วิธีแก้ปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่อง

• ·
• ·
• ·
• ·
• ·
• ·

        สวัสดีน้องๆชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคนค่ะ ไหนใครรู้สึกเบื่อหน่ายหรือท้อใจกับปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องบ้าง ในฐานะที่พี่เมก้าเคยผ่านจุดนั้นมาก่อนก็พอจะรู้มาบ้างนะคะว่าต้นเหตุของปัญหานี้มันเกิดจากอะไร! บางที่อาจจะมาจากจุดอ่อนบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเราก็ได้   

        วันนี้แหละค่ะ จะเป็นวันที่น้องๆได้รู้กันสักทีว่า จุดอ่อน 10 อย่างที่ทำให้เราเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง คืออะไร? จะได้มาช่วยรับมือกับปัญหาเหล่านี้ไปพร้อมๆกันเนอะ

1. เหม่อมองบนฟ้าไกล
        นี่ไง! บอกเลยว่าจุดอ่อนอันดับแรกของน้องๆก็คือการนั่งใจลอยบินไกลไปบนท้องฟ้า บางคนออกนอกโลกไปเลยนี่แหละค่ะ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นที่ย่อมมีเรื่องนู้นเรื่องนี้เข้ามาทำให้เราคิดอยู่เสมอนะคะ พอน้องนั่งคิดไปเพลินๆ ความคิดนอกบทเรียนก็จะพาเราฟุ้ง ตื่นมาอีกทีคือเสียงออดดังแล้วอะ แบบนี้จะเรียนรู้เรื่องได้ยังไง

กำจัดจุดอ่อน : พยายามนั่งตัวตรง สร้างสมาธิให้ดี แล้วจดจ่อหรือคิดตามสิ่งที่ครูสอน ครูย้ำประเด็นใดบ่อย เรื่องนี้ออกสอบ เนื้อหานี้สำคัญ นั่นล่ะค่ะรีบดึงสติกลับมาโดยด่วน ถ้าน้องๆจับประเด็นการเรียนได้และมีสติตามทันตลอด ทุกอย่างก็รอด!

2. ไร้แรงบันดาลใจ
        เคยได้ยินมั้ยคะน้องๆ อยากทำสิ่งไหนได้ดีเราต้องรักในสิ่งนั้นก่อน การเรียนก็เหมือนกันอยากเรียนให้รู้เรื่องก็ต้องรักในสิ่งที่เรียนก่อน น้องบางคนจะเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ชอบวิชานี้ เรียนยาก ครูสอนไม่รู้เรื่อง ทำยังไงก็ไม่เข้าใจ พอเกิดความคิดแบบนี้ก็เลยทิ้ง ไม่อยากเรียน ไม่สนใจ กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เรียนไม่รู้เรื่องนั่นเอง

กำจัดจุดอ่อน : พยายามปรับทัศนคติที่ดีต่อการเรียนหรือสร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาใหม่ อาจเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจรูปแบบการสอนของครูประจำวิชา หรือหาที่ปรึกษาเวลาเรียนไม่เข้าใจ เลือกสไตล์ใกล้กันกับเรา เช่น เพื่อน ครูฝึกสอน เพราะอาจจะมีวิธีการสอนที่เข้าใจง่ายกว่า ดึงดูดใจได้มากกว่า

3. เม้าท์มอยกันจนเพลิน
        หากน้องคนไหนมีอาการแบบนี้ พยายามแล้วแต่ไม่สามารถหยุดเม้าท์กับเพื่อนได้จริงๆ เมาท์กันตั้งแต่ก้าวขาเข้าโรงเรียน ตามมาคุยต่อตอนเคารพธงชาติ จนมาคาบโฮมรูม แถมเริ่มเรียนคาบแรกยังมีมหกรรมส่งต่อกระดาษวนคุยกันรอบห้องอีก บอกเลยนะคะว่านี่แหละจุดอ่อน! เพราะเผลอแป๊บเดียวครูสอนไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ตามไม่ทันด้วย

กำจัดจุดอ่อน : ทำข้อตกลงกับเพื่อนไว้ล่วงหน้าเลยค่ะว่ามาช่วยกันตั้งใจเรียนก่อน พอพักกลางวันปุ๊บน้องๆอยากเม้าท์ก็เต็มที่กับชีวิตไปเลย ถ้าเวลาไม่พอพี่เมก้ามีโปรโมชั่นคุยต่อหลังเลิกเรียนแถมให้ด้วย เพราะถ้าเมาท์ตอนเรียน เวลาเรียนของน้องๆจะยิ่งเหลือน้อยนะคะ

4. เซื่องซึมและง่วงนอน
        พี่เมก้าเข้าใจน้องๆนะคะ เพราะเรื่องราวแบบนี้พี่เจอบ่อยลูก ยิ่งหลังรับประทานอาหารกลางวัน มานั่งเรียนใกล้หน้าต่าง มีลมโกรกพัดเย็นสบายแล้วด้วยนะ อื้อหือ สวรรค์ดีๆนี่เอง แต่! น้องๆไม่ควรเลียนแบบค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้สมองดับไปเสียดื้อๆ เราจะเดินออกจากห้องเรียนแบบงุนงงและอาจพลาดบทเรียนสำคัญไปเลยก็ได้

กำจัดจุดอ่อน : เริ่มตั้งแต่ที่บ้าน พยายามจัดการธุระต่างๆ อ่านหนังสือ ทำการบ้านให้เสร็จภายในสี่ทุ่ม เพราะน้องๆจำเป็นต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ ประมาณ 8-9 ชั่วโมงค่ะ ถ้ามาเรียนแล้วยังง่วงงุนอยู่ให้ซัดลูกอมเข้าไปเยอะๆ ยิ่งเปรี้ยวเท่าไหร่ยิ่งดีนะคะ อีกเคล็ดลับคือย้ายที่ไปนั่งด้านหน้าสุดเลยค่ะ โดดเด่นครูเห็นชัดแบบนี้ หลับไม่ลงแน่นอน!
 
5. ท้องร้องรุนแรงมาก
        การที่ท้องกู่ก้องร้องประท้วงเพราะหิวข้าวแบบนี้ก็อาจเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เรียนไม่รู้เรื่องได้นะคะ ยิ่งน้องๆเรียนหนักใช้สมองเยอะจนเครียดก็อาจส่งผลถึงระบบย่อยอาหาร พอใกล้ถึงช่วงพักกลางวันไม่มีอาหารในกระเพาะให้ย่อย ท้องไม่รักดีก็จะยิ่งแข่งกันส่งเสียงร้องคาราโอเกะเลยล่ะค่ะ สั่นมากจนไม่อาจคุมสมาธิอยู่กับการเรียนได้เลย

กำจัดจุดอ่อน : อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดฉันใด มื้อกลางวันก็สำคัญที่สุดฉันนั้น ดังนั้นน้องๆควรเติมพลังมาให้เรียบร้อยนะคะ มีประโยชน์ทั้งในเรื่องการเพิ่มความจำและการเรียนหนังสืออย่างมีประสิทธิภาพด้วยค่ะ

6. ไม่ยอมทำการบ้าน
        ทำการบ้านในที่นี้ พี่เมก้าหมายถึงการทบทวนบทเรียนค่ะ ถ้าบทเรียนเก่าน้องๆยังหลงๆลืมๆ มีเรียนไม่รู้เรื่องบ้าง มาเจอบทเรียนใหม่ที่อาจจะยากขึ้นกว่าเดิมหรือต้องใช้ฐานความรู้จากบทเรียนก่อนหน้าย้ำซ้ำๆลงไปอีก ความไม่รู้หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูสอนก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากนะคะ

กำจัดจุดอ่อน : เปิดบทเรียนเพื่อทบทวน สรุปเนื้อหาสำคัญ หรือทำการบ้านหลังเรียนเสร็จด้วยตนเอง หากมีข้อสงสัยพยายามถามคุณครูหรือขอยืมสมุดจดจากเพื่อนมาดูเนื้อหาที่อาจขาดไป อ่านหรือทบทวนการบ้านสะสมไปเรื่อยๆครั้งละนิดละหน่อย พอถึงเวลาสอบกลางภาคหรือปลายภาคจะได้ไม่หนักมากไงคะ

7. รีบจำและรีบจด
        การตั้งใจเรียนหรือพยายามจดตามสิ่งที่ครูสอนเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่บางทีน้องๆอาจจะลงมือแบบผิดวิธี มีข้ามขั้นตอนไปสักนิดสักหน่อยเลยทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร เช่น ฟังครูพูดแล้วรีบจำรีบจด พอฟังหรือจดตามไม่ทันก็เรียนไม่รู้เรื่อง พลาดเนื้อหาสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย

กำจัดจุดอ่อน : น้องๆควรฟังแล้วทำความเข้าใจก่อนค่ะ อย่าใช้วิธีจำแล้วจดเพราะจะทำให้เราลืมง่ายหรือบางทีไม่เข้าหัวเลย พี่เมก้าแนะนำให้ฟังแล้วคิดตาม จากนั้นจดเฉพาะใจความสำคัญหรือจับประเด็นในสิ่งที่เราสรุปออกมาได้จากความเข้าใจ แล้วน้องๆจะไม่พลาดเนื้อหาสำคัญของบทเรียนนั้นๆค่ะ

8. ไม่พร้อมที่จะเรียน
        "ไม่พร้อมที่จะเรียน" แล้วก็ตามมาด้วย "พร้อมที่จะทำอย่างอื่น" หรือ "พร้อมที่จะเล่น" คือน้องบางคนมีหลายสิ่งต้องทำในเวลาเรียนค่ะ เช่น ลืมทำการบ้านเลยนำเวลาของคาบเรียนอื่นมานั่งทำ บางคนมีแอบอ่านหนังสือการ์ตูน นั่งวาดรูป เล่นเกมส์ อัพเฟซบุ๊ก เช็คทวิต คือไม่สนใจเรียนนั่นเอง อันนี้เป็นจุดอ่อนและอุปสรรคอันใหญ่หลวงเลยนะคะ

กำจัดจุดอ่อน : แก้ไขที่ตัวเราเองนี่แหละค่ะ น้องๆต้องรู้ว่าคนแต่ละคนไม่สามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้พร้อมกันในเวลาเรียน เดี๋ยววาดรูป เดี๋ยวทำการบ้าน อ่านการ์ตูน แต่งนิยาย แล้วจะไปเรียนรู้เรื่องได้ยังไงล่ะคะ สิ่งสำคัญในเวลานี้คือน้องๆต้องรู้จักหน้าที่และเวลา เวลาเรียนควรตั้งใจเรียนก่อน ช่วยได้แน่นอนค่ะ!  
 
9. ขาดเรียนเป็นประจำ
        สาเหตุของการขาดเรียนก็มีอยู่หลากหลายประการนะคะ บางทีน้องอาจจะป่วยหรือติดธุระสำคัญซึ่งก็เป็นเหตุจำเป็น อันนี้พี่เมก้าเข้าใจค่ะ แต่น้องบางคนไม่เข้าเรียนบ่อยมาก เรียกได้ว่า 1 สัปดาห์มาให้เพื่อนเห็นหน้าแค่ 1-2 วัน แล้วแบบนี้จะเรียนรู้เรื่องได้ยังไง ขาดเพียงครั้งเดียวก็อาจตามไม่ทันแล้วเนอะ

กำจัดจุดอ่อน : ถ้าจำเป็นต้องหยุด! พยายามตามงานหรือขอยืมสมุดจดจากเพื่อนมาอ่านทบทวน  แต่ทางที่ดีควรผลักดันตัวเองให้เข้าเรียนให้ได้ โดยเฉพาะช่วงก่อนสอบไม่ควรหยุดเรียนเด็ดขาด! เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ครูจะไกด์ไลน์ให้ว่าข้อสอบออกเรื่องอะไรบ้าง อาจมีติวสรุปเนื้อหาก่อนสอบด้วย ถ้าขาดไปไม่รู้เรื่องกับเค้านะเออ

10. ร่างกายช่างอ่อนแอ
        จุดอ่อนไหนก็ไม่น่าเจ็บปวดเท่ากับสุขภาพไม่เอื้ออำนวยค่ะ น้องบางคนอยากเรียนมากแต่เรียนไม่ไหว เพราะปวดท้อง ปวดตัว ปวดหัว สมองเบลอ ป่วยไปหมด! อาการเข้าขั้นย่ำแย่แบบนี้จะเรียนให้รู้เรื่องก็เป็นสิ่งที่ยากมากทีเดียวนะคะ อีกสิ่งหนึ่งที่พี่เมก้าไม่อยากให้น้องๆเป็นเลยคือความเครียดค่ะ ถ้าเครียดปุ๊บสมองจะไม่พร้อมเปิดรับอะไรทั้งสิ้น เข้าหูซ้ายมาทะลุออกหูขวาหมดเลย

กำจัดจุดอ่อน : พยายามรักษาสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกเมนูที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหรืออาหารบำรุงสมอง เพราะจะช่วยเสริมเรื่องสมาธิ ความจำ พร้อมรับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องความเครียดนั้น พี่เมก้าแนะนำให้น้องๆฝึกเจริญสติค่ะ สิ่งนี้จะทำให้เราผ่อนคลายและปล่อยวางทุกอย่างได้มากขึ้น รับรองสุขภาพจิตแจ่มใสพร้อมเรียนเสมอ!

        เป็นยังไงบ้างคะน้องๆ 10 จุดอ่อนที่ทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ตรงใจรึเปล่าเอ่ย? พี่เมก้าจะบอกว่าน้องๆสามารถเปลี่ยนจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งได้ง่ายๆเลยนะคะ แค่เพียงรับรู้แล้วคิดที่จะแก้ไขด้วยการทำหน้าที่ในวัยเรียนของเราให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่ออนาคตของตัวน้องๆเองค่ะ พี่เมก้าขอเอาใจช่วยและเชียร์อย่างสุดพลัง!
 

• #การศึกษา
• #มัธยมศึกษา
• #จุดอ่อน
• #เรียนหนังสือ
• #เรียนไม่รู้เรื่อง
• #ไม่เข้าใจ
• #บทเรียน
• #ห้องเรียน
• #โรงเรียน
• #Top 10 Education
• #Top 10 Education

18/12/58 14:21 น.

45,507

views

Facebook Twitter Line

พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

อ่านแล้วแลดูง่าย แต่ทำแล้วมันยากมาก 

• แจ้งลบ
• แก้ไข
• ปักหมุด
• ลบความเห็น
• ลบความเห็น

จากข้อ 4 พอเป็น ก็ส่งผลให้เป็นข้อ 8 

เฟืองเป็นพวกถ้าตื่นมาแล้วง่วงจะไม่รับอะไรเลยซึ่งแย่มาก เพราะงั้นวิธีแก้ของเฟืองถ้าง่วงจริงๆ ก็จะออกไปล้างหน้า เดินสบัดตัวแล้วกลับมาเรียนต่อ แล้วกลับมาเปลี่ยนเวลานอนให้เร็วขึ้นหน่อย เริ่ด

• แจ้งลบ
• แก้ไข
• ปักหมุด
• ลบความเห็น
• ลบความเห็น

เพิ่มค่ะ 11. ห้องร้อนแบบฉิบไก่วายป่วง. ห้องร้องมันก็เกิดอาการเครียด เหนื่อย ปวดหัว โอ้ยยย อันนี้กำจัดไม่ได้ค่ะ T^T