ความ สามารถ พิเศษ ใน การ สมัคร งาน ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ Show
** ทั้งหมดนี้เป็นเพียงกระทู้ที่ใช้ส่งครูเท่านั้น ** สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาสอนทำ Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงานแบบภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่สนใจและเป็นแนวทางแบบใหม่ในการทำแฟ้มสะสมผลงาน ก่อนที่เราจะเริ่มทำแฟ้มสะสมผลงาน เราจะต้องเตรียมข้อมูลเอกสารต่างๆให้พร้อมสำหรับการจัดการเรียงลำดับ และนำมาออกแบบ โดยข้อมูลที่จะต้องเตรียมมีทั้งหมดดังนี้ – ข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว – รูปภาพตัวเอง – รูปภาพกิจกรรมทั้งหมดที่เคยทำมา – เกียรติบัตร มาเริ่มกันเลย !! 1) หน้าปก [ Front cover ] ควรออกแบบให้โดดเด่นสะดุดตาหรือใส่รูปตัวเองที่บ่งบอกถึงตัวเอง สรุปเนื้อหารายละเอียดพอประมาณ เช่น ชื่อ โรงเรียน หรือคณะ/มหาวิทยาลัยที่อยากเข้า สิ่งสำคัญคือต้องทำออกมาให้เป็นตัวเองที่สุด 2) ปกรอง อาจใส่เป็นรูปภาพของเรา คำคมที่ชอบ หรือเหตุผลที่อยากเรียนคณะ/มหาวิทยาลัยนี้ 3) คำนำ [ Preface ] พูดถึงวัตถุประสงค์ของการทำและเนื้อหาต่างๆที่อยู่ในเล่มนี้ อาจมีการเขียนขอบคุณบุคคลที่ช่วยหรือให้การสนับสนุน เมื่อเขียนเสร็จควรลงท้ายผู้จัดทำ 4) สารบัญ [ Content ] เรียงหัวข้อของเนื้อหาตามลำดับ เช่น ประวัติส่วนตัว (Profile), การศึกษา (Education), กิจกรรม (Activities), เกียรติบัตร (Certificates) 5) ประวัติส่วนตัว [ Profile ] เขียนนำเสนอเกี่ยวกับตัวเองโดยสังเขป โดยส่วนมากจะประกอบด้วย – ชื่อ-นามสกุล (Name-Surname) – ชือเล่น (Nickname) – อายุ (Age) – อายุ (Age)- เพศ (Sex) เช่น เพศชาย (Male), เพศหญิง (Female)- สัญชาติ (Nationality)- ศาสนา (Religion) เช่น พุทธ (Buddhist), คริสต์ (christian), มุสลิม (Muslim), ฮินดู (hindu) – ประวัติครอบครัว (Family) – ประวัติครอบครัว (Family)- ความสามารถพิเศษ (Talent) เช่น เชียร์ลีดเดอร์ (Cheerleader), เล่นฟุตบอล (Play football), เล่นเปียโน (Play piano), ร้องเพลง (Sing), วาดรูป (Sketch)- การติดต่อ (Contact)- อุปนิสัย (Charecter) เช่น กล้าหาญ (Dauntless), เข้มแข็ ง ( Strong), มองโลกในแง่ดี (Obtimistic), มีความเป็นผู้นำ (Leadership), เข้ากับคนง่าย (Easy-going), กล้าแสดงออก ( Assertiveness), ขยัน (Diligent) – งานอดิเรก (Hobby) เช่น ฟังเพลง (Listen to music), ดูหนัง (Watch movie), เต้น (Dance), อ่านหนังสือ (Read a book), เล่นเกม (Play game) – คติประจำใจ (Motto) เช่น – คติประจำใจ (Motto) เช่น Anyone who has never made a mistake has never tried anything new The future depends on what we do in the present. Don’t think that you’re gonna lose when you don’t even start อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเดิน Don’t take other people’s criticism to heart.Instead,Listen to what they are saying and learn from it. อย่าเก็บคำวิจารณ์ของคนอื่นมาใส่ใจแต่จงรับฟังและใช้มันพัฒนาตัวเองดีกว่า – ที่อยู่ (Address) มีวิธีการเขียนดังนี้
6) ประวัติการศึกษา [ Edution ] การศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยม หรือมีหลักฐานอ้างอิงผลการเรียน ควรทำให้น่าอ่านและเข้าใจง่าย มีวิธีการเขียนดังนี้ Nursery / Day Care Center / Preschool / Pre-kindergarten โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็ก Kindergarten อนุบาล Pre-elementary school Primary School / Elemantary School โรงเรียนระดับประถมศึกษา Grade 1-6 ชั้น ป. 1 – ป. 6 Secondary School / High School Grade 7-12 ชั้น ม. 1 – ม. 6 Middle School (Grade 6-8) Vocational Certificate ปวช. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพ) High Vocational Certificate ปวส. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง) Technical Certificate ปวท. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค) Non-Formal Education การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) Compulsory Education การศึกษาภาคบังคับ Adult Education การศึกษาผู้ใหญ่ Technical College วิทยาลัยเทคนิค Polytechnic School วิทยาลัยสารพัดช่าง 7) กิจกรรม [ Activities ] นำเสนอกิจกรรมที่เคยทำผ่านมาทั้งกิจกรรมที่เข้าร่วมภายในและภายนอกโรงเรียน ใส่ผลงานที่โดดเด่นหรือได้รับรางวัลและเกี่ยวข้องกับคณะที่อยากเข้า พร้อมกิจกรรมอื่นๆ เช่น กิจกรร มจิตอาสา 8) เกียรติบัตร [ Certificates ] พยายามเรียงลำดับเกียรติบัตรจากความยิ่งใหญ่ของผลงาน เช่น ได้รับรางวัลจนไปถึงการเข้าร่วม ไม่ควรใส่ทั้งหมด ควรเลือกมาเฉพาะที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับคณะที่อยากเข้า 9) หน้าสุดท้าย เป็นการกล่าวขอบคุณปิดท้าย ตัวอย่าง Portfolio ภาษาอังกฤษ เพิ่มเติม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการทำแฟ้มสะสมผลงานแบบภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมตามที่ต้องการและควรศึกษาระเบียบการการทำแฟ้มสะสมผลงานตามที่คณะ/มหาวิทยาลัยกำหนด อ้างอิงเว็บไซต์ที่ใช้หาข้อมูลและตัวอย่างของการทำแฟ้มสะสมผลงาน [NEW] (ฉบับรวบรัด!!) 8 ขั้นตอน เขียนอีเมล์สมัครงานภาษาอังกฤษ | ความ สามารถ พิเศษ ใน การ สมัคร งาน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDESไหนใครไม่เคยส่งอีเมลสมัครงานเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ยกมือขึ้น! …โอ้โห เยอะเหมือนกันนะครับเนี่ย แต่ขอบอกเลยครับว่าเรื่องนี้ “จำเป็นต้องรู้” เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าบริษัทต่างชาติหรือบริษัทไทย ก็มักจะให้คุณส่งอีเมลเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นแหละ …งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่า 8 ขั้นตอนมีอะไรบ้าง ขั้นตอนที่ 1 : ระบุชื่อเรื่องอีเมลให้ชัดเจน ชัดเจน ชัดเจน! หัวข้ออีเมลเป็นจุดแรกที่ HR เริ่มพิจารณาว่าจะ “เปิดอ่าน” หรือ “คัดออก” เพราะถ้าคุณเขียนแบบ “ไม่มืออาชีพ” หรือ “เขียนผิด” ตั้งแต่หัวข้อ HR คงกดลบอีเมลคุณทิ้งอย่างไม่ใยดี ตัวอย่างประโยคที่ควรใช้ : – Apply for (ชื่อตำแหน่ง) Position – (ชื่อ-นามสกุล) – หรือแค่ (ชื่อตำแหน่ง) Position – (ชื่อ-นามสกุล) สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความแบบนี้แหละครับ ขั้นตอนที่ 2 : เขียนวันที่ให้ถูกต้อง ข้อที่สองนี้ บางคนอาจจะสงสัยว่า “จำเป็นต้องเขียนวันที่ด้วยเหรอ” ดูที่ตัวอีเมลเอาก็ได้มั้ง ก็จริงอยู่ว่า HR สามารถดูวันที่จากอีเมลที่คุณส่งไปได้ แต่คงจะดีกว่าถ้าเปิดมาแล้วพบคุณเริ่มต้นด้วยการเขียนวันที่เพื่อย้ำเตือนว่าอีเมลของคุณถูกส่งมาตั้งแต่วันไหน เพื่อ HR จะได้เห็นชัดๆ และพอจะทราบได้ทันทีว่าอีเมลสมัครงานของคุณ เป็นอีเมลที่เพิ่งถูกส่งมาใหม่ๆ ไม่ใช่อีเมลที่ค้างคาอยู่ในแอ็กเคานต์ที่ HR ลืมเปิดเอง ตัวอย่างการเขียนวันที่ : – 11 March 2018 – March 11, 2018 ขั้นตอนที่ 3 : ชื่อผู้รับ ตำแหน่ง ชื่อบริษัท คุณจะสมัครงานที่บริษัทไหนก็ควรจะระบุชื่อบริษัทลงไปด้วย ไม่ควรเขียนเหมือนกันทุกอีเมลแล้วฟอร์เวิร์ดไปทีเดียว 10 บริษัท เพราะมันดูไม่เป็นมืออาชีพและดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจ หรือไม่อยากได้งานนี้จริงๆนะครับ ฉะนั้นจุดที่สามนี้คุณควรระบุชื่อผู้รับ (ในกรณีที่คุณทราบว่าส่งให้ใคร) ระบุตำแหน่ง และชื่อบริษัทให้ถูกต้อง ตัวอย่างการเขียนชื่อผู้รับ : – Mr./Mrs./Ms. (ชื่อ-นามสกุล) – Human Resources Manager – XYZ Company ขั้นตอนที่ 4 : เปิดประโยคอย่างสุภาพชน คนไทยเรามักจะนึกไม่ค่อยออกว่าควรจะขึ้นต้นจดหมายว่าอะไร เพราะในภาษาพูดเราก็ใช้ “Good morning / Hello / Hi” ซึ่งคำเหล่านี้มักจะไม่ใช้ในการเขียนอีเมล คำที่ควรใช้นั้นจริงๆแล้ว คือคำว่า “Dear” นั่นเอง ตัวอย่างประโยคที่ควรใช้ : – Dear Mr. / Mrs. / Ms. (ชื่อผู้รับ) – ถ้าไม่ทราบชื่อผู้รับก็ Dear Mr. / Mrs. / Ms. เฉยๆก็ได้ครับ – หรือจะใช้ Dear Contact Person แบบนี้ก็ได้ครับ ขั้นตอนที่ 5 : บอกเขาว่าคุณส่งมาสมัครงาน แน่นอนว่าเมื่อเริ่มเข้าสู่เนื้อหาจดหมายแล้ว คุณควรพิมพ์แจ้งว่าคุณส่งอีเมลนี้มาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร คุณสนใจสมัครตำแหน่งอะไร และอาจบอกเพิ่มว่าคุณไปเห็นตำแหน่งนี้มาจากที่ไหน ตัวอย่างประโยคที่ใช้ได้ : – I am writing to apply for the (ชื่อตำแหน่ง) position advertised in the JobsDB. – I’m writing to express my interest in the (ชื่อตำหน่ง) position listed on Goodjobs.com. ขั้นตอนที่ 6 : เล่าเกี่ยวกับตัวเองคร่าวๆ ก่อนที่ HR จะกดดูเรซูเม่ของเรา เราควรจะสร้างความน่าสนใจตั้งแต่ในอีเมล์เสียก่อน โดยคุณอาจทบทวนดูว่างานที่คุณกำลังสมัครนี้ต้องการทักษะหรือประสบการณ์แบบใดเป็นพิเศษหรือไม่ โดยคุณควรกล่าวถึงทักษะหรือประสบการณ์นั้นๆ เพื่อทำให้โปรไฟล์ของคุณดูน่าสนใจ และยังเป็นการสร้างความสนิทสนมกับผู้รับอีเมลในขั้นแรกอีกด้วย ตัวอย่างการแนะนำตัว : The opportunity presented in this job description is very interesting, and I believe that my experience and my educational background will make me a very competitive candidate for this position. With a MBA degree in Finance and Investment, I have a full understanding of the Business Finance and I also have experience in Accounting. นอกจากการพูดข้อดีของเราที่เหมาะสมกับตำแหน่งแล้ว ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ก็ควรบอกด้วยว่ามี Experiance อะไรบ้างโดยลิสต์เป็นข้อๆ ว่าทำงานอะไรมา รับผิดชอบโปรเจ็คท์อะไร เป็นต้น และถ้าหากคุณมีเอกสารแนบ เช่น เรซูเม่ พรีเซนเทชั่น ใบรับรอง หรือตัวอย่างพอร์ทผลงานของคุณ สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ว่า “I am enclosing a completed job application, my certification, my resume, and my portfolio.” คุณได้แนบใบสมัครที่กรอกแล้ว ใบรับรอง/ใบประกาศ เรซูเม่ และพอร์ทฟอลิโอมาด้วย ขั้นตอนที่ 7 : จบอีเมลด้วยการขอบคุณและบอกช่องทางการติดต่อกลับ หลังจากที่เราบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองคร่าวๆ เราควรจบอีเมลด้วยประโยคเช่น “Please see my resume for additional information on my experience.” กรุณาดูเรซูเม่เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ และขอบคุณผู้รับที่สละเวลาอ่านอีเมลของคุณว่า “Thank you for your time and consideration.” ซึ่งตรงนี้เป็นมารยาทสากลที่คุณควรขอบคุณผู้พิจารณาอีเมลของคุณ หลังจากนั้นคุณควรทิ้งช่องทางการติดต่อให้กับทางบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทร อีเมลนี้ หรือสะดวกให้นัดพบ ก็ควรแจ้งไปในอีเมล์ด้วยเลย ตัวอย่างการแจ้งช่องทางติดต่อกลับ : – I can be reached anytime via email at or my cell phone, 099-123-4567. – I can come and visit your office at anytime. – I can be reach at 099-123-4567. – I look forward to speaking with you about this employment opportunity. ขั้นตอนที่ 8 : ลงชื่อจบสวยๆ สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรทำ (แต่มักทำพลาดบ่อยๆ) คือการจบอีเมลด้วยคำว่า Thank you ซึ่งเป็นคำที่ดูไม่เป็นทางการ ไม่เหมาะสมสำหรับการติดต่อเรื่องงาน ซึ่งคำที่ควรใช้ก็มีให้เลือกอยู่หลายคำ ตัวอย่างคำที่ควรใช้ : – Best regards, – Yours sincerely, – Yours faithfully, – Sincerely, และลงท้ายด้วยชื่อ-นามสกุลของคุณ เท่านี้ก็ดูเป็นทางการแล้วครับ! ครบแล้ววว 8 ขั้นตอน อ่านจบปุ๊บ เขียนอีเมล์สมัครงานเป็นปั๊บ! แต่หากคุณต้องการที่จะเรียนรู้การเขียนอีเมลให้ครบทุกประเภทของอีเมล ไม่ว่าจะเป็นอีเมลติดต่อลูกค้า อีเมลสอบถาม การตอบรับอีเมลผู้อื่น รวมทั้งการเลือกใช้ภาษาที่เป็นทางการในการเขียนอีเมล Globish มีคอร์ส Business Email Writing ที่จะช่วยให้คุณเขียนอีเมลได้อย่างมืออาชีพ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/35qNiT3 ความสามารถพิเศษ l มีความสามารถอะไรมาแชร์กัน RooMWaaNความสามารถพิเศษ l มีความสามารถอะไรมาแชร์กัน RooMWaaN นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่ การกรอกแบบสมัครงาน3 วิธี เอาตัวรอด เวลา สัมภาษณ์งาน ภาษาอังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งภาษาอังกฤษสนับสนุน ช่องของพวกเราได้ ง่ายๆ แค่ โหลด Sticker: สนับสนุน
ช่องของพวกเราได้ ง่ายๆ แค่ โหลด Sticker: เพื่อนๆ ท่านใด สนใจสมัคร คอร์ส Tailor Made Resume (การเขียน เรซูเม่) and Personalise by The Hunters หรือ คอร์ส เตรียมพร้อมการสัมภาษณ์งาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ID Line: thehunters99 3 เทคนิค เอาตัวรอด เวลา สัมภาษณ์งาน ภาษาอังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ ❤รับ Sponsor ติดต่อโฆษณา (สินค้าและบริการ) และ การสัมมนานอกสถานที่ ให้ความรู้กับนักศึกษา เรื่องการเตรียมความพร้อมสมัครงาน หางาน และ สัมภาษณ์งาน ได้ที่ สัมภาษณ์งาน สัมภาษณ์งานอังกฤษ จบใหม่ ถ้าเพื่อนๆ หรือ น้องจบใหม่ กำลังมองหา เทคนิคการเตรียมตัว หางาน สมัครงาน เทคนิคสัมภาษณ์งาน การตอบข้อดีข้อเสียเวลา สัมภาษณ์งาน วิธีตอบคำถามสัมภาษณ์งาน ต่างๆ การเขียน เรซูเม่ อังกฤษ Resume การแนะนำตัวเป็น ภาษาอังกฤษ วิธีต่อรองเงินเดือน หรือ เคล็ดลับ หรือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิต มนุษย์เงินเดือน พนักงานประจำ มาถูกที่แล้วครับ The Hunters เรารู้ คุณรู้ มีคำตอบให้ครับ Stay connect: Links มีประโยชน์ Music Credit:
เคล็ดลับการสมัครงานให้ได้งานสร้าง Super Resume ของคุณได้ที่ www.superresume.com 3 เทคนิค ตอบคำถามสัมภาษณ์งาน \”ทำไมเราถึงต้องจ้างคุณ\”สนับสนุน ช่องของพวกเราได้ ง่ายๆ แค่ โหลด Sticker: ถ้าเพื่อนๆ หรือ น้องจบใหม่ กำลังมองหา เทคนิคการเตรียมตัว หางาน สมัครงาน เทคนิคสัมภาษณ์งาน
การตอบข้อดีข้อเสียเวลา สัมภาษณ์งาน วิธีตอบคำถามสัมภาษณ์งาน ต่างๆ การเขียน เรซูเม่ อังกฤษ Resume การแนะนำตัวเป็น ภาษาอังกฤษ วิธีต่อรองเงินเดือน หรือ เคล็ดลับ หรือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิต มนุษย์เงินเดือน พนักงานประจำ มาถูกที่แล้วครับ The Hunters เรารู้ คุณรู้ มีคำตอบให้ครับ ❤วันนี้ ทีม The Hunters เรารู้ คุณรู้ จะมาเจาะลึกคำถามนี้ให้ พร้อม ยกตัวอย่าง 3 เทคนิคง่ายๆ เอาไปใช้ได้จริงๆ เพื่อตอบคำถามข้อนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คำคอบตรงใจผู้สัมภาษณ์งาน แน่นอน Stay connect: สำหรับคลิปอื่นๆ ในการสมัครงาน และ สัมภาษณ์งาน ติดตามได้ตาม Link ด้านล่าง นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ความ สามารถ พิเศษ ใน การ สมัคร งาน ภาษา อังกฤษ |