มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

หลังเสร็จกิจแล้วมีเลือดออกอย่าเพิ่งดีใจ ว่าเรายังซิงทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ใช่คนแรกของเรา คุณผู้ชายก็อย่าเพิ่งยิ้ม ว่าแฟนหรือคู่นอนของคุณยังไม่เคยผ่านใคร เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับสาวๆ ก็ได้ ดังนั้นเรามาลองเช็คกันดูดีกว่าว่า การที่เลือดออกนั้น มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

1.ความไม่พร้อมของร่างกาย
ก่อนการมีเพศสัมพันธ์โดยปกติต้องมีการเล้าโลมเพื่อเตรียมความพร้อมของฝ่ายหญิง เพื่อให้มีการหล่อลื่นในช่องคลอด แต่หากฝ่ายชายใจร้อนเร่งรีบทำเกินไป ทำให้ช่องคลอดที่ยังไม่มีการเตรียมพร้อมนั้นแห้ง  เมื่อมีการเสียดสีจึงอาจทำให้ผนังมดลูกถลอกถึงขั้นมีเลือดออกได้


2.ติ่งเนื้อปากมดลูก
ในบางราย อาจมีเนื้อของมดลูกบริเวณปากมดลูกโผล่ออกมาที่บริเวณช่องคลอด พอมีการเสียดสีหรือกระแทกกระทั้นจึงทำให้มีการถลอก และส่งผลให้มีเลือดออก ซึ่งบางคนอาจมีเลือดออกไม่มากแต่ก็สร้างความกังวลใจได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือไม่ก็อาจไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและเพื่อความสบายใจของเราเอง

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง


3.การติดเชื้อ chlamydia
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมผัสสารคัดหลั่งในช่องคลอด ซึ่งจะทำให้มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนกัน โดยสาเหตุนี้สามารถรักษาได้ด้วย ยาปฏิชีวนะ


4.ช่องคลอดอักเสบ
หากมีอาการเจ็บก่อนหรือขณะมีเพศสัมพันธ์  แล้วยังมีเลือดออก เจ็บ ปวดแสบขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงคันบริเวณรอบๆ อวัยวะเพศ มีตกขาวมากผิดปกติหรือตกขาวมีสีขุ่น มีกลิ่นเหม็น ให้สงสัยได้เลยว่ามีอาการอักเสบในช่องคลอด เราต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจโดยด่วน

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

5.เลือดประจำเดือนตกค้าง
หากลักษณะของสีเลือดเป็นสีแดง ออกทางคล้ำๆ ไม่มีอาการเจ็บ แสบ คันแต่อย่างใด นั่นอาจเป็นเลือดประจำเดือนที่ตกค้างก็ได้ แต่หากใครไม่แน่ใจและกังวลว่าเลือดออกแบบนี้ฉันจะเป็นอะไรมั้ยนะ เป็นปกติหรือเปล่า คนอื่นเป็นมั้ย หรือฉันจะเป็นมะเร็ง  ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจได้ ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลไม่ต้องอาย หาหมอแล้วแจ้งอาการ ดีกว่านั่งวิตกคนเดียว


6.เส้นเลือดในช่องคลอดฉีกขาด
เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง และการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะมีเลือดออกมากจนผิดปกติ เป็นเลือดสีแดงสด และคอยไหลอยู่ตลอดไม่ยอมหาย หากมีอาการแบบนี้ต้องรีบพบแพทย์เพราะเสี่ยงอันตรายจากการเสียเลือดและส่งผลให้ช็อคได้

ทั้งหมดนี้เป็น สาเหตุของการมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ที่เราได้รวบรวมไว้ให้ทุกท่านได้สำรวจตัวเอง ว่าเลือดที่ออกนั้นมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ แต่ถ้าอยากให้ชัวร์และไร้กังวล ก็แนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจให้แน่ใจและเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

โหลดเพิ่ม

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เลือดออกอวัยวะเพศมีเพศสัมพันธ์เพศสัมพันธ์เซ็กซ์เซ็กส์เรื่องบนเตียงผู้หญิงอยากรู้สุขภาพ

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญนอกมดลูก ทำให้เวลามีเพศสัมพันธ์ บริเวณนี้อาจอักเสบ และทำให้เลือดออกได้

5. ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ

ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ จะตรวจพบได้ด้วยการส่องกล้องเข้าไปในบริเวณปากมดลูก หากบริเวณปากมดลูกมีเซลล์เล็ก ๆ เป็นลักษณะเหมือนผื่นเกิดขึ้น อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเสียหายได้ง่าย โดยเฉพาะตอนมีเพศสัมพันธ์ ที่มีการเสียดสีบริเวณปากมดลูก ซึ่งเป็นเหตุให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้

6. โรคมะเร็ง

อาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด โดยเฉพาะหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด นอกจากนี้ ภาวะเลือดออกหลังหมดประจำเดือน ก็เป็นหนึ่งในอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกและโรคมะเร็งมดลูกเช่นกัน

หากพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอดนานผิดปกติ ร่วมกับมีอาการคัน เจ็บแสบอวัยวะเพศเมื่อปัสสาวะ คลื่นไส้ และมีปวดท้องอย่างรุนแรง ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากคุณหมอทันที คุณหมอจะได้วิเคราะห์หาสาเหตุ และวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

มีสาวๆหลายคนสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับสาเหตุที่เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากอะไรบ้าง รศ.ร.อ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ร.น. ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช ม.มหิดล และ กรรมการสมาคมฯ ได้ตอบคำถามนี้ไว้ในรายการรั้วรอบครอบครัว ทาง facebook/PPATBANGKOK สรุปสาเหตุได้ดังนี้

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง
  1. ความไม่พร้อมในการร่วมรัก
    บางครั้งฝ่ายหญิงยังไม่ทันมีอารมณ์ร่วม น้ำหล่อลื่นยังมีไม่มาก แต่ฝ่ายชายก็ใจร้อนบุกเข้าไปแล้ว กรณีนี้ก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บช่องคลอด หรือหากรุนแรงอาจมีเลือดออกหลังร่วมเพศได้ด้วย เพราะช่องคลอดแห้งเกินไป
  2. เลือดประจำเดือนตกค้าง
    หากเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นเลือดที่มีลักษณะคล้ำ ๆ สีแดงออกดำเหมือนเลือดเก่าอาจเป็นเพราะประจำเดือนค้างอยู่ในช่องคลอดหรือปากมดลูก เมื่อมีการร่วมเพศจึงทำให้เลือดที่ตกค้างไหลออกมา แต่ทั้งนี้ต้องสังเกตที่สีของเลือดเป็นหลัก หากมีเลือดสีแดงสด ก็ไม่ใช่ประจำเดือนค้าง แต่อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น
  3. ฮอร์โมนผิดปกติ
    ความเครียด การนอนดึก หรือความอ้วน เป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน จนอาจเป็นเหตุให้เลือดออกจากช่องคลอดแบบผิดปกติได้เช่นเดียวกัน โดยเลือดที่ออกหลังมีเพศสัมพันธ์อาจมีจำนวนเล็กน้อย แต่ก็บ่งบอกถึงความผิดปกติได้
  4. ช่องคลอดอักเสบ
    ถ้าสังเกตเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาหลังจากเสร็จกิจหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ร่วมกับมีอาการเจ็บร่วมด้วย สัญญาณนี้อาจบอกได้ว่าช่องคลอดมีการอักเสบหรือมีแผลบริเวณปากช่องคลอดก็เป็นได้
  5. ติดเชื้อในช่องคลอด
    การติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์สตรีอาจส่งผลให้เกิดแผลในช่องคลอด และเมื่อเกิดการเสียดสีก็อาจส่งผลกระทบกับแผลและทำให้เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้นั่นเอง
  6. มีติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก
    ในกรณีมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์โดยเป็นเลือดสด ๆ และปริมาณเลือดไหลออกมาพอสมควร อาจเกิดจากช่องคลอดมีติ่งเนื้อซ่อนอยู่ ซึ่งติ่งเนื้อที่ว่านี้อาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป ทางที่ดีควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนจะดีที่สุด
  7. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
    สำหรับอาการเจ็บในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์ และพบว่ามีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ด้วย อาจบ่งชี้ถึงภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งสาว ๆ จะมีอาการปวดประจำเดือนมากผิดปกติ หรือท้องเสีย ปวดถ่ายทุกครั้งที่ประจำเดือนมา หรือมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย
  8. เส้นเลือดช่องคลอดฉีกขาด
    หลังมีเพศสัมพันธ์แล้วพบว่ามีเลือดสีแดงสดออกมาเยอะมาก กรณีนี้อาจเกิดจากเส้นเลือดในช่องคลอดฉีกขาด เนื่องจากการร่วมเพศที่รุนแรงหรือใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ในการร่วมเพศอย่างไม่ถูกวิธี ซึ่งกรณีนี้ก็น่าเป็นห่วง เพราะเลือดจะออกมากจนอาจทำให้ช็อกได้ ดังนั้นควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการเย็บแผลโดยด่วน
  9. มะเร็งปากมดลูก
    อาการมะเร็งปากมดลูกสามารถสังเกตได้จากอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าเลือดที่ออกมามีสีคล้ำ ๆ โดยมีหนองปนมา มีกลิ่นเหม็น ร่วมกับอาการเบื่ออาหาร เลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน มีตกขาวมาก ตกขาวมีกลิ่นเหม็นเน่า น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยทันที
มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

อาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่หากครั้งต่อไปยังมีเลือดออกอีกไม่ว่าจะเลือดออกในปริมาณน้อยหรือปริมาณมาก ก็ไม่ใช่เรื่องที่ปกติเลยสักนิดเดียว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของสาว ๆ ก็ควรรีบพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและเพื่อการรักษาที่ตรงจุด

ข้อมูลจากรายการรั้วรอบครอบครัว โดยรศ.ร.อ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ร.น. facebook/PPATBANGKOK

TAGS

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

คลังความรู้

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

  • 29 ตุลาคม 2021

ทำไมการคุมกำเนิดจึงสำคัญกับมนุษย์เรา

ทำไมการคุมกำเนิดจึงสำคัญกับมนุษย์เรา หมอ ถ้ามนุษย์เรารู้จักที่จะคุมกำเนิด เราจะสามารถเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะตั้งครรภ์ได้ สามารถที่จะสร้างครอบครัวได้โดยวางแ…

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออกทุกครั้ง

  • 14 มิถุนายน 2017

เครื่องดื่มยามเช้าดริงก์ลดสารพิษในร่างกาย หลายคนนิยมดื่มกาแฟในยามเช้า แต่ในการแฟมักไม่ดีต่อสุขภาพเสมอไปนะครับ เราจึงมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแก้วเด็ดที่จะช่วยลดพ… เวลามีอะไรกับแฟนแล้วเลือดออก

อาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การมีประจำเดือนหรือประจำเดือนตกค้างในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ช่วงก่อนและหลังการมีประจำเดือนในรอบเดือนนั้น ๆ การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ร่างกายยังไม่ถูกกระตุ้นเต็มที่ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเสียดสีหรือการฉีกขาดขนาดเล็กบริเวณช่องคลอด

มีอะไรกับแฟน แล้วมีสีเลือดจางๆออกมาด้วย

- มะเร็งปากมดลูก นอกจากมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจมีตกขาวสีผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น เลือดออกกะปริดกะปรอย และปวดท้องน้อยได้ ดังนั้น หากยังคงมีเลือดออกทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หรือเกิดอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยมาอีกเรื่อย หรือมีปวดท้องน้อยเรื่อย ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจค่ะ

มีอะไรกับแฟนแล้วเลือดไม่ออก

คำตอบคือ “ผิดปกติ” ค่ะ – การอักเสบติดเชื้อในช่องคลอด หรือปากมดลูก – ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก – เซลล์ในโพรงปากมดลูกปลิ้นออกมา – ช่องคลอดแห้ง หรือมีการผลิตสารหล่อลื่นออกมาไม่พอ (ช่วงเล้าโลมน้อยเกินไป)

มีอะไรกับแฟนหลังคลอดมีเลือดออก

เลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าว อาจเกิดจาก 1. มีการฉีกขาดของเยื่อบุภายในช่องคลอด จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หรือมีการใช้สิ่งของสอดใส่ช่องคลอด ซึ่งโดยปกติเลือดที่ออกจะมีปริมาณไม่มาก ค่อยๆ ซึมออก และจะเป็นอยู่เพียง 1-2 วัน 2. มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก