แต่ไม่ง่าย! ถ้าเปิดดูวีดีโอย้อนหลัง แล้ว ... ไม่พบไฟล์วีดีโอเหตุการณ์ขณะเกิดอุบัติเหตุ ทำไม ไม่มีไฟล์วีดีโอ ? ทำไม memory card error ? บางท่าน เกิดอุบัติเหตุ เปิดกล้องเพื่อจะนำไฟล์วีดีโอแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไฟล์วีดีโอในกล้อง เป็น
ไฟล์วีดีโอเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว นั่นแสดงว่า เรายังขาดการดูแลที่จำเป็น(มากๆ) อย่าคิดว่าติดแล้วจบ เพราะวันนึงสิ่งที่คุณเคยคิดว่าเป็นประโยชน์ อาจไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าคุณไม่เริ่มใส่ใจตั้งแต่วันนี้ ต่อไปนี้เป็นวิธีในการตรวจเช็ค กล้องติดรถยนต์
ให้พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา การ์ด ที่ใช้ในกล้องติดรถยนต์ ควรเป็น การ์ด ตั้งแต่ Class10 ขึ้นไป และต้องเป็น การ์ดแท้ ไม่ใช่ของ copy ลดคุณภาพ ราคาถูก
อีกทั้ง memory อาจเต็ม หรือเหลือพื้นที่ในการเก็บไฟล์วีดีโอน้อย เนื่องมาจากฟังก์ชัน G-Sensor หรือ parking Mode ที่ล็อคไฟล์ฉุกเฉินไว้จำนวนมากฉะนั้น หากไฟล์ที่อยู่ในกล้องไม่จำเป็นต้องใช้ หรืออัดวีดีโอต่อเนื่องมานานแล้ว ควร format เมมโมรี เพื่อเริ่มบันทึกใหม่ และตัดปัญหา อาการ error ต่างๆ แนะนำ format อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง วิธี format เมมโมรี เข้าไปที่เมนู Format หรือ ล้างข้อมูล ในกล้องติดรถยนต์ และ กด OK เพื่อ Confirm จบ! กด 2-3 ปุ่ม ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ในขั้นตอนการ Format ในคอมพิวเตอร์ สำหรับ micro SD 8GB–32GB ให้เลือก File System เป็น FAT32 สำหรับ microSDXC 64GB–128GB ให้เลือก File System เป็น exFAT วันที่ และเวลา ที่แสดงพร้อมภาพวีดีโอ นอกจากจะช่วนยืนยันให้หลักฐานครบถ้วนชัดเจนแล้ว ยังง่ายในการค้นหาไฟล์วีดีโอในเมมโมรีอีกด้วย (ไฟล์วีดีโอจะเรียงตาม วันที่/เวลา) สังเกตุไฟกระพริบที่กล้อง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ระบุว่า กล้องติดรถยนต์กำลังบันทึกวีดีโออยู่ รวมถึงตรวจสอบไฟล์วีดีโอย้อนหลังว่าเป็นไฟล์ปัจจุบันหรือไม่ กล้องติดรถยนต์ถึงแม้สเปคกล้องจะสูง ภาพจะชัดมากแค่ไหนก็ตาม แต่หากเลนส์กล้องมี ฝุ่น,สิ่งสกปรก,รอยนิ้วมือ ก็อาจทำให้คุณพลาดหลักฐานขณะเกิดเหตุไม่คาดคิดได้เช่นกัน วิธีสังเกตุง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ไม่ยาก เพื่อให้ กล้องติดรถยนต์ ของคุณ พร้อมใช้ตลอดเวลาโดยปกติกล้องติดรถยนต์จะมีฟังก์ชั่น อัดวิดีโอซ้ำอัตโนมัติ ซึ่งเหตุผลที่เมมโมรีการ์ดเต็มนั้น ไม่ใช่เพราะ ความจุของ Memory card น้อยเกินไป หรืออาจไม่ใช่เพราะกล้องติดรถมีความผิดปกติเสมอไป แต่มักเกิดจากการตั้งค่าการใช้งานที่ไม่เหมาะสม ดังนี้ 1. ปิดฟังก์ชัน Loop recording ไม่ให้วนทับ โดยปกติกล้องวีดีโอติดรถจะบันทึกไฟล์วีดีโอเป็นคลิป คลิปละสั้นๆตามที่ท่านกำหนดค่าโดยกดเข้าไปที่ Menu แล้วเลื่อนหา Loop Recording ซึ่งจะมีให้เลือกดังนี้ Off, 2 Minutes, 3 Minutes, 5 Minutes, 10 Minutes (กล้องติดรถแต่ละรุ่นจะมีค่าให้เลือกต่างกัน) หากท่านเลือก 3 Minutes กล้องติดรถจะบันทึกวีดีโอความยาว 3 นาที แล้วจะเริ่มอัดคลิปใหม่ และเมื่อเมมโมรีการ์ดเต็ม ไฟล์วีดีโอที่บันทึกล่าสุดจะไปวนทับไฟล์วีดีโอที่เก่าที่สุดไปเรื่อยๆเพราะฉะนั้น เมมโมรีการ์ดในกล้องติดรถยนต์จะสามารถอัดวนทับได้โดยไม่มีทางเต็มแน่นอน แต่หากท่านตั้งค่าเป็น OFF (ปิด) เมื่อเมมโมรีเต็มจะไม่บันทึกซ้ำให้ แต่จะขึ้นหน้าจอว่า Memory Card Full หรือ Memory Full เพราะฉะนั้นหากต้องการให้ให้กล้องติดรถบันทึกไฟล์วีดีโอไปเรื่อยๆ(วนลูป) ให้เปลี่ยนจากตัวเลือก Off แล้วเลือกตัวเลขความยาววีดีโอที่ท่านต้องการแทน 2. ล็อคอัตโนมัติเมื่อเกิดแรงกระแทก (G-Sensor) กล้องติดรถยนต์บางรุ่นจะมีฟังก์ชันเสริมที่เรียกว่า G-Sensor โดยฟังก์ชันนี้จะทำหน้าที่ล็อคไฟล์ภาพไม่ให้ถูกอัดทับหากมีแรงกระแทกตามค่าที่เราตั้งไว้ หรือคือระบบแยกภาพอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อง่ายต่อการดูภายหลังนั่นเอง แต่บางครั้งเราอาจตั้งค่า G-Sensor ไว้ต่ำเกินไป คือเมื่อมีแรงกระแทกเบาๆ เครื่องจะล็อคไฟล์นั้นอัตโนมัติ เพราะคิดว่าแรงกระแทกนั้นคืออุบัติเหตุ ถ้าเกิดจากกรณีนี้ ต้องทำการฟอร์แมตไฟล์ทั้งหมดทิ้งก่อน แล้วเข้า Menu ปรับ G-Sensor ให้เป็นค่าเพิ่มขึ้น เช่นจาก High ลองเปลี่ยนเป็น Medium หรือ Low หรือลองเลือก Off(ปิด) เพื่อดูว่าสาเหตุที่ทำให้เมมโมรีการ์ดเต็มเกิดจาก G-Sensor หรือไม่ กล้องบางรุ่นถ้าไฟล์ถูกล็อคไว้แล้ว(จาก G-Sensor) จะฟอร์แมตในกล้องติดรถไม่ได้(สังเกตเวลาเปิดโหมดดูไฟล์ย้อนหลังจะมีเครื่องหมายลูกกุญแจล็อคไว้ ถ้าปลดล็อคได้ ลูกกุญแจนั้นจะหายไป) หากฟอร์แมตในกล้องไม่ได้ให้ต่อเข้าคอมพิวเตอร์แล้วทำการฟอร์แมตในคอมพิวเตอร์แทน ............................................................................. แนะนำ กล้องติดรถยนต์ ในงบประมาณไม่เกิน 2,000 บาทรีวิวทุกรุ่น >> https://goo.gl/889Etd |