ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

เที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากเล่นเน็ตแบบไม่สะดุด เช็กอินอวดได้ไม่ขาดตอน แต่ก็ยังลังเลว่าจะเช่า Pocket Wi-Fi หรือซื้อ SIM ดี วันนี้ Wongnai มีคำตอบมาให้แล้ว!

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

2 พ.ค. 2019 · โดย Namfonchaya

นอกจากจะกลุ้มใจกับเรตเงินก่อนไปเที่ยวแล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คิดว่าทุกคนจะลังเลคือเช่า Pocket Wi-Fi หรือซื้อ SIM ดี เพราะไปเที่ยวทั้งทีก็อยากโพสต์เรียลไทม์แต่ทำยังไงให้เน็ตไม่สะดุด เช็กอินอวดได้ไม่ขาดตอน ถ้าไม่นับคนที่ไปญี่ปุ่นแทบทุกเดือนแบบปุ้ย (อุ๊ย อย่าเพิ่งอิจฉาค่ะ นี่ไปทำงานล้วนๆ เห็นแค่พระอาทิตย์ตอนตื่นนอน วิวที่เห็นมีแค่รถไฟ สูทดำ ควันบุหรี่และพระจันทร์ (-_-;) ) และไปเที่ยวเองหลายครั้ง ก็จะมาแชร์ประสบการณ์การเลือกใช้ค่ะ

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

การเลือกใช้

SIM หรือ Pocket Wi-Fi จริง ๆ ถ้าพูดถึงเรื่องราคาแทบจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่แล้วเพราะตอนนี้ คนไทยเราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันพอ ๆ กับไปช้อปปิ้งที่สยาม หรือเที่ยวธรรมชาติที่เขาใหญ่ ทำให้หลายบริษัทมีความแข่งขันกันเรื่องของราคา ออกโปรโมชั่นกันแบบไม่ต้องรอเทศกาล ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราสบาย เลือกใช้ได้ตามที่ที่จะไปเที่ยวได้เลยค่ะ

ก่อนอื่นมาดูการเลือกใช้กันดีกว่า ว่าแบบไหนเหมาะกับทริปตะลุยแดนปลาดิบของเรากัน

เที่ยวตามจริตส่วนตัว

ลักษณะ : เป้าหมายที่ไปเหมือนกันบ้าง แต่ไม่ได้ตัวติดกันตลอด แยกย้ายกันตามจริต ตามสถานที่ที่ชอบ หรือเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

บางครั้งในจังหวัดเดียวกัน บางคนชอบช้อปปิ้ง บางคนชอบธรรมชาติ บางคนชอบประวัติศาสตร์ พอรสนิยม (จริต) ส่วนตัวแตกต่าง เราอยากได้ความคล่องตัวในการติดต่อกัน ไม่จำเป็นต้องเน็ตแรง เร็วเฟี้ยวฟ้าวติดจรวด ปุ้ยแนะนำให้ใช้ SIM ค่ะ SIM ถ้าซื้อจากที่ไทยก็มีของ SIM2Fly จาก AIS และของ True ปุ้ยว่าสะดวกพอกันนะคะ

เที่ยวกันเป็นกลุ่ม

ลักษณะ : จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน พวกเราจะไม่แยกจากกันจนกว่าจะกลับไทย

แบบนี้ปุ้ยแนะนำ Pocket Wi-Fi เพราะแชร์สัญญาณเน็ตกันได้หลายคน เน็ตแรง สัญญาณไม่ตก ราคาค่าเช่าหารกันแล้วถูกกว่าแยกกันซื้อ SIM ถ้าเห็น A ซังเช็กอิน ทุกคนจะเห็น B, C และ D ซัง เช็กอินที่เดียวกันพร้อม ๆ กัน หรือจะให้ใครเป็นตัวแทนโพสต์ก็ได้ถ้าขี้เกียจ เพราะอยู่กันครบทุกคน อิอิ

ข้อเสียคืออะไร? แบตเตอรี่ค่ะ!! เวลาแบตใกล้หมด พาวเวอร์แบงก์ก็ต้องเอาไป แต่ถ้าไปกันหลายคน สลับกันถือก็ได้ไม่เป็นไร แบ่ง ๆ กันหนักกระเป๋าบ้าง เพราะอย่างปุ้ยเที่ยวคนเดียว แถมมีทั้งกล้องดิจิทัล กล้องฟิล์ม โทรศัพท์ พาวเวอร์แบงก์ และ Pocket Wi-Fi อีก โอ้โห หนักมากค่ะ ทิ้งไม่ได้สักอย่าง (✱°⌂°✱) ถ้าปุ้ยไปคนเดียวจะไม่เลือก Pocket Wi-Fi แต่ถ้าใครไม่เกี่ยงเรื่องน้ำหนัก และอยากได้สัญญาณเร็วแรงถึงใจ ก็ไปที่ Pocket Wi-Fi ได้เลยค่ะ

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

เช่า-ซื้อได้ที่ไหน ?

Pocket Wi-Fi

สำหรับการใช้บริการ ถ้าเป็น 4g Pocket Wi-Fi ก็เลือกใช้ตามโปรโมชั่นของแต่ละบริษัท เสิร์ชคำว่า “เช่า Pocket Wi-Fi ญี่ปุ่น” ก็จะมีหลายเจ้ามาให้เทียบราคา และการรับ ส่ง คืน เครื่องได้ อย่างปุ้ยจะชอบใช้ของบริษัทที่สามารถรับและคืนเครื่องได้ที่สนามบิน เพราะสะดวก แจ้งแค่วันที่เราบิน สถานที่ที่จะไป (เผื่อเกิดไปย่านชนบท ลุยป่า ขึ้นเขา ทางบริษัทที่เช่าจะได้แนะนำเครื่องที่เหมาะสมกับเราได้ด้วย )

นอกนั้นก็จะมีเรื่องของประกัน ซึ่งปุ้ยไม่เคยซื้อเพราะพอเกิดปัญหาก็ใช้ Wi-Fi ฟรีของสนามบิน แล้วติดต่อเอเจนต์ของแต่ละบริษัทที่อยู่ด้านหลังเครื่อง ให้เขาจัดการปัญหาเรื่องสัญญาณให้เราได้ พอเที่ยวเสร็จกลับมาก็คืนที่สนามบินเหมือนเดิม

SIM

ส่วน SIM หาซื้อได้ตามศูนย์ให้บริการทั่วไปได้ค่ะ พอถึงก็แค่เปลี่ยน SIM เปิดใช้งาน จบขั้นตอน ทั้งง่ายและสะดวก แต่อย่าคาดหวังเรื่องความเร็วและความเสถียรของสัญญาณ (ขอย้ำอีกที) จะได้ไม่เซ็ง เวลาสัญญาณช้า แฮร่

ก่อนจะจบการรีวิว ปุ้ยก็มีตัวอย่างบริษัทเช่า Pocket Wi-Fi กับ เครือข่าย SIM ที่น่าสนใจมาฝากไว้เล็กน้อยค่ะ

กลับมาคึกคักอีกครั้งกับการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หลังจากทางการญี่ปุ่นจะเริ่มฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ดังนั้นน้องจากเตรียมแพลนต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ขาดไปไม่ได้คือ “ซิมเที่ยวญี่ปุ่น” บทความนี้เราจะมาแนะนำซิมเที่ยวญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ใช้งาน dtac หรือสนใจใช้ซิมเที่ยวญี่ปุ่นของ dtac ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

SIM Go Inter

สำหรับซิมเที่ยวญี่ปุ่นจาก dtac ซิมแรกที่เราจะมาแนะนำ คือ SIM Go Inter เป็นซิมโรมมิ่งต่างประเทศที่คุ้มที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งซิมแบบระบุประเทศ ซิมสำหรับใช้งานในหลายพื้นที่ และซิมครอบคลุมทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็น SIM Go Inter สมชื่อเลย งั้นเรามาดูรายละเอียดกันดีกว่าว่ามีแบบไหนให้เลือกบ้าง

SIM Go Inter: เที่ยวเอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

เป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นในราคา 399 บาท สามารถใช้งานได้ถึง 10 วัน โดยใช้เน็ตได้ถึง 6GB แบบ Non-stop ความเร็วสูงสุด แถมยังได้รับเน็ตโรมมิ่งฟรีไปอีก 4GB นอกจากจะใช้งานได้ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ในประเทศแถบเอเชีย เช่น กัมพูชา เกาหลีใต้ ไต้หวัน ลาว เวียดนาม และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงประเทศออสเตรเลีย อเมริกา และเปอร์โตริโกได้อีกด้วย ซื้อ e-sim

SIM Go Inter: เที่ยวทุกทวีปทั่วโลก

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

นอกจากจะใช้เป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว SIM Go Inter ตัวนี้ยังยังเหมาะกับคนที่เดินทางไปในหลากหลายทวีปทั่วโลก เพราะสามารถรองรับการใช้งานได้ในหลายประเทศ แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  • เที่ยวทุกทวีปทั่วโลกราคา 899 บาท สามารถใช้เน็ตแบบ Non-stop ความเร็วสูงสุด 6GB นาน 15 วัน ซื้อออนไลน์  (e-sim)
  • เที่ยวทุกทวีปทั่วโลกราคา 1,599 บาท สามารถใช้เน็ตแบบ Non-stop ความเร็วสูงสุด 14GB นาน 30 วัน 

นอกจากใช้เป็นซิมในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ในประเทศปลายทางอีกมากมายทั่วโลก เช่น นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี บราซิล เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฯลฯ เรียกได้ว่าครอบคลุมประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลกเลยทีเดียว

SIM Go Inter: เที่ยวสิงคโปร์ และเที่ยวมาเลเซีย

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับสายท่องเที่ยวแถบเอเชีย นอกจากจะไปญี่ปุ่นด้วย SIM Go Inter 3 รายการที่แนะนำไปแล้ว ทาง dtac ยังมี SIM Go Inter อีก 2 รายการ สำหรับคนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย

  • เที่ยวสิงคโปร์ ราคา 299 บาท สามารถใช้เน็ตแบบ Non-stop ความเร็วสูงสุด 6GB นาน 7 วัน รับฟรีเน็ตโรมมิ่งอีก 4GB (ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ประเทศสิงคโปร์)
  • เที่ยวมาเลเซีย ราคา 299 บาท สามารถใช้เน็ตแบบ Non-stop ความเร็วสูงสุด 6GB นาน 7 วัน รับฟรีเน็ตโรมมิ่งอีก 4GB (ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย)

ข้อดีของการเลือกใช้ SIM Go Inter

  • สามารถใช้งานเน็ตได้แบบไม่ลดสปีด สูงสุดถึง 14GB สำหรับ SIM Go Inter แบบ Worldwide ราคา 1,599 บาท
  • สามารถใช้งานเน็ตได้แบบไม่ลดสปีด สูงสุดถึง 6GB สำหรับรายการ SIM Go Inter แบบอื่น ๆ แถมเล่นเน็ตในไทยฟรีได้อีก 6 ชั่วโมง
  • สำหรับใครที่เน้นใช้งานทั้งอินเตอร์เน็ตและโทร ก็ยังมีแพ็กเก็จเสริมให้เลือกได้มากมาย ตามความต้องการ
  • เมื่อคำนวนแล้วถือเป็นซิมญี่ปุ่นราคาสุดคุ้ม เพราะเริ่มต้นวันละ 40 บาท สำหรับ SIM Go Inter แบบครอบคลุมเอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกา
  • โทรกลับไทยในราคาเริ่มต้นเพียง 6 บาทต่อนาที
  • เมื่อใช้งานครบตามกำหนดแล้ว สามารถเก็บซิมเอาไว้เพื่อใช้งานต่อในทริปถัดไปได้
  • สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่เป็นลูกค้า dtac และไม่ได้เป็นลูกค้า dtac

ซื้อ SIM Go Inter ที่ไหนได้บ้าง

สามารถซื้อ SIM Go Inter เพื่อใช้เป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นได้ที่ศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศ หรือจะซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ บน dtac website และทางร้าน dtac Official Store ทั้งทาง Shopee, Lazada และ JD Central หรือเคาน์เตอร์ dtac ตามสนามบินต่าง ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

การรักษาสภาพซิมเพื่อใช้งานในทริปถัดไป

อย่างที่ระบุไว้ในข้อดีของการเลือก SIM Go Inter ในการเป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นข้อหนึ่งก็คือ เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว สามารถเก็บรักษาซิมไว้ใช้สำหรับทริปถัดไปได้ เหมาะสำหรับคนยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวบ่อย ๆโดยวิธีในการรักษาสภาพซิมก็คือ เติมยอดเงินเข้าไปในซิมซึ่งสามารถรักษาสภาพซิมไว้ได้อย่างน้อย 30 วันต่อการเติม 1 ครั้ง และเมื่อต้องการนำไปใช้งานต่อในทริปถัดไป ก็เพียงแค่ซื้อแพ็กเกจโรมมิ่งเสริมเข้าไป ทำได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน

  1. เช็กวันใช้งานคงเหลือของซิม โดยกด *101*1# แล้วโทรออก
  2. เติมเงินเข้าไปในซิมให้เพียงพอต่อค่าแพ็กเก็จที่ต้องการ
  3. ซื้อแพ็กเกจเสริม GO Inter ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

การเปิด Roaming เพื่อใช้งานในญี่ปุ่น

ลูกค้าที่ใช้งานซิมของดีแทคอยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนซิมธรรมดาให้กลายเป็นซิมเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม เพียงซื้อแพ็กเกจโรมมิ่งเพิ่มเติม ใช้ได้ทั้งลูกค้าแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน มีทั้งแบบใช้เน็ตไม่จำกัด เน็ตคิดตามปริมาณที่ใช้ และค่าโทรสุดคุ้มระหว่างเดินทาง มีแพ็กเกจให้เลือก ดังนี้ 

ไป ญี่ปุ่น ใช้ เน็ต แบบ ไหน ดี

แพ็กเกจโรมมิ่งสำหรับอินเตอร์เน็ต

  1. แพ็กเกจ GO Travel (ทุกทวีปทั่วโลก) เน็ตสูงสุด 15GB ใช้งานได้ 30 วัน ในราคา 1,599 บาท
  2. แพ็กเกจ GO Travel (ทุกทวีปทั่วโลก) เน็ตสูงสุด 14GB ใช้งานได้ 7 วัน ในราคา 1,099 บาท
  3. แพ็กเกจ GO Travel (ทุกทวีปทั่วโลก) เน็ตสูงสุด 7GB ใช้งานได้ 15 วัน ในราคา 899 บาท
  4. แพ็กเกจ GO Travel (เฉพาะเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา) เน็ตสูงสุด 14GB ใช้งานได้ 7 วัน ในราคา 499 บาท
  5. แพ็กเกจ GO Travel (เฉพาะเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกา) เน็ตสูงสุด 7GB ใช้งานได้ 10 วัน ในราคา 399 บาท

ซึ่งแต่ละแพ็กเกจสำหรับการเปิดโรมมิ่งเพื่อใช้งานซิมเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน โดยอาจเลือกจากระยะเวลาในการใช้งานให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการเดินทางตลอดทริป หรือสำหรับใครที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตเยอะ ก็เลือกจากจำนวนเน็ตเป็น GB สูง ๆ ไว้ก่อน แต่หากระยะเวลาหรือปริมาณเน็ตไม่เพียงพอ ก็สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ในภายหลัง

แพ็กเกจโรมมิ่งสำหรับการโทร

  1. แพ็กเกจโทรและรับสายในต่างประเทศ 30 นาที ใช้งานได้ 7 วัน ราคา 350 บาท
  2. แพ็กเกจโทรและรับสายในต่างประเทศ 60 นาที ใช้งานได้ 7 วัน ราคา 650 บาท
  3. แพ็กเกจโทรและรับสายในต่างประเทศ 120 นาที ใช้งานได้ 7 วัน ราคา 1,200 บาท

แพ็กเกจโรมมิ่งสำหรับการโทร เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานโทรศัพท์เป็นหลัก เช่นการเน้นติดต่อธุระเกี่ยวกับเรื่องงานหรือธุรกิจ ซึ่งไม่นิยมติดต่อผ่านทางไลน์หรือแอปฯ แชทส่วนตัว ก็สามารถเลือกแพ็กเกจเหล่านี้เสริมระหว่างเดินทางในญี่ปุ่นได้

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ในโลกปัจจุบันที่การใช้งานอินเตอร์เน็ตอยู่ในทุกช่วงเวลาของเรา การท่องเที่ยวอย่างอุ่นใจก็ควรจะมีอินเตอร์เน็ตดี ๆ ติดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ โดยเฉพาะการเลือกใช้ซิมเที่ยวญี่ปุ่นที่ตรงตามความต้องกาาร จะช่วยให้สามารถหาข้อมูลสถานที่ ร้านค้า เส้นทางเดินรถไฟสายต่าง ๆ รวมถึงใช้แอปฯ หรือเว็บไซต์แปลภาษาในกรณีที่ต้องการได้ รวมถึงโพสต์แชร์ภาพความประทับใจระหว่างทริปได้แบบไม่มีสะดุดอีกด้วย ใครสนใจสามารถสอบถามได้ที่ดีแทคทุกสาขาเลย

ไปญี่ปุ่นใช้เน็ตของอะไรดี

ใช้ 4G แบบโรมมิ่งจากไทย ใช้ซิม 4G ของญี่ปุ่น ใช้ Pocket WiFi จากไทย ใช้ Sim2Fly ของ AIS..
โทรออก-รับสายเบอร์เดิมได้ ผ่าน Wifi Calling..
สามารถเช่าทีเดียวแล้วใช้ Wifi Internet พร้อมกันหลายคน/หลายเครื่องได้.
มีแพ็กเกจอินเตอร์เน็ต Unlimited ให้เลือก (บางเจ้าไม่ติด FUP).
จ่ายแบบเหมา.

ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี 2023

ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี รวมของน่าซื้อ ของฝากจากญี่ปุ่น อัพเดท 2023.
1. ช๊อกโกแลต Royce, Kit-Kat, Pocky ขนมญี่ปุ่น ... .
2. โตเกียว บานาน่า (Tokyo Banana) ... .
3. โฟมล้างหน้า ครีมทาผิว เครื่องสำอาง มาส์กเต้าหู้ ... .
4. เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ญี่ปุ่น ... .
5. กระเป๋า เป้ ... .
6. ผลไม้ญี่ปุ่น.

ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกไปไหนดี

หากใครต้องการที่จะมาประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เราแนะนำให้ไปเริ่มต้นที่โตเกียวหรือโอซาก้า เพราะเป็นสองเมืองที่แสถงถึงวิธีชีวิตของคนญี่ปุ่นได้ดีที่สุด และมีแหล่งสถาปัตยกรรมเก่าๆให้เราได้เห็น หลังจากนั้นแล้ว ให้ลองไปที่เมืองอย่างฮอกไกโดหรือฟุกุโอกะ เพื่อค้นหาเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่น ที่หาไม่ได้จากที่ไหน

ใช้เน็ตอะไรเร็วที่สุด

เอไอเอส เป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนความเร็วในการให้บริการอินเทอร์เน็ต อยู่ที่ 83.51 มีความเร็วเฉลี่ยการดาวน์โหลด 225.94 Mbps ความเร็วเฉลี่ยการอัปโหลด 113.02 Mbps และค่าหน่วงเวลาในการตอบสนอง 12 ms (วัดจากการทดสอบมากกว่า 11 ล้านครั้ง ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2562)