ทั้งหมดนี้เป็นเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มีประโยชน์มากสำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก รู้ไว้ก็ทำให้การจัดการการท่องเที่ยวในเรื่องต่าง ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี เที่ยวสนุกขึ้น ไร้ความกังวล แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็อยากให้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศนั้น ๆ เพิ่มเติมด้วย ก็จะช่วยได้อีกเยอะเลยทีเดียว :) Show ประเทศที่อยู่ติดชายแดนใต้บ้านเรา มีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกรสนิยมเลย แต่เมื่อไปถึงมาเลเซียแล้ว จุดไฮไลท์ที่ต้องไป คือ ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) เป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก ที่ไม่ว่าใครๆ ที่มาประเทศมาเลเซีย จะต้องมาถ่ายภาพเพื่อบอกว่าเรามาถึงแล้วนะ ตั้งอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ 2. เวียงจันทน์ (Vientiane) ประเทศลาว ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่ไปแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร สามารถใช้ภาษาไทยคุยกันได้เลย และยังเป็นประเทศที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก สายธรรมชาติต้องมาที่ วังเวียง (Vang Vieng) นี้เลย ได้ดื่มด่ำความเป็นธรรมชาติอย่างเต็มที่ เพราะวังเวียงถูกล้อมด้วยภูเขาและแม่น้ำ อยู่ห่างจากเมืองหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 150 กิโลเมตร 3. ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเล็กๆ ที่มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไปถึงสิงคโปร์แล้วต้องไม่พลาดถ่ายภาพและเช็คอินกับสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์อย่าง เมอร์ไลออน (Merlion Park) นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงให้เดินชมทั้งกลางวันและกลางคืนได้อีกด้วย 4. ดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม ในช่วงปี 2017-2018 ประเทศเวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง ทำให้มีนักลงทุนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) ทำให้เราได้ไปเที่ยวเวียดนาม พร้อมกับได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในหมู่บ้านที่ฝรั่งเศส อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร 5. พนมเปญ (Phnom Penh) ประเทศกัมพูชา ประเทศในกลุ่ม AEC ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก เหมือนได้เที่ยวในยุคโบราณและยุคปัจจุบันไปพร้อมๆ กัน ของที่ขายอยู่ใน ตลาดกลาง (Central Market) มีให้เลือกซื้อมากมาย แต่สิ่งที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ คือ ตัวอาคาร ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดในถ่ายภาพ อยากไปแล้ว… ไปอย่างไรล่ะ? แน่นอนว่าต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่การจะบินไปเที่ยวแบบกระชับกระเป๋าสตางค์ จะต้องใช้โปรตั๋วเครื่องบินเข้าช่วย แล้วจะไปหาได้จากที่ไหน? ต้องอาศัยตัวช่วยอย่างเพจโปรต่างๆ ใน Facebook เช่น Ar-pae.com, ChangTrixGet, ติดโปร - PRO addict และเพื่อนบอกโปร เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้ง่ายมากขึ้น เพราะ 3 สิ่งนี้ทำให้เราวางแผนได้สะดวกและประหยัดงบมากขึ้น แต่ข้อควรรู้คือโปรเหล่านี้… มักจะถูกจัดอยู่ในรอบบินวันธรรมดา และเป็นเวลาเช้าตรู่ หรือดึกดื่นมาก เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นในส่วนนี้เพื่อนๆ จะต้องชั่งใจกันว่า ความถูกกับความสะดวกของเรา แบบไหนสำคัญกว่า Tips เล็กๆ ในการวางแผนท่องเที่ยวแบบรัดเข็มขัด เราต้องมีการวางแผนที่ชัดเจน ตั้งแต่เรื่องการเดินทาง, ที่พัก, อาหารการกิน, การ Shopping ฯลฯ เพราะจะทำให้เรารู้งบประมาณที่แท้จริง และรู้ว่าควรจะเตรียมเงินเผื่อไปอีกเท่าไหร่ การเก็บเงินสำหรับไปเที่ยว หากไปเที่ยวประเทศเหล่านี้ ปีละ 1 ครั้ง สัดส่วนที่แนะนำให้เก็บจากเงินเดือน 100% คือ เก็บออมเพื่อเป้าหมายในอนาคต 10-20% (เช่น เพื่อการเกษียณ เพื่อเรียนต่อปริญญาโท ฯลฯ) เก็บออมเพื่อการท่องเที่ยว 10% และเป็นรายจ่ายปกติ 70-80% ลองคำนวณตามฐานเงินเดือนที่ 15,000 บาท 10% คือ 1,500 บาท เก็บแบบนี้ไป 7 เดือน จะมีเงินก้อนที่ 10,500 บาท ซึ่งเพียงพอต่อการจองตั๋ว ที่พัก หรือจองทัวร์ ตัวอย่างนี้เป็นเพียงสัดส่วนที่แนะนำเท่านั้น หากมากหรือน้อยไป เพื่อนๆ สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ตามความจำเป็นในการใช้เงินนะ คำถามต่อไป เก็บเงินไว้ที่ไหนดี? แนะนำให้เก็บไว้ที่สินทรัพย์ทางการเงิน 1 ใน 3 อย่างนี้ คือ วันนี้ฝากไว้เท่านี้สำหรับ 5 ที่เที่ยวต่างประเทศ สำหรับ 1st Jobber ใครสนใจอยากไปเที่ยวประเทศไหน ก็สามารถเก็บออมตามวิธีที่แนะนำด้านบนและแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันได้เลย เพราะการท่องเที่ยวก็ทำให้เราได้พักผ่อนและเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กัน
คลังความรู้อ่านเพิ่มเติม
© 2022 Principal Asset Management Co.,Ltd เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ในการให้บริการและปรับปรุงเนื้อหา เพื่อเข้าใจความต้องการและมอบประสบการณ์ที่ดีสำหรับคุณ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว และ คุกกี้ |