ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์นานเป็นปี

ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์มา3เดือน...เป็นไรมากไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่

รีเทนเนอร์

3 ก.พ. 53 เวลา 01:44 น.

0

like

522

views

Facebook Twitter

รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน

ยกเลิก

“อยากมีฟันสวยนานแค่ไหน ก็ใส่รีเทนเนอร์นานแค่นั้น อยากมีฟันสวย 2 ปี ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์แค่ 2 ปี อยากมีฟันสวยไปจนแก่ ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์ไปจนแก่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ”

เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ การจัดฟันก็เช่นกัน มีข้อดี แต่ก็มีข้อเสีย มันมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่มีอะไรได้มาฟรี ซึ่งนอกจากเรื่องค่าจัดฟัน และเวลารักษาที่ยาวนานแล้ว ถ้าคุณอยากมีฟันสวย เหมือนตอนที่ถอดเครื่องมือจัดฟันใหม่ๆ คุณก็ต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือที่เรียกทับศัพท์กันว่า “รีเทนเนอร์ (Retainers)” อย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ เป็นการแลกเปลี่ยน

การจัดฟัน มีข้อเสีย

การจัดฟัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ความจริงที่ว่า การจัดฟัน เป็นการรักษาต่อเนื่องที่ยาวนาน ถอดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว ก็ใช่ว่าการรักษาจะจบ เพราะผู้ป่วยยังจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันไปเรื่อยๆ ซึ่งในมุมของผู้ป่วย การต้องใส่รีเทนเนอร์ไปเรื่อยๆ น่าจะเป็นข้อเสียสำคัญสุด ของการจัดฟัน

ถ้าคุณเสริมจมูก หรือบินไปทำหน้าใหม่ที่เกาหลีแบบดารา หลังจากที่แผลหายดีแล้ว คุณก็สวยได้เลย โดยที่ไม่ต้องใส่เครื่องมือคงสภาพจมูก ไม่ต้องใส่เครื่องมือคงสภาพใบหน้า แต่การจัดฟันนั้นไม่ใช่ เพราะคุณจำเป็นต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟันไปเรื่อยๆ หลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้ว

หากเราสามารถขอพรเรื่องจัดฟัน จากพระเจ้าได้หนึ่งข้อ ระหว่างพรข้อแรก ที่ให้เราสามารถเร่งความเร็วในการจัดฟันได้ตามใจชอบ จัดฟันแบบเร่งด่วน เสร็จภายใน 3 เดือน 6 เดือน และพรข้อที่สอง คือการที่ไม่ต้องใส่รีเทนเนอร์ เชื่อได้เลยว่า พวกเราส่วนใหญ่ คงอยากได้พรข้อที่สองมากกว่า

ความถี่ในการใส่รีเทนเนอร์

หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน เราจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา นานประมาณ 1-2 ปี ถอดได้เฉพาะเวลากินอาหารและแปรงฟัน เมื่อผ่าน 1-2 ปีแรกไปแล้ว ก็สามารถลดความถี่ในการใส่ได้ อาจใส่เฉพาะตอนนอน 3-5 คืนต่อสัปดาห์ โดยใส่แบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากมีฟันสวยนานแค่ไหน ก็ใส่รีเทนเนอร์แบบนี้ให้นานแค่นั้น

ถ้าอยากมีฟันสวย เหมือนตอนที่ถอดเครื่องมือจัดฟันใหม่ๆ แค่ 2 ปี ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์แบบนี้แค่ 2 ปี ถ้าอยากมีฟันสวยจนถึงอายุ 30 ปี ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์แบบนี้จนถึงอายุ 30 ปี ถ้าอยากมีฟันสวยจนถึงอายุ 60 ปี ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์แบบนี้จนถึงอายุ 60 ปี

ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์ หรือใส่ไม่สม่ำเสมอ “ก็ต้องทำใจยอมรับว่า” ฟันจะเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่จัดไว้ ส่วนจะเคลื่อนมากเคลื่อนน้อย ก็ขึ้นอยู่กับแต่ระดับความผิดปกติในการสบฟันของแต่ละคน แม้ฟันจะไม่เคลื่อนกลับไปเป็นเหมือนก่อนจัดฟัน แต่มันก็จะไม่เหมือนหลังถอดเครื่องมือจัดฟันใหม่ๆ

คงไม่ต้องถามหมอแล้วว่า ฉันต้องใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน แต่ให้ย้อนกลับมาถามตัวเองว่า เราอยากมีฟันสวยไปจนแก่หรือไม่ อันนี้ก็อยู่ที่ความต้องการของเรา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา

ช่วงแรกต้องยอมฝืน

ผลข้างเคียงของการใส่รีเทนเนอร์คือ เมื่อใส่แรกๆ เราจะรู้สึกรำคาญ เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปาก มีน้ำลายออกมากและพูดไม่ถนัด อันนี้ถือเป็นอาการปกติ โดยอาการนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเองเมื่อใส่อย่างสม่ำเสมอ

ช่วงแรกของการใส่รีเทนเนอร์ คือช่วงเวลาวัดใจ หากคุณกำลังจะยอมแพ้ ก็อยากให้ลองคิดว่า กว่าที่เราจะจัดฟันเสร็จ กว่าจะมาถึงจุดนี้ เราต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องเจ็บตัว ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงควรให้เวลาร่างกาย ได้ปรับตัวกันสักนิด อย่าเพิ่งยอมแพ้

การจัดฟัน คือการฝืนธรรมชาติของร่างกาย ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน จัดฟันกับใคร หรือใช้เครื่องมือจัดฟันอะไรก็ตาม

ช่วงวิกฤติหลังถอดเครื่องมือ

ช่วง 1-2 ปี หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน หากใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอ ฟันก็จะเคลื่อนกลับอย่างรวดเร็ว บางคนไม่ใส่รีเทนเนอร์แค่วันเดียว ฟันก็เริ่มเคลื่อนแล้ว หากทิ้งไว้หลายวัน ก็จะทำให้กลับมาใส่รีเทนเนอร์ลำบาก รู้สึกเจ็บ บางคนจึงไม่ยอมใส่อีกเลย พอมาคิดได้ ฟันก็เคลื่อนไปไกลแล้ว อาจต้องจัดฟันใหม่กันอีกรอบ เป็นการจัดฟันรอบสอง บางคนก็มีรอบสาม จัดไปเรื่อย จัดฟันวนไป จนกว่าจะเบื่อกันไปเอง

ด้วยเหตุนี้ หลังถอดเครื่องมือไปแล้ว จึงต้องมีการนัดติดตามผล (Follow-up) ภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน จากนั้นก็ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ซึ่งหากรีเทนเนอร์คับไปหรือหลวมไป ทันตแพทย์ก็จะช่วยปรับแต่งรีเทนเนอร์ให้

จัดฟันแบบใส ต้องใส่รีเทนเนอร์หรือไม่

ไม่ว่าคุณจะจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบใส เครื่องมือไม่มัดยาง หรือเครื่องมือจัดฟันแบบอื่นๆ คุณก็ต้องใส่รีเทนเนอร์เหมือนกัน แม้เครื่องมือจัดฟันแบบใสจะดูทันสมัย ชิคๆ คูลๆ ฟินๆ ลอยๆ กว่าเครื่องมือจัดฟันแบบอื่น แต่มันก็ไม่ได้มีเวทมนตร์ หรือมีเทคโนโลยีต่างดาวอยู่เบื้องหลัง

เราต้องไม่ลืมความจริงที่ว่า เครื่องมือจัดฟันแบบใส ก็ใช้หลักการพื้นฐานในการทำงาน เช่นเดียวกับเครื่องมือจัดฟันแบบอื่นๆ นั่นคือการใช้แรงกระทำต่อฟัน ทำให้เกิดแรงกดรอบๆ รากฟันด้านหนึ่ง ทำให้กระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณนั้นอักเสบจนละลายตัว ฟันจึงเคลื่อนไปตามทิศทางนั้น ส่วนรากฟันด้านตรงข้าม ร่างกายก็จะสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อใหม่มาทดแทน

เมื่อฟันเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งใหม่ กระดูกและเนื้อเยื่อโดยรอบที่รองรับฟัน จะยังไม่แข็งแรงพอ เพราะมีทั้งกระบวนการละลายตัวและการสร้างใหม่ อีกทั้งยังมีอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นเมื่อถอดเครื่องมือจัดฟัน ฟันก็จะพยายามเคลื่อนกลับตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว มีเพียงวิธีเดียว ที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ได้ วิธีนั้นก็คือการใส่รีเทนเนอร์นั้นเอง

ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์ หรือใส่ไม่สม่ำเสมอ “ก็ต้องทำใจยอมรับว่า” ฟันจะเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่จัดไว้ ส่วนจะเคลื่อนมากเคลื่อนน้อย ก็แล้วแต่กรณี

ท้อง ใส่รีเทนเนอร์ได้หรือไม่

ใส่ได้ตามปกติ ไม่ว่าคุณจะตั้งท้อง หรือกำลังป่วย คุณก็ยังสามารถใส่รีเทนเนอร์ได้ตามปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับ ภายหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน แต่อาจต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดของรีเทนเนอร์ ให้มากกว่าปกติ ในกรณีที่คุณกำลังป่วย เรียกได้ว่า สำหรับรีเทนเนอร์แล้ว คุณต้องอยู่กับมัน คุณต้องใส่มัน ให้เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันอื่นๆ ในชีวิต เช่น กินอาหาร อาบน้ำ แปรงฟัน กันเลยทีเดียว

คุณรู้หรือไม่: ความสะอาดของรีเทนเนอร์เป็นเรื่องสำคัญ แม้วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์จะมีหลายวิธี แต่เรามี วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์แบบง่ายๆ แต่ได้ผล และสามารถทำได้ในระยะยาว โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น

ใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต จริงหรือ

อย่าเพิ่งตกใจ แม้การพูดว่าต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดชีวิต อาจฟังดูน่ากลัวสำหรับใครหลายคน ซึ่งก็เป็นเรื่องความต้องการของแต่ละคน เป็นเรื่องระเบียบวินัยของแต่ละคน ไม่สามารถบังคับกันได้ หลายคนก็สามารถใส่ไปได้เรื่อยๆ เพราะอยากมีฟันสวย เหมือนหลังถอดเครื่องมือใหม่ๆ โดยในทางปฏิบัติ ช่วง 1-2 ปีแรกให้ใส่เกือบตลอดเวลา แต่หลังจากนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดเวลา ให้ใส่เฉพาะตอนนอน 3-5 คืนต่อสัปดาห์ก็ได้

เหมือนเราอยากหุ่นดี ก็ต้องดูแลเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย โดยต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างต่อเนื่องไปตลอด หยุดเมื่อไหร่หุ่นก็พังเมื่อนั้น อันนี้ก็เป็นเรื่องระเบียบวินัยของแต่ละคน ไม่สามารถบังคับกันได้ ยังไม่มีเทคโนโลยี ยังไม่มียา ยังไม่มีอาหารเสริมอะไร ที่จะมาแทนที่ เรื่องอาหารและการออกกำลังกาย เรียกได้ว่า หุ่นดีไม่มีขาย อยากได้ก็ต้องลงมือทำเอง มีเงินก็ซื้อไม่ได้ การใส่รีเทนเนอร์ก็เช่นกัน

อยากหุ่นดี ก็ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย อยากมีฟันสวยไปนานๆ ก็ต้องใส่รีเทนเนอร์

อย่างไรก็ตาม เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดกาล เพราะเมื่อเวลาผ่านไป หลายคนก็เริ่มยอมรับได้ กับสภาพฟันที่เคลื่อนมากบ้างน้อยบ้าง เพราะเมื่อถึงช่วงหนึ่งของชีวิต สำหรับหลายคน เรื่องฟันเรียงสวย เรื่องความสวยความงาม ก็อาจเป็นเรื่องที่แทบไม่มีความสำคัญอะไรแล้ว ชีวิตยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย

ฟันเคลื่อนได้ตลอดชีวิต

มีคนพูดแบบติดตลกเอาไว้ว่า มี 3 สิ่งในชีวิต ที่ทั้งคนเคยและไม่เคยจัดฟันหนีไม่พ้น นั้นก็คือ ภาษี ความตาย และฟันเคลื่อน หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน ฟันสามารถเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อย เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมตามธรรมชาติ ฟันอาจไม่ได้เรียงสวย “เป๊ะ” เหมือนตอนที่ยังใส่เครื่องมือจัดฟัน ซึ่งอันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่เรายังใส่รีเทนเนอร์ได้ แต่ถ้าหากฟันเคลื่อนมากเกินไป จนใส่รีเทนเนอร์ไม่ได้ ก็ควรรีบหาวันนัดกับทันตแพทย์ เพื่อหาทางแก้ไข

ตามธรรมชาติแล้ว ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าเราจะจัดฟันหรือไม่ก็ตาม แต่สำหรับผู้ที่เคยจัดฟัน คุณอาจเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจน กว่าผู้ที่ไม่เคยจัดฟัน ดังนั้น แม้ว่าจะผ่านช่วงวิกฤติ 1-2 ปีแรก ที่ต้องให้ใส่รีเทนเนอร์เกือบตลอดเวลาไปแล้ว การใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็ยังจำเป็นสำหรับผู้ที่เคยจัดฟัน

รีเทนเนอร์แบบติดแน่น ใส่แล้วไม่ต้องถอด

ในเมื่อการใส่รีเทนเนอร์ทั่วไป ทั้งแบบเหล็กและแบบใส ที่ถอดเข้าออกได้ มันสร้างปัญหาให้หลายอย่าง ถ้าอย่างนั้น การใช้รีเทนเนอร์แบบติดแน่น ที่ใส่แล้วผู้ป่วยถอดเองไม่ได้ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า ใช่หรือไม่

มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป

รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainers) มีลักษณะเป็นลวดเส้นเดียว ยึดติดกับฟันด้านใน จึงมองไม่เห็นจากภายนอก ทันตแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้รีเทนเนอร์ชนิดนี้ เฉพาะกับบางกรณีเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยไม่สามารถเลือกใช้รีเทนเนอร์ชนิดนี้เองได้ การใช้รีเทนเนอร์แบบติดแน่น เราอาจแก้ปัญหาหนึ่งได้ แต่ก็จะไปเจอกับอีกปัญหาหนึ่ง เหมือนหนีเสือปะจระเข้

แม้ข้อดีที่สำคัญ ของรีเทนเนอร์แบบติดแน่นก็คือ มันป้องกันฟันเคลื่อนได้ดีมาก ผู้ป่วยถอดเองไม่ได้ จึงไม่ต้องถอดเข้าถอดออก แก้ปัญหาเรื่องระเบียบวินัยและเรื่องการหลงลืมได้ชะงัก แต่การที่มันติดแน่น ถอดออกไม่ได้ ก็กลับกลายเป็นข้อเสียที่สำคัญ ของภูมิทัศน์การมีสุขภาพช่องปากที่ดี นั่นคือ มันทำให้การทำความสะอาดช่องปาก เป็นเรื่องยากขึ้น ใช้แปรงซอกฟันและไหมขัดฟันได้ยากขึ้น ในระยะยาวจึงเสี่ยงที่ฟันจะผุและเกิดโรคเหงือก

อีกเรื่องที่สำคัญคือ รีเทนเนอร์ชนิดนี้ มีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน รีเทนเนอร์แบบติดแน่นก็สามารถหลุดหรือชำรุดได้ ผู้ป่วยจึงต้องพบทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจสภาพและดูแลรักษา หรือทำใหม่ หากจำเป็น นอกจากนั้น การมีลวดโลหะอยู่ในปากตลอดเวลา ก็อาจสร้างความรำคาญและระคายเคืองได้ เช่นเดียวกับรีเทนเนอร์แบบอื่น ดังนั้นรีเทนเนอร์แบบติดแน่น จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยจัดฟันส่วนใหญ่

อยากให้ฟันสวยนานแค่ไหน ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์นานแค่นั้น อยากมีฟันสวยตอนแก่ ก็ให้ใส่รีเทนเนอร์จนแก่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ

บทสรุป ฉันต้องใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน

1. หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน ทั้งแบบเหล็กติดแน่นและแบบใส ผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา นานประมาณ 1-2 ปี ถอดได้เฉพาะเวลากินอาหารและแปรงฟัน
2. เมื่อผ่าน 1-2 ปีแรกไปแล้ว สามารถลดความถี่ในการใส่ได้ อาจใส่เฉพาะตอนนอน 3-5 คืนต่อสัปดาห์
3. อยากมีฟันสวยนานแค่ไหน ก็ใส่รีเทนเนอร์แบบข้อ 2 ให้นานแค่นั้น

จัดฟัน เรากำลังฝืนธรรมชาติ

การจัดฟัน คือการฝืนธรรมชาติของร่างกาย ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน จัดฟันกับใคร หรือใช้เครื่องมือจัดฟันแบบไหนก็ตาม มันไม่ใช่ว่า หากเราใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใสราคาแพงเป็นแสน เหมือนดารา หรือใช้เครื่องมือที่โฆษณาว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด แล้วจะไม่ต้องใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ เหมือนคนที่ใช้เหล็กจัดฟันทั่วไป

การใส่รีเทนเนอร์ไม่สม่ำเสมอ จะทำให้ฟันเคลื่อนกลับ (Relapse) ฟันที่เคยชิดอาจห่างออกเป็นช่อง หรือกลับไปซ้อนเก ทำให้ใส่รีเทนเนอร์ยากขึ้น หรืออาจใส่ไม่ลง จำเป็นต้องปรับแต่งหรือทำรีเทนเนอร์ใหม่ หรืออาจถึงขั้นต้องจัดฟันใหม่กันเลย ดังนั้น ได้โปรดระลึกไว้เสมอว่า รีเทนเนอร์จะกลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุด สำหรับผู้ที่เคยจัดฟัน

ไม่ใส่ รี เท น. เนอ ร์ นาน แค่ ไหน

จัดฟันนานแค่ไหนถึงจะได้ใส่รีเทนเนอร์

ถอดเหล็กใส่รีเทนเนอร์นานไหม

จำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ไหม