ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

อัตราดอกเบี้ยแบบ “ลดต้นลดดอก” vs. “คงที่”

ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

ทราบหรือไม่ว่าดอกเบี้ยกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน กับดอกเบี้ยที่เรากู้เพื่อซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ดอกเบี้ยเงินกู้ไหนถูก หรือแพงกว่ากัน

หลายคนเข้าใจว่าดอกเบี้ยที่กู้ยืมเพื่อซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์นั้นถูกกว่า เพราะเวลาซื้อมือหนึ่งดอกเบี้ยจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2.00 – 2.50 ต่อปีเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน 3 ปีแรกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 – 3.50% (หลังจากนั้นจะแพงขึ้นแต่เราค่อยไปขอรีไฟแนนซ์ภายหลังได้)

แต่ความจริงแล้วดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน กับดอกเบี้ยเพื่อซื้อรถยนต์ที่เรารับรู้นั้น คิดคำนวณคนละแบบกัน จึงไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ครับ

เหมือนเราถามเพื่อนว่าสูงเท่าไหร่ คนหนึ่งตอบว่าสูง 175 เซนติเมตร ขณะที่อีกคนตอบว่าสูง 6 ฟุต แล้วเราจะสรุปว่าคนสูง 175 เซนติเมตรจะสูงกว่าก็ไม่ได้ เพราะหน่วยความสูงมันคนละหน่วยกัน หากเราจะเปรียบเทียบความสูงของทั้งคู่ เราก็ต้องแปลงหน่วยให้เหมือนกันเสียก่อน

เช่นเดียวกันกับดอกเบี้ยบ้านและดอกเบี้ยรถ หากเราจะเปรียบเทียบกันได้ เราก็ต้องแปลงอัตราดอกเบี้ยให้เป็นแบบเดียวกันเสียก่อน

ปัจจุบันดอกเบี้ยบ้านนั้น เขาคิด “อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Interest Rate)” ในขณะที่ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ เขาก็จะคิด “อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Interest Rate)”

ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

ต่างกันอย่างไร ?….ผมขออธิบายง่าย ๆ ดังนี้ครับ

ถ้าเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก การที่เราผ่อนในแต่ละงวดไปนั้นจะทำให้เงินต้นลดลง ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากเราก็จะลดลงไปด้วยตามเงินต้นที่ลดลงไป เช่น เรากู้เงินมา 1 ล้านบาท หากงวดแรกเราผ่อนไปแล้ว 5 หมื่น ดอกเบี้ยที่คิดจากเราในงวดถัดไปนั้นก็ต้องคิดจากเงินต้น 9.5 แสนบาท

แต่ถ้าเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ แปลว่าเขาจะคิดอัตราดอกเบี้ยเราครั้งเดียวตั้งแต่วันทำสัญญาแล้วคำนวณถึงวันที่เราผ่อนเสร็จแล้วหลังจากนั้นจับหารจำนวนงวดที่เราหารเลย แปลว่า แม้เราจะผ่อนเงินต้นไปบางส่วนแล้ว แต่ดอกเบี้ยที่คำนวณนั้นจะใช้อัตราที่คำนวณจากเงินต้นเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรกเลย

หากเพื่อน ๆ อยากลองแปลงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่เป็นลดต้นลดดอก ผมก็มีสูตรคำนวณให้แบบง่าย ๆ ดังนี้ครับ

ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

เช่น ดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ร้อยละ 2 ต่อปี หากแปลงให้เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกเพื่อเปรียบเทียบกับดอกเบี้ยบ้านจะได้ 2 x 1.8 = ร้อยละ 3.6 ต่อปี

แปลว่าที่ผ่านมาเราผ่อนรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ เราผ่อนในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกมาก แต่ความจริงแล้วเราเราโดนเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่แพงกว่าที่เรารับรู้เยอะทีเดียว

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมการเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา (ผมสรุปประเด็นสำคัญกฎหมายฉบับนี้ไว้แล้ว เข้าไปอ่านได้ที่ https://www.facebook.com/866855789999559/posts/1996352810383179/

ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่แก้ไขใหม่ คือ สคบ. บังคับให้สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์นั้น ต้องเปิดเผยดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Interest Rate) ให้ผู้ผู้บริโภคทราบด้วยครับ

ดังนั้น ต่อไปเราก็จะสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน กับดอกเบี้ยเพื่อซื้อรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว ซึ่งประโยชน์คือ เราจะสามารถตัดสินใจเวลามีเงินก้อนแล้วต้องการจะโปะ เราก็ควรโปะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงก่อนหนี้ที่ดอกเบี้ยถูกกว่าครับ.

เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้แล้ววันนี้!....

คอลัมน์ Infinity Wealth By ดร.พีท พีรภัทร ฝอยทอง CFP® ที่ปรึกษากฎหมายและนักวางแผนการเงินส่วนบุคคล

โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึงสินเชื่อต่างๆ เรามักจะไม่ได้ใส่ใจต่อประเภทสินเชื่อต่างๆ หรือการคิดดอกเบี้ยเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่จ่ายไปตามยอดที่กำหนดมาให้จากสถาบันการเงิน

แต่ในบทความนี้เงินติดล้อจะขอแนะนำพี่น้องให้มารู้จักกับสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก สินเชื่อประเภทนี้คืออะไร และมีดีขนาดไหน เงินติดล้อจะมาชี้แจงแถลงไขให้คุณฟังเองครับ

ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกคืออะไร

ก่อนอื่นต้องแนะนำให้รู้จักก่อนว่า การคิดดอกเบี้ยของสถาบันการเงินนั้นจะมีด้วยกันอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ดอกเบี้ยแบบคงที่ และดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนั้นจะมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้เลยครับ

  • ดอกเบี้ยแบบคงที่

    อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่นั้นหมายถึง สินเชื่อที่จะทำการคำนวณอัตราดอกเบี้ยมาให้อย่างเสร็จสรรพตั้งแต่วันที่เริ่มเซ็นสัญญา และจะนำไปเฉลี่ยในค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน

  • ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

    อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกนั้น หากจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ สินเชื่อในรูปแบบที่เมื่อเงินต้นลดลง อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะลดลงไปตาม ซึ่งในการผ่อนชำระค่างวดแต่ละครั้งก็จะมีการคิดค่างวดที่แตกต่างกันออกไปตามจำนวนของเงินต้นที่เหลืออยู่

ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

ตัวอย่างการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

สำหรับการคิดดอกเบี้ยประเภทลดต้นลดดอก เงินติดล้อจะขอยกตัวอย่าง นาย A กู้เงินจากสถาบันทางการเงินแห่งหนึ่งเป็นจำนวน 20,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปี มีกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระอยู่ที่ 12 เดือน โดยมีการผ่อนชำระรายเดือนเป็นจำนวน 1,893 บาทเท่าๆ กันทุกเดือน

โดยจำนวนการผ่อนชำระรายเดือนนั้น หากคำนวณผ่านสูตรทางคณิตศาสตร์ตามปกติจะมีความยากค่อนข้างมาก หากคุณต้องการคำนวณว่ายอดผ่อนชำระรายเดือนของตัวเองจะมีจำนวนเท่าไรนั้น แนะนำให้สอบถามกับทางสถาบันการเงินที่ต้องการยื่นกู้ หรือใช้โปรแกรมคำนวณสินเชื่อลดต้นลดดอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ซึ่งจำนวน 1,893 บาทที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนนั้น จะถูกนำไปหักในส่วนของเงินต้นและอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถคำนวณจำนวนที่นำไปหักในส่วนของดอกเบี้ยได้ ดังนี้

  • สูตรคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก

    คำนวณหาดอกเบี้ยในแต่ละงวด: (จำนวนเงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ย) ÷ 365 x 31 = จำนวนที่นำไปหักดอกเบี้ยในแต่ละเดือน (31= คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน)

    แทนค่า: ( 20,000 x 24% ) ÷ 365 x 31 = 408

    เท่ากับว่าค่างวด 1,893 บาทที่จ่ายไปเป็นงวดแรก จะแบ่งออกเป็นดอกเบี้ย 408 บาท และเงินต้น 1,485 บาท โดยในงวดถัดๆ ไปก็แทนค่าด้วยสูตรคำนวณเดียวกัน แต่เปลี่ยนเฉพาะจำนวนเงินต้นคงเหลือ

    หมายความว่าหลังจากจ่ายงวดแรกไปแล้ว จะเหลือเงินต้นเป็นจำนวน 18,515 บาท แม้เดือนถัดไปจะจ่ายค่างวดเป็นจำนวน 1,893 บาทเท่าเดิม แต่เงินจำนวนนี้จะถูกแบ่งเป็นเงินต้น 1,528 บาท และดอกเบี้ย 365 บาท (คิดดอกเบี้ยรายวัน) เนื่องจากเงินต้นในงวดแรกได้ทำให้อัตราดอกเบี้ยถูกลดลงไปอีก

    เพื่อให้เข้าใจตรงกันมากขึ้น ตลอดทั้ง 12 เดือนนั้น ค่างวดของนาย A จะถูกแบ่งไปหักลบเงินต้นและดอกเบี้ย ดังตารางนี้

    ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

    จะเห็นได้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายนั้นจะลดลงเรื่อยๆ ตามเงินต้นที่ได้จ่ายไป เมื่อครบ 12 งวด เท่ากับว่านาย A จ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 2,706 บาทเท่านั้น

  • ยิ่งโปะมากเท่าไหร่ หนี้ยิ่งหมดไวมากเท่านั้น

    นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงตามการจ่ายค่างวดแล้ว อีกหนึ่งข้อดีของการคิดดอกเบี้ยประเภทนี้ก็คือ สามารถโปะเงินเพิ่มเพื่อให้หนี้หมดเร็วขึ้นได้

    จากตัวอย่างเดิมของนาย A หากในงวดที่ 2 เขามีเงินเหลือเพียงพอ และจ่ายเพิ่มจากค่างวดปกติ 2,000 บาท เงินจำนวนนั้นจะถูกนำไปจ่ายในส่วนของเงินต้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหลังจากนั้นลดลงไปอีก ดังตารางนี้

    ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก
    ดอกเบี้ย คง ที่ กับ ดอกเบี้ย ลด ต้น ลด ดอก

    จากกรณีดังกล่าว เมื่อครบกำหนดชำระ จำนวนดอกเบี้ยที่นาย A จ่ายไปรวมทั้งหมดจะเหลือเพียง 2,279 บาทเท่านั้น ลดลงจากปกติถึง 427 บาทเลยทีเดียว นอกจากนี้จำนวนงวดที่ต้องจ่ายก็ลดลงเหลือเพียง 11 งวดเท่านั้น

  • เปรียบเทียบ! คำนวณลดต้นลดดอก vs คำนวณแบบดอกเบี้ยคงที่

    อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าดอกเบี้ยจากการขอสินเชื่อนั้นยังมีอยู่อีกประเภทหนึ่ง นั่นก็คือสินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่

    ทีนี้เราจะมาดูกันว่า หากเราขอสินเชื่อรูปแบบคงที่ในอัตราดอกเบี้ย 24% ต่อปีเท่ากัน จะสามารถคำนวณอัตราดอกเบี้ย และจำนวนที่ต้องผ่อนชำระออกมาได้ ดังนี้

    สูตรการคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่: เงินต้น + [ (เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย) x จำนวนปีที่ผ่อนชำระ ] ÷ จำนวนงวดที่ผ่อน = จำนวนที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน

    แทนค่าด้วยตัวเลข: 20,000 + [ (20,000 x 24%) x 1 = 11,200 ] ÷ 12 = 2,066

    จะเห็นได้ว่าจำนวนดอกเบี้ยจากสินเชื่อแบบคงที่นั้นมีจำนวนมากถึง 4,800 บาท และต้องจ่ายค่างวดผ่อนชำระถึงเดือนละ 2,066 บาทเลยทีเดียว

จากตัวอย่างที่ยกมา เมื่อนำสินเชื่อทั้ง 2 อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อนชำระที่เท่ากันมาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่า

  • การคำนวณแบบลดต้นลดดอก มีจำนวนดอกเบี้ยตลอดการผ่อนชำระเพียง 2,706 เท่านั้น
  • แต่การคำนวณแบบคงที่ มีจำนวนดอกเบี้ยตลอดการผ่อนชำระถึง 4,800 บาทเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น หากเป็นการขอสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาเท่ากัน เลือกการคำนวณแบบลดต้นลดดอกจะมีความคุ้มค่ายิ่งกว่าแน่นอนครับ

อย่าประมาท! แม้กู้ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกก็ต้องระวัง

แม้ว่าการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกจะมีดีกว่าดอกเบี้ยประเภทอื่นๆ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสินเชื่อ ยังไงก็ต้องมีข้อควรระวังเอาไว้!

เพราะถ้าหากคุณผิดนัดชำระ หรือจ่ายล่าช้า ดอกเบี้ยก็จะถูกคิดจากยอดเงินต้นคงเหลือไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยที่มากขึ้นกว่าเดิมจากแผนการผ่อนชำระที่กำหนดไว้

อีกทั้งถ้าผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานาน อาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เช่น ค่าติดตามทวงถาม หรืออาจจะต้องผ่อนชำระยาวขึ้นกว่าแผนที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้น จึงต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ นะครับ

เงินติดล้อ พร้อมให้บริการคุณด้านสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก

อย่างที่เราได้อธิบายไปในข้างต้นเกี่ยวกับสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หากคุณกำลังอยู่ในภาวะฉุกเฉินด้านการเงิน และต้องการสินเชื่อที่สมเหตุสมผล ลองติดต่อมาที่เงินติดล้อสิครับ

เราคือสถาบันการเงินที่ให้บริการด้านสินเชื่อทะเบียนรถโดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ตามหลักการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่เกิน 24% ต่อปี จึงมั่นใจได้ว่าเรามีความเป็นธรรมต่อผู้มาใช้บริการทุกท่านอย่างแน่นอน

ถ้าหากคุณยังไม่มั่นใจ ลองดูข้อดีจากการทำสินเชื่อกับเราก่อนสิครับ

  • เราสินเชื่อรถทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถกระบะ หรือแม้แต่รถบรรทุก พร้อมให้ราคาประเมินที่สูง
  • อนุมัติเร็วไม่ต้องรอนาน ให้คุณมีเงินสดฉุกเฉินไปใช้ได้ทันใจ
  • พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ยินดีผ่อนผันและพิจารณาการประนอมหนี้ หากลูกค้าของเราเกิดปัญหา
  • มีแอปพลิเคชันให้ลูกค้าสามารถติดตามยอดเงิน และการชำระสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมด้วยสิทธิพิเศษภายในแอปพลิเคชันมากมาย

รับรองว่าคุณจะมีเงินสดฉุกเฉินนำไปใช้ได้ทันใจ ได้ดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล แถมถ้าจ่ายหนี้ก่อนเวลาอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงอีกด้วย

ติดต่อทำเรื่องสินเชื่อทะเบียนรถกับเงินติดล้อ

สำหรับผู้ที่สนใจติดต่อทำเรื่องสินเชื่อทะเบียนรถกับเงินติดล้อ สามารถทำได้โดย

  • ติดต่อโดยตรงได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
  • Facebook Inbox เงินติดล้อ: facebook.com/messages/t/ngerntidlor
  • โทรเข้า Call Center เงินติดล้อ: 088-088-0880
  • หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

เงินติดล้อพร้อมให้บริการพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่ครับ!