Show
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ใช้ระบบการเรียนการสอนที่เอื้ออำนวยให้นักศึกษาสามารถใช้เวลาศึกษา ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามปกติ แต่ใช้วิธีการศึกษาโดยผ่านสื่อการสอนต่างๆ เรียกว่าระบบการศึกษา ทางไกล วิธีการเรียนที่ ม.สุโขทัย – เรียนทางไกล สัมฤทธิบัตร คืออะไร?นักศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จะศึกษาจากสื่อการสอนต่างๆ ดังนี้1. สื่อการเรียนการสอน มีหนังสือ , VCD เป็นบางชุดวิชา 2. “สื่อเสริม” รายการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ประกอบชุดวิชา กรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV 8) นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถรับฟัง รับชมรายการได้ทางอินเทอร์เน็ตที่ www.stou.ac.th คลิกที่ STOU Online 3. บางชุดวิชามีกิจกรรมส่ง สามารถ down load ในเว็บ ส่งทางไปรษณีย์ มีคะแนนเก็บ 20 คะแนน ถ้าไม่ส่ง ไปสอบ 100 % 4. เข้ารับการสอนเสริม ณ ศูนย์บริการการศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชประจำจังหวัดทั่วประเทศ แต่ไม่บังคับให้เข้าเรียน 5. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเองจากวัสดุการศึกษาอื่นๆ ณ มุม มสธ. ในห้องสมุดประชาชนประจำจังหวัดทุกจังหวัด 6. ในบางชุดวิชานักศึกษาจะต้องเข้าทำการทดลองในห้องปฏิบัติการ ศึกษาค้นคว้าและทำงานตามที่ได้รับมอบหมายภายในระยะเวลาและสถานที่ที่มหาวิทยาลัยกำหนด 7. ค่าเทอม ประมาณ 3,500 บาท ประกอบด้วย ค่าบำรุงการศึกษา 500 บาท ค่าชุดวิชาละประมาณ 1,000 – 1,200 บาท 1 เทอมลงได้ 3 ชุดวิชา ( 18 หน่วยกิต ) ต้องลงอย่างน้อย 1 ชุดวิชา แต่ไม่เกิน 3 ชุดวิชา เทคนิคการเรียน มสธ.การเรียน ต้องบังคับตัวเองพอสมควร เพราะเป็นการเรียนด้วยตัวเอง และต้องทำการบ้านส่ง ทุกครั้งที่ได้รับมา ถูกผิดไม่สำคัญ ถือเป็นคะแนนช่วยเวลาทางมหาวิทยาลัยมีจัดติว ควรไปติวทุกครั้ง เพราะนั่นหมายถึงคะแนนเก็บที่คุณจะได้รับด้วย โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ อีกเรื่องที่สำคัญคือ ต้องให้เวลากับการอ่านหนังสือมาก เนื่องจากแต่ละวิชาเนื้อหาเยอะ และอย่าลืมทำแบบฝึกหัด ก่อน และ หลัง บทเรียน ในนั้นจะมีข้อสอบแฝงอยู่ด้วย เทคนิคการสอบให้ผ่าน1.ขยันอ่านหนังสือ ชุดวิชาคืออะไร?คำตอบคือก็เหมือนกับวิชาที่เรียนใน มหาวิทยาลัยอื่นทั่วไป เพียงแต่ว่าที่ มสธ.จะกำหนดให้ โครงการสัมฤทธิบัตร ของ มสธ. คืออะไร?เรียนสัมฤทธิบัตร ก็เหมือนกันเรียนวิชาอื่นๆ ของ มสธ.
คือ เป็นมหาวิทยาลัยระบบเปิด เรียนรู้ด้วนตนเอง ส่งงาน ร่วมกิจกรรมกลุ่ม และไปสอบ ตามตารางที่กำหนดไว้ครับผม ไม่มีการเข้าชั้นเรียน เมื่อสอบผ่านชุดวิชาและรายวิชาใดจะได้รับใบสัมฤทธิบัตรรับรองความรู้ในชุดวิชาและรายวิชานั้นๆ
สามารถโอนชุดวิชาที่สอบผ่านเข้าในหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาตรีของ มสธ. ถ้าหมายจะนำสัมฤทธิบัตรจากโครงการนี้ไปเทียบโอนมหาวิทยาลัยอื่น ไม่สามารถทำได้ เพราะสิ่งที่ได้จากหลักสูตรนี้ไม่ใช่ปริญญาบัตร ถ้าจะนำไปใช้เทียบโอนก็ต้องเรียนเป็นปริญญาตรีที่ มสธ. ให้จบก่อน สรุปได้คือ เลือกเรียนเป็นรายวิชา เฉพาะวิชาที่สนใจ โดยไม่เอาวุฒิปริญญา แต่ก็สามารถนำวุฒิ ไปเทียบโอน เมื่อจะเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีของ มสธ. ได้คล้ายๆกับ โครงการ pre-degree ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง บทความแนะนำ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (อังกฤษ: Sukhothai Thammathirat Open University; ชื่อย่อ: มสธ., STOU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐแบบไม่จำกัดรับจำนวน โดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 ตาม พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พุทธศักราช 2521[3] มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี แบบมหาวิทยาลัยเปิดโดยรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเปิดการศึกษาถึงระดับดุษฎีบัณฑิตในบางสาขาวิชา[4] โดยมีการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาเหมือนมหาวิทยาลัยปิดทั่วไป[5] มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชไม่มีชั้นเรียนตามปกติเหมือนมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล ซึ่งจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากเอกสารชุดวิชาจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้นักศึกษา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในอดีต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนถึงปัจจุบัน ภายหลัง รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศที่ 1/2560 เข้าควบคุมมหาวิทยาลัยเนื่องจากกรณีกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ขอลาออกจากตำแหน่งจนทำให้เหลือกรรมการไม่ครบองค์ประกอบตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521[6] และยกเลิกประกาศควบคุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561[7]เนื่องจากมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว[8] ประวัติ[แก้]มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแบบ "มหาวิทยาลัยเปิด" กล่าวคือรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน โดยมหาวิทยาลัยไม่มีชั้นเรียนตามปกติเหมือนมหาวิทยาลัยปิดและมหาวิทยาลัยตลาดวิชาซึ่งดำเนินการสอนโดยใช้ระบบการสอนทางไกล จัดการเรียนการเรียนการสอนแบบตลาดวิชาโดยเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากเอกสารชุดวิชาจากสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้นักศึกษา เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น แนวคิดของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิดในประเทศไทย[แก้]การก่อตั้งมหาวิทยาลัยเปิด เป็นความพยายามของรัฐบาลในการที่จะขยายโอกาสการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ประชาชนให้มากที่สุด แนวคิดนี้ได้เคยนำมาใช้แล้วในประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2476 ได้จัดการศึกษาระบบ "ตลาดวิชา" โดยไม่จำกัดรับนักศึกษา เป็นครั้งแรก แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบมหาวิทยาลัยปิด (จำกัดการรับนักศึกษา) เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่อมาปี พ.ศ. 2514 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแบบตลาดวิชาขึ้นอีกแห่งหนึ่ง คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่มหาวิทยาลัยรามคำแหงยังคงจัดการศึกษาโดยอาศัยชั้นเรียนเป็นหลัก ทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงประสบปัญหาในด้านอาคารสถานที่เรียนเป็นอันมาก ทำให้ไม่สามารถขยายให้เพียงพอกับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นทุกปีได้ ทางรัฐบาลเล็งเห็นว่าหากรัฐบาลให้การสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดการศึกษาให้เพียงพอกับความต้องการของผู้เรียนแล้ว จะทำให้ภาครัฐต้องรับผิดชอบภาระด้านงบประมาณมากขึ้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้นเพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้แก่ประชาชน ให้กว้างที่สุด โดยใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชขึ้น โดยดำเนินการในระบบมหาวิทยาลัยเปิด จัดการเรียนการสอนโดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จึงเป็นมหาวิทยาลัยเปิด โดยใช้ระบบการศึกษาทางไกล แห่งเดียวในประเทศไทย[9] การสถาปนามหาวิทยาลัย[แก้]พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานนามมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตามพระนามทรงกรมของ "สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิ์เดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา" (รัชกาลที่ 7) โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงปรับสร้อยพระนามทรงกรมของรัชกาลที่ 7 เล็กน้อย (ภาพ:หนังสือแจ้งพระราชทานนามมหาวิทยาลัยฯ ยังทบวงมหาวิทยาลัย) มหาวิทยาลัยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช" ตามพระนามเดิมของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็น "กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา" และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์ นำมาประกอบกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ใน พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521[10] มหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้ วันที่ 5 กันยายน ของทุกปีเป็น วันสถาปนามหาวิทยาลัย อธิการบดีคนแรก[แก้]ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดแรก[11] รวมทั้งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ศาสตราจารย์ วิจิตร ศรีสอ้าน ให้ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีคนแรก การเปิดดำเนินการการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย[แก้]สาขาวิชาที่เปิดสอน 5 สาขาวิชาแรกของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คือ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ (ภาพ:ห้องประชุมอาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช) หลังจากได้ใช้เวลาเตรียมการด้านต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมที่จะเปิดสอนเป็นเวลาประมาณ 2 ปี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงได้เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2523[12] สาขาวิชาที่เปิดสอน 3 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ[13] โดยมี ผู้สนใจลงทะเบียนเรียน จำนวน 11,152 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 มหาวิทยาลัยได้ขยายการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นในสาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์(มนุษยนิเวศศาสตร์) และสาขาวิชาส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ปีการศึกษา 2526(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์) มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชารัฐศาสตร์ ปีการศึกษา 2527 เปิดสอนสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ในปีการศึกษา 2538 มหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในปี พ.ศ. 2544 ได้เปิดสอนสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีกสาขาวิชาหนึ่ง รวมเป็น 12 สาขาวิชา ปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช[แก้]พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (รุ่นแรก) ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจึงมีอำนาจให้ปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรที่มีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยของรัฐอื่น ๆ ทุกประการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรก ณ อาคารใหม่สวนอัมพร เมื่อวันที่ 26 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2527 โดยเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยรุ่นแรก (ประจำปีการศึกษา 2525) ซึ่งในปีนั้นมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 9,594 คน จาก 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์และสาขาวิชาวิทยาการจัดการ [14] ในอดีต ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชจนถึงปัจจุบัน นับเป็นความภูมิใจของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อย่างหาที่สุดมิได้ สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย[แก้]
ตราประจำมหาวิทยาลัย[แก้]มหาวิทยาลัยได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นรูปพระแสงศรสามองค์เรียงกันบนบันไดแก้ว ได้แก่ "พระแสงศรพรหมศาสตร์" "พระแสงอัคนิวาต" "และพระแสงศรพลายวาต" ประดิษฐานอยู่ภายใต้ พระมหามงกุฏ นำมาประกอบกับส่วนยอดของ "เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย และมีข้อความ "มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช" อยู่ในแถบริ้วเบื้องล่าง เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย[15] เสื้อครุยของมหาวิทยาลัย[แก้]เสื้อครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยเป็นเสื้อคลุม ผ้าโปร่งสีขาว ผ่าอกตลอดรอบขอบและที่ต้นแขนกับปลายแขน มีแถบสีทองทาบทับด้วยแถบทองบริเวณอกเสื้อทั้งสองข้างมีวงกลมสีทอง กลางวงมีตรามหาวิทยาลัย ปริญญาตรี มี 1 วง ปริญญาโทมี 2 วง ปริญญาเอก มี 3 วง[16] ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย[แก้]พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปลูกต้นปาริชาตต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยกำหนดให้ ต้นปาริชาตหรือต้นทองหลางลายเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีใบเป็นสีเขียวและเส้นใบเป็นสีทอง ตรงกับสีเขียว-ทองซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย สีประจำมหาวิทยาลัย[แก้]"สีเขียว - ทอง" เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
อาคารที่สำคัญในมหาวิทยาลัย[แก้]อาคารทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัย
หน่วยงาน[แก้]หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีดังนี้
สาขาวิชาที่เปิดสอน[แก้]ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดทำการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร, ปริญญาบัณฑิต, ประกาศนียบัตรบัณฑิต, และปริญญามหาบัณฑิต กระจายไปตามสาขาวิชาต่าง ๆ โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีสาขาวิชาทั้งหมด 12 สาขาวิชา (เป็นหน่วยงานตามประกาศกระทรวงฯ 10 สาขาวิชา[20] เป็นหน่วยงานภายใน 2 สาขาวิชา) ดังนี้
หมายเหตุ : สาขาวิชาเทียบเท่ากับคณะวิชาของมหาวิทยาลัยทั่วไป โครงการเรียนล่วงหน้า[แก้]มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ยังเปิดการเรียนทางไกลให้สำหรับนักเรียนหรือบุคคลที่ต้องการเรียนล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องมีวุฒิการศึกษา ไม่ต้องสมัครเป็นนักศึกษาในหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งก็ได้ เมื่อสอบผ่านแล้วผู้เรียนยังสามารถ โอนชุดวิชาที่เรียนผ่านเข้าเป็นชุดวิชาในหลักสูตรที่ต้องการศึกษาในภายภาคหน้าได้ ซึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
อาคารวิชาการ 3 (ตึกด้านขวามือ) สถานที่ตั้งที่ทำการสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์[แก้]ศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (ศวช.) เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบการศึกษาทางไกลของมหาวิทยาลัย โดยเริ่มเปิดศูนย์วิทยพัฒนามหาวิทยาลัยฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแห่งแรกในปี พ.ศ. 2534 ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีศูนย์วิทยบริการและชุมชนสัมพันธ์ทั้งสิ้น 10 ศูนย์ กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ ครบทุกภาคของประเทศไทย ดังนี้[23]
ศูนย์บริการการศึกษาในต่างประเทศ[แก้]มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดการศึกษาสำหรับคนไทยในต่างประเทศโดยได้รับความร่วมมือจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักบริหารการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาตลอดชีวิตให้กับคนไทยในต่างประเทศ ได้เพิ่มพูนความรู้และเพิ่มคุณวุฒิการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีการจัดการศึกษาสำหรับคนไทยในประเทศต่างประเทศ ดังนี้
ทั้งนี้นักศึกษาจะต้องเดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมชุดวิชาประสบการณ์วิชาชีพ หรือชุดวิชาที่มีการฝึกปฏิบัติ ณ สถานที่ที่มหาวิทยาลัยฯ จัดให้โดยใช้เวลาในการฝึกอบรมประมาณ 4–5 วัน นอกจากประเทศ/เมืองที่มหาวิทยาลัยยังมีการให้บริการจัดสอบในต่างประเทศ รายนามอธิการบดี[แก้]นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมีอธิการบดีมาแล้ว 6 ท่าน และ รักษาการแทนอธิการบดี 3 ท่าน ดังรายนามต่อไปนี้
รายนามนายกสภามหาวิทยาลัย[แก้]นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีนายกสภามหาวิทยาลัยมาแล้ว 5 ท่าน และทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย 1 ท่าน ดังรายนามต่อไปนี้
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย[แก้]การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 มสธ. อยู่ในอันดับที่ 5,410 ของโลก อันดับที่ 224 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[41] อันดับที่ 47 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[42] บุคคลที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช[แก้]
อ้างอิง[แก้]
ดูเพิ่ม[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
พิกัดภูมิศาสตร์: 13°54′36″N 100°32′13″E / 13.909876°N 100.537037°E
|