เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์กับการเขียนโปรแกรม

        การแก้ปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องใช้ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ซึ่งโดยลำดับการเกิดของศาสตร์ทางคณิตศาสตร์ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของศาสตร์สาขาอื่น ๆ และการแก้ปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์นั้นสามารถแก้ปัญหาด้วย ผังงาน และหรือ โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ขึ้นอยู่กับความรู้และทักษะด้านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการประยุกต์ใช้ผังงาน และหรือ โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ ในการแก้ปัญหา

เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคณิตศาสตร์

ภาพที่ 1 การคำนวณทางคณิตศาสตร์
ที่มา https://unsplash.com , Chris Liverani

เนื้อหาทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม

          เซต

          ใช้การคำนวณหาค่าผลลัพธ์ระหว่างสมาชิกที่อยู่ในเซต A และ B ซึ่งมักใช้ตัวแปรชุด (Array) ร่วมกับคำสั่งทำซ้ำ เป็นต้น

          ตรรกศาสตร์

          พื้นฐานของทุกภาษาโปรแกรม โดยการแปลงเงื่อนไขที่มนุษย์เข้าใจแปลงให้เป็นรูปแบบทางตรรกศาสตร์ ให้เข้ากับภาษาโปรแกรมที่ใช้นั้นให้ถูกต้อง โดยใช้ตารางค่าความจริง และตัวดำเนินการตรรกะ ซึ่งตัวดำเนิน "และ" และ ตัวดำเนิน "หรือ" จะใช้บ่อยมากที่สุดในการเชื่อมเงื่อนไขต่าง ๆ

          ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน         

          เป็นการคำนวณหาค่าตัวแปร ที่สัมพันธ์กับสมการที่ต้องการแก้ปัญหา อาจมีการใช้ร่วมกับคำสั่งทำซ้ำ หรือฟังก์ชันที่ผู้ใช้เขียนขึ้นมาเอง

          ทฤษฎีจำนวน

           - จำนวนเฉพาะ ใช้ในการเข้ารหัสลับ Cryptographic เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับหรือวิทยาการการเข้ารหัสลับนั้น เริ่มเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยโรมัน พัฒนาจากแนวคิดเกี่ยวกับพื้นฐานในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการเข้ารหัสลับ (Cryptographic Algorithms) โดยการสร้างสิ่งที่อยู่ในรูปตัวอักษร อักขระ ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ขึ้นมา และเรียกสิ่งนั้นว่า “กุญแจ (key)” และใช้ “กุญแจ (key)” เป็นกลไกสำคัญในการ “เข้ารหัส” และ “ถอดรหัส”

           - จำนวนเต็มและขั้นตอนวิธีของยุคลิด ซึ่งในระบบคอมพิวเตอร์มีการใช้ระบบเลขฐาน 4 แบบ โดยนำเลขฐาน มาประยุกต์ใช้ในการแปลงเลขฐาน ประกอบด้วย

  1. ระบบเลขฐานสอง (Binary Number System) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 2 ตัว ได้แก่เลข 0 กับ เลข 1 ซึ่งเป็นเลขฐานที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ง่าย เพราะว่าอุปกรณ์ทางไฟฟ้าก็มีสถานะเพียง 2 สถานะ คือ เปิด กับ ปิด ซึ่งก็เทียบได้กับ 0 กับ 1

  2. ระบบเลขฐานแปด (Octal Number System) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยเลข 8 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7

  3. ระบบเลขฐานสิบ (Decimal Number System) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ซึ่งระบบเลขฐาน 10 เป็นระบบเลขฐานที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน สามารถจำได้และคำนวณได้ง่ายกว่าเลขฐานอื่น ๆ

  4. ระบบเลขฐานสิบหก (Hexadecimal Number System) เป็นเลขฐานที่ประกอบด้วยตัวเลข 10 ตัวและตัวอักษรแทนตัวเลขอีก 6 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลข 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และตัวอักษรภาษาอังกฤษแทน 10 ถึง 15 ได้แก่ A, B, C, D, E, F

         คณิตศาสตร์เชิงการจัด

         โดยศึกษากลุ่มของวัตถุจำนวนจำกัดที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเงื่อนไขบางประการ และมักกรณีที่สนใจเป็นพิเศษที่จะ "นับ" จำนวนวัตถุในกลุ่มนั้น ๆ หรืออาจหาคำตอบว่า วัตถุที่มีคุณสมบัติที่ต้องการนั้นมีอยู่หรือไม่ การศึกษาเกี่ยวกับการนับวัตถุ บางครั้งถูกจัดให้อยู่ในสาขาการแจกแจงแทน

         เมทริกซ์

         เป็นการมองการจัดเก็บข้อมูลในมิติเดียว หรือหลายมิติ ซึ่งต้องใช้ตัวแปรชุด (Array) ร่วมกับคำสั่งทำซ้ำ และนำไปใช้ในเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ การวิเคราะห์การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) และ การรู้จำใบหน้า (Face Recognition)

ตัวอย่างโจทย์แก้ปัญหา

         จงเขียนโปรแกรม หาค่าผลรวมตัวเลขของตามเทคนิคของเกาส์  โดย S คือ ผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง n

         โยฮันน์ คาร์ล ฟรีดริช เกาส์ ได้รับฉายาว่า "เจ้าชายแห่งคณิตศาสตร์" (Prince of Mathematics) เนื่องจากอุทิศผลงานในทุก ๆ ด้านของคณิตศาสตร์ในยุคสมัยของเขา นอกจากนี้เกาส์ยังมีผลงานสำคัญทางด้านฟิสิกส์ โดยเฉพาะด้านดาราศาสตร์อีกด้วย

          เหตุการณ์ที่แสดงความอัจฉริยะของเกาส์ให้คนทั่วไปได้ทราบ เกิดขึ้นเมื่อเขายังเป็นเด็กชายเกาส์อายุ 7 ขวบ ในห้องเรียนวันหนึ่ง ครูสั่งให้นักเรียนบวกเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 ครูเพียงแค่หันหลังไป เด็กชายเกาส์ก็ตอบขึ้นมาว่า 5,050 เมื่อถูกถามว่าได้คำตอบนั้นมาได้อย่างไร เด็กชายเกาส์เขียน

          1+2+3+4+5+...+98+99+100 = 101+101+101+...+101 = (101×100)/2 = 10100/2 ดังนั้น คำตอบคือ 5050

          ดังนั้นจึงเขียนสูตรการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 – n โดยใช้ Gauss’ technique

          

เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคณิตศาสตร์

 สูตรการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 – n โดยใช้ Gauss’ technique

ตัวอย่าง ผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 – 100

เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคณิตศาสตร์

ตัวอย่าง ผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 – 100 โดยใช้ Gauss’ technique
ข้อมูลเพิ่มเติม http://mathcentral.uregina.ca/qq/database/qq.02.06/jo1.html

           ข้อมูลนำเข้า    มีเพียงบรรทัดเดียวเป็นเลขจำนวนเต็มบวก  n โดย 1 < n

           ข้อมูลส่งออก   มีทั้งหมด 1 บรรทัด แสดง S เป็น ผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง เลข n โดยใช้เทคนิคของ Gauss

ตัวอย่างที่ 1

ข้อมูลนำเข้า

ข้อมูลส่งออก

10

55

ตัวอย่างที่ 2

ข้อมูลนำเข้า

ข้อมูลส่งออก

5

15

แหล่งที่มา

Jason Brownlee. (2018, 7, Feb).  Introduction to Matrices and Matrix Arithmetic for Machine Learning.  Retrieved January 1, 2019, from https://machinelearningmastery.com/introduction-matrices-machine-learning

Valinda Chan. (2017, 1, Aug).  10 Steps to Solving a Programming Problem.  Retrieved January 1, 2019, from https://codeburst.io/10-steps-to-solving-a-programming-problem-8a32d1e96d74

Larry Hardesty. (2013, 6, Dec).  Explained: Matrices.  Retrieved January 1, 2019, from http://news.mit.edu/2013/explained-matrices-1206

หัวเรื่อง และคำสำคัญ

Programming, Mathematics,คณิตศาสตร์ ,เขียนโปรแกรม

ประเภท แบ่งตามผลผลิต สสวท.

บทความ

รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.

สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล

ลิขสิทธิ์

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)

วันที่เสร็จ

วันอาทิตย์, 10 กุมภาพันธ์ 2562

สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา

เทคโนโลยี

ระดับชั้น

ม.1
ม.2
ม.3
ม.4
ม.5
ม.6

ช่วงชั้น

มัธยมศึกษาตอนต้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย

กลุ่มเป้าหมาย

ครู
นักเรียน
บุคคลทั่วไป

ดูเพิ่มเติม

เทคโนโลยีกับคณิตศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

เทคโนโลยีและคณิตศาสตร์ต่างใช้ทักษะการแก้ปัญหาเหมือนกัน และช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดย เทคโนโลยีเข้าไปช่วยทำให้การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ง่ายและแม่นยำขึ้น เช่น การสร้างเครื่องคิดเลขเพื่อช่วย คำนวณตัวเลข ขณะเดียวกันการสร้างเครื่องคิดเลข ก็จำเป็นต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ การดำเนินการทางคณิตศาสตร์

เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับสังคมศาสตร์อย่างไร

ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับสังคมศาสตร์ ผู้เรียนต้องเข้าใจประวัติความเป็นมาทั้งอดีตจนถึงปัจจุบันและเทคโนโลยีในอนาคตช่วยสร้างสรรค์มนุษยชาติ จึงต้องให้ผู้เรียนตระหนักถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกที่ดีของสังคม โดยกิจกรรมดังนี้ - สำรวจบทบาทเทคโนโลยีต่อสังคม - การจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้สนองความต้องการได้อย่างฉลาด

เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับศาสตร์ใดมากที่สุด

เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันมาก โดยเรียกรวมๆ ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology) ซึ่งเป็นการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ มาสมผสานประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ ประดิษฐ์เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

นิยาม นวัตกรรม คือ แนวคิดแนวปฏิบัติหรือการกระทำสิ่งใหม่ ๆ ส่วนเทคโนโลยีเป็นนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับและใช้เป็นแนวปฏิบัติในการดำรงชีวิต การนำนวัตกรรมกับเทคโนโลยีไปใช้ นวัตกรรมถูกนำไปใช้ในกลุ่มย่อยเพียงบางส่วนเท่านั้นยังไม่แพร่หลาย ส่วนเทคโนโลยีนำไปใช้อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน