วิธีดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์เพศชาย

อวัยวะเพศชายก็ต้องการการดูแลไม่ต่างจากอวัยวะอื่น อวัยวะส่วนนี้เป็นจุดที่บอบบางจึงจำเป็นต้องดูแลเป็นอย่างดี เพราะหากละเลยการทำความสะอาดอวัยวะเพศชาย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงยังอาจทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ หรือกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้ด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะเกิดเมื่อไม่ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ดี คือ ขี้เปียก (Smegma) ซึ่งเป็นคราบสกปรกที่เกาะตามอวัยวะเพศชาย เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และไขมันบนผิวหนัง จับตัวกับมูกเมือก มักติดอยู่บริเวณคอคอดใต้ผิวหนังองคชาต และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งขี้เปียกมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เฉพาะตัว การเกิดขี้เปียกอาจทำให้คันและระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ หากปล่อยไว้นานก็อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเกิดภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบได้ด้วย

หนุ่ม ๆ หลายคนอาจละเลยสุขอนามัยของอวัยวะเพศชายจนทำให้เกิดอาการคันและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งการดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศนั้นมีความสำคัญมากพอ ๆ กับการดูแลอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้น คุณผู้ชายควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขอนามัยพื้นที่สงวนของตน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์เพศชาย

การทำความสะอาดอวัยวะเพศชายสำคัญอย่างไร ? 

การรักษาความสะอาดอวัยวะเพศชายเป็นเรื่องสำคัญ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตนเอง และยังส่งผลดีต่อคนรักหรือคู่นอนด้วย เพราะการละเลยสุขอนามัยของอวัยวะเพศอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมทั้งอาจเกิดการสะสมของสารที่มีลักษณะข้นเหนียวที่เรียกว่าขี้เปียก (Smegma) ซึ่งเป็นเมือกที่เกิดจากการผสมกันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยสิ่งนี้จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่อวัยวะเพศ ซึ่งมักพบบริเวณปลายองคชาตและใต้หนังหุ้มปลายองคชาต แม้ขี้เปียกไม่ใช่สัญญาณของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และไม่เป็นอันตราย แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งกลิ่นเหม็น บางครั้งอาจจับตัวกันเป็นก้อนจนไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายองคชาตได้ตามปกติ อาจเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และทำให้อวัยวะเพศระคายเคืองหรือเกิดอาการบวมแดง โดยอาการดังกล่าวเป็นสัญญาณของภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบได้

วิธีทำความสะอาดอวััยวะเพศชาย

คุณผู้ชายควรดูแลสุขอนามัยของตนเองอย่างสม่ำเสมอด้วยการทำความสะอาดอวัยวะเพศ ทั้งบริเวณรอบ ๆ และใต้หนังหุ้มปลายองคชาต เพื่อกำจัดขี้เปียก น้ำมัน เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เชื้อแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นเหม็นหรือการสะสมของเชื้อโรค

การล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศชายสามารถทำได้ ดังนี้

  • ค่อย ๆ รูดหนังหุ้มปลายองคชาตเข้าหาตัว หากขี้เปียกมีลักษณะเป็นก้อนแข็งจนไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายได้ อาจใช้น้ำมันถูบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อช่วยให้สามารถรูดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศได้ง่ายขึ้น แต่ห้ามออกแรงดึงเด็ดขาด เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บ ผิวหนังฉีกขาด และอาจเกิดการติดเชื้อได้
  • ล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำอุ่นและสบู่สูตรอ่อน ๆ โดยเฉพาะบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาต แต่ควรหลีกเลี่ยงการขัดหรือถูอย่างแรง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
  • ล้างฟองสบู่ออกให้หมด จากนั้นใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับอวัยวะเพศให้แห้ง แล้วรูดหนังหุ้มปลายองคชาตกลับลงไปเช่นเดิม

ทั้งนี้ ควรล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศชายเป็นประจำทุกวันจนกว่าขี้เปียกจะหายไป แต่ไม่ควรใช้ของมีคมหรือสำลีก้านแคะขี้เปียกออก เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ และหากมีขี้เปียกจับตัวกันเป็นก้อนเพิ่มมากขึ้น ยังมีขี้เปียกเกาะเป็นคราบใต้หนังหุ้มปลายองคชาตแม้จะล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว หรือมีอาการแดงและอักเสบบริเวณอวัยวะเพศ ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือภาวะเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้

การรักษาสุขอนามัยอวัยวะเพศเด็กชาย 

ขี้เปียกในเด็กทารกมีลักษณะคล้ายจุดสีขาวหรือไข่มุกบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ซึ่งเด็กแรกเกิดส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายนั้นไม่สามารถดึงหนังหุ้มปลายองคชาตให้เปิดขึ้นจนสุดได้ โดยเด็กแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไป แต่มักสามารถรูดหนังหุ้มปลายได้จนสุดเมื่อมีอายุประมาณ 5 ปี

ส่วนการทำความสะอาดอวัยวะเพศลูกน้อยนั้น ควรใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำสะอาดผสมสบู่แล้วถูเบา ๆ โดยไม่ต้องใช้สำลีก้านแคะขี้เปียกใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ แต่ไม่ควรรูดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของเด็กในขณะอาบน้ำ เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บ มีเลือดออก และเกิดแผลได้

กรณีที่ลูกน้อยโตพอที่จะรูดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศได้แล้ว การทำความสะอาดบริเวณใต้หนังหุ้มปลายองคชาตจะช่วยลดปริมาณของขี้เปียกได้ เมื่อเด็กเริ่มเข้าสู่วัยแรกรุ่นหรือวัยเจริญพันธ์ุ พ่อแม่ควรสอนวิธีทำความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูกวิธีและทำเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เพื่อช่วยลดการสะสมของขี้เปียกและรักษาสุขอนามัยเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเด็กวัยนี้สามารถทำความสะอาดอวัยวะเพศได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่

สงกรานต์ที่ผ่านมาหนุ่มๆ หลายคนคงผ่านประสบการณ์เปียก แฉะ อับชื้น กันไม่มากก็น้อย วันนี้ Sanook! Men เลยขอนำวิธีดูน้องชาย จาก Sarikahappymen เพจให้ความรู้เรื่องสุขภาพทางเพศ บอกเลยว่าคราวนี้ผู้ชายอย่างเราจะได้ดูแลกันได้อย่างถูกต้องซะที

1.เลือกใช้สบู่อ่อนๆ

ควรเลือกใช้สบู่อ่อนๆ นะครับ จู๋ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้ว ผิวมันบาง ไม่ต้องรุนแรงมาก จะใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์กับแอนตี้แบคทีเรียหรือไม่ก็ได้ หรือถ้าหาไม่ได้ก็สบู่เด็กพอครับ

2.เช็กน้องชายน้ำว่าสกปรกหรือไม่

เวลาอาบน้ำทุกครั้ง ควรดูให้แน่ใจว่ามีสิ่งสกปรกใด ๆ ที่น้องเราหรือไม่ สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ยังมีหมวกคลุม ก็ต้องเช็กว่ามีขี้เปียกหมักหมมใต้หมวกหรือไม่ เพราะหากมี จะทำให้น้องชายมีกลิ่นเหม็นและมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งจู๋ ถ้าเปิดหมวกได้ไม่ดีหรืออักเสบบ่อย ก็ไปให้คุณหมอขริบให้ ยอมเจ็บซักนิดเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราและคนที่เรารักครับ

3.ทำให้แห้งอยู่เสมอ

เนื่องจากความชื้น มันจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี ฉะนั้นควรดูแลบริเวณสำคัญให้แห้งอยู่เสมอ หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือจะผ้านาโนไรก็ได้เช็ดน้องชายให้แห้งสนิทก่อนสวมชั้นใน เช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นสะสม ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ครับ

4.เล็มขนรอบๆ น้องชายบ้าง

การเล็มขนที่อยู่บริเวณนั้นให้สั้น จะช่วยลดกลิ่นเหม็นและอาการระคายเคืองได้ เพราะขนบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่าโกนอย่างเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้คันและมีขนคุดอักเสบได้

5.ให้น้องชายได้สูดอากาศบ้าง

เนื่องจากปกติปืนฉีดน้ำเราอยู่ในกางเกงชั้นในและกางเกงชั้นนอกตลอดทั้งวัน นอกจากจะมีเหงื่อสะสมแล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อราบริเวณโดยรอบได้ ถ้าเป็นไปได้ควรปล่อยน้องชายเป็นอิสระอย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมงขณะอยู่บ้าน(แค่ใส่บ๊อกเซอร์นะ ไม่ใช่แก้ผ้า)​ เพื่อระบายความอับชื้นนั่นเอง ไม่ก็นอนโดยไม่ใส่ชั้นในก็ได้ครับ แต่อาจจะต้องมัดมือคนข้างๆไว้ ไม่งั้นเค้าอาจมารบกวนเวลาพักของเราได้

6.เลือกใส่กางเกงในบางๆ

การเลือกใส่ชั้นในที่ทำจากผ้าเนื้อบาง จะช่วยระบายความร้อนและลดเหงื่อได้ดีกว่าการใส่ชั้นในหนาๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองที่ง่ามขา อย่าเลือกพวกที่ทำมาจากผ้ายีนส์หรือลูกฟูกนะ

7.ใส่แล้วก็ซักด้วย

กางเกงชั้นในเป็นสิ่งที่ห่อหุ้มน้องเราตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิ่งสกปรกสะสม ดังนั้นควรเปลี่ยนกางเกงในทุกวัน ไม่ใส่ซ้ำ หรือกลับนอกกลับใน และควรซักกางเกงชั้นในให้สะอาดอยู่เสมอครับ ไม่ค่อยปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจมีเชื้อราได้

วิธีการดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์มีอะไรบ้าง

1. ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายให้ดีโดยในการอาบน้ำควรทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ด้วยสบู่ หลังอาบน้ำควรเช็ดให้แห้ง 2. ไม่ควรกลั้นปัสสาวะนาน ๆ 3.ควรใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะผู้หญิง

เราต้องดูแลรักษาระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงโดยวิธีการใด

Do : ทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำควรล้างด้วยน้ำสะอาด และซับเบาๆ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ทุกครั้งหลังถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ควรใช้น้ำล้างให้สะอาดแล้วใช้กระดาษชำระเช็ดให้แห้ง โดยเช็ดจากอวัยวะเพศไปทวารหนัก เพื่อไม่ให้เชื้อโรคจากทวารหนักติดต่อมายังช่องคลอด

การดูแลสุขอนามัยทางเพศมีอะไรบ้าง

สุขอนามัยทางเพศ (Sexual health).
การรักษาความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูกต้อง.
การหลีกเลี่ยงอวัยวะเพศจากการชอกช้ำ อักเสบ และติดเชื้อ.
การสังเกตความผิดปกติของอวัยวะเพศตั้งแต่ระยะเริ่มแรก.

ความสำคัญของการดูแลรักษาสุขภาพทางเพศคืออะไร

การดูแลสุขอนามัยและสุขภาพทางเพศ คือ การที่บุคคลมีความสามารถในการดูแล สุขอนามัยทางเพศ การดูแลเพื่อให้คงไว้ซึ่งความสามารถและความปกติของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับเพศ ของตนให้ทํางานได้อย่างปกติ รวมถึงสภาวะที่สมบูรณ์ของร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคมที่มี ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศ