เรามีการเก็บข้อมูลของคุณเกี่ยวกับการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ (คุกกี้) เพื่อนำข้อมูลไปปรับปรุงและสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อคุณกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเราในครั้งต่อ ๆ ไป หากคุณใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อ ถือว่าคุณยินยอมให้มีการใช้งานคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่น้อง ๆ ม.ปลายหลาย ๆ กำลังค้นหาตัวตนของตัวเองกันอยู่ใช่ไหม ช่วงสำคัญ ๆ มาก ๆ แบบสามารถเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตให้กับใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ดังนั้นไม่ควรมองแค่ว่าเรียนจบไปทำอาชีพอะไรก็ได้ เพราะกว่าย้อง ๆ จะเรียนจบมาได้แต่ละปี เงินและเวลาที่เสียไปมันมีค่ามาก มันคือช่วงที่กำหนดอานาคตของน้อง ๆ เลยก็ว่าได้ วันนี้พี่มีขั้นตอนการเตรียมตัวกับ 5 เทคนิคค้นหาตัวเอง เข้าคณะที่ใช่สำหรับเรา
1.อาชีพในฝันของเรา.... สิ่งแรกที่น้อง ๆ ต้องคิดก่อนว่าจะเรียนอะไรดี คือโตขึ้นเราอยากทำอาชีพอะไร เพราะการมองถึงอาชีพในอนาคตจะช่วยสโคปแนวทางการเรียนให้ชัดเจนขึ้น
2.หาสิ่งที่ชอบและถนัดที่สุด ลองใช้เวลานั่งวิเคราะห์ทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่เราชอบและสิ่งที่เราถนัดคือด้านไหน ไม่มีใครจะตอบคำถามนี้ได้ดีเท่าตัวเราเอง และถ้าจะให้ดีหาเผื่อไปถึงความสามารถพิเศษของตัวเองได้ดีมาก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถต่อยอดไปทั้งการเรียนและการทำงานได้
3.วิชาที่ชอบบอกคณะได้ ถ้าสองวิธีแรกไม่ได้ผล ลองคิดง่าย ๆ จากวิชาที่เราชอบเรียนมาตลอด เป็นวิชาที่ไม่อยากขาดเรียนเลยซักคาบ วิธีนี้จะทำให้น้อง ๆ เห็นอนาคตของตัวเอง มากขึ้นว่าควรไปทางแนวไหน
4.เลิกตามเพื่อนซักที บอกเลยว่าวีธีนี้คือจริงที่สุด สิ่งสำคัญเลยแม้ว่าเราจะรักเพื่อน คิดถึงเพื่อนมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเลือกเรียนตามเพื่อน โดยที่เราไม่ถนัดคณะนั้นเลย เราก็จะไม่สามารถจบพร้อมเพื่อนได้นะคะ
5.บุคลิกบอกอนาคตได้นะ บุคลิกคล้าย ๆ กันมักจะชอบอะไรเหมือน ๆ กัน เพราะบุคลิกที่เหมาะสมในแต่ละอาชีพจะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญคือทำให้เราทำงานอย่างมีความสุขด้วย ดังนั้นลองค่อย ๆ ค้นหาความสุขของตัวเองให้เจอนะคะ
สุดท้ายนี้พี่หวังว่าน้อง ๆ จะค้นหาตัวตนของน้อง ๆ ได้เจอกันเร็ว ๆ นะคะ พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคนที่มีความฝันและเดินทางตามหาฝันของน้อง ๆ นะคะ 9 วิธีค้นหาตัวตน ควรเรียนคณะไหนดี? อนาคตที่สดใส ต้องเริ่มจากเราเลือกทางเดินให้ถูก เพราะฉะนั้น มาค้นหาตัวเองกัน ว่าคณะไหนที่ใช่ และคณะไหนที่เหมาะกับเราที่สุด ✅ อันดับแรก ลิสต์มาเลยว่ามีอาชีพไหนบ้างที่เราอยากทำ เขียนลงมาเลย 1-10 โดยเริ่มจากที่ชอบมากที่สุดก่อน และไล่ลงไปเรื่อยๆ จากนั้นเราก็มาดูว่าอาชีพที่เราอยากทำนั้น ต้องเรียนคณะไหน ด้านไหน ถึงจะจบไปแล้วสามารถทำอาชีพนั้น ๆ ได้บ้าง แล้วก็ลิสต์แยกย่อยออกมา เมื่อเราเด็ก ๆ เรามักจะมีความฝันที่อยากทำอาชีพนั้น อาชีพนี้ เช่น หมอ ตำรวจ คุณครู แต่พอเราโตขึ้น ความฝันก็อาจจะเปลี่ยนไป ดังนั้นเราต้องถามตัวเองใหม่กันอีกครั้งว่า ณ ตอนนี้ เราอยากทำอะไรมากที่สุด อาชีพที่เราใฝ่ฝันอยากจะทำมากที่สุดตอนนี้คืออะไร? และคณะไหน ที่จะเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่ความฝันนั้นได้ แต่ทุกความฝันต้องตั้งอยู่ในความเป็นจริงด้วย โดยเราต้องลองทำ แล้วสังเกตตัวเองว่า มันใช่ตัวเรา และทำให้เรามีความสุขมั้ย? ถ้าใช่! ก็เตรียมตัวสานฝัน อ่านหนังสือสอบเข้าคณะนั้น ๆ ได้เลย 3. เวลาว่างชอบทำอะไร?ข้อนี้ทำได้ง่าย ๆ เลยคือ เวลาว่างเรามักชอบทำอะไรมากที่สุด เช่น ดูซีรีส์ต่างประเทศ ฟังเพลง เล่นดนตรี วาดภาพ ทำอาหาร รับสอนพิเศษ หรืออื่น ๆ กิจกรรมที่เราชอบทำในเวลาว่างนี่แหละ จะช่วยให้เราค้นพบคณะที่ใช่ และ คณะที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา 4.ถนัดเรื่องอะไรมากที่สุด?ทุกคนมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน และความถนัดเหล่านั้นแหละคือพรสวรรค์ ฉะนั้นหากเรามีพรสวรรค์แล้ว ก็จงต่อยอดให้ก้าวหน้าไปอีกเรื่อย ๆ เช่น บางคนเรียนเก่ง, ทำอาหารเก่ง, คิดเลขเก่ง, ร้องเพลงเก่ง, ภาษาเก่ง, เล่นกีฬาเก่ง ฯ ความถนัดเหล่านี้แหละ จะพาเราไปยังคณะที่ใช่ คณะที่จะเรียนอย่างมีความสุขมากที่สุด เพราะการที่เราอยู่เพียงลำพัง ทำอะไรวนลูบแบบเดิม ๆ บางครั้งเราก็จะหัวตื้อ คิดไม่ออก ว่าสรุปแล้วเราชอบอะไรกัน อยากทำอะไร หรือ อยากเรียนอะไรกันแน่? แต่ต้องเปิดหูเปิดตารับฟังคนอื่น หรือออกไปหาประสบการณ์จริง เพราะสำหรับบางคนการค้นหาตัวเองจากความชอบ ความถนัด อาจจะไม่ได้ผล ดังนั้น ต้องออกไปพิสูจน์จากสถานการณ์จริงจากข้างนอกเลยว่า เรามีความสนใจ และรู้สึกตื่นเต้นตื่นตัวกับอะไรมากที่สุด 6. อะไรที่สอดคล้องกับทัศนคติของเราเช่น เมื่อเราเรียนมาจนถึงมัธยมปลาย การเรียนของเราเป็นส่วนขยายความเชื่อ และมุมมองต่าง ๆ ส่วนตัว ถ้าเราทำอะไรแล้วมีความสุข ทำได้เรื่อย ๆ ทำแล้วไม่เบื่อ หรือ แม้กระทั่งเรียนวิชาไหนแล้วสนุก ได้คะแนนดี นั่นแสดงว่าเรากำลังทำในสิ่งที่สอดคล้องกับความคิด ดังนั้นการอยู่ในตำแหน่งที่สอดคล้องกับทัศนคติ เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะจะได้สร้างแรงบันดาลใจให้เราด้วยว่า เราควรเรียนคณะไหน และควรประกอบอาชีพอะไรที่ทำแล้วจะลงตัวที่สุด 7. ทำอะไรแล้วรู้สึกว่า เวลาผ่านไปเร็วมากลองสังเกตตัวเอง ว่าเราเรียนวิชาอะไรแล้วรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วจัง หมดเวลาแล้วหรอ กำลังสนุกเลย นั่นแหละ เรากำลังมีความสุขกับมัน หรือ เราทำกิจกรรมอะไรอยู่ แล้วรู้สึกว่าไม่อยากให้หมดเวลา ทำแล้วไม่รู้สึกเหนื่อย เช่น เล่นกีฬาอยู่, ทำอาหารอยู่, วาดภาพอยู่, สอนพิเศษอยู่ เป็นต้น สิ่งที่เราทำได้นาน ๆ ทำได้บ่อย ๆ แบบไม่รู้สึกเบื่อ สิ่งเหล่านี้แหละ จะตอบโจทย์เราได้ว่า ในอนาคตอันใกล้เราควรเลือกเรียนคณะไหนดี? ให้ลองสังเกตว่า คนรอบ ๆ ตัวมักจะพูดกับเราว่า "ทำไมคุณดูมีความสุขจัง" หรือ "เราไม่เคยเห็นคุณมีความสุขและหัวเราะร่าเริงขนาดนี้มาก่อน" คำพูดเหล่านี้แหละ คือสิ่งที่คนรอบตัว จะช่วยหาคำตอบให้กับเรา ว่าจริง ๆ แล้ว เรามีความสุขที่ได้ทำอะไรมากที่สุด ถึงแม้ในบางครั้งคนรอบ ๆ ข้าง หรือ คนในครอบครัว อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของเราไปซะหมดทุกอย่าง แต่ท้ายที่สุดหากเรานำความชอบ หรือ สิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขไปพัฒนาต่อได้ จนคนรอบ ๆ ข้างเห็นด้วยสายตาตัวเอง เราก็จะได้รับการยอมรับไปโดยปริยาย 9. คนรอบ ๆ ตัว มักชื่นชมเราเรื่องอะไร?ตรงนี้ง่ายมาก มักจะเกิดขึ้นเวลาที่เราทำอะไรลงไป แล้วทำได้ดีจนคนรอบ ๆ ตัว ต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนฝูง หรือ แม้กระทั่งคนที่เราไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เช่น เรารับสอนพิเศษ จนได้รับคำชื่นชมจากผู้เรียน หรือ ผู้ปกครองว่าสอนได้เข้าใจมาก จากเรียนได้เกรด 2.00 ตอนนี้ได้เกรด 3.00 แล้วเป็นต้น หรือ มักมีคนมาชื่นชมคุณว่า เล่นฟุตบอลเก่งมาก ดูมีของ ลงสนามทีไรก็ต้องทำประตูได้ตลอด สิ่งเหล่านี้แหละ จะเลือกให้เราเองว่าเราควรเรียนต่อในคณะอะไรแล้วจะรุ่ง เรียนแต่คณะอะไร แล้วจะต่อยอดอาชีพในอนาคตได้ดี และมั่นคง เลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้ไปตลอดชีวิต พี่หวังว่าน้อง ๆ ทุกคน ที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย |