ตัวอย่างนิทานหน้าเดียว

เชื่อว่าผู้ให้กำเนิดนิทานอีสปก็คือ "อีสป" (Aesop) ซึ่งเป็นทาสชาวกรีก ผู้มีไหวพริบและสติปัญญาเป็นเลิศ เขาได้แต่งนิทานไว้มากมาย ในช่วงราว 620 ปี ก่อนคริสตกาล โดยภายหลังเขาได้รับอิสรภาพจากการเป็นทาส และกลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในด้านการเล่าเรื่องนิทาน โดยสามารถใช้เรื่องเล่าเหล่านี้สอนผู้คน กระตุ้นความคิด บางครั้งก็ใช้เป็นแง่คิดในการประนีประนอมความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างนิทานอีสปที่น่าสนใจ ดังนี้

1. นิทานอีสป กระต่ายกับเต่า
กระต่ายหลงตัวเอง ชอบโอ้อวดว่าวิ่งเร็วกว่าใครๆ เมื่อเห็นเต่าเดินต้วมเตี้ยมมาก็หัวเราะเยาะ พร้อมกับพูดจาถากถางว่าต่อให้เต่าวิ่งนำหน้าไปก่อน กระต่ายก็สามารถก็แซงหน้าได้อยู่ดี ทำให้เต่าเกิดความไม่พอใจ จึงท้ากระต่ายวิ่งแข่งกัน กระต่ายเริ่มวิ่งนำหน้าเต่าไปไกล แต่เมื่อไปถึงครึ่งทาง ก็เกิดความชะล่าใจ หยุดพักเอนกายนอนใต้ต้นไม้ใหญ่จนเผลอหลับไป ในขณะที่เต่ายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่ลดละ เมื่อกระต่ายตื่นนอนขึ้นมาก็ตกใจ รีบลนลานวิ่งไปยังเส้นชัย ทว่าเต่าไปถึงเส้นชัยก่อนแล้ว
คติสอนใจ : ความประมาทเป็นต้นเหตุของความพ่ายแพ้ แม้คู่ต่อสู้จะอ่อนด้อยกว่าก็ตาม

2. นิทานอีสป ราชสีห์กับหนู
ราชสีห์เจ้าป่ากำลังนอนหลับอย่างสบายใจ หนูตัวหนึ่งวิ่งซุกซนจนเผลอไต่ขึ้นไปบนร่างของราชสีห์ ทำให้ราชสีห์ตื่นและร้องคำรามด้วยความโกรธ จึงตะปบหนูไว้ในกรงเล็บ หนูตกใจกลัวจนตัวสั่น พร้อมร้องขอชีวิตและกล่าวว่า หากปล่อยตัวเองไป ในวันข้างหน้าอาจสามารถช่วยเหลือราชสีห์ได้ แม้ราชสีห์จะหัวเราะเยาะ แต่ก็ยอมปล่อยหนูไป ต่อมาวันหนึ่งราชสีห์ออกล่าเหยื่อแล้วพลาดท่าติดบ่วงของนายพราน พยายามดิ้นเท่าไรก็ดิ้นไม่หลุด หนูได้ยินเสียงร้องของราชสีห์จึงเข้ามาช่วยเหลือด้วยการกัดแทะบ่วงจนขาด ทำให้ราชสีห์รอดชีวิตมาได้ จากความช่วยเหลือของหนูตัวเล็กๆ นั่นเอง
คติสอนใจ : อย่าดูแคลนผู้ใดว่าไร้ค่า คนเล็กๆ อาจทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ในวันหนึ่ง

3. นิทานอีสป ลูกหมูสามตัว
แม่หมูมีลูกน้อย 3 ตัว และได้ปล่อยให้ลูกๆ ได้ออกเดินทางไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเอง ลูกหมูตัวที่ 1 ผู้เกียจคร้านได้ออกไปสร้างบ้านที่ทำจากฟาง เพราะทำได้ง่ายและเร็วที่สุด แต่วันหนึ่งหมาป่าจ้องจะมากินลูกหมูตัวที่ 1 ซึ่งบ้านไม่มีความแข็งแรง ทำให้ลูกหมูต้องวิ่งหนีสุดชีวิตไปหลบที่บ้านของลูกหมูตัวที่ 2 ที่สร้างจากไม้ แม้จะมีความแข็งแรงกว่า แต่ก็ไม่สามารถต้านทานหมาป่าได้อีกเช่นกัน ลูกหมูทั้ง 2 ตัว จึงรีบวิ่งหนีออกไปยังบ้านของลูกหมูตัวที่ 3 ซึ่งสร้างด้วยอิฐ เมื่อหมาป่าตามมา ก็ไม่สามารถทำลายบ้านอิฐได้ ลูกหมูทั้ง 3 ตัวจึงรอดชีวิต
คติสอนใจ : ความเกียจคร้านแม้จะทำให้เราสบาย แต่ก็อาจนำทุกข์ภัยมาสู่ตนได้

4. นิทานอีสป หมาจิ้งจอกตกบ่อ
หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งพลัดตกลงไปในบ่อลึก พยายามจะตะเกียกตะตายอยู่นาน จนกระทั่งมีหมาป่าตัวหนึ่งเดินผ่านมา ทางด้านหมาจิ้งจอกได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ หมาป่าจึงถามว่าทำไมถึงตกลงไปในบ่อน้ำลึกแบบนี้ อยู่ในน้ำนานหรือยัง แล้วไม่มีใครผ่านมาเห็นเลยหรือ? หมาจิ้งจอกได้ตอบกลับว่า ข้าก็หวังให้เจ้ามาช่วย รีบดึงขึ้นไปก่อน แล้วจะเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังอย่างละเอียดคติสอนใจ : การลงมือช่วยย่อมดีกว่าคำพูดแสดงความเห็นใจ

5. นิทานอีสป ชาวนากับงู
วันหนึ่งในฤดูหนาว ชาวนาคนหนึ่งเดินมาพบงูนอนขดตัวแข็งทื่อใกล้ตาย เพราะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ชาวนารู้สึกสงสารจึงอุ้มงูไว้แล้วนำกลับบ้านด้วย เมื่อมาถึงบ้าน ชาวนาก็ก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่น แต่เมื่องูได้สติก็เข้าฉกชาวนาจนถึงแก่ความตายทันที
คติสอนใจ : คนพาลย่อมไม่รู้จักบุญคุณผู้อื่น

ตัวอย่างนิทานหน้าเดียว

6. นิทานอีสป หมาจิ้งจอกกับพวงองุ่น
หมาจิ้งจอกหิวโซเดินมาพบต้นองุ่นน่ากิน จึงพยายามกระโดดงับ แต่กระโดดไม่ถึง ไม่ว่าจะพยายามกระโดดเท่าไร ก็หมดแรง และไม่สำเร็จสักที ในที่สุดหมาจิ้งจอกจึงพูดว่า "องุ่นต้นนี้เปรี้ยว ไม่เห็นจะน่ากินเลย ไม่น่ากระโดดให้เสียแรงเลย"
คติสอนใจ : คนที่ทำสิ่งใดไม่สำเร็จ มักหาเรื่องตำหนิว่าสิ่งนั้นด้อยค่า

7. นิทานอีสป หมากับเงา
หมาตัวหนึ่งเดินคาบเนื้อวิ่งข้ามสะพานมา เมื่อถึงกลางสะพานก็ก้มมองลงไปในบ่อน้ำเบื้องล่าง เห็นหมาตัวหนึ่งกำลังคาบชิ้นเนื้อที่ใหญ่กว่า ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเงาของตัวเอง เจ้าหมาก็เกิดความละโมบ อ้าปากเห่ากระโชกเพื่อหวังจะแย่งชิ้นเนื้อในน้ำมาเป็นของตัวเอง ปรากฏว่าทันทีที่อ้าปาก เนื้อที่คาบอยู่ก็ร่วงหล่นลงน้ำ กว่าจะสำนึกได้ว่าหมากับก้อนเนื้อที่เห็นคือเงาของตัวเองในน้ำ ก็สายเกินไปแล้ว
คติสอนใจ : โลภมาก ลาภหาย

8. นิทานอีสป ไก่ได้พลอย
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พ่อไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดิน ก็เขี่ยเจอพลอยเม็ดงามส่องประกายวิบวับ จึงรำพึงขึ้นว่า ถ้าช่างทองมาเห็นพลอยงามเม็ดนี้ คงจะดีใจมาก แต่สำหรับข้าแล้ว ข้าวแค่เม็ดเดียว ยังมีค่ามากกว่าพลอยเม็ดโตเสียอีก ในที่สุด พ่อไก่ก็เลิกสนใจพลอยเม็ดนั้น แล้วหันไปขุ้ยเขี่ยหาอาหารของตัวเองต่อไป
คติสอนใจ : บางสิ่งมีค่าแค่กับบางคน

9. นิทานอีสป ปลาน้อยกับคนตกปลา
ชายคนหนึ่งนั่งตกปลามาเกือบทั้งวัน แต่ไม่ได้ปลาสักตัวเดียว เขาจึงล้มเลิกความตั้งใจและคิดจะกลับบ้าน ทันใดนั้น ก็มีปลาตัวหนึ่งติดเบ็ด แต่เป็นปลาตัวเล็กนิดเดียว เจ้าปลาน้อยอ้อนวอนขอชีวิต "ปล่อยให้ข้า ถ้าวันนี้ไว้ชีวิต ในวันข้างหน้าจะเติบโตเป็นปลาใหญ่ เนื้อแน่น ให้ท่านได้จับกิน" คนตกปลาบอกว่า เขาไม่รู้ว่าวันข้างหน้า ปลาน้อยจะหลงมาติดเบ็ดอีกหรือเปล่า พูดจบก็จับปลาใส่กระป๋องแล้วเดินกลับบ้าน
คติสอนใจ : จงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ ดีกว่ามุ่งหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

10. นิทานอีสป เสือดาวกับหมาจิ้งจอก
เสือดาวตัวหนึ่งภูมิใจในรูปร่างที่งดงามของตัวเอง จึงเดินอวดโฉมไปเรื่อยๆ วางท่าคุยโวโอ้อวด และดูหมิ่นเยาะเย้ยสัตว์ตัวอื่นๆ ว่าต่ำต้อยกว่าตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง หมาจิ้งจอกผู้ทันโลกได้เตือนสติเสือดาวว่า "รูปร่างเจ้าสง่างามก็จริง แต่ข้าว่าความงามในจิตใจต่างหากที่เป็นความงามที่แท้จริง"
คติสอนใจ : จิตใจที่ดีมีค่ามากกว่าความงามภายนอก ซึ่งไม่จีรัง

ปัจจุบันนิทานอีสปหลายเรื่อง ถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนอีสป มีทั้งแบบเรื่องสั้นและเรื่องยาว เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ที่สามารถช่วยพัฒนาการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ ซึ่งบางครั้งนิทานเหล่านี้ ก็ยังสามารถใช้เป็นคติเตือนใจให้แก่ผู้ใหญ่ได้อีกด้วย