การถ่วงล้อรถยนต์ มี กี่ แบบ

ขอเริ่มที่“ตั้งศูนย์” คือการตั้งมุมต่าง ๆ ของล้อรถยนต์โดยเฉพาะล้อหน้า และในล้อหลังบางรุ่น ให้ถูกต้องตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนดมาจากโรงงานเพื่อประโยชน์ในการขับขี่ที่สมดุล-เกาะถนน แล้วทำไมต้องตั้งล่ะ?ในเมื่อถูกกำหนดมาจากโรงงานแล้ว กล่าวคือเมื่อเราใช้รถมาเป็นเวลาหลายหมื่นกิโลเมตร ต้องประสบพบเจอกับสภาพถนน หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งการตกหลุมบ่อต่างๆ ย่อมบั่นทอนทำให้ ค่าของมุมล้อที่ถูกกำหนดมาจากโรงงาน ผิดเพี้ยนไปได้ จะมากหรือน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวแปรที่กล่าวไว้ข้างต้น

มุมล้อหน้าที่ต้องตั้ง -มุมโท คือมุมที่จะช่วยให้รถวิ่งได้ตรง นิ่ง และสามารถควบคุมรถในทางตรงได้ง่าย เราสามารถสังเกต

“มุมโท” ได้จาก ถ้าล้อหน้าซ้ายและขวาขนานกันนั้น “มุมโท” จะมีค่าเป็น “0” แต่ถ้า ด้านหน้าของล้อหุบและด้านหลังถ่างออกเรียกว่า “โทอิน” และในทางตรงข้ามถ้าด้านหน้าของล้อถ่างและด้านหลังหุบเข้าเรียกว่า “โทเอาต์”

“มุมแคสเตอร์” ในระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท จะเป็นมุมเอียงของโช้คอัพ และในระบบช่วงล่างหน้าแบบปีกนกสองชั้นจะเป็นมุมของคอม้า มีหน้าที่ ช่วยให้รถวิ่งตรง การหักเลี้ยวและคืนตัวของพวงมาลัยทำได้อย่างคล่องตัว สำหรับรถตลาดโดยทั่วไป “มุมแคสเตอร์” จะกำหนดตายตัวม่สามารถปรับตั้งได้

“มุมแคมเบอร์” เป็นมุมเอียงจากแนวดิ่ง โดยถ้าล้อซ้ายและขวาขนานกันในแนวดิ่ง เรียกว่าค่า แคมเบอร์เป็น “0” แต่ถ้าล้อด้านบนถ่างออกและด้านล่างหุบเข้าเรียกว่า แคมเบอร์บวก ถ้าล้อด้านบนหุบเข้าและด้านล่างถ่างออกเรียกว่า แคมเบอร์ลบ ปกติ ค่าแคมเบอร์ ของล้อจะเป็นลบเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ทรงตัวได้ดีในการเข้าโค้ง แต่ถ้ามุม แคมเบอร์ มีค่าเป็นลบมากเกินไปจะทำให้กินยางด้านในมากกว่าด้านนอก

“การถ่วงล้อ” คือการทำให้ล้อเกิดสมดุลในขณะหมุนโดยการใช้ตะกั่วถ่วงน้ำหนัก เพื่อป้องกันการสั่นขณะรถวิ่ง ทั้งนี้การถ่วงล้อมีด้วยกัน 2 แบบ

ถอดล้อถ่วง ช่างจะถอดล้อออกมาเข้าเครื่องถ่วง โดยเครื่องจะหมุนล้อและประมวลผลออกมาว่า จะต้องถ่วงตะกั่วน้ำหนักเท่าไหร่ตรงจุดไหน เพื่อให้การหมุดสมดุลที่สุด

ถ่วงจี้ การถ่วงลักษณะนี้ไม่ต้องถอดล้อ มักจะใช้กับรถที่ ถอดล้อถ่วง แล้วยังมีอาการสั่น ข้อดีคือสามารถสร้างสมดุลให้ล้อและยาง ลูกปืนล้อ เพลาขับ จานดิสก์เบรก

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อสามารถช่วยให้ยางรถยนต์ของคุณวิ่งได้อย่างเหมาะสม และยืดอายุการใช้งานของยางให้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการควบคุม ป้องกันไม่ให้รถยนต์ของคุณเสียสมดุลเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง และช่วยกันแรงสั่นสะเทือนบนท้องถนนในขณะที่ขับอยู่

การตั้งศูนย์ล้อรถยนต์คืออะไร 

การตั้งศูนย์ล้อรถยนต์คือการปรับระบบกันสะเทือนของรถที่เชื่อมต่อกับล้อ ซึ่งไม่ได้เป็นการปรับล้อหรือยางแต่อย่างใด แต่ความสำคัญของการตั้งศูนย์ล้อคือการปรับมุมล้อที่มีผลต่อการสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง 

ควรตั้งศูนย์ล้อรถยนต์เมื่อไร 

มีหลายสัญญาณที่บ่งชี้ว่ารถของเราต้องตั้งศูนย์ล้อใหม่แล้ว เมื่อคุณสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้น คุณควรไปเช็กศูนย์ล้อกับช่างเทคนิคบริการที่มีใบอนุญาตในทันที

·      ยางสึกหรอไม่เท่ากัน สามารถอ่านสาเหตุทำให้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพเพิ่มเติมได้ที่ สาเหตุดอกยางสึกหรอ

·      รถกินไปทางซ้ายหรือขวา

·      ขับรถตรง แต่พวงมาลัยไม่อยู่ตรงกลาง

·      พวงมาลัยสั่นสะเทือน 

มุมแคมเบอร์ มุมโทและมุมแคสเตอร์คืออะไร

เมื่อช่างเทคนิคเข้าตรวจสอบการตั้งถ่วงศูนย์ล้อ จะพิจารณา 3 สิ่งนี้เป็นหลัก

1.     มุมแคมเบอร์

แคมเบอร์คือมุมด้านในหรือด้านนอกของยาง เมื่อมองมาจากทางด้านหน้ารถในลักษณะเส้นดิ่ง ถ้าหากมุมนี้เอียงไปด้านในหรือด้านนอกมากจนเกินไปหรือที่รู้จักกันในชื่อ แคมเบอร์บวกและลบตามลำดับ ซึ่งจุดนี้แสดงถึงศูนย์ล้อที่ไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน หากมีส่วนรับน้ำหนักที่สึกหรอ ลูกหมากปีกนกและชิ้นส่วนระบบกันสะเทือนล้ออื่น ๆ สึกหรอ ก็อาจทำให้มุมแคมเบอร์เกิดผิดพลาดได้เช่นกัน

การถ่วงล้อรถยนต์ มี กี่ แบบ

2.     มุมโท 

มุมโทแตกต่างจากมุมแคมเบอร์ ซึ่งมุมโทจะอยู่ในขอบเขตที่ทำมุมกับยางที่เอนเข้าด้านในหรือด้านนอก เมื่อมองรถจากด้านบน หากคุณรู้สึกสับสนกับมุมต่าง ๆ ให้ยืนขึ้น และมองไปที่เท้าของตัวเอง แล้วเอียงเท้าด้านในเข้ากึ่งกลางลำตัว เมื่อยางของคุณมีลักษณะเดียวกับเท้าของคุณ เราเรียกกันว่า มุมโทอิน แต่ถ้ายางอยู่ในมุมที่เราเอาเท้าเอียงออกด้านนอกจะเรียกว่า มุมโทเอาต์ ซึ่งมุมทั้งสองแบบต่างจำเป็นต้องตั้งศูนย์ล้อใหม่ 

การถ่วงล้อรถยนต์ มี กี่ แบบ

3.     มุมแคสเตอร์

มุมแคสเตอร์ช่วยให้คุณบังคับพวงมาลัย ควบคุมเสถียรภาพและเลี้ยวโค้งได้อย่างสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเป็นมุมในการวางตำแหน่งล้อโดยมองจากด้านข้างของรถ หากมุมแคสเตอร์เป็นบวกจะทำให้แกนพวงมาลัยเอียงไปทางคนขับ แต่ถ้าเป็นลบ พวงมาลัยจะเอนเอียงไปทางหน้ารถของคุณ  

การถ่วงล้อรถยนต์ มี กี่ แบบ

ทำไมการตั้งศูนย์ล้อจึงสำคัญ

การตั้งศูนย์ล้อหรือการถ่วงล้อที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดยางกินในและทำให้ยางของคุณสึกหรอไม่เท่ากัน และเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร โดยการสึกหรอของดอกยางที่เกิดจากการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้องมีดังต่อไปนี้

การสึกหรอแบบขนนก

การสึกหรอประเภทนี้มีลักษณะดอกยางด้านหนึ่งสึกน้อยกว่าและเรียบกว่า แต่อีกด้านหนึ่งมีการสึกที่มากกว่าและคมกว่า โดยปกติแล้วสาเหตุของการสึกหรอเช่นนี้จะมาจากการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ดี

ยางมุมแคมเบอร์สึกหรอ 

การสึกหรอเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ด้านในหรือด้านนอกของดอกยางสึกมากกว่าตรงกลางอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมุมแคมเบอร์บวกหรือลบที่มากเกินไป

หัวหรือปลายยางมุมโทสึกหรอ 

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อบล็อกดอกยางด้านใดด้านหนึ่งสึกเร็วกว่าอีกด้านหนึ่งในแนวเส้นรอบวง เมื่อใช้มือลูบที่ดอกยาง คุณจะรู้สึกถึงลักษณะการสึกหรอแบบฟันเลื่อยเมื่อมองจากด้านข้าง การสึกหรอของหัว/ปลายยางมุมโท อาจเป็นสัญญาณของขอบยางสึกหรอ เนื่องจากลมยางที่อ่อนเกินไปหรือขาดการสับเปลี่ยนยางนั่นเอง

หากคุณพบว่า ลายดอกยางเกิดการสึกหรอในรูปแบบที่แปลกไป คุณควรให้ช่างเทคนิคตรวจสอบศูนย์ล้อให้กับรถของคุณ ในขณะที่กำลังตรวจสอบเรื่องการสึกหรอของยาง ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะเช็กการตั้งศูนย์ล้อควบคู่ไปด้วย ผลของการตั้งศูนย์ล้อไม่ตรงอาจส่งผลถึงประสิทธิภาพในการขับขี่ของรถโดยรวม เช่น รถเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งปกติปัญหานี้มักจะเกิดจากความผิดปกติของศูนย์ล้อ

วิธีตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

การปรับสมดุลล้อแตกต่างกับการตั้งศูนย์ล้อ การถ่วงล้อคือการชดเชยความไม่สมดุลของน้ำหนักในชุดยางหรือล้อ และมักจะทำควบคู่ไปกับการตั้งศูนย์ล้อ โดยทั่วไปจะมีปัญหาของล้อที่ไม่สมดุลอยู่ 2 แบบที่ต้องรับการแก้ไข ซึ่งก็คือปัญหาด้านไม่สมดุลในแบบคงที่ (ระนาบเดี่ยว) และแบบเคลื่อนไหว (ระนาบคู่)

ความสมดุลแบบคงที่ต้องการการถ่วงสมดุลเพียงระนาบเดียว การเคลื่อนไหวในแนวตั้งอาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ในทางกลับกันความไม่สมดุลแบบเคลื่อนไหว จะพูดถึงความสมดุลของระนาบคู่ สำหรับการเคลื่อนไหวในแนวตั้งและการเคลื่อนไหวด้านข้าง ความไม่สมดุลทั้งสองประเภทจำเป็นต้องใช้เครื่องปรับสมดุลพิเศษเพื่อช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น

ก่อนจะเริ่มการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ช่างเทคนิคจะติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับขอบล้อที่ถูกต้อง และปรับความดันลมยางให้พองตัวมากที่สุด จากนั้นยางแต่ละเส้นก็จะอยู่ที่ศูนย์กลางของเครื่องถ่วงล้อ เครื่องจักรจะหมุนยางด้วยความเร็วสูง เพื่อวัดค่าความไม่สมดุลของล้อและยาง เพื่อให้ช่างรู้ว่า ควรเพิ่มน้ำหนักเท่าใด และบริเวณที่ใดที่ต้องการน้ำหนักดังกล่าว เพื่อปรับให้ยางมีความสมดุลมากที่สุด

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลยางรถยนต์ที่ถูกต้องด้วยเหตุผลเดียวกับการตั้งศูนย์ล้อ ซึ่งนั่นก็คือการป้องกันการสึกของดอกยางก่อนเวลาอันควร การตั้งศูนย์ล้อหรือถ่วงล้อทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานและมีประสิทธิภาพการขับขี่มากที่สุด

หากสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดูแลยางของคุณหรือเคล็ดลับที่มีประโยชน์ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ คุยเรื่องยาง และ คลินิกยาง