วิธีปิดเครื่อง macbook air m1

คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ของ Apple ที่มีชิป M1 กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วยพลังที่เหลือเชื่อและเหนือสิ่งอื่นใดด้วยการจัดการแบตเตอรี่ที่น่าทึ่ง พวกเขาทำให้เราจดจำ Intel อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับเครื่องจักรทั้งหมดบางครั้งก็ล้มเหลวและเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ชอบอาจเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือการปิดกั้นเครื่องและคุณต้องรู้วิธีออกจากความยุ่งเหยิงนี้ เราจะเรียนรู้วิธีบังคับให้รีสตาร์ท Mac ด้วย M1

Mac ที่ใช้ชิป M1 ใหม่นั้นใช้สถาปัตยกรรมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะสิ้นหวังและไม่เรียนรู้วิธีที่จะออกจากปัญหาบางอย่างที่อาจเกิดขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Mac รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Apple M1 ก็คือ เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านี้รีสตาร์ท เอาใจใส่.

การรีสตาร์ทอย่างหนักจะมีประโยชน์ ในสถานการณ์ที่เครื่องแฮงค์โดยสิ้นเชิงและไม่ตอบสนองหรือเมื่อคุณต้องเผชิญกับห่วงล็อกและพฤติกรรมแปลก ๆ อื่น ๆ ที่ต้องหยุดชะงักทันที การบังคับให้รีสตาร์ท Mac อาจทำให้ข้อมูลที่ไม่ได้บันทึกหายไปอย่างถาวรดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการใช้แบบไม่เป็นทางการ

อีกทางหนึ่ง คุณสามารถใช้แป้นพิมพ์ลัดได้โดยกดปุ่ม Control + Command + Power เพื่อบังคับให้รีสตาร์ท Mac โดยไม่ได้รับแจ้งให้บันทึกเอกสารที่เปิดอยู่หรือไม่ได้บันทึก หากคุณใช้ Intel MacBooks เครื่องใดเครื่องหนึ่งที่ไม่มีปุ่ม Touch ID คุณสามารถใช้ทางลัดนี้เพื่อบังคับให้รีสตาร์ทได้เช่นกัน

ดัชนี

มาเริ่มเรียนรู้วิธีรีสตาร์ท Mac ขนาด 13 นิ้วด้วย M1 และ MacBook Air:

ไม่ว่าหน้าจอจะค้างหรือเพิ่งเปิดขึ้นมา กดปุ่ม Touch ID ค้างไว้ ซึ่งอยู่ทางด้านขวาของ Touch Bar จนกว่าหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ปุ่มนี้เป็นปุ่มเปิด / ปิดบน Mac ของคุณด้วยรอสองสามวินาทีแล้วกดปุ่มเปิด / ปิดค้างไว้อีกครั้งจนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple บนหน้าจอ

สมัครสมาชิกช่อง Youtube ของเรา

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1

วิธีบังคับให้รีสตาร์ท Mac Mini M1:

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1

ในรุ่นนี้คุณต้องกดปุ่มเปิด / ปิดของ Mac mini ค้างไว้ด้วย ปุ่ม Mac Mini เฉพาะนี้อยู่ที่ส่วน ด้านหลังถัดจากช่องจ่ายไฟ เรากดปุ่มนี้ค้างไว้จนกว่าหน้าจอจะเป็นสีดำ ต่อไปเรารอสองสามวินาทีจากนั้นกดปุ่มเปิด / ปิดจนกว่าเราจะเห็นโลโก้ Apple

เพื่อน ๆ หลายคนที่เห็นเราใช้ Mac ถามเยอะมาก ว่า เราไม่ปิดเครื่องเลยเหรอ เพราะเวลาเราใช้งานเสร็จ เราจะ Sleep ตลอดเลย แทบไม่ได้ Shutdown หรือ Restart เลย ก็อาจจะเกิดคำถามว่า มันจะเป็นอะไรมั้ย จริง ๆ แล้ว เราควร หรือไม่ควรที่จะทำแบบนี้กันแน่

เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราปิดเครื่อง

ก่อนที่เราจะไปตอบคำถามว่า เราควรจะเปิดเครื่องหรือไม่ เรามาดูกันก่อนว่า ถ้าเราปิดเครื่องมันจะเกิดอะไรขึ้น

อย่างแรกเลยที่เกิดแน่ ๆ คือ สิ่งที่อยู่ใน RAM หรือหน่วยความจำหลักของเครื่องก็จะหายไป ซึ่งหน่วยความจำตรงนี้ จะเป็นส่วนที่ทั้ง macOS และ Software ต่าง ๆ ที่เราเปิดมีการเก็บข้อมูลลงไป ซึ่งบางที อาจจะมี Software บางตัว หรือ macOS เองที่อาจจะทิ้งขยะบางส่วนไว้ในหน่วยความจำ ทำให้เมื่อเวลาผ่าน ๆ ไป ถ้าเราไม่ได้ปิด บางที มันก็อาจจะทำให้เครื่องเราช้าลงเรื่อยได้ พอเรา Reboot หรือ Shutdown ปัญหาบางอย่างที่เราเจอมันก็เลยหายไปนั่นเอง

นอกจากนั้น Software บางตัว อาจจะมี Process ค้างอยู่ด้วย เช่น เราอาจจะปิด Software บางตัวแบบบังคับ (Force Close) ซึ่งอาจทำให้ Software บางตัวมันปิดแบบไม่สมบูรณ์ ปิดทิพย์นะน้องนะ การที่เราปิดเครื่อง ก็เป็นการบังคับให้ macOS ทำการปิด Process เหล่านั้นมาด้วย เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ มันก็จะหายไปนั่นเอง

ดังนั้น การเริ่มระบบใหม่ ก็คือการที่เราล้างค่าบางอย่างออกไปจากระบบ อาจจะทำให้ปัญหาบางอย่างที่เราเจอหาย หรืออาการช้าบางอย่างมันก็จะหายไปด้วยเช่นกันจากเหตุผลที่เราเล่ามาก่อนหน้า

แต่กลับกัน การเปิดเครื่องบ่อย ๆ ก็ทำให้เครื่องเราทำงานช้าได้เหมือนกัน ด้วยเหตุผลเดียวกันเลยคือ การปิดเครื่อง หรือการเริ่มระบบใหม่ ทำให้ค่าหลาย ๆ อย่างหายไป แทนที่มันจะดึงมาใช้งานได้เลย เพราะมันเคยเปิดมาแล้ว มันก็ต้องไปโหลดใหม่ ซึ่งก็จะทำให้บางโปรแกรม อาจจะช้าในตอนแรก ๆ ลองคิดดูว่า ถ้าวันนึงเราปิดเปิดเครื่องหลาย ๆ รอบ เวลาที่ต้องรอโหลดพวกนี้มันจะมหาศาลขนาดไหน และเมื่อโปรแกรมมันต้องโหลดมากขึ้น ก็ทำให้เครื่องมันก็ต้องโหลดขึ้นด้วยเช่นกัน นั่นก็ส่งผลที่ไม่ดีต่อเครื่องได้เช่นกัน

สุดท้ายคือ อย่าลืมว่า เมื่อเราปิดเครื่องไป เวลาเราจะใช้งาน เราก็ต้องเปิดมันขึ้นมาอีกครั้ง มันก็ต้องเสียเวลา Boot เครื่องไปเรื่อย ๆ ถ้าเราวันนึง เราปิด ๆ เปิด ๆ สัก 3 ครั้ง ถึงจะเป็น SSD ที่โคตรเร็วแล้วก็เถอะ แต่ถามว่า มันช้ากว่าการที่เรา Sleep เครื่องไว้ขนาดไหน โดยเฉพาะพวก Apple Silicon ที่มีเรียกได้ว่า Instant Wake ยังเปิดบานพับไม่ถึงไหนเลย เครื่องพร้อมใช้แล้ว

การไม่ปิดเครื่อง ทำให้เครื่องช้า หรือค้างได้แค่ไหน ?

จากประสบการณ์เรา ที่เราไม่ค่อยได้ปิดเครื่องเท่าไหร่ ใช้ Mac มาตั้งแต่ปี 2011 ได้ จนตอนนี้ เราเจออาการที่เครื่องมีปัญหา จนต้อง Restart น้อยมาก ๆ จะมีก็เพราะมี Software Update หรือลง Software บางตัวที่จำเป็นต้อง Restart ก็จะทำ

ส่วนหนึ่งเรามองว่า การที่ระบบมันมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้ เป็นเพราะ macOS ถูกสร้างมาจากระบบอย่าง Unix ที่ถ้าใครที่ทำงานในสายคอมพิวเตอร์ก็จะรู้ว่า มันเป็นระบบที่เรียกได้ว่า ขะ ขะ แข็งแกร่ง มีความเสถียรสูง ไม่ว่าเราจะเปิดนานเท่าไหร่ มันก็ยังคงการันตีว่ามันยังทำงานได้ เหมือนกับในเครื่อง Server ที่ต้องเปิด 24/7 ที่ส่วนใหญ่ก็เลือกใช้ระบบที่มีพื้นฐานจาก Unix ทั้งนั้น นั่นทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า macOS จะยังคงทำงานได้อย่างราบลื่นแม้ว่าเราจะไม่ได้ปิดเครื่องเป็นเวลานานนั่นเอง

การปิดเครื่องทำให้เราพลาดโอกาสไป

อย่างที่บอกว่า macOS มันมีพื้นฐานมาจาก Unix ทำให้มันมีความเสถียรสูง วิธีนึงที่มันใช้ในการรับมือ ความผิดพลาด บางอย่างที่อาจจะเกิดจาก Software หรือ macOS เอง ที่ไม่ได้ตั้งใจ ก็คือ การตรวจสอบระบบตัวเองเรื่อย ๆ นั่นเอง

ใน macOS ถ้าเราไม่ได้ปิดเครื่องและทำการ Sleep ไว้มันไม่ได้นอนอยู่เฉย ๆ นะ บางที มันก็จะตื่นมารันพวก Maintenance Script ที่เข้ามา Optimise หรือ กำจัดขยะบางอย่างออกจากเครื่องของเรา ซึ่ง ถ้าเราใช้เสร็จ และ ปิดเครื่อง Script ตัวนี้ก็จะไม่ได้ทำงาน

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1

หรือจะเป็นเรื่องพวก Software Update บางทีถ้าเราเสียบปลั๊กไว้ และ Sleep ไว้ ดึก ๆ อยู่ ๆ มันจะตื่นมา Update Software เองตอนเรานอนนี่แหละ ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า macOS ที่เราใช้งานจะเป็นรุ่นใหม่ที่ปลอดภัยเสมอ ๆ นั่นเอง แต่ถ้าเราปิดเครื่องไว้ เครื่องมันก็จะถามมาให้เรา Update เองนี่แหละ ซึ่งมันก็ต้องมานั่งรอเสียเวลา สู้ให้มันจัดการเองตอนเรานอนดีกว่าเนอะ

สำหรับคนที่อาจจะเป็น Power User หน่อย น่าจะเคยได้ยินคำว่า Power Nap มาก่อนแน่ ๆ มันเป็น Feature ที่ Apple Implement มาให้ เพื่อให้เครื่องมันพร้อมสำหรับเราเมื่อเราต้องการใช้งานเสมอ โดยที่ Power Nap จะเปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้นอยู่แล้ว

สิ่งที่มันทำคือ มันจะตื่นมา Update ข้อมูลเรื่อย ๆ เช่นการเช็คอีเมล์, iMessage, Update ปฏิทินของเรา จนไปถึงการทำ Time Machine Backup และ การทำ Software Update ที่เราได้บอกไป ทำให้เมื่อเราเปิดใช้งานเครื่องอีกครั้ง เราก็จะได้ใช้ macOS ที่เป็น Version ล่าสุด ข้อมูลทั้งหมดถูก Backup (ถ้าเราเปิด Time Machine) และข้อมูลทั้งหมดก็จะได้รับการ Sync  ให้เรียบร้อยเลย

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1

พวก Task อย่างพวก Software Update และ การทำ Time Machine Backup มันจะทำเองเมื่อเรา Sleep และเสียบปลั๊กนะ ดั่งนั้นไม่ต้องกลัวนะว่า มันจะทำงานพวกนี้ซึ่งกินแบตเยอะ จนแบตหมด

Sleep กินไฟแค่ไหน

แน่นอนว่า การ Sleep มันก็ยังไม่ใช่การปิดเครื่องโดยสมบูรณ์ดังนั้น อุปกรณ์บางอย่างมันก็ยังต้องการไฟเลี้ยงอยู่นั่นเอง ทำให้เมื่อเรา Sleep ทิ้งไว้เรื่อย ๆ เครื่องก็ต้องใช้พลังงานเรื่อย ๆ ต่างจากการที่เราเปิดเครื่องโดยสมบูรณ์นั่นเอง ทีนี้ คำถามคือ แล้วการที่เรา Sleep เครื่อง มันยังจ่ายไฟอยู่เท่าไหร่ อันนี้สิน่าสนใจกว่า เราเลยลองไปหาดู เราก็ไปเจอที่มีคนเคยทดลองมา ถึงจะเป็นรุ่นเก่า แต่มั่นใจได้เลยว่า รุ่นใหม่ ๆ มันกินไฟน้อยกว่านี้แน่ ๆ โดยเฉพาะพวก Apple Silicon

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1
Source: https://reductionrevolution.com.au/blogs/news-reviews/laptop-power-consumption-wattage-macbook-pro-air

จากตารางที่ได้ เราจะเห็นว่า การที่เราเสียบปลั๊กไว้ และ เรา Sleep เครื่องเอาไว้ เราจะกินไฟอยู่ที่ 0.3W สำหรับ Macbook Air ปี 2018 หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 0.0003 kWh อยากรู้ปีเท่าไหร่ก็เอา 365 วันไปคูณเลย อันนี้ในกรณีที่เรา Sleep มันยาว ๆ 1 ปีเต็ม ๆ เลย ก็คือ 0.1095 kWh และถ้าเราคิดเป็นค่าไฟ สมมุติว่า ค่าไฟหน่วยละ 4.1 บาท ก็จะอยู่ที่ 0.4485 บาทเท่านั้นเอง ไม่ถึง 50 สตางค์ด้วยซ้ำ ดังนั้น การที่เรา Sleep มันไม่ได้กินไฟมากอย่างที่เราคิดเลย

การ Sleep ยังดีต่อใจ Battery อีกด้วย

ใน Mac รุ่นใหม่ ๆ ที่มี Battery Apple เลือกใช้ Battery แบบ Li-Ion ที่มันควรที่จะมีการคลายประจุอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มันคงอายุได้นานที่สุด นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมผู้ผลิตทั้งโทรศัพท์ หรือ Laptop หลาย ๆ เจ้า ถึงบอกให้มีการใช้ Battery บ้าง อย่าเสียบไฟทิ้งไว้นาน ๆ นั่นเอง อาจจะมีการถอดปลั๊กออก เดือนละครั้งแล้วใช้ เพื่อให้ Battery มันได้คลายประจุนั่นเอง

ถามว่า แล้วการที่เรา Sleep มันดีต่อ Battery อย่างไร นั่นเพราะว่า การ Sleep เครื่องมันยังต้องมีการจ่ายไฟที่อุปกรณ์บางอย่างอยู่ตลอด ทำให้เมื่อเรา Sleep ตัว Battery ก็ยังได้คลายประจุอยู่เรื่อย ๆ ทีละน้อย ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ Battery แบบ Li-ion ชอบมาก ๆ เลยทีเดียว

สรุป : เปิดทิ้งไว้แหละ ไม่เสียหาย

วิธีปิดเครื่อง macbook air m1
เฉลี่ย เราก็จะมีโอกาสได้ Restart เครื่องสัก 2-3 อาทิตย์ต่อครั้งเท่านั้นเอง ยิ่งใช้ M1 คือยาว ๆ เลยตอนนี้

ด้วยเหตุผลทั้งหมด ทำให้เราค่อนข้างเห็นด้วยว่า ใช้เสร็จก็จับ Sleep ไว้แบบนั้นแหละ ไม่ต้องไปปิดมันหรอก เพื่อให้ระบบมันได้ดูแลตัวเองด้วย ทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะได้ใช้งานระบบที่เป็น Version ล่าสุด และ มีการทำงานที่มีเถียรภาพสูงที่สุดอีกด้วย ส่วนถ้ามีปัญหา หรือมี Software Update เราก็ค่อย Restart ตอนนั้นได้

คำแนะนำ ของเราอีกอย่างคือ เราค่อนข้างแนะนำให้มีการ Sleep และเสียบปลั๊กทิ้งข้ามคืนไว้ สักอาทิตย์ละครั้งก็ได้ เพื่อให้เครื่องมันได้รันพวก Maintenance Script จัดระเบียบเครื่องหน่อย กับได้ทำการทำ Time Machine Backup ด้วย (สำหรับคนที่เปิดไว้) ส่วนคนที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอด เราคิดว่าควรจะถอดปลั๊กแล้วใช้งานให้แบตหมดสักเดือนละครั้งก็น่าจะช่วยให้อายุของ Battery ยืดไปได้หน่อย

แต่ถ้าเกิดเราบอกว่า เราไม่ได้ใช้นาน ๆ เช่น เราอาจจะไปเที่ยว แล้วเราไม่ได้ใช้คอมหลาย ๆ วัน เราจะ Shutdown และไม่เสียบปลั๊ก ก็ทิ้งไว้แบบนั้นเลย ไม่งั้น Sleep ไปนาน ๆ แล้วแบตหมด มันจะไม่ดีต่อแบตอีกเหมือนกัน

MacBook Air m1 ต้องปิดเครื่องไหม

หนึ่งสิ่งที่ผู้ใช้งาน MacBook ควรทราบคือ MacBook ถูกออกแบบให้จัดการกับ RAM ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องคิดว่าการปิดเครื่องเพื่อเคลียร์ RAM แล้ว MacBook จะทำงานได้ดีมากขึ้น เว้นแต่ว่า เครื่องค้าง หรือเครื่องทำงานช้าผิดปกติ

คอมแอปเปิ้ลปิดยังไง

ปุ่มลัดสำหรับพัก ออกจากระบบ และปิดเครื่อง ปุ่มเปิด/ปิด: กดเพื่อเปิดเครื่อง Mac หรือปลุก Mac กลับมาทำงานหลังจากการพัก กดค้างไว้ 1.5 วินาทีเพื่อให้ Mac เข้าสู่โหมดพักเครื่อง* กดค้างไว้เพื่อบังคับปิด Mac ของคุณ

ทำไมปิดเครื่องMacไม่ได้

หากคุณไม่สามารถบังคับออกจากแอปได้ หากคุณไม่สามารถรีสตาร์ทได้เนื่องจาก Mac ของคุณไม่ตอบสนอง ให้บังคับปิด Mac ของคุณโดยทำดังนี้ กดปุ่มเปิดปิดบน Mac ของคุณค้างไว้ 10 วินาทีจนกว่า Mac ของคุณจะปิดลง Mac ทุกเครื่องมีปุ่มเปิดปิด บนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่มี Touch ID ให้กด Touch ID ค้างไว้ เปิด Mac ของคุณอีกครั้ง

ปุ่ม Delete MacBook Air อยู่ตรงไหน

กด Command+Q เพื่อการปิด App. กด Command+Backspace เพื่อทำการ delete หรือ ลบไฟล์ (Delete)