช่น Router หรือสมาร์ทโฟนที่เปิดฟังก์ชันแชร์อินเตอร์เน็ต

  • ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งเพียงพอ หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านง่ายๆ เช่น “password” หรือ “123456” และเพิ่มความแข็งแกร่งให้รหัสผ่านโดยการใส่อักษรพิมพ์ใหญ่, อักขระพิเศษ และตัวเลขลงไปด้วย เช่น “H3||0W0r|d!” หรือสร้างข้อความสั้นๆที่สามารถจำได้ง่ายๆ เช่น “orange eagle key shoe” (ดูคำแนะนำการตั้งรหัสผ่านได้ที่ https://www.techtalkthai.com/stanford-university-password-policy/)
  • ใช้วิธีการเข้ารหัสแบบ WPA2-AES เสมอ

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

2. ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น เปิดใช้งานไฟร์วอลล์, ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส รวมทั้งสแกนมัลแวร์บนเครื่องเป็นระยะๆ

3. เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อ Public Wi-Fi หรือ Wi-Fi ที่ไม่รู้จัก ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเชื่อมต่อจริงๆ จำไว้เสมอว่า Public Wi-Fi ที่ดี จะต้องไม่ถามข้อมูลรหัสผ่านใดๆของคุณ

4. หลีกเลี่ยงการใช้งานโปรแกรมเถื่อน หรือดาวน์โหลดมาโดยไม่ทราบแหล่งที่มาแน่ชัด โปรแกรมเหล่านี้อาจแฝงมัลแวร์ที่แฮ็คเกอร์ใช้เพื่อควบคุมอุปกรณ์ของคุณมาด้วยก็ได้ แนะนำให้ดาวน์โหลดผ่านช่องทางที่ถูกต้อง เช่น App Store, Google Play หรือซื้อแผ่นซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ เป็นต้น

5. ระวังเว็บไซต์ปลอม เว็บไซต์เหล่านี้มักมีชื่อเว็บไซต์หรือ URL ใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของจริง แต่อาจมีการสะกดผิดไปจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งถ้าเจอเว็บไซต์ที่มีการสอบถามข้อมูลส่วนตัวเมื่อไหร่ ให้ลองกลับไปดูที่ URL อีกทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าถูกต้องเว็บไซต์

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

6. คิดก่อนกด อย่ากดลิงค์ใดๆที่ส่งมาจากคนที่คุณไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นบน Email, Facebook หรือช่องทาง Chat ต่างๆ ลิงค์เหล่านี้อาจนำไปสู้เว็บไซต์ที่หลอกล่อให้คุณเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ไปติดตั้งไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ โดยเฉพาะอีเมลล์ ควรสังเกตอีเมลล์ผู้ส่งให้ดีว่าเป็นคนที่คุณรู้จักจริงหรือไม่ เนื่องจากแฮ็คเกอร์อาจปลอมอีเมลล์ให้คล้ายคลึงกับคนที่คุณรู้จักก็ได้

เพียงแค่ 6 วิธีการง่ายๆ ก็ช่วยให้คุณรอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อของแฮ็คเกอร์ และทำให้อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

อินเตอร์เน็ตมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่องทางสื่อสารเเละเเลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสะดวกสบายต่อเรามาก รวมถึงธุรกิจห้างร้านที่ต้ิองใช้งานในการค้าขาย ใช้ธุรกรรมการเงินทางอินเตอร์เน็ต เเต่ถ้าเราใช้อย่างไม่ระวังเเละยังไม่เห็นความสำคัญ ของการใช้อินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัยก็จะเกิดภัยคุกคามต่างๆได้เช่น โดนโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวเพื่อขโมยเงินทางอินเตอร์เน็ตได้ หรือถูกหลอกลวงเกี่ยวกับการค้า่ เป็นต้น จากที่กล่าวมาเราสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนี้

1.) ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

2.) ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองเเละคนในครอบครัวให้ผู้อื่น เช่น สำเนาบัตรประชาชน เอกสารต่างๆ รวม ถึงรหัสบัตรต่างๆ เช่น เอทีเอ็ม บัตรเครดิต 

3.) ไม่ควรโอนเงินให้ใครเด็ดขาด นอกจา่กจะเป็นญาติสนิทที่เชื่อใจได้จริงๆ

4.) ไม่ออกไปพบเพื่อนที่รู้จักทางอืนเทอร์เน็ต เว้นเสียเเต่ว่าได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง เเละควรมีผู้ใหญ่หรือเพื่อนไปด้วยหลายๆคน เพื่อป้องกันการลักพาตัว หรือการกระทำมิดีมิร้ายต่างๆ

5.) ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอืนเตอร์เน็ต รวมถึงคำโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ เด็กต้องปรึกษาพ่อเเม่ผู้ปกครอง โดยต้องใช้วิจารณญาณ พิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขาย

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

6.) สอนให้เด็กบอกพ่อเเม่ผู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าถูกกลั่นเเกล้ง (Internet Bullying)

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

7.) ไม่เผลอบันทึกยูสเซอร์เนมเเละพาสเวิร์ดขณะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ

อย่าบันทึก! ชื่อผู้ใช้เเละพาสเวิร์ดของคุณบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างเด็ดขาด เพราะผู้ที่มาใช้เครื่องต่อจากคุณสามารถล็อคอินเข้าไป จากชื่อของคุณที่ถูกบันทึกไว้ เเล้วสวมรอยเป็นคุณ หรือเเม้เเต่โอนเงินในบัญชีของคุณจ่ายค่าสินต้าเเละบริการต่างๆ ที่เขาต้องการ ผลคือคุณอาจหมดตัวเเละล้มละลายได้

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

8.) ไม่ควรภาพวิดีโอ หรือเสียงที่ไม่เหมาะสมบนคอมพิวเตอร์ หรือบนมือถือ

เพราะภาพ เสียง หรือวิดีโอนั้น รั่วไหลได้ เช่นจากากรเคร็กข้อมูล หรือถูกดาวน์โหลดผ่านโปรเเกรม เพียร์ ทู เพียร์ (P2P) เเละถึงเเม้ว่าคุณจะลบไฟล์นั้นออกไปจากเครื่องเเล้ว ส่วนใดส่วนหนึ่งของไฟล์ยังตกค้างอยู่ เเล้วอาจถูกกู้กลับขึ้นมาได้ โดยช่างคอม ช่างมือถือ

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

9.) จัดการกับ Junk Mail จังค์ เมล์ หรือ อีเมล์ขยะ

ปกติ การใช้อีเมล์จะมีกล่องจดหมายส่วนตัว Inbox กับ กล่องจดหมายขยะ Junk mail box หรือ Bulk Mail เเยกเเยะประเภทของอีเมลล์ เราจึงต้องทำความเข้าใจ เเละเรียนรู้ที่จะคัดกรองจดหมายอิเล็กส์ด้วยตัวเอง เพื่อกันไม่ให้มาปะปนกับจดหมายดีๆ ซึ่งเราอาจเผลอไปเปิดอ่าน เเล้วถูกสปายเเวร์ เเอดเเวร์เกาะติดอยู่บนเครื่อง หรือเเม้เเต่ถูกไวรัสคอมพิวเตอร์เล่นงาน

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

10.) จัดกา่รกับเเอดเเวร์ สปายเเวร์

จัดการกับสปายเเวร์เเอดเเวร์ที่ลักลอบเข้ามาสอดส่องพฤคิกรรมการใช้เน็ตของคุณ ด้วยการซื้อโปรเเกรมหรือไปดาวน์โหลดฟรีโปรเเกรมมาดักจับเเละขจัดเจ้าเเอดเเวร์ สปายเเวร์ออกไปจากเครื่องของคุณ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดโปรเเกรมฟรีได้เเต่เเค่มีโปรเเกรมหไว้ในเครื่องยังไม่พอ คุณต้องหมทั่นอัพเดทโปรเเกรมออนไลน์เเละสเเกนเครื่องของคุุณบ่อยๆด้วย เพื่อให้เครื่องของคุณปลอดสปาย ข้อมูลของคุณก็ปลอดภัย

❉ โปรเเกรมล้าง เเอดเเวร์ เเละสปายเเวร์  จะใช้โปรเเกรมตัวเดียวกัน ซึ่งบางครั้งเขาอาจตั้งชื่อโดยใช้เเค่เพียงว่าโปรเเกรมล้าง เเอดเเวร์ เเต่อันที่จริง มันลบทิ้งทั้งเเอดเเวร์ เเละสปายเเวร์พร้อมๆกัน เพราะเจ้าสองตัวนี้ มันคล้ายๆกัน

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

11.) จัดการกับไวรัสคอมพิวเตอร์

คออมพิวเตอร์ทุกเครื่องจำเป็นต้องมีโปรเเกรมสเเกนดักจับเเละฆ่าไวรัส ซึ่งอันนี้ควรจะดำเนินการทันทีเมื่อซื้อเครื่องคอม เนื่องจากไวรัสพัฒนาเร็วมาก มีไวรัสพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน เเม้จะตั้งโปรเเกรมฆ่าไวรัสไว้เเล้ว ถ้าไม่ทำการอัพเดทโปรเเกรมทางอินเทอร์เน็ต เวลาที่มีไวรัสตัวใหม่ๆ เเอบเข้ามากับอินเทอร์เน็ต เครื่องคุณก็อาจจะโดนทำลายได้

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

12.) ควร Block ในโปรเเกรม P2P 

สำหรับผู้ชื่นชอบการดาวน์โหลดผ่านโปรเเกรมเเชร์ข้อมูล P2P ให้ระวังข้อมูลสำคัญ ไฟล์ภาพ วิดีโอส่วนตัว หรืออะไรที่ไม่ต้องการจะเปิดเผยสู่สาธารณะชน ควรบันทึกลงซีดี ดีวีดี หรือเทปไว้ อย่าเก็บไว้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะคุณอาจถูกเจาะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปได้

วิธีใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

13.) กรองเว็บไม่เหมาะสมด้วย Content Advisor ในอืนเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอ

ในโปรเเกรมเว็บ บราวเซอร์อย่างอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอ ก็มีการตั้งค่าคอมเทนท์ เเอดไวเซอร์ หรือฟังก์ชั่น การกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ซึ่งจะทำให้เด็กไม่สามารถเปิดเข้าไปในเว็บไซท์ที่มีภาพเเละเนื้อหา โป๊ เปลือย ภาษาหยาบคายรุนเเรงได้เเละยังมีการตั้งพาสเวิร์ด หรือรหัส สำหรับผู้ปกครอง เพื่อกันเด็กเข้าไปเเก้ไขการตั้งค่าของคุณ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปปลดล็อกได้ทุกเมื่อ ถ้าคุณจำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์บางเว็บไซต์

ใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภัย

กฎด้านความปลอดภัย ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น วันเกิด งานอดิเรก บ้านเกิด หรือโรงเรียนในชื่อผู้ใช้ของตน ไม่บอกข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเองหรือผู้อื่นในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น การส่งอีเมลหรือการแชท ไม่แชร์ภาพถ่ายของตนเอง ครอบครัว หรือบ้านกับผู้คนที่พบในโลกออนไลน์ ไม่เปิดและลบอีเมลที่ส่งมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก

อินเทอร์เน็ตใช้อย่างไร

อินเทอร์เน็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และ โซเชียลเน็ตเวริ์ค

วันแห่งการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย คืออะไร

Safer Internet Day หรือ วันแห่งการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย เป็นวันที่ตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลก อาทิ บริษัทฯ ห้างร้าน สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยมีความรับผิดชอบ สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อ ...

อินเตอร์เน็ตมีต้นกําเนิดมาจากไหน

อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ...