หากพูดถึงกระบวนการสื่อสาร โดยเฉพาะบทสนทนาที่ว่าด้วยปริมาณ ประโยคจะสมบูรณ์จบลงได้ก็ควรจะต้องมีหน่วยชั่ง-ตวง-วัดเข้ามากำกับ Show
“ป้าครับ !!! ขอนม 1 ขวด แก้ว 1 ใบ แล้วก็เพื่อนข้างกายซัก 1 คน”ขวด–ใบ–คน คือ หน่วยวัดสำคัญที่จะทำให้เครื่องรับและเครื่องส่งประมวลผลการสื่อสารไปในทิศทางเดียว เรื่องของแผ่นดินไหวก็เช่นกัน หน่วยวัดปริมาณต่างๆ ก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจนเป็นมาตรฐานสากล แต่ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือ พวกเรามักติดกับคำว่า ริกเตอร์ และนำไปใช้กันอย่างสับสน ไม่ได้เดือดร้อนแทนครูภาษาไทย แต่ผู้เขียนแค่ห่วงใยว่าเราอาจสื่อสารกันผิด ซึ่งถ้าคุยกันในวันเบาๆ ก็พอจะจับเข่านั่งอธิบายกันได้ แต่ถ้าต้องสื่อสารช่วงเทศกาลแผ่นดินไหว กลัวว่าจะโกลาหลกันไปใหญ่ ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงอยากจะรณรงค์ สร้างความเข้าใจใหม่ร่วมกันในการสื่อสารด้านแผ่นดินไหว ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น ขนาดแผ่นดินไหว
รายละเอียดเพิ่มเติม : ขนาดแผ่นดินไหว : ความหลากหลาย และ การปรับเทียบ แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว
แรงสั่น (กระชาก) จากแผ่นดินไหว 6.8 โกเบ ญี่ปุ่น 17 มกราคม ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538)
หน่วยของแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวมีได้ 3 แบบ ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นหน่วยทั่วๆ ไปทางวิทยาศาสตร์ที่พอจะนำมาจับแรงสั่นสะเทือนได้ เช่น การเลื่อนที่ อัตราเร็ว อัตราเร่ง โดยจะใช้ลูกคลื่นตัวที่มีแอมพลิจูดสูงสุดเป็นตัวแทนของค่าระดับแรงสั่นสะเทือนเหตุการณ์นั้นๆ
แต่บางครั้งวิศวกรอาจแทนหน่วย PGA ด้วยคำเรียกสั้นๆ ว่า gal ซึ่ง 1 gal = 1 เซนติเมตร/วินาที2 หรืออาจใช้เป็นหน่วย g ซึ่งก็คือค่าอัตราเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ที่นิวตันได้นำเสนอไว้หลังจากโดนลูกแอบเปิ้ลหล่นใส่หัว โดย 1g = 980 เซนติเมตร/วินาที2หรือเท่ากับ 980 gal รายละเอียดเพิ่มเติม : แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว : หน้าตา นิสัย และหน่วยวัด ความรุนแรงแผ่นดินไหว
รายละเอียดเพิ่มเติม : รู้จัก “ความรุนแรงแผ่นดินไหว” ซึ่งไม่ใช่แรงสั่นสะเทือน แรงสั่นสะเทือน vs ความรุนแรงจากนิยาม แรงสั่นสะเทือน และ ความรุนแรง ของแผ่นดินไหว จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ค่าปัจจัย ดูเหมือนจะล้อไปตามกัน แต่ก็ไม่ได้ส่งผลสะท้อนต่อกันแบบ 1:1 เหมือนกับที่เราส่องกระจก เพราะบางครั้งแผ่นดินไหวขนาดเท่ากัน ส่งแรงสั่นสะเทือนพอๆ กัน แต่ในแต่ละที่กลับรุนแรงเสียหายแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ Pailoplee (2012) จึงพยายามที่จะศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่าง แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว (หน่วย PGA) กับ ความรุนแรงแผ่นดินไหว (มาตรา MMI) ในพื้นที่ประเทศไทยและพม่า โดยมุ่งหวังว่าเมื่อเกิดแผ่นดินไหวและสถานีตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนได้ เราจะสามารถประเมินความรุนแรงในแต่ละพื้นที่ของบ้านเราได้อย่างคร่าวๆ จาก แผนที่ความรุนแรงแผ่นดินไหวเท่า (isoseismal map) ที่เคยมีการจัดทำและรายงานไว้ในพื้นที่บ้านเรา ประกอบกับการประเมินค่าแรงสั่นสะเทือน (หน่วย PGA) จากแบบจำลองการลดทอนที่เหมาะสมกับพื้นที่ Pailoplee (2012) สรุปและประเมินความสัมพันธ์ระหว่าง PGA-MMI ได้ตามรูปด้านล่าง กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว (หน่วย PGA) และ ความรุนแรงแผ่นดินไหว (มาตรา MMI) วิเคราะห์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทยและพม่า จำนวน 10 เหตุการณ์ (สัญลักษณ์จุดต่างๆ)รายละเอียดเพิ่มเติม : แผนที่ความรุนแรงแผ่นดินไหวเท่า : การสำรวจและประโยชน์ของแผนที่ นอกจากนี้จากการเปรียบเทียบความสัมพันธ์ PGA-MMI ของพื้นที่บ้านเรา (เส้นกราฟหนาในรูปด้านล่าง) กับความสัมพันธ์ในพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเนปาล อินเดีย ประเทศต่างๆ ในยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา (เส้นกราฟบางต่างๆ ในรูปด้านล่าง) พบว่าในกรณีของความรุนแรงแผ่นดินไหว 6 (VI) ขึ้นไป ซึ่งเป็นความรุนแรงแผ่นดินไหวที่มีผลต่อโครงสร้างของอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ประเทศไทยและพม่ามี ความอ่อนไหวต่อแรงสั่นสะเทือนมากกว่าพื้นที่เปรียบเทียบอื่นๆ หรือมีนัยว่า ที่ระดับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวเท่าๆ กัน ประเทศไทยและพม่าแสดงความรุนแรงแผ่นดินไหว หรือเสียหายมากกว่าพื้นที่อื่นๆ ดังนั้นถ้าหากอยากจะเข้มแข็งขึ้นในด้านความสามารถในการต้านทานแผ่นดินไหว ไทยและพม่าควรยกระดับหรือปรับปรุงมาตรฐานการก่อสร้าง (building code) ให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ความทุกข์ก็เช่นกันหลังจากได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน่วยวัดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยวัดแรงสั่นสะเทือนและความรุนแรงของแผ่นดินไหว สิ่งที่พอจะจับสังเกตได้คือ แรงสั่นสะเทือนเป็นเรื่องของโลก ส่วนความรุนแรงนั้นเป็นเรื่องของเรา อีกประเด็นที่น่าคิด ความรุนแรงหรือสภาพความเสียหาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเสมอไป ด้วยระดับแรงสั่นสะเทือนพอๆ กัน บางที่เสียหายยับเยิน แต่บางที่แทบไม่รู้สึกรู้สา หรือนั่นจะบอกเป็นนัยว่า เราสามารถลดความเสียหายหรือความรุนแรงได้ด้วยตัวของเราเอง โลกจะสร้างและส่งแรงสั้นสะเทือนมาให้เราแรงเบาแค่ไหน เราก็ไม่อาจกำหนด สั่งเพิ่มสั่งลดได้ แต่สิทธิ์ที่เราพอจะมีอยู่ในมือ คือการเตรียมพร้อมตั้งรับกับแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นอีก ความทุกข์ก็คงเช่นกัน นับตั้งตั้งแต่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ มีหลายเรื่องราวที่ทำให้เราต้องทุกข์ บางทุกข์ให้เวลาเยียวยา 2-3 วันก็คลาย แต่ก็มีทุกข์อีกมากมาย ที่เจ้าของทุกข์แทบจะยืนไม่อยู่ รับไม่ไหว บางเวลาผู้เขียนก็เคยแอบนั่งนึก ว่าความทุกข์หน้าตามันเป็นยังไง มันจะมีแขนมีขา หรือมีหางเหมือนแมวเหมือนหมาไหม แล้วถ้ามันมีอยู่จริง ช่วงที่เรามีทุกข์มากๆ ทำไมคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่เห็นจะเป็นเดือดร้อนเหมือนกับเรา ซึ่งถ้ามองอย่างแผ่นดินไหว อย่างน้อยๆ คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ควรรับทุกข์ลดหลั่นกันไปตาม แบบจำลองการลดทอน (attenuation) ซิ จริงไหม อีกตัวอย่างสมมุติที่น่าสนใจคือ ถ้าคน 2 คน บ้านถูกไฟไหม้คนละหลังเท่าๆ กัน หนึ่งคนอาจจะร้องไห้ฟูมฟายเป็นวรรคเป็นเวร แต่อีกคนกลับยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดหาวิธีแก้ไขและเดินผ่านมันไป หรือว่าความจริง ความทุกข์มันไม่มีอยู่จริง แต่เป็นเพราะตัวเราต่างหากที่กวักมือ เรียกเรื่องราวมาเป็นเรื่องเรา และนิยามเรื่องเหล่านั้นว่า มันคือทุกข์ แชร์ไอเดียกันครับ !!! แนวทางแบบบ้านๆ ที่ผู้เขียนชอบใช้กำกับ กำชับหรือดับทุกข์คือ การปัดป้อง (ชิ่ง) และปล่อยวาง จะกี่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ถ้าแยกแยะดูดีๆ มันก็มีอยู่แค่ 2 เรื่อง คือ เรื่องของเรา และเรื่องที่ไม่ใช่ของเรา ชิ่งที่ 1 ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผู้เขียนจะโยนเรื่องราวที่เข้ามาใส่ลงในตะกร้า เรื่องที่ไม่ใช่ของเรา ให้มากที่สุด ชิ่งที่ 2 ถ้าหลบไม่พ้นจริงๆ ยังไงก็เป็นเรื่องของเรา ผู้เขียนจะเลือกมองเรื่องราวนั้นในมุมที่ทำให้ตัวเองสบายใจ อย่าไปติดตามนิสัยตั้งชื่อให้มันใหม่ว่า เรื่องนั้นชื่อปัญหา หรือเรื่องนี้ชื่อทุกข์ ไม่คิด ก็ไม่ทุกข์ (หลวงปู่ชา สุภัทโท) แต่ถ้าอดไม่ได้ยังไงก็จะคิด การเลือกมองเลือกคิดแต่มุมดีๆ จึงจะถือว่า ค่อยคุ้มค่าคิด ลองทำดูครับ พูดกับตัวเองว่า “ก็ดีเนาะ” บ่อยๆ เดี๋ยวมันจะดีเอง ของแบบนี้มันฝึกกันได้ทุกคน คนอ่อนแอ จะแก้แค้นคนเข็มแข็ง จะให้อภัยคนฉลาด จะไม่ใส่ใจ
มาตราเมอร์คัลลี วัดอย่างไรตรวจวัดได้โดยเครื่องมือวัดความสั่นสะเทือนเท่านั้น ไม่สามารถรู้สึกได้นอกจากจะอยู่ในกรณีแวดล้อมที่เหมาะสมโดยเฉพาะบริเวณที่อ่อนไหวต่อความสั่นสะเทือน บางครั้งอาจสังเกตได้จากอาการผิดปกติของนกและสัตว์ต่าง ๆ บางครั้งรู้สึกมึนงงหรือคลื่นเหียนอาเจียน บางครั้งต้นไม้ สิ่งก่อสร้าง ของเหลวและน้ำอาจแกว่งไกว ประตูอาจแกว่งช้ามาก
การวัดขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราเมอร์คัลลีใช้หลักเกณฑ์ใดในการวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว ณ บริเวณหนึ่งๆ นั้น ขึ้นกับขนาดของแผ่นดินไหว และระยะใกล้ไกลจากตำแหน่งศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งมีความสัมพันธ์ ดังนี้ I = C + 1.5 M - C log R. ( โดย I = ความรุนแรง (เมอร์คัลลี่) M = ขนาดแผ่นดินไหว (ริกเตอร์) R = ระยะห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว C = ค่าสัมประสิทธิ์ )
ความรุนแรงแผ่นดินไหว (Intensity) วัดได้ด้วยมาตราวัดอะไรมาตรวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว มีอะไรบ้าง? -มาตราเมอร์คัลลี่ (Mercalli Intensity Scale)
ระดับความรุนแรงจากการเกิดแผ่นดินไหวตามมาตราเมอร์คัลลีปรับปรุงใหม่มีกี่ระดับใด และระดับใดมีความรุนแรงมากที่สุดo ความรุนแรงระดับ 1 เป็นอันดับอ่อนมาก ความสั่นสะเทือนสามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือ o ความรุนแรงระดับ 2 คนที่อยู่ในอาคารสูงและอยู่นิ่ง ๆ สามารถรู้สึกได้ o ความรุนแรงระดับ 3 คนที่อยู่ในบ้านสามารถรู้สึกได้ o ความรุนแรงระดับ 4 ผู้ที่อยู่ในบ้านรู้สึกว่าบ้านสั่นไหว o ความรุนแรงระดับ 5 รู้สึกเกือบทุกคน ของในบ้านเริ่มแกว่งไกว ...
|