วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ ยอดขาย เป้า

"วิธีคิดเปอร์เซ็นต์" คือการเทียบจำนวนด้วยสัดส่วน 100 โดยมีเครื่องหมายแทนด้วย % บนเครื่องคิดเลข ประโยชน์ของการเทียบเปอร์เซ็นต์ คือ

1. เทียบเป็นสัดส่วนที่เห็นภาพได้ชัด
2. ใช้กับการคิดราคา คิดส่วนลด เมื่อซื้อขาย
3. ใช้คิดค่าตอบแทน ค่า Commission ให้กับนายหน้า หรือตัวแทนขาย

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ส่วนลด

ยกตัวอย่างเช่น “หากต้องการซื้อสินค้าหนึ่ง รายการสินค้า ราคา 1,500 บาท ลด 20% จะต้องจ่ายเงินกี่บาท” วิธีคิดคือ นำ 1,500 - (1,500x20%) วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ส่วนลดด้วยเครื่องคิดเลข ดังนี้

1. กดจำนวน “1500”
2. กด “เครื่องหมายลบ (-)”
3. กด “1500”
4. กดเครื่องหมาย “เปอร์เซ็นต์%”

ดังนั้น หากซื้อสินค้าในราคาลด 20% จากราคาป้าย 1,500 บาท จะต้องจ่าย 1,200 บาท (ได้ส่วนลด 300 บาท)

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ ค่าคอมมิชชั่น

ส่วนวิธีคิดเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน เมื่อเป็นข้อตกลงกับบริษัท เช่น ค่าคอมมิชชั่นสำหรับฝ่ายขาย 3% จากยอดขายรถยนต์มือสอง หากราคารถยนต์ 350,000 บาท มีวิธีคิดค่าคอมมิชชั่นจากเครื่องคิดเลข ดังนี้

1. กด “350000”
2. กด “0.03”
3. กดเครื่องหมาย “เปอร์เซ็นต์%”

ดังนั้น หากคุณขายรถได้ในราคา 350,000 บาท ในข้อตกลงว่าจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 3% เท่ากับว่าคุณจะได้รับค่าตอบแทน 350,000 x 0.03 = 10,500 บาท

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์เงินเดือน

เงินเดือนขึ้น 5%

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์เงินเดือนขึ้นอย่างง่ายๆ โดยหากองค์กรแจ้งเปอร์เซ็นต์มาตายตัว เช่น เงินเดือนจะขึ้น 5% ทุกปี ก็นำมาคำนวณง่ายๆ
ยกตัวอย่างเช่น เงินเดือน 22,000 บาท ปีนี้เงินเดือนจะขึ้น 5% จะได้เงินเดือนเท่าไร

วิธีคิดโดยไม่ใช้เครื่องคิดเลข

1. เงินเดือนเดิม + (เงินเดือนเดิม x 0.05) = ?

22,000 + (22,000 x 0.05) = 23,100 บาท

ดังนั้นสรุปว่า ปีนี้จะได้รับเงินเดือน 23,100 บาท


วิธีคิดเปอร์เซ็นต์เงินเดือนด้วยเครื่องคิดเลข (กรณีทราบแต่เปอร์เซ็นต์)
1. กดเงินเดือนเดิม
2. กด บวก
3. กดเปอร์เซ็นต์เงินเดือนที่ขึ้น

เงินเดือนขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์

อีกกรณีหนึ่งที่พบเกี่ยวกับการขึ้นเดือน คือทางบริษัทแจ้งจำนวนเงินที่ได้ขึ้น แต่พนักงานอยากทราบว่าเงินเดือนขึ้นเท่าไร ก็ต้องเอาเงินเดือนใหม่กับเงินเดือนเดิมมาเทียบกัน

ยกตัวอย่างเช่น

เงินเดือนเดิม 22,000 บาท เงินเดือนใหม่ 24,630 บาท คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์?

หลักการคิด

1. เงินเดือนใหม่ - เงินเดือนเก่า = เงินเดือนที่ขึ้น

  • 24,630 - 22,000 = 2,630

2. เงินเดือนที่ขึ้น / เงินเดือนเก่า

  • 2,630 / 22,000 = 0.1195455

3. (เงินเดือนที่ขึ้น / เงินเดือนเก่า) คูณ 100

  • 0.1195455 x 100 = 11.95%

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์เงินเดือนด้วยเครื่องคิดเลข

1. กดเงินเดือนใหม่ ลบเงินเดือนเดิม
2. กด “หาร”
3. กด “เงินเดือนเดิม”
4. กด “คูณ 100”

เพราะฉะนั้น กรณีนี้เท่ากับเงินเดือนขึ้น 11.95%

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ย้อนกลับ

ในบางครั้ง เราทราบส่วนลด ทราบมูลค่าที่ถูกคิดมาแล้วโดยไม่ทราบต้นทุน เช่น เราซื้อสินค้ามาในราคารวม VAT 7% แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ซื้อสินค้ามาจากห้างสรรพสินค้า 8,800 บาท รวม VAT7% แล้ว อยากรู้ว่าต้นทุนเท่าไร

ถอดสมการ “ราคาต้นทุน”

ราคาต้นทุน + ราคาต้นทุน x 0.07 = 8,800 บาท

1.07 x ราคาต้นทุน = 8,800 บาท

ราคาต้นทุน = 8,800 / 1.07 บาท

ราคาต้นทุน = 8224.29 บาท

วิธีใช้เครื่องคิดเลขหาเปอร์เซ็นต์ย้อนกลับ จากราคาสุทธิที่บอกมาแล้ว

1. กดราคาสุทธิ “8,800”
2. กดเครื่องหมาย “หาร”
3. กด “16” ตามด้วยเครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ “%”

ในชีวิตประจำวันอาจเจอกับสินค้าที่แจ้งส่วนลดมาเป็นยอดมูลค่า เช่น มอบส่วนลดห้องพักโรงแรม 2,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนลด 16% จากราคาเต็ม เมื่อต้องการทราบราคาเต็มของห้องพัก ก็มีวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ย้อนกลับ ดังนี้

ราคาต้นทุน x 0.16 = ส่วนลด 2,000 บาท

ราคาต้นทุน = 2,000 / 0.16 บาท

ราคาต้นทุน = 12,500 บาท

วิธีใช้เครื่องคิดเลขหาต้นทุนจากเปอร์เซ็นต์ย้อนกลับ ด้วยส่วนลดที่บอกมูลค่ามาแล้ว
1. กดส่วนลด “2,000”
2. กดเครื่องหมาย “หาร”
3. กด “16” ตามด้วยเครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ “%”

กล่าวโดยสรุปคือ วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ เป็นวิธีคิดเทียบสัดส่วน “บัญญัติไตรยางศ์” ขั้นพื้นฐาน บวกกับการแก้ “สมการเบื้องต้น” หากเข้าใจพื้นฐานแล้ว ก็ใช้ “เครื่องคิดเลข” เป็นตัวช่วยได้

สวัสดีพ่อค้าแม่ขายทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นคนขายหน้าร้านหรือจะในร้านค้าโซเชียลต่างๆ วันนี้ LINE SHOPPING จะมาสอนสูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ กำไร ส่วนลดต่างๆ เพราะหลายคนไม่รู้เลยว่าจะต้องคิดเปอร์เซ็นต์ ยอดขายอย่างไร บางครั้งทำแคมเปญส่วนลดไปแล้วมาคิดไปคิดมาดันขาดทุน เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้มาทราบถึงวิธีคิดเปอร์เซ็นต์กันเลยครับ!

เปอร์เซ็นต์ คืออะไร

เปอร์เซ็นต์ คือการคิดตัวเลขเศษส่วนที่ต้องเป็น 100 เสมอ ซึ่งส่วนมากแล้วเปอร์เซ็นต์จะนำมาใช้ทั้งการคิดกำไร ขาดทุน อัตราเงิน ภาษี หรือแม้แต่สัดส่วนต่างๆ เพราะการใช้เปอร์เซ็นต์จะทำให้คนทั่วไปเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นนั่นเอง จึงทำให้หลายร้านและแบรนด์เลือกที่จะใช้เปอร์เซ็นต์ในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าและบริการครับ

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ ยอดขาย เป้า

วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ กําไรสินค้า

สำหรับคนเริ่มทำธุรกิจหรือร้านขายของออนไลน์ทั่วไป อาจไม่รู้ว่าควรจะตั้งราคาสินค้าเท่าไรและจะต้องเพิ่มกำไรไปเท่าไร บางคนก็บอกว่าควรบวกเพิ่มไปเลย 50% ของต้นทุนหรืออาจจะเพิ่ม 10-20% เพียงเท่านั้น ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ถ้าต้นทุนสินค้าราคา 100 บาท ถ้าจะขายก็คือบวกเพิ่มไปเลย 50 บาท ราคาสินค้าที่ขายก็จะเป็น 150 บาทนั่นเอง ซึ่งวิธีการคิดคือ 

สูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ กําไรสินค้า 1

ต้นทุน X (100+เปอร์เซ็นต์กำไร)/100 = ราคาที่จะขาย

สูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ กําไรสินค้า 2

ต้นทุน x เปอร์เซ็นต์กำไร/100 = กำไรที่จะได้

ต้นทุน + กำไรที่จะได้ = ราคาที่จะขาย

อย่างไรก็ตามการคิดเปอร์เซ็นต์กำไรนั้นไม่ได้มีตัวเลขตายตัวว่าจะต้องคิดเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งการคิดกำไรสามารถแบ่งออกได้ 3 แบบ คือกำไรเบื้องต้น (Gross Margin) หรือกำไรที่มาจากการหักลบต้นทุนสินค้า กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) จะมีการรวมต้นทุนค่าบริการต่างๆ ไปด้วย แต่ไม่มีการรวมค่าใช้จ่ายด้านภาษี และกำไรสุทธิ (Net Margin) คือกำไรสูงสุดที่ร้านค้าได้รับโดยรวมภาษีเข้าไปด้วย ดังนั้นร้านค้าอาจจะต้องลองคำนวณดูว่ามีต้นทุนแฝงมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะนำมาคิดกำไร

สร้างโปรโมชั่นส่วนลดเพิ่มยอดขาย ด้วยตัวเลขเปอร์เซ็นต์!

พอทราบแล้วว่าจะต้องใช้สูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ กําไรสินค้าแล้ว สำหรับใครที่พร้อมจะทำโปรโมชั่นส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้าแล้ว มาเริ่มกันเลยครับ

1. ลดล้างสต็อก 50% ปังๆ

การลดล้างสต็อกถือเป็นคำที่ลูกค้าส่วนมากชื่นชอบมากๆ เลยก็ว่าได้ แถมพ่อค้าแม่ขายก็สามารถคำนวณตัวเลขราคาได้ง่ายๆ เลย สำหรับส่วนลด 50% ก็แค่นำราคาจริงไปหาร 2 นั่นเองครับก็จะได้เท่ากับราคาที่ลดแล้วนั่นเอง ซึ่งตามหลักจิตวิทยาแล้วนั้น การลดราคาที่สูงถึง 50% เฉยๆ นั้นอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านี้อาจไม่มีคุณภาพได้ แต่ถ้าเพิ่มเหตุผลไปว่าที่ลดราคาแบบสุดๆ นี่เป็นเพราะจะล้างสต๊อกสินค้า แค่นี้ลูกค้าพร้อมซื้อแล้วครับ

2. เพิ่มก่อนแล้วค่อยลด! แบบไม่เจ็บตัว

สำหรับวิธีการนี้อาจจะดูเหมือนว่าชิลล์ๆ ก็แค่เพิ่มราคาสินค้าแค่นั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยนะครับ เพราะจะมีความซ้ำซ้อนกว่าที่คิด คือ หลังจากที่เราได้ราคาสุทธิแล้ว (แบบที่ได้กำไรนะครับ) ให้นำมาคิดบวกกำไรเพิ่มไปอีก จากนั้นค่อยเอามาลดอีกที พูดแบบนี้อาจจะงงๆ แต่เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ คือ ราคาสินค้าปกติ 100 บาท แต่ต้องการที่จะสร้างโปรโมชันส่วนลด 30% ซึ่งถ้าลดไปเลยอาจจะเข้าทุนได้ดังนั้นจะบวกเพิ่มไปเท่ากับเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะลด เลยทำให้ราคาสินค้ากลายเป็น 130 บาท และลดมาตามเปอร์เซ็นต์นั้นลงมา ก็จะดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและอยากซื้อขึ้นมานั่นเอง โดยไม่จำเป็นต้องลงจนทำให้ขาดทุน

3. ซื้อ 1 แถม 1

อีกกลวิธีในการลดราคาสินค้า คือการเปลี่ยนจากคำว่าลดราคาเท่านี้ มาเป็นการใช้คำว่า “แถม” เข้ามา ซึ่งเป็นคำที่ดึงดูดอย่างมากในการเพิ่มยอดขาย เช่น 

  • ซื้อ 1 แถม 1 ซึ่งก็จะมีค่าเท่ากับการลดไปเลย 50% 
  • ซื้อ 2 แถม 1 จะเท่ากับการลด 33.33%
  • ซื้อ 3 แถม 1 จะเท่ากับการลด 25%
  • ซื้อ 4 แถม 1 จะเท่ากับการลด 20%
  • ซื้อ 5 แถม 1 จะเท่ากับการลด 16.67%

(สามารถใช้ตัวเลขส่วนลดนี้ จะต้องมีราคาสินค้าและของแถมเท่ากันหรืออาจเป็นสินค้าเดียวกัน)

LINE SHOPPING ชวนรู้ ลดด้วยตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์แบบไหนดีกว่า?

สำหรับร้านไหนที่ไม่รู้ว่าจะโปรโมทด้วยส่วนลดที่เป็นตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์ดี LINE SHOPPING ขอแนะนำว่า สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงและซับซ้อน การใช้ลดด้วยเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างที่จะสร้างอิมแพคมากกว่า เพราะลูกค้าจะไม่ต้องเสียเวลาที่คิดว่ายอดที่ลดคือเท่าไรและกดสั่งซื้อเลยทันที เช่น ราคาสินค้า 750 บาท ถ้าลดไปเลย 15% เท่ากับจะเหลือราคาคือ 637.5 บาทนั่นเอง (สำหรับใครที่ทำคูปองส่วนลด อาจจะเขียนกำกับไว้เลยก็ได้ว่าถ้าลด 20% สูงสุดไม่เกินเท่านี้บาท เพื่อป้องกันการขาดทุน) ส่วนถ้าการลดสินค้าแบบตัวเลขนั่น ควรใช้ในกรณีที่เป็นการจับคู่สินค้าหรือจัดเซตสินค้าและเป็นยอดลดที่ดึงดูด เช่น เซตของขวัญปีใหม่ ที่หากรวมราคาแล้วจะอยู่ที่ 1,250 บาท แต่ลดให้เป็นราคา 999 บาทเท่านั้น

สำหรับพ่อค้าแม่ขายท่านใดที่อยากจะทำคูปองส่วนลดแบบไม่พลาด LINE SHOPPING แพลตฟอร์มขายของออนไลน์มาแรงแห่งปี มาพร้อมกับเครื่องมือช่วยบริหารร้านค้าแบบครบวงจรอย่าง “MyShop” มีฟีเจอร์คูปองส่วนลด (ดูวิธีได้ที่นี่) ที่ทำให้ไม่คำนวณไม่ต้นทุนไม่พลาดแน่นอน พร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เช่น ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time ตัดสินค้าตามเวลาจริง, ระบบ Flex Message ที่คอยตอบรับคำสั่งซื้อลูกค้าแบบอัตโนมัติ, มี Storefront สร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรีเป็นของตัวเอง สามารถนำเว็บขายของฟรีนี้ไปแชร์ยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มช่องทางในการขาย สามารถติดตามสถานะออเดอร์ตั้งแต่ต้นจนจบ และรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เก็บเงินปลายทาง หรือจ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ

เพียงมี LINE OA สามารถเปิดบัญชี LINE SHOPPING ได้ฟรี ที่ lineshoppingseller.com