ประโยคทักทายที่คิดว่าใช้บ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นประโยคพื้นฐานที่เราสามารถใช้พูดได้กันทุกคน มีดู 20 ประโยคทักทายภาษาอังกฤษ ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันกันเถอะ Show
20 ประโยคทักทายภาษาอังกฤษ1. Hello. (เฮลโล) : สวัสดีครับ/ค่ะ เป็นการทักทายที่มีความสุขภาพอยู่ในตัว สามารถใช้พูดได้กับทุกคน ทุกช่วงเวลา ตัวอย่าง : Hello. Malee (สวัสดีครับ มาลี) 2. Hi./Hey. (ไฮ/เฮ) : หวัดดี/ไง ใช้ทักทายเป็นกันเองมากๆ ส่วนมากมักจะทักทายกับเพื่อนซี้ เพื่อนสนิท และยังใช้ในการเรียกคนได้ด้วย ตัวอย่าง : Hi. Jessica (ไง เจสสิก้า) / : Hey. I’m here. (เฮ้ ฉันอยู่นี่) 3. Good morning. (กูด มอร์นิง) : อรุณสวัสดิ์ การทักทายตามช่วงเวลา บางครั้งมักพูดย่อสั้นๆ แค่ Morning (มอร์นิง) เป็นการทักทายยามเช้า 4. Good night. (กูด ไนท) : ราตรีสวัสดิ์ มักใช้พูดกันเวลาแยกย้ายกันเข้านอน หรือส่งเข้านอน 5. Sleep tight. (สลีพ ไทท) : หลับฝันดีนะ เราสามารถใช้แทนประโยค Good night. ก็ได้ เป็นการส่งเข้านอนได้เช่นกัน บางครั้งก็ใช้คู่กัน เช่น Good night. Sleep tight. (นอนหลับฝันดีนะ) 6. How are you? (ฮาว อาร์ ยู) : เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อต่อจากการกล่าวสวัสดี ก็มักจะถามสารทุกข์สุกดิบต่อ ถือว่าเป็นประโยคยอดนิยม 7. How do you do? (ฮาว ดู ยู ดู) : เป็นอย่างไรบ้าง แม้จะมีความหมายเหมือน How are you? แต่จริงๆ แล้วใช้ทักทายเมื่อเจอกันครั้งแรก หรือเพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรก 8. What’s up? (วอทซ อัพ) : หวัดดี, ว่าไง ,เป็นไง อีกประโยคทักทายที่มักนิยมใช้กันบ่อย เอาไว้ถามไถ่ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง เป็นภาษาพูดแบบกันเองๆ เอาไว้พูดกันคนที่สนิท 9. What brings you here? (วอท บริงซ ยู เฮียร์) : มาที่นี่ได้ไงเนี่ย เป็นการทักทายกันในสถานที่ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกัน หรืออาจเป็นคนรู้จักที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้วมางานเดียวกัน ADVERTISEMENT 10. How’s life? (ฮาวซ ไลฟ) : ชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง มีความหมายตรงตัวเลยว่าชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง แล้วยังมีประโยค How are things? เป็นประโยคซึ่งมีความหมายว่า สิ่งต่างๆรอบตัวเราเป็นอย่างไร ไว้ใช้ทักทายแทนได้เช่นกัน 11. How have you been? (ฮาว แฮฟว ยู บีน) : ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง มักใช้ประโยคนี้กับคนที่รู้จักกันดีแล้ว เช่น เพื่อน ญาติพี่น้อง แล้วไม่ได้เจอกันสักพัก พอมาถามไถ่กัน มักใช้ประโยคนี้ถามว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง 12. I’m fine. (ไอม ไฟน) : สบายดี เป็นประโยคสุดฮิตที่มักใช้ตอบเมื่อโดนถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง? เป็นการตอบเพื่อให้เขาสบายใจ และยังสามารถใช้ประโยค I'm good. แทนได้เช่นกัน 13. So far so good. (โซ ฟาร โซ กูด) : ก็ดีนะ มักใช้ตอบเวลาที่ชีวิตเราอยู่แบบเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา แต่ก็ไม่ได้แย่จนน้ำตาตก 14. It’s going well. (อิทซ โกอิง เวล) : ก็ไปได้สวยนะ มักใช้ประโยคนี้หากชีวิตกำลังไปได้สวย 15. Couldn’t be better. (คูดดึนท บี เบทเทอ) : ชีวิตดีสุดๆ แปลตรงตัวเลยว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว คือชีวิตตอนนี้ดีสุดๆ นั่นเอง 16. And You? (แอน ยู) : แล้วคุณล่ะ มักใช้ตอบกลับประโยคที่มีคนถามข่าวคราวความเป็นไปหรือความเป็นอยู่ นอกจากบอกว่าสบายดีแล้ว เรามักจะต่อด้วยคำนี้เสมอ เช่น I’m fine. And you? 17. Talk to you later. (ทอลค ทู ยู เลเทอร) : แล้วค่อยคุยกัน เราสามารถบอกลาอีกฝ่ายด้วยประโยคนี้ก็ได้ 18. See you. (ซี ยู) : แล้วเจอกัน มักใช้แทนคำบอกลาได้เช่นกัน มักใช้กับคนรู้จักที่คาดว่าจะเจอกันอีก เช่น See you tomorrow. (เจอกันพรุ่งนี้นะ) 19. I should get going. (ไอ ชูด เกท โกอิง) : ต้องไปแล้วล่ะ นับว่าเป็นประโยคหากินเลยก็ว่าได้ หากเราคุยกับใครแล้วอยากจะจบบทสนทนา สามารถพูดประโยคนี้ด้วยท่าทีรีบเร่ง อีกฝ่ายก็จะหยุดพูดตามมารยาทนั่นเอง 20. Goodbye. (กูดบาย) : ลาก่อน ถึงเวลาบอกลากันดีกว่า สามารถย่อเหลือแค่ Bye. หรือใช้คำว่า Bye-bye. ให้ฟังดูเป็นมิตรขึ้นก็ได้ เช่น I have to go. Goodbye. (ผมต้องไปแล้ว ลาก่อนนะครับ) สามารถอ่านบทสนทนาเกี่ยวกับ การทักทายภาษาอังกฤษ (Greeting) เพิ่มเติมได้ที่นี่ ภาษาอังกฤษมีวิธีทักทายหลายแบบ ใครที่อยากรู้ว่าคำทักทายภาษาอังกฤษเขียนยังไง และมีคำกล่าวทักทายอะไรบ้าง ครูภาษาอังกฤษของเราจะมาสอนวิธีทักทายภาษาอังกฤษทั้ง 23 วิธีให้คุณได้เรียนวิธีทักทายภาษาอังกฤษง่ายๆ จากบทความนี้เลย คำทักทายภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการการทักทายอย่างสุภาพนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นการสนทนาที่ดีในสถาณการณ์เชิงธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องรู้เมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษสำหรับทำงาน คือเราควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์แสลงทั้งหมดในการทักทายอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับการพบกันครั้งแรกเราต้องสร้างความประทับใจให้กับคู่สนทนาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทักทายผู้สัมภาษณ์งาน, ทักทายหัวหน้างาน, ทักทายลูกค้า เป็นต้น คำทักทายแบบเป็นทางการที่ใช้บ่อย มีดังต่อไปนี้ 1. Good morning./Good afternoon./Good Evening.คำทักทายเหล่านี้ คือการพูด “hello” อย่างสุภาพในภาษาอังกฤษซึ่งจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับเวลาของวัน จำไว้เสมอว่า “good night” คือ ราตรีสวัสดิ์ ใช้เมื่อต้องการบอกลา คุณจะใช้คำนี้ในการทักทายตอนกลางคืนไม่ได้ มีกฏการจำคำทักทายชนิดนี้ง่ายๆ ดังนี้
2. How do you do?
คำถามนี้ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพมากๆ และถือว่าไม่ใช่ทำทักทายทั่วๆไป มักจะใช้โดยกลุ่มคนที่มีอายุ การตอบกลับที่เหมาะสมคือ “I’m doing well” อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่คนบางคนก็ย้อนถามคำถามกลับไปว่า “how do you do?” เป็นการตอบรับการทักทาย 3. Hello, nice to meet you.
การทักทายเมื่อเราเจอคนที่ไม่รู้จัก ประโยคนี้นี้ถูกนำมาใช้กันมากที่สุดสำหรับเริ่มต้นบทสนทนากับคนที่เพิ่งรู้จักกันในโอกาสที่เป็นทางการต่างๆ 4. Hello, nice to see you.
วลีนี้คล้ายกับวลีก่อนหน้า แต่จะใช้สำหรับคู่สนทนาที่รู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รู้จักดีพอที่จะแสดงออกอย่างไม่เป็นทางการ สามารถเปลี่ยน Hello เป็น How do you do? ได้ 5. Hello, how have you been?
How have you been? เป็นการถามว่า คุณเป็นอย่างไรบ้าง ในภาษาอังกฤษอย่างสุภาพ คำทักทายนี้แม้จะเป็นการถามความเป็นไปของคุณ แต่ก็สามารถใช้ในการทักทายอย่างเป็นทางการแบบสุภาพได้ โดยผู้ทักอาจจะไม่ได้ต้องการทราบจริงๆ ว่าคุณเป็นอย่างไร มีความสุขดีหรือไม่ เป็นแค่การถามอย่างเป็นมารยาทเท่านั้น คำตอบอาจจะเป็นการตอบสั้นๆ ว่าคุณสบายดี และขอบคุณที่ผู้ทักแสดงความสนใจ เช่น
คุณสามารถถาม How have you been? กลับแบบเป็นมารยาทได้เช่นกัน และพึงระลึกไว้ว่าผู้ตอบก็คงจะตอบกลับวิธีเดียวที่คุณตอบ คือ ฉันสบายดี ขอบคุณที่ถาม คำทักทายคนแปลกหน้าภาษาอังกฤษเมื่อเราทักทายคนแปลกหน้า เราอาจจะต้องมีการแนะนำตัวร่วมด้วย เราสามารถใช้ประโยคเหล่านี้ในการทักทายคนแปลกหน้าได้ 6. Hello, my name is…
ประโยคนี้สามารถใช้เปิดสนทนากับคนที่เรายังไม่รู้จักดีด้วยการแนะนำตัวเองก่อน อีกทั้งยังใช้สำหรับโอกาสที่เป็นทางการอื่นๆที่เราต้องการแนะนำตัวเองกับคนหลายๆคนพร้อมกัน โดยเน้นไปที่กล่าว “สวัสดี” ก่อน จากนั้นจึงกล่าวแนะนำตัวภาษาอังกฤษ วิธีทักทายพร้อมแนะนำตัวแบบอื่นๆ เช่น
ประโยคนี้มีความสุภาพ และเหมาะสอนการใช้ประโยคนี้แก่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคน แม้แต่ผู้เรียนภาษาอังกฤษวัยเด็ก ก็สามารถใช้ประโยคนี้ในการทักทายและแนะนำตัวภาษาอังกฤษได้ 7. Hi/Hello! What’s your name?
Hi เป็นคำกล่าวทักทายแบบเป็นกันเอง และเราใช้ประโยค What’s your name? เมื่อเราต้องการทราบชื่อของคู่สนทนา ประโยคนี้ค่อนข้างไม่เป็นทางการ เรามักต้องต่อท้ายประโยคด้วยการบอกชื่อของผู้ทัก หรือบอกชื่อของเราก่อนการถามชื่อก็ได้ ใช้ได้กับสถานการณ์เฉพาะอย่าง ควรระมัดระวังในการใช้ด้วย ตัวอย่างเช่น
8. Hi! May I talk to you, please?
เป็นประโยคคำถามแบบสุภาพ ใช้เมื่อต้องการกล่าวทักทายและต้องการถามบางสิ่งบางอย่างจากคู่สนทนา คุณสามารถเลือกใช้คำทักทายที่แปลว่า “สวัสดี” แทนคำว่า Hi ได้ เช่น
การทักทายเพื่อน/ไม่เป็นทางการภาษาอังกฤษการพูดคุยกับเพื่อนหรือมิตรสหายย่อมดูเป็นทางการน้อยกว่าการสนทนาทางธุรกิจหรือการสัมภาษณ์งาน ดังนั้นเราสามารถใช้คำทักทายสบายๆ เป็นกันเองในการเริ่มต้นบทสนทนา ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำทักทายเพื่อนๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย 9. What’s up?, What’s new?, What’s going on?, What are you up to?, What have you been up to?
เป็นสำนวนทักทายภาษาอังกฤษที่ใช้ได้ทั่วไปในหมู่เพื่อนฝูง เป็นการถามสารทุกข์สุขดิบ และใช้ทักทายแบบไม่เป็นทางการเท่านั้น เปรียบได้กับเวลาเราเจอเพื่อน แล้วเราทักเพื่อนว่า “เฮ้ย แก เป็นไงบ้าง” เป็น เราอาจพบว่าบางคนอาจทำให้คำทักทายที่ไม่เป็นทางการนี้สั้นลง และยิ่งไม่เป็นทางการมากขึ้นไปอีก เช่น
การใช้สำนวนทักทายเช่นนี้มักใช้กับคนสนิท ยิ่งไม่เป็นทางการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนิทมากเท่านั้น เราจึงควรใช้สำนวนเช่นนี้ให้ถูกที่ถูกเวลา การตอบคำทักทายเช่นนี้มีหลายรูปแบบ โดยอาจจะเป็นการตอบกลับด้วย What’s up? เหมือนกัน หรือตอบกลับด้วยคำตอบตัวอย่างต่อไปนี้
หากมีอะไรที่เราต้องการแชร์กับเพื่อน เราสามารถเล่าไปได้เลยว่าเราเป็นอะไร กำลังทำอะไรอยู่ เช่น
หากคุณถูกถามว่า เป็นไงบ้างในภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้จะตอบยังไง ให้สังเกตุผู้ถาม ว่าผู้ถามนั้นถามเป็นมารยาท หรือถามเพราะต้องการทราบจริงๆ ว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง หากถามเป็นมารยาทเท่านั้นก็สามารถตอบแบบข้างต้นได้ แต่ถ้าเป็นการเพราะต้องการทราบจริงๆ ให้กดที่ลิ้งค์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีตอบเป็นไงบ้างภาษาอังกฤษสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ในบทความนี้ได้ 10. Long time no see!
เป็นคำทักทายสำหรับเพื่อนเก่าหรือคนที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว อาจจะตามหลังด้วยประโยค “What’s up?” หรือ “What have you been up?” ก็ได้ เพื่อนที่สนิทมักกอดกันเวลาที่ทักทาย โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณอาจจะกล่าวคำทักทายนี้ในขณะที่กอดหรือจับมือ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับคู่สนทนา คำทักทายอื่นๆ หรือแสลงที่ใช้ทักทายคนที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เช่น
กดที่นี่เพื่อดูคำทักทาย Long time no see แบบอื่นๆ อีก 8 วิธีที่คุณอาจจะสนใจ 11. Hi!, Hey!
เป็นคำทักทายภาษาอังกฤษที่ง่ายที่สุด สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ใช้กับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าก็ได้ จำไว้ว่า “Hey” เป็นคำทักทายที่ค่อนข้างเป็นกันเองมากกว่า “Hi” ดังนั้นควรนำไปใช้พูดคุยกับเพื่อนสนิทมากกว่า คำแสลงที่ใช้ในการทักทายอื่นๆ ที่น่าสนใจเมื่อคุณเรียนพูดภาษาอังกฤษ เช่น
12. What’s good?, What it do?
แปลเป็นภาษาไทยได้ง่ายๆ ว่า “ว่าไง” ใช้สำหรับการทักทายเพื่อนฝูงและถามถึงและอัพเดทข่าวคราวซึ่งกันและกัน ไม่ควรนำไปทักทายกับคนผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าเรา 13. How you doin’?เป็นประโยคเด็ดของโจอี้จากซีรีย์ “Friends“ อันโด่งดังมากว่าสิบปี ใช้เพื่อเปิดบทสนทนากับเพื่อนสนิท หรือใช้ทักคนหนุ่มสาวที่เราสนใจ อยากจะจีบก็ได้ แต่จำไว้ว่าประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่เป็นทางการมาก และมักสื่อถึงความสนใจเชิงชู้สาวแบบกลายๆ ตัวอย่างเช่น
14. Are you OK? You alright?, Alright mate?
เป็นการทักทายกันเองที่ใช้แทนได้ทั้ง “hello” และ “how are you” เป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษ คุณสามารถตอบกลับได้ว่า “yeah, fine” หรือ ง่ายๆ “alright” 15. Lovely to meet you.
เหมือนกับการบอกว่า “Nice to meet you.” ซึ่งเป็นการพูดสไตล์อเมริกัน ส่วน Lovely to meet you. เป็นการพูดสไตล์อังกฤษ ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพเหมาะสม คุณสามารถใช้คำทักทายนี้กับคนที่เจอกันครั้งแรกจะทำให้คุณดูเป็นคนสุภาพอัธยาศัยดี จำไว้ว่าจะใช้คำทักทายนี้ก็มักเมื่อเจอกันครั้งแรกเท่านั้น เมื่อเจอกันครั้งต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจำเขาหรือเธอได้ คุณสามารถพูดว่า “Lovely to see you again.” 16. What’s up, buttercup?
Buttercup เป็นชื่อดอกไม้ดอกเล็กๆ สีเหลือง แสดงถึงความอ่อนโยน นุ่มนวล ในประเทศอังกฤษมักใช้คำนี้เรียกแฟนหรือผู้หญิงน่ารักอ่อนโยน อาจแปลว่า “ที่รัก” ในภาษาอังกฤษได้ ข้อควรระวังเมื่อใช้คำนี้ คือคำนี้สามารถนำไปใช้ดูถูกคนได้เช่นกัน เราจึงต้องคอยสังเกตุสถานการณ์และน้ำเสียงของผู้พูด เช่น
17. Oi!
เป็นวลีทักทายตามแบบฉบับของชาวออสเตรเลียน เราจะได้ยินคนท้องถิ่นทักทายกันในลักษณะนี้ เป็นคำทักทายที่ไม่เป็นทางการ และใช้สำหรับเปิดสนทนาทั่วไป 18. How’s this weather?
เป็นคำทักทายที่นิยมใช้ในประเทศออสเตรเลีย โดยปกติจะใช้กับสถานการณ์ที่ต้องการเปิดบทสนทนากับคนแปลกหน้า 19. How’s she cuttin’?
เป็นการกล่าวทักทายโดยทั่วไปที่ใช้กันในแถบไอร์แลนด์เหนือ ใช้ถามถึงเพื่อน หรือคนที่เรารู้จัก
20. How’re yer doin’, pet?
ถ้าคุณได้เดินทางไปเที่ยวสก็อตแลนด์ คุณจะได้ยินประโยคนี้จากคนท้องถิ่น ซึ่งเป็นทั้งคำทักทายและถามไถ่ความเป็นอยู่ด้วย
คำทักทายอย่างเป็นทางการสำหรับการเขียนจดหมายหรืออีเมล์นอกจากการสื่อสารแบบเจอตัวแล้ว ยังมีบทสนทนาที่เราไม่เห็นหน้ากันเช่นการเขียนภาษาอังกฤษในจดหมายหรืออีเมล์ ซึ่งคำทักทายที่เหมาะสมสำหรับในสถานการณ์นี้มีหลายแบบดังต่อไปนี้ 21. Dear Sir/Mam.สามารถใช้คำทักทายแบบนี้เป็นมาตรฐานในการเขียนจมหมายหรืออีเมล์ไปยังคนที่เราไม่รู้จัก เป็นคำที่ค่อนข้างเป็นทางการและสุภาพมากๆ สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับได้อย่างดีเยี่ยม
22. To whom it may concern.เป็นอีกหนึ่งการทักทายที่เป็นกิจลักษณะมากที่สุด สำหรับจดหมายที่เป็นทางการ โดยปกติจะใช้เมื่อเราไม่ทราบว่าแน่นอนว่าบุคคลที่เราเขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงนั้นคือใคร
23. Dear Mr./Ms./Mrs./Missถ้อยคำที่ใช้เป็นคำเริ่มต้นการเขียนจดหมาย และใช้เมื่อทราบแน่ชัดว่าจดหมายนั้นต้องการเขียนถึงใคร เราใช้คำนำหน้านี้และตามด้วยชื่อผู้รับ หรือตามด้วยนามสกุลหากเราต้องการแสดงความเป็นทางการให้มากขึ้น
เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการลองใช้คำทักทายต่างๆเหล่านี้กับเพื่อนต่างชาติของคุณ แล้วคุณจะเห็นว่าการทักทายผู้คนด้วยคำทักทายที่หลากหลายจะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอาจจะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ |