การรับมือกับลูกค้าเป็นสิ่งที่แม่ค้าทุกคนต้องเจอเมื่อเปิดร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ผ่านเข้ามาซื้อสินค้า ถามไถ่เรื่องราคา วิธีการส่งสินค้า หรือแม้กระทั่งเข้ามาร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ และ Fillgoods ก็เชื่อว่าแม่ค้าส่วนมากก็อยากจะบริการลูกค้าทุกคนได้แบบราบรื่นไร้ปัญหา แต่นั่นอาจจะเป็นไปได้ยากเพราะถึงคุณจะวางแผนการให้บริการไว้อย่างเพอร์เฟคมากแค่ไหน บางครั้งลูกค้าก็ยังหาข้อผิดพลาดมาติเตียนบริการของเราได้บ้าง แถมมาด้วยอาการหัวร้อนอีกด้วย ร้านค้าควรคิดวิธีรับมือเตรียมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถจัดการปัญหาได้อย่างราบรื่นอย่างมืออาชีพ เพราะการจัดการลูกค้าและการสร้างความประทับใจนั้นก็สำคัญไม่แพ้การขายเลยทีเดียว Show ซึ่ง Fillgoods ได้เตรียมเทคนิครับมือลูกค้าหัวร้อนมาฝากทุกคนแล้ว กับ 6 เทคนิครับมือลูกค้าหัวร้อน อย่างมืออาชีพ ตามมาดูกันเลย อ่านเพิ่มเติม : เจาะเทรนด์การตลาดออนไลน์ 1. รับฟังปัญหาอย่างใจเย็นเมื่อลูกค้าเข้ามาร้องเรียน คุณต้องรับฟังปัญหาของเขาอย่างใจเย็น ไม่ว่าปัญหาของเขาจะเกิดจากบริการของคุณหรือไม่ก็ตาม หากปัญหานั้นไม่ได้เกิดเพราะคุณก็ขอให้ตอบกลับไปด้วยข้อมูลที่หนักแน่น สุภาพและใจเย็น ทว่าถ้าปัญหาเกิดจากบริการของคุณจริงๆ ก็ต้องรับฟังอย่างใจเย็นและพยายามแก้ไขอย่างจริงใจ วิธีนี้จะช่วยลดอาการหัวร้อนของลูกค้าลงได้ขั้นหนึ่งแล้วจ้า 2. จับประเด็นสำคัญเมื่อลูกค้าเข้ามาหาคุณด้วยอารมณ์ ระหว่างเล่าปัญหาอาจจะเต็มไปด้วยข้อความที่ทำให้คุณหัวร้อนตาม อย่างไรก็ตามขอให้คุณตั้งสติมองข้ามข้อความเหล่านั้น แล้วจับแต่ประเด็นสำคัญของการร้องเรียน เพื่อการแก้ปัญหาได้ครบทุกประเด็นได้อย่างไม่ตกหล่นอย่างมืออาชีพ 3. ขอโทษอย่างจริงใจเมื่อปัญหาเกิดจากบริการของคุณจริง ๆ สิ่งที่ขาดไปไม่คือคำ “ขอโทษ” และต้องเป็นคำขอโทษที่แสดงถึงความจริงใจ จะช่วยให้ลดอาการหัวร้อนจากลูกค้าและทำให้เขารู้สึกว่าปัญหาของเขาได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง 4. ใช้ภาษาที่เหมาะสมการตอบกลับด้วยภาษาที่สุภาพและแสดงถึงความเข้าอกเข้าใจ ไม่ว่าจะด้วยการเขียนหรือการพูด ช่วยบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพในการบริการของร้านคุณ และอาจจะช่วยเปลี่ยนลูกค้าที่พร้อมจะบอกลาร้านคุณได้ตลอดเวลา เป็นลูกค้าที่จะกลับมาใช้บริการคุณเป็นประจำได้ 5. บอกเวลาแก้ปัญหาหากปัญหานั้นไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที เพราะต้องประสานงานกับหลายฝ่าย อย่างน้อยขอให้คุณแจ้งช่วงเวลาที่จะติดตามเรื่องให้ลูกค้าทราบ เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าปัญหาของเขากำลังได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นการรับเรื่องไว้ลอยๆ แล้วก็หายไปในอากาศ 6. อย่าลืมติดตามผลหลังจากรับและส่งเรื่องไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่าลืมติดต่อไปยังลูกค้าเพื่อติดตามผล หรือคอยรายงานขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ลูกค้าทราบอยู่เสมอ เป็นการแสดงถึงความใส่ใจในการให้บริการ ร่วมถึงความตั้งใจที่จะบริการลูกค้าอย่างจริงใจ พร้อมกับสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอย่างแท้จริงอีกด้วย ประเด็นลูกค้าร้องเรียนสามารถป้องกันได้ด้วยการวางระบบจัดการหลังร้านที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนอย่างมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด คลังสินค้าต้องมีการตรวจนับแบบเรียลไทม์ เพื่อปกป้องการขายสินค้าเกินจำนวน เลือกใช้บริการขนส่งที่ไว้ใจได้ว่าจะส่งสินค้าถึงมือลูกค้าของคุณอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ความถึงคุณสามารถตรวจเช็คสถานะสินค้าได้ตลอดทาง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับร้านค้าของคุณได้แล้ว หากลูกค้าไม่พอใจกับสินค้าหรือบริการของเรา จะมีวิธีแก้ปัญหาหรือลดความโกธรของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ลองนำเทคนิค…ทำอย่างไรเมื่อเจอลูกค้าเหวี่ยงวีน ไปใช้ดูครับสิ่งที่ต้องทำเมื่อเจอลูกค้าเหวี่ยงวีนก็คือ 1. ปล่อยให้ลูกค้าระบายออก 2. ตัดอคติหรืออารมณ์ร่วมทิ้งไป 3. แสดงความจริงใจ 4. กระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหา 5. ตกลงวิธีแก้ปัญหา 6. ติดตามผล ทำยังไงเมื่อเจอลูกค้าเรื่องมากผมจึงมีวิธีที่ให้คุณรับมือกับลูกค้าจอมเรื่องมากมาฝากกันครับ รับรองว่ายังไงก็ได้เงินจากพวกเขาแน่นอน. เริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม ... . มองบวกเข้าไว้ ยังไงก็ได้เงิน ... . ตอบสนองตามความต้องการของพวกเขาเท่าที่ทำได้ ... . ใช้ทักษะการเล่าเรื่องช่วยปิดการขาย ... . คิดเสียว่านี่คือข่าวดี. รับมือกับลูกค้ายังไง5 วิธีรับมือเมื่อลูกค้าไม่พอใจ จัดการอย่างไรให้เป็นมืออาชีพ. 1. เป็นผู้ฟังที่ดี และไม่แก้ปัญหาด้วยอารมณ์ ... . 2. สนทนาอย่างสุภาพเพื่อให้ได้ทราบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ... . 3. ทราบปัญหาแล้วแสดงความใส่ใจในการแก้ปัญหา ... . 4. ยื่นข้อเสนอที่สมเหตุสมผล ... . 5. ทางเลือกสุดท้ายกล่าวขอโทษและยินดีคืนเงิน. คุณจะจัดการกับลูกค้าที่โกรธหรือโมโหอย่างไร?เทคนิคที่ช่วยในการรับมือกับลูกค้าที่โกรธจัด คือ . 1. Be polite พูดคุยกับลูกค้าอย่างสุภาพอ่อนโยน 2.Own the problem พยายามตั้งใจฟังปัญหาของลูกค้า ทำความเข้าใจเเละเอาใจเขามาใส่ใจเรา 3.Commit to time เเก้ปัญหาโดยใช้เวลา
เจอลูกค้าด่าทำไง1. ขอโทษอย่างจริงใจ พูดคุยให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องที่ผิดไม่มาก ก็ต้องขอโทษ เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ยิน 2. ให้คำยืนยันว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดแบบนี้กับลูกค้าและคนอื่นๆ อีก 3. แก้ไขปรับปรุงความเสียหายที่เกิดขึ้น 4. ให้ประโยชน์หรือของรางวัลเพิ่มเติม เพื่อแสดงความจริงใจ
|