มุ้งลวด เรียกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่หลายๆบ้านจะชอบทำไว้ เพื่อเป็นการป้องกันแมลง หรือยุง แต่ก็เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นเป็นอย่างดี ซึ่งจะทำความสะอาดแต่ละทีก็ต้องถอดออกมาล้างทำความสะอาด สร้างความยุ่งยากให้เหล่าแม่บ้านเป็นอย่างมาก แต่วันนี้เราจะพามาดู วิธีการล้างมุ้งลวดให้สะอาดโดยไม่ต้องถอดออกมาล้าง ด้วยของใช้ที่มีในบ้าน จะมีวิธีอย่างไรบ้างไปดูกันเลย 1. ใช้น้ำส้มสายชูสำหรับสูตรนี้ จะใช้น้ำส้มสายชู ซึ่งแต่ละบ้านก็มักจะมีน้ำส้มสายชูติดบ้านไว้อยู่แล้ว ถ้าทำอาหารกินเองบ่อย วิธีทำ : ให้นำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำเปล่า ในอัตราส่วนเท่ากัน 1:1 ผสมให้เข้ากันให้เรียบร้อย แล้วก็นำไปเทใส่ในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปฉีดพ่นที่มุ้งลวดให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝุ่นเกาะหนา แล้วปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วค่อยนำฟองน้ำหรือผ้าขนหนูที่ไม่ใช้แล้ว มาเช็ดมุ้งลวด เอาคราบฝุ่นต่างๆออกไป จะทำให้ฝุ่นหลุดออกไปได้อย่างง่ายดาย โดยที่เราไม่ต้องถอดมุ้งลวดไปล้างทำความสะอาดให้ยุ่งยาก แถมยังไม่เปลืองแรงขัดอีกด้วย 2. ใช้เบกกิ้งโซดาเบกกิ้งโซดา เป็นของใช้อเนกประสงค์ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้ได้หลายอย่างมากๆ และก็ยังใช้ทำความสะอาดมุ้งลวดได้ผลดีเช่นกัน วิธีทำ : ให้นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่า ผสมให้เข้ากันดี จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำหรือจะใช้แปรงขนอ่อนก็ได้ ชุบส่วนผสมแล้วนำไปถูขัดมุ้งลวดอย่างเบามือ เบกกิ้งโซดาจะทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่กับมุ้งบวดหลุดออกเป็นแผ่นๆเลยล่ะ เมื่อขัดเอาฝุ่นออกจนหมดแล้ว ก็ใช้ผ้าชุบน้ำเปล่า บิดให้หหมาดแล้วเช็ดคราบออกอีกที เพียงเท่านี้มุ้งลวดก็จะสะอาด ปราศจากเศษฝุ่นแล้ว 3. กระดาษหนังสือพิมพ์กระดาษหนังสือพิมพ์ ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำความสะอาดมุงลวดได้เช่นกัน นอกจากช่วยกำจัดฝุ่นแล้ว ก็ยังช่วยลดการกระจายของฝุ่นตอนทำความสะอาดได้อีกด้วย วิธีทำ : ให้เทน้ำสะอาดใส่ในขวดสเปรย์ จากนั้นก็นำไปฉีดให้ทั่วหนังสือพิมพ์ แล้วนำหนังสือพิมพ์ที่ชุ่มน้ำไปแปะให้ทั่วมุ้งลวด ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วก็ค่อยๆลอกกระดาษหนังสือพิมพ์ออกมา เศษฝุ่นต่างๆที่เกาะอยู่บนมุ้งลวด จะค่อยๆติดมากับหนังสือพิมพ์เป็นแผงเลย แต่หากฝุ่นยังออกไม่หมด ก็ให้ติดซ้ำแบบเดิม 2-3 รอบ สุดท้ายก็ค่อยนำฟองน้ำชุบน้ำบิดให้หมาด แล้วมาเช็ดคราบที่เหลือให้เรียบร้อย มุ้งลวด เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นอย่างดี ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานๆฝุ่นก็จะพอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะมีปัญหาภูมิแพ้ตามมาได้ ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยให้มุ้งลวดเต็มไปด้วยฝุ่น ต้องทำความสะอาดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างวิธีการที่เราได้แนะนำไป ก็จะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดมุ้งลวดได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาถอด ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดมุ้งลวด มีทริคเล็กๆ มาฝากครับ โดยปกติการติดตั้งมุ้งลวดในประเทศไทยจะนิยมติดไว้ภายในบ้าน ทำให้การถอดล้างทำความสะอาดได้ยากและจำเป็นต้องเปิดมุ้งลวดก่อนเปิดหน้าต่าง แต่สำหรับต่างประเทศส่วนใหญ่แล้วจะนิยมติดตั้งมุ้งลวดไว้ภายนอกครับ ซึ่งจะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก หากฝุ่นไม่เยอะสามารถฉีดน้ำเพื่อล้างมุ้งลวดโดยไม่ต้องถอดออกได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเปิดปิดหน้าต่างจากภายในบ้านได้อย่างสะดวก แต่เทคนิคนี้จะเหมาะเฉพาะหน้าต่างกระจกแบบบานเลื่อน จะไม่เหมาะกับหน้าต่างบานผลักครับ เตรียมอุปกรณ์1. แปรงขัดหรือหรือแปรงสีฟันเก่า, แผ่นใยขัดพร้อมฟองน้ำ ขั้นตอนการทำความสะอาด1. ถอดตัวยึดมุ้งลวดประตูหน้าต่าง แล้ววางบานมุ้งลวดบนพื้นที่มีผ้าหรือกระดาษรองฝุ่น จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นที่สวมหัวดูดฝุ่นแปรง ดูดฝุ่นที่เกาะบนมุ้งลวดรอบแรกเพื่อให้สิ่งสกปรกมากๆ ถูกดูดออกไปก่อนโดยที่ฝุ่นไม่ฟุ้ง แล้วพลิกกลับทำความสะอาดอีกด้าน หากไม่มีเครื่องดูดฝุ่นสามารถใช้แปรงขัดค่อยๆ ปัดหยากไย่และฝุ่นออก ขั้นตอนนี้ต้องสวมหน้ากากอนามัยปิดจมูกอย่างมิดชิด เพราะช่วยทำความสะอาดฝุ่นอาจฟุ้งกระจายปริมาณมาก หากสูดดมเศษฝุ่นสกปรกเข้าไป จะสร้างปัญหากับระบบทางเดินหายใจได้
2. วางแผ่นมุ้งลวดแบบเอียง ๆ แล้วเปิดเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างสิ่งสกปรกบนมุ้งลวดอีกครั้ง ในกรณีที่ไม่มีเครื่องฉีดน้ำ สามารถใช้สายยางเปิดน้ำแรงๆ เพื่อล้างคราบฝุ่นออกได้เช่นกัน 3. หลังจากฉีดน้ำรอบแรกแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่ามุ้งลวดใสขึ้นมาก แต่เท่านี้ยังไม่สะอาดพอครับ ให้ทำการยกมุ้งลวดไปวางพิงผนัง จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์หรือน้ำสบู่ลงไปในกะละมังตีให้เกิดฟอง แล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าจุ่มน้ำยาไปขัดทำความสะอาดมุ้งลวดเบาๆ (อย่าขัดแรงเพราะจะทำให้มุ้งหลุดจากกรอบหรือฉีกขาดได้)
4. ใช้เครื่องฉีดหรือสายยางทำความสะอาดน้ำยาบนมุ้งลวดจนสะอาดหมดฟอง แล้วนำไปพิงไว้ให้ลมไล่หยดน้ำและความชื้นบนมุ้งลวดให้หมด รอจนมุ้งลวดแห้งสนิทค่อยนำกลับไปติดตั้งกลับที่เดิม
ในวันที่อากาศดีๆ ไม่อยากเปิดแอร์ สามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ ลมจะพัดผ่านเข้ามาภายในบ้านได้อย่างปลอดโปร่งยิ่งขึ้น ช่วยลดการสะสมความร้อนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี การทำความสะอาดมุ้งลวด ควรทำปีละ 2-3 ครั้งครับ |