แว่น เป็น รอย ทํา ไง ดี

แว่นตาที่จะช่วยให้คุณมองเห็นโลกอันสดใสได้คมชัดไม่ใช่แค่มีเลนส์ดีๆ และกรอบแว่นราคาแพงๆ เท่านั้น แว่นที่ดีจะทำหน้าที่ของมันได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อมีการดูแลรักษาความสะอาดเป็นประจำ ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีคราบมัน คราบสกปรก และเชื้อโรคสะสม แต่จะทำความสะอาดแว่นตาอย่างไรดีนั้น ลองมาดูวิธีล้างแว่นตาที่ถูกต้องกันดีกว่า

ทำไมต้องล้างแว่นตา

เหตุผลที่คุณควรล้างแว่นตา ก็คือ เมื่อมีสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง หรือคราบมันติดอยู่ที่เลนส์ และนอกจากจะบดบังสายตาจนน่ารำคาญแล้ว ยังอาจส่งผลให้คุณต้องเพ่งสายตาและเกิดอาการปวดหัวตามมาได้ในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรีย สปอร์ของเชื้อรา และสารก่อการระคายเคืองที่เกาะติดอยู่บนพื้นผิวส่วนต่างๆ ของแว่นตา โดยเฉพาะส่วนที่อยู่ใกล้กับอวัยวะที่อ่อนไหวอย่างจมูกและตา ซึ่งไม่สามารถกำจัดออกได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ผ้าเช็ดแว่น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพโดยที่คุณไม่รู้ตัว 

จากการศึกษาวิจัยยืนยันตรงกันว่า แบคทีเรียที่เป็นอันตรายสามารถเจริญเติบโตได้บนพื้นผิวแว่นตา ซึ่งรวมถึงแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ (staph infection) โดยส่วนที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคมากที่สุดคือ แป้นรองจมูกและขาแว่นส่วนที่ยึดเกี่ยวกับใบหู

ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านแว่นตาและจักษุแพทย์จึงพยายามแนะนำวิธีล้างแว่นตาที่ถูกต้องอยู่เสมอ โดยให้ล้างทำความสะอาดแว่นตาเป็นประจำ ทั้งส่วนที่เป็นเลนส์ กรอบแว่น รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ 

ไวรัสโควิด-19 อาศัยอยู่บนแว่นตาได้หรือไม่

จากข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า ไวรัสโควิด-19 เกาะติดและมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวพลาสติกและสแตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่มักพบในกรอบแว่นทั่วไป ได้นานถึง 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม วิธีล้างแว่นตาโดยล้างทำความสะอาดเลนส์และกรอบแว่นเป็นประจำด้วยน้ำกับน้ำยาล้างจานเป็นวิธีที่ฆ่าไวรัสได้ผล

แนะวิธีล้างแว่นตาและดูแลรักษาให้สะอาดเหมือนใหม่

ก่อนจะหยิบจับหรือล้างทำความสะอาดแว่นตาทุกครั้ง ต้องแน่ใจว่ามือของคุณสะอาด ปราศจากฝุ่นละออง คราบมัน และเม็ดทรายเล็กๆ เพราะถ้ายังมีสิ่งสกปรกหรือคราบเปื้อนมืออยู่ มันก็อาจจะหลุดไปติดที่แว่นด้วย กลายเป็นว่ายิ่งล้างก็ยิ่งสกปรก

การล้างมือ จะใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นก็ได้ กับน้ำยาล้างจานหรือสบู่ ฟอกให้ทั่วฝ่ามือและหลังมือทั้งสองข้างนาน 20 วินาที จากนั้นล้างฟองออกให้หมดด้วยน้ำเปล่า เสร็จแล้วเช็ดให้แห้ง ทีนี้มาดูวิธีล้างแว่นตาและการดูแลรักษาแว่นตาที่ถูกต้องว่าทำอย่างไร  

1. ล้างด้วยน้ำอุ่นกับน้ำยาล้างจาน

ควรล้างแว่นตาของคุณด้วยน้ำอุ่น น้ำที่ร้อนเกินไปจะทำให้เลนส์ สารเคลือบเลนส์ รวมทั้งกรอบแว่น เกิดความเสียหาย ส่วนน้ำที่เย็นเกินไปจะไม่ช่วยชำระล้างให้สะอาดได้เท่าที่ควร

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • น้ำยาล้างจานยี่ห้อใดก็ได้ แต่ขอแนะนำสูตรที่ผสมสารกำจัดแบคทีเรียด้วย เช่น ซันไลต์ พลัส แอนตี้แบค กลิ่นเลมอน มิ้นท์ ซึ่งนอกจากช่วยล้างสิ่งสกปรกและคราบมันได้ดีแล้ว ยังให้กลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย

  • น้ำอุ่น (จากก๊อกน้ำ)

  • แก้วน้ำ 1 ใบ

  • ก้านสำลีหรือแปรงสีฟันเก่า (ชนิดขนนุ่มมากถึงมากที่สุด) 

  • กระดาษทิชชูเนื้อนุ่มละเอียด ถ้าได้แบบที่ใช้เช็ดหน้าจะดีมาก

  • ผ้าเช็ดแว่น (ที่ร้านแว่นมักจะแถมมา) หรือผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างดี หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าที่มีขนอย่างผ้าขนหนู เพราะขนจะหลุดติดเลนส์แว่นตา

วิธีล้าง

เริ่มด้วยการเปิดน้ำอุ่นเบาๆ ให้น้ำไหลผ่านแว่นตา หมุนวนแว่นตาให้น้ำไหลผ่านทั่วทุกส่วนเพื่อให้คราบสกปรกที่เกาะอยู่บนพื้นผิวเลนส์ ทั้งด้านหน้าด้านหลัง รวมทั้งที่กรอบแว่นและขาแว่น อ่อนตัวและหลุดออก จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ 

  • ใส่น้ำในแก้วประมาณครึ่งแก้ว แล้วหยดน้ำยาล้างจานเพียงเล็กน้อยลงไปผสมกับน้ำ ใช้นิ้วคนให้ละลายและเจือจาง (ห้ามเทน้ำยาล้างจานบนผิวเลนส์โดยตรง)

  • เทน้ำยาที่เตรียมไว้ลงไปบนเลนส์แต่ละข้าง ใช้นิ้วมือค่อยๆ เกลี่ยน้ำยาล้างจานและถูเลนส์ทีละข้างให้ทั่วทั้งหน้าและหลัง กรอบแว่นส่วนที่ติดกับเลนส์ และขาแว่นทั้งสองข้าง ตามลำดับ

  • ทำความสะอาดแป้นรองจมูก รวมถึงร่องระหว่างขอบเลนส์กับกรอบแว่น โดยใช้ก้านสำลีหรือแปรงสีฟันเก่าขัดเบาๆ 

  • เมื่อล้างเลนส์และขัดคราบสกปรกออกแล้ว ให้เปิดน้ำล้างแว่นตาให้ทั่วทุกซอกมุมอีกครั้ง จนแน่ใจว่าไม่หลงเหลือความลื่นและฟองของน้ำยาล้างจาน เพราะถ้าล้างไม่สะอาด ส่วนที่ตกค้างอยู่จะกลายเป็นรอยเปื้อนในภายหลัง

  • ปิดน้ำ สะบัดน้ำออกจากแว่นตาเบาๆ เช็คดูว่าเลนส์สะอาดดีหรือยัง ถ้ายังมีคราบสกปรกหลงเหลืออยู่ ให้ล้างอีกรอบ แล้วสะบัดน้ำออก

  • ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำส่วนที่ยังเกาะติดอยู่ ไม่ควรใจร้อนใช้ผ้าเช็ดทันที เพราะอาจทำให้เกิดคราบน้ำ ซับน้ำออกให้หมดก่อนจะดีกว่า

  • เช็ดแว่นตาให้แห้งด้วยผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ พับครึ่งผ้าโดยกะให้สามารถเช็ดเลนส์ทั้งด้านหน้าและหลังได้พร้อมกัน จากนั้นใช้นิ้วมือค่อยๆ เช็ดเลนส์วนเป็นวงกลมพร้อมกันทั้งสองด้าน (เช็ดทีละข้างและเช็ดวนไปในทางเดียวกัน ไม่ควรถูวนไปมา) ต่อด้วยแป้นรองจมูก กรอบแว่น และขาแว่น ตามลำดับ

นอกจากเลนส์ที่ต้องสะอาดใสปิ๊งแล้ว กรอบแว่นก็เป็นอีกส่วนที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะส่วนนี้สัมผัสกับผิวหนังของเราตลอดเวลาและประกอบด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม เช่น สกรู สปริง บานพับ ซึ่งอาจเป็นที่สะสมของคราบสกปรก คราบมัน และเหงื่อ การทำความสะอาดกรอบแว่นอย่างทั่วถึงจึงมีความสำคัญต่อสุขอนามัยของคุณด้วย

ถ้าน้ำในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่มีความกระด้างมาก แนะนำให้ใช้น้ำดื่มบรรจุขวดล้างแว่นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 

2. วิธีล้างแว่นตาเมื่ออยู่นอกบ้าน

ขณะอยู่นอกบ้าน โอกาสที่แว่นตาของคุณจะต้องผจญกับสารพัดสิ่งสกปรก คราบมัน มลภาวะ และเหงื่อ ก็มีมากขึ้น ดังนั้น ถ้ามีวัสดุและอุปกรณ์สำหรับล้างแว่นพกติดกระเป๋าไว้ด้วยก็ดี เพราะใช่ว่าทุกที่จะมีน้ำกับน้ำยาล้างจานให้คุณใช้

ตัวช่วยที่ต้องใช้

  • สเปรย์ล้างแว่น ควรเลือกสูตรที่ระบุว่าใช้ได้กับเลนส์ชนิดโพลีคาร์บอเนตและเลนส์ที่มีสารเคลือบผิวเลนส์ ถ้าเลนส์ที่คุณใช้เป็นแบบ anti-reflective (AR) ต้องตรวจสอบที่ฉลากให้แน่ใจด้วยว่าใช้กับ AR coating ได้

  • กระดาษทิชชูเนื้อนุ่ม

  • ผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างดี

วิธีล้าง

  • ฉีดสเปรย์ให้ทั่วทุกส่วนของแว่นตา โดยฉีดในปริมาณที่มากหน่อยเพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกอกอย่างได้ผล

  • เช็ดน้ำยาทำความสะอาดออกอย่างระมัดระวังด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ โดยพับครึ่งให้สามารถเช็ดเลนส์ทั้งด้านหน้าและหลังได้พร้อมกัน ค่อยๆ ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บังคับผ้าให้เช็ดเลนส์วนเป็นวงกลมไปในทางเดียวกัน จากนั้นต่อด้วยกรอบแว่นและขาแว่น

อีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกมากๆ สำหรับพกพาไปใช้ขณะเดินทาง คือ กระดาษเช็ดแว่นสำเร็จรูป ซึ่งสามารถขจัดคราบมันและสิ่งสกปรกบนเลนส์แว่นได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง เพียงเช็ดที่เลนส์แว่นตาเพื่อฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก (ค่อยๆ เช็ดวนเป็นวงกลม) จากนั้นใช้ผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดอีกรอบ

เช่นเดียวกัน ข้อควรระวังในการใช้กระดาษเช็ดแว่นสำเร็จรูป คือ ควรเลือกยี่ห้อที่ระบุบนฉลากอย่างชัดเจนว่าใช้กับเลนส์ AR ได้

3. วิธีล้างแว่นตาให้สะอาดล้ำลึกด้วยการฆ่าเชื้อ

การฆ่าเชื้อเป็นวิธีล้างแว่นตาให้สะอาดแบบล้ำลึกยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถฆ่าเชื้อให้แว่นตาหลังจากล้างและเช็ดจนแห้งแล้ว เพียงใช้ผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบรับบิ้งแอลกอฮอล์เจือจางเช็ดอีกรอบ แต่ต้องระวังให้ดีๆ  เพราะแอลกอฮอล์อาจสร้างความเสียหายให้สารเคลือบบนเลนส์และอาจกัดกร่อนโลหะหรือหมึกพิมพ์บนกรอบแว่น  

อีกทางเลือกหนึ่ง คือ ใช้แอมโมเนียหรือทิงเจอร์ไอโอดีนผสมกับน้ำในอัตราส่วนเท่ากัน (ห้ามผสมสารเคมีทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) จากนั้นนำแว่นลงไปแช่ในสารละลายที่เตรียมไว้ประมาณ 2 นาที จากนั้นนำขึ้นมาล้างน้ำอุ่นให้สะอาด (ถ้าล้างออกไม่หมด สารเคมีเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายให้เลนส์และกรอบแว่นของคุณ) ซับน้ำให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู แล้วปิดท้ายด้วยผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโคไฟเบอร์จนมั่นใจว่าแว่นแห้งสะอาดทุกส่วน  

4. วิธีแก้แว่นเป็นรอย

รอยขนแมว ก็คือ รอยขีดข่วนเล็กๆ ที่เห็นบนเลนส์แว่นตา ส่วนใหญ่เกิดจากการเช็ดเลนส์บ่อยๆ หรือเช็ดด้วยผ้าที่ไม่เป็นมิตรต่อเลนส์ และมักเกิดกับเลนส์กระจกที่ไม่มีสารเคลือบ แต่ก็มีวิธีแก้แว่นเป็นรอยได้ไม่ยาก

ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่า

วิธีง่ายๆ เลย คือ ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำไปถูที่เลนส์ให้ทั่ว เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า สะบัดน้ำออก ซับด้วยกระดาษทิชชู แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ตามลำดับ แค่นี้รอยขนแมวจะหายไป

พึ่งพาน้ำยาเช็ดกระจก

ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกลงบนเลนส์ แล้วเช็ดด้วยทิชชู โดยให้ถูวนเป็นวงกลมจนกว่าเลนส์จะแห้งสนิท

ใช้น้ำยาทำความสะอาดจอคอมพิวเตอร์

ใช้วิธีเดียวกับน้ำยาเช็ดกระจก แต่ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจากเช็ดด้วยกระดาษทิชชูมาเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่มๆ แทน

ไม่แนะนำให้ใช้ยาสีฟัน (แม้ว่าจะมีข้อมูลจากหลายเว็บไซต์แนะนำไว้ก็ตาม) เพราะในยาสีฟันบางสูตรอาจมีสารขัดฟันผสมอยู่ด้วย ซึ่งสารประเภทนี้อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนเลนส์และกรอบแว่นโดยที่เราไม่รู้ ฉะนั้น ควรกันไว้ดีกว่าแก้

5. อย่าลืมซักผ้าเช็ดแว่นด้วย

ผ้าเช็ดแว่นหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ที่คุณซื้อมาใช้สำหรับเช็ดแว่นโดยเฉพาะนั้นถือเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของแว่นก็ว่าได้ ดังนั้น การทำความสะอาดผ้าเช็ดแว่นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ส่วนวิธีซักผ้าเช็ดแว่นอย่างง่ายมีให้คุณเลือกดังนี้

  • ซักด้วยมือโดยใช้น้ำเย็น เพียงหยดสบู่เหลวหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน (ต้องไม่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวและน้ำยาปรับผ้านุ่ม) ลงผสมกับน้ำในกะละมังซักผ้าขนาดเล็กๆ กวนให้เข้ากัน จากนั้นนำผ้าลงไปซัก ขยี้เบาๆ แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าอีก 2 น้ำ แล้วตากในที่ร่มลมโกรก

  • ถ้าจะซักด้วยเครื่องซักผ้า ให้ใช้ผงซักฟอกสูตรที่ไม่ผสมสารฟอกขาวและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เมื่อซักเสร็จแล้วนำไปตากเช่นเดียวกับการซักมือ

ควรล้างแว่นตาบ่อยแค่ไหน

โดยปกติ แนะนำให้ล้างเลนส์ทุกวัน ส่วนกรอบแว่น ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ควรล้างอย่างพิถีพิถันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ทั้งนี้ ความถี่และความจำเป็นในการล้างขึ้นอยู่กับระดับความสกปรก รวมถึงคุณภาพของเลนส์และกรอบแว่นด้วย บางคนใช้เลนส์คุณภาพสูง ฝุ่นไม่ค่อยเกาะ รอยนิ้วมือก็แทบไม่เกิด บางคนใช้เลนส์คุณภาพกลางๆ อาจเกิดคราบง่าย ก็คงต้องล้างบ่อยขึ้น   

สำหรับคนที่เดินทางเป็นประจำและต้องการให้แว่นดูสะอาดอยู่เสมอ (ช่วยเสริมบุคลิกได้อีกทางอย่างไม่ต้องสงสัย) แนะนำให้ซื้อน้ำยาเช็ดแว่นหรือกระดาษเช็ดแว่นสำเร็จรูปพกติดกระเป๋าไว้จะง่าย สะดวก และประหยัดเวลาด้วย ส่วนวิธีล้างก็เพียงทำตามคำแนะนำข้างต้น  

การเก็บรักษาแว่นตา

การดูแลรักษาเลนส์ให้ใช้งานได้นานๆ โดยไม่มีรอยขนแมว สิ่งที่ต้องทำ คือ ไม่โยนแว่นตาใส่ในกระเป๋าถือหรือบนโต๊ะทำงาน หรือแม้แต่วางทิ้งไว้บนชั้นหนังสือโดยไม่ใส่ในกล่องแว่น เพราะนั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้เลนส์เกิดรอยขีดข่วนง่าย ฝุ่นจับ กรอบและขาแว่นโดนความร้อน สารเคมี หรือมลสภาวะจนเสื่อมคุณภาพก่อนเวลาอันควร  

การพับเก็บแว่นใส่กล่อง ควรระวังไม่ให้ปลายขาแว่นไปโดนเลนส์ จะทำให้เลนส์เป็นรอยได้ ทางที่ดีควรมีผ้าปิดเลนส์ทั้งด้านหลังและด้านหน้าก่อนเก็บใส่กล่อง และถ้าไม่ได้ใช้ประจำ แนะนำให้ใส่ถุงดูดความชื้นเล็กๆ ไว้ในกล่องเก็บแว่นตาเพื่อป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ

8 ความเชื่อผิดๆ การดูแลรักษาเลนส์และแว่นตา

เราได้ตามล่าหาความจริงถึงความเชื่อผิดๆ ที่คุณควรหลีกเลี่ยง เช่น

  • การใช้กระดาษเช็ดปาก ทิชชูเนื้อหยาบ หรือแม้กระทั่งชายเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตเช็ดเลนส์ นั่นเป็นสาเหตุหลักของการเกิดรอยขนแมวและการทำลายชั้นผิวเคลือบเลนส์  

  • การใช้ผ้าเช็ดเลนส์ทันทีโดยไม่ล้างให้สะอาดก่อนก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะเท่ากับนำพาเม็ดฝุ่นเล็กๆ ไปเสียดสีกับพื้นผิวเลนส์มากขึ้น  

  • ความเชื่อที่ว่าสามารถใช้น้ำยาล้างเล็บ ซึ่งมักมีอะซิโตน (acetone) เป็นส่วนผสม เช็ดทำความสะอาดเลนส์และกรอบแว่นได้ เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์ เพราะหากทาทิ้งไว้ สารดังกล่าวจะทำลายพื้นผิวของเลนส์และกรอบแว่นที่เป็นพลาสติก

  • ความเชื่อที่ว่าน้ำลายก็สลายคราบสกปรกบนเลนส์ได้ ซึ่งก็ไม่ถูกเช่นกัน เพราะในน้ำลายเต็มไปด้วยจุลินทรีย์จากในปาก ซึ่งอาจเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้คราบสกปรกยิ่งรุนแรงขึ้น      

  • การวางแว่นตาทิ้งไว้บริเวณคอนโซลรถยนต์ที่จอดกลางแดดจ้าเป็นเวลานานๆ หรือวางไว้บริเวณที่มีไอน้ำหรือลมร้อน เช่น ในห้องซาวน่า ก็ไม่ควรทำ

  • สารเคมีที่ซึมเข้าสู่ผิวเลนส์ได้ เช่น น้ำหอม สเปรย์ฉีดผม น้ำยาทำความสะอาดบางชนิด ครีมกันแดด อาจทำให้เลนส์และกรอบแว่นเสียหาย

  • การล้างเลนส์แว่นตาโดยใช้สบู่หรือแชมพู ซึ่งมักมีส่วนผสมของไขมันสัตว์หรือน้ำมันอื่นๆ ทำให้ผิวเลนส์หนืด ทำความสะอาดยาก และจะทำให้ผิวเลนส์มัลติโค๊ดเสื่อมสภาพไว

  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้ปากเป่าสิ่งสกปรกออกจากแว่นตา เพราะนั่นเท่ากับเพิ่มปริมาณเชื้อโรคให้เกาะติดแว่นตาของคุณ

เห็นหรือไม่ว่าวิธีล้างแว่นตาและการดูแลรักษาให้คงสภาพดีไปอีกนานๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ไม่ต้องวุ่นวายไปหาเครื่องซูเปอร์เฮอริเคนล้างแว่นให้สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ แต่อาจต้องอาศัยความมีวินัย ทำทุกวันจนเป็นนิสัย ซึ่งไม่เพียงช่วยให้คุณมองโลกชัดใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคตาอักเสบติดเชื้อ ปัญหาสิว และโรคผิวหนังบางอย่างได้อีกด้วย

ทำไงให้แว่นหายเป็นรอย

4. วิธีแก้แว่นเป็นรอย วิธีง่ายๆ เลย คือ ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำไปถูที่เลนส์ให้ทั่ว เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า สะบัดน้ำออก ซับด้วยกระดาษทิชชู แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ตามลำดับ แค่นี้รอยขนแมวจะหายไป

ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดแว่นได้ไหม

เนื่องจากเส้นใยผ้าถูกออกแบบมาด้วยความละเอียดสูง จึงช่วยลดโอกาสที่เลนส์จะเกิดรอยขณะเช็ดแว่นได้ ไม่ควรใช้ทิชชู่หรือเสื้อผ้าเพื่อเช็ดเลนส์เนื่องจากมีความหยาบทำให้เลนส์เป็นรอยได้ หากเลนส์เปียกมากหลังจากล้างแว่นแนะนำให้ใช้ทิชชู่ซับหมาดได้แต่ห้ามถู จากนั้นค่อยเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์อีกที

ทำยังไงให้แว่นใส

ขั้นตอนในการล้างแว่นตา.
1. ล้างมือให้ทั่วและทำให้มือแห้งก่อน ... .
2. เปิดน้ำก๊อกอุ่นให้เป็นสายเบา ๆ ลงบนเลนส์ ... .
3. หยดน้ำยาล้างจานที่ไม่มีสารให้ความชุ่มชื้นหยดเล็ก ๆ ลงบนเลนส์แต่ละข้าง ... .
4. ถูเลนส์ทั้งสองด้านและกรอบแว่นเบา ๆ สักสองสามวินาที ... .
5. ล้างน้ำให้ทั่วสองด้านของเลนส์และกรอบแว่น.

เช็ดแว่นยังไงให้สะอาด

1. เปิดน้ำใส่เลนส์เพื่อทำให้คราบสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวเลนส์อ่อนตัวและล้างฝุ่นที่ติดอยู่บนผิวเลนส์ออก 2. ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจาง ทำความสะอาดเลนส์โดยใช้นิ้วถูที่เลนส์ให้ทั่ว (ห้ามเทน้ำยาล้างจานบนผิวเลนส์โดยตรง) 3. ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 4. ใช้กระดาษทิชชูอย่างดี ซับน้ำออกให้แห้ง